ตอนที่แล้วตอนที่ 908 เคียงไหล่ร่วมสู้ตลอดไป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 910 ผู้ชนะและพ่ายแพ้

ตอนที่ 909 มาเร็ว


หัวหลี่รั่วอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดของตระกูลหัว ในตระกูลหัวรุ่นปัจจุบัน ไม่มีใครโดดเด่นถึงกับเป็นแม่ทัพใหญ่  และภายใต้พวกเขาหัวหลี่รั่วเป็นผู้บัญชาการทหารที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นปัจจุบัน

สำหรับตระกูลชั้นสูงห้าตระกูลมีแม่ทัพใหญ่คนหนึ่งในรุ่นปัจจุบันจะหมายถึงช่วงเวลาแห่งความสำเร็จ  แต่ต่อให้พวกเขาไม่มีแม่ทัพใหญ่  ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่มีพลังอำนาจ  ในช่วงเวลาระยะยาวของการสะสม แม่ทัพใหญ่จะมาจากห้าตระกูลใหญ่และเริ่มมีการลอบเพาะสร้างอำนาจ โดยไม่มีใครรู้ถึงพลังลึกๆของพวกเขา

การสืบทอดของตระกูลไม่ใช่ว่าจะสะสมกันในรุ่นเดียว  จำเป็นต้องสืบทอดกันหลายรุ่นเพื่อให้สามารถสร้างผลกระทบได้  ในอดีตมีหลายตระกูลที่มีลูกศิษย์คนในตระกูลผู้กลายเป็นแม่ทัพใหญ่ได้และได้รับความนิยมอย่างมาก  แต่หลังจากนั้น พวกเขาจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย

มีเพียงไม่กี่ตระกูลซึ่งมีการสืบทอดอำนาจผ่านมากันเป็นรุ่นๆจึงมีโอกาสประสบความสำเร็จ สำหรับตระกูลทั้งหลายที่มีประวัติศาสตร์มากมาย พวกเขาวิจัยค้นคว้ากว้างขวางให้การบำรุงดูแลคนในตระกูลของพวกเขา พวกเขารู้ว่าศิษย์รุ่นเยาว์เป็นหัวใจต่อการตัดสินความรุ่งเรืองหรือตกต่ำของอนาคตตระกูล  พวกเขาได้รับการส่งเสริมให้มีการแข่งขันกันภายในระหว่างศิษย์ด้วยกัน ดังนั้นการแข่งขันภายในระหว่างคนในตระกูลใหญ่จึงมีความรุนแรงมากเป็นธรรมดา

การแข่งขันของตระกูลหัวรุนแรงเป็นพิเศษ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีหลายคนต้องเรียกว่าโหดเหี้ยม

หัวหลี่รั่วเป็นผู้บัญชาการทหารที่โดดเด่นที่สุดในรุ่นปัจจุบัน  เขามีพรสวรรค์และพลังที่โดดเด่นมาก สิ่งเดียวที่เป็นอุปสรรคต่อเขาก็คือความเจ้าโทสะที่ชอบระเบิดอารมณ์ของเขา  สำหรับคนอื่นๆก็เป็นแค่บรรทัดฐานสำหรับสมาชิกตระกูลสูงส่งที่ต้องมีความเจ้าอารมณ์ แต่อารมณ์ของหัวหลี่รั่วเป็นสิ่งที่ไม่มีใครกล้ำกลืนได้

เขาก่อเรื่องกับทุกคนในบ้านอื่นสำหรับตระกูลชั้นสูงอื่นและทุบตีเล่นงานศิษย์อื่นรุ่นเดียวกันจนยับมาแล้ว แน่นอนว่าพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้เขามีชื่อเสียง สิ่งที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักแท้จริงก็คืออารมณ์ที่วู่วามฉุนเฉียว  เขาเคยทะเลาะกับผู้อาวุโสของวิหารมาก่อนและลอบเข้าไปวิหารทุบตีอีกฝ่ายจนหน้าตาบวมปูดต่อหน้าทุกคน

เมื่อเรื่องนี้รั่วไหลออกไป  ทั่วทั้งทวีปกวงหมิงถึงกับโกลาหล  ทุกคนตะลึง ไม่เคยมีคนกล้าใช้แผนเช่นนั้นต่อวิหาร  วิหารโกรธแค้น จนประมุขตระกูลหัวต้องไปขอขมากับประมุขผู้อาวุโสด้วยตนเองและนั่นเองจึงทำให้เรื่องลงเอยลงได้

หลังจากนั้นข่าวของหัวหลี่รั่วก็หายไปเป็นเวลานาน  เขาเติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นนอกจากมีผู้หนุนหลังที่แข็งแกร่งเขายังเดินไปตามเส้นทางและกลายเป็นพลโทที่มีอายุเยาว์ที่สุด  แต่ในการคัดเลือกแม่ทัพใหญ่  เขาไม่ได้รับเลือก

การกระทำที่เขาทำต่อมาทำให้เขาตกเป็นหัวข้อวิจารณ์ไปทั่วทวีปกวงหมิงอีกครั้งหนึ่ง  เมื่อเขาไม่ได้รับเลือก เขาลาออกจากตำแหน่งพลโทโดยไม่ลังเลใจและกลับตระกูลหัว

หัวหลี่รั่วกลับไปตระกูลแต่ไม่หยุดเพียงแค่นั้น เขาสร้างกองทัพของตนเองด้วยมือตนเอง และเป็นเวลาสองปี ไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับเขา หลังจากผ่านไปสองปี  จู่ๆเขาปรากฏตัวพร้อมกับทหารของเขา  และเริ่มมองหาคนสู้ด้วย  และเรียกว่าฤดูกาลซ้อมมือทำให้เกิดวิกฤติไปทั่วทวีปกวงหมิง การต่อสู้และการเผาบ้านเมืองกลายเป็นมาตรฐาน  กองทัพ หน่วยทหารท้องถิ่นและกองทัพของตระกูลต่างๆ ไม่รอด

ในเวลานั้นหัวหลี่รั่วกลายเป็นผู้อื้อฉาวไปทั่วทวีปกวงหมิง

ตั้งแต่เด็กเมลิซซาได้ยินเรื่องอื้อฉาวและวิธีการก้าวร้าวของหัวหลี่รั่ว ดังนั้นเมื่อนางพบว่าบุรุษที่ยืนอยู่หน้านางคือหัวหลี่รั่วนางแทบลมจับ

เมลิซซารู้สึกว่าสมองนางลั่นอึงอลเหมือนกับถูกทุบศีรษะ แต่นางคงเหมือนกับถูกตีศีรษะหนักกว่าหน้าของหัวหลี่รั่ว

แต่ต้องใช้เวลาปรับตัวนานและเพื่อไม่ให้เสียเวลานางสูดหายใจลึกฉีกยิ้มที่ดูประหลาดยิ่งกว่าร้องไห้  “ข้าไม่คิดเลยว่าแม่ทัพหัวจะมาเยี่ยม  แม่ทัพมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันทั่ว  ได้พบเห็นท่านนับว่าเป็นวาสนาของข้านัก”

เห็นได้ชัดว่าหัวหลี่รั่วพอใจกับคำเยินยอของนางและนางพูดต่อ

นางยังพูดอ้อมไปอ้อมมา  แต่ความกังวลในใจนางสงบลง  นางไม่เข้าใจความตั้งใจของหัวหลี่รั่ว  ดังนั้นนางได้แต่หัวเราะและชวนคุยต่อ  นางชวนคุยเรื่องอากาศหรือไม่ก็ชาพันธุ์ใหม่ที่นางเพิ่งได้รับ

หลังจากสนทนาครึ่งค่อนวันในที่สุดหัวหลี่รั่วก็หมดความอดทน เขาวางแก้วชาลงและพูดขึ้น “ข้ามาเยี่ยมเยียนวันนี้ก็เพื่อคารวะผู้อาวุโสซิ่นแห่งกองพลหน้ากากเหล็ก”

‘ในที่สุดก็มาถึงตรงนี้จนได้  ใจของเมลิซซาตึงเครียด เมื่อคิดถึงเกี่ยวกับท่าทีผิดหวังของถังเทียนและพวกที่เหลือ  และการปรากฏตัวของหัวหลี่รั่ว  นางรู้ว่าพวกเขาคงประสบปัญหาลึกๆ เสียแล้ว!

เมลิซซาถึงกับหนังศีรษะชา  นางไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร  แต่หน้าของนางยังคงมาดมั่น  “โอว, แม่ทัพหัวรู้จักกองพลหน้ากากเหล็กด้วย?”

หัวหลี่รั่วเตรียมจะอธิบายว่าเขาตามหลังพวกเขา ขณะนั้นบริวารคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามารายงาน “คุณหนู  ทูตของวิหารกวงหมิงคนหนึ่งขอเข้าพบ”

‘ทูตวิหารกวงหมิง?’  เมลิซซาตกใจ แต่นางยังกล่าว  “เชิญเขาเข้ามา”

เมื่อได้ยินว่าทูตของวิหารกวงหมิงมาถึง  หน้าของหัวหลี่รั่วเขียวคล้ำ  วิหารมีปฏิกิริยาเร็วจนเขาประหลาดใจ  เขารู้สึกว่าเขารวดเร็วพอแล้ว แต่เมื่อคิดว่าเมื่อเขาก้าวเข้ามาในกลุ่มการค้าเมซฟิลด์  วิหารก็คงมาถึงแล้ว

‘ดูเหมือนว่าวิหารจะมีหูตาวางไว้ที่ตระกูลชิวมานานแล้ว’  หัวหลี่รั่วคิด เขารู้สึกว่านี่คือเหตุผลที่เป็นไปได้มากที่สุด  ‘ตระกูลชิวมาตอแยตระกูลเมซฟิลด์  และลงเอยด้วยการตอแยเครื่องจักรสังหารขนาดใหญ่’

‘ขุนพลวิญญาณระดับพลเอก...หึหึหึ...’

กับควมตายของชิวเทียนชิง  กำลังของตระกูลชิวได้รับผลกระทบครั้งใหญ่  แม้ว่าพวกเขายังมีชิวซิ่วหัว แต่ชิวซิ่วหัวยังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากในภูมิภาคใต้กำลังพบกับอุปสรรคจากสัมพันธมิตรใต้ พวกเขาไม่สามารถมาสมทบกับโกวเฉิงเวิ่นเต้าได้  และไม่ทราบว่าเมื่อใดพวกเขาจึงจะกลับมาได้

‘กับความตายของชิวเทียนชิง  ถ้าชิวซิ่วหัวไม่กลับมา  ตระกูลชิวจะตกอยู่ในอันตราย’

หัวหลี่รั่วไม่สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลชิว เนื่องจากเป็นเรื่องที่ระดับสูงจะต้องกังวลกันเอง

เมื่อได้ยินว่าวิหารส่งทูตมา  เขากังวลทันที ถ้าตระกูลกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ถูกวิหารคล้องตัวไปได้  พวกเขาจะต้องคุกคามต่อตระกูลหัวอย่างมิต้องสงสัย

หัวหลี่รั่วเริ่มรู้สึกกังวล  เขามีเป้าหมายลับที่คนอื่นไม่รู้  เขาไม่ได้รับอำนาจจากผู้บริหารระดับสูง  แต่ปฏิกิริยาของวิหารไวกว่าที่เขาคิดไว้มาก

ผู้อาวุโสซีอุสเดินเข้ามา  และเมื่อเห็นเมลิซซา  ตาของเขาเป็นประกาย  เขาเดินตรงเข้ามาทักทายอย่างจริงใจ  “คุณหนูเมลิซซา  ข้าคือผู้อาวุโสซีอุสแห่งวิหารกวงหมิง  ข้าต้องขอโทษที่มาเยี่ยมถึงหน้าประตูบ้านเจ้าอย่างกะทันหัน”

การมาเยี่ยมกะทันหันของผู้อาวุโสวิหารทำให้เมลิซซารู้สึกสับสน  แต่การทักทายอย่างจริงใจทำให้เมลิซซาสับสนมากยิ่งขึ้น

‘เราเคยมีปฏิสัมพันธ์กับวิหารมาก่อน  แต่กับการมาเยี่ยมของผู้อาวุโสเล่า?  พวกเขาพยายามจะทำอะไร?  พวกเขามักส่งคนมาหลายคนเสมอ  แต่ตอนนี้ กลับเป็นคนที่สำคัญมาเอง!’

ถ้าเป็นวันปกติ  เมลิซซาคงจะรู้สึกอึดอัด แต่นางรู้สึกตื้นตันที่ได้รับการโปรดปรานจากพวกเขา แต่ปัจจุบันนี้นางช่วยเจ้านายถังเทียนเจาะกำแพงเข้าไปในวิหาร  ‘พวกเขารู้สึกอะไรบางอย่างที่เป็นเหตุผลให้พวกเขาต้องมาหาเรา?’

เมลิซซากังวลมากขึ้น  แต่นางยังคงยิ้ม “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ผู้อาวุโสซีอุสมาด้วยตนเอง การมาของท่านนำแสงสว่างมาให้ที่อยู่อันต่ำต้อยของข้า  ทำไมท่านไม่พูดถึงวัตถุประสงค์การมาของท่านเล่า  เราจะมองไปข้างหน้าเพื่อให้วิหารช่วยนำแสงสว่างมาให้ธุรกิจของตระกูลน้อยๆของเราอยู่เสมอ”

ซีอุสหัวเราะ  “งั้นข้าจะต้องมาให้บ่อยขึ้นเสียแล้ว”

เมื่อเข้ามาในประตู  เขาประเมินเมลิซซาอย่างต่อเนื่อง  ไม่ว่าเขาจะมองยังไง  เขาไม่ไม่สามารถเห็นความผิดปกติใดๆ  แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันก่อน  เขารีบเปลี่ยนทัศนคติและใจของเขาเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว

เขาปรากฏตัวในเวลาที่เหมาะ

โซเฟียนำอัศวินพิเศษกวงหมิงกวาดล้างค่ายทหารตระกูลชิวทั้งสองฝ่ายกลายเป็นศัตรูต่อกันเหมือนน้ำกับไฟ และไม่มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะกลับมาคืนดีได้ต่อไป  เพราะห้าตระกูลชั้นสูงก็วางแผนเพื่ออำนาจทำให้วิหารโกรธมาก

วิหารต้องการลงมือกับตระกูลชิวดังนั้นซีอุสจึงถูกส่งไปดำเนินการ

แน่นอนว่าการโต้ตอบของวิหารไม่เพียงแต่ทำลายตระกูลชิวเท่านั้นดังนั้นซีอุสแบกความรับผิดชอบไว้บนหลังของเขามากขึ้น

เมื่อประมุขผู้อาวุโสตัดสินใจ  ทั่วทั้งวิหารจะทำตามอย่างเต็มกำลัง  ทั่วทั้งวิหารร่วมมือสู้กับศัตรูเหมือนกันขณะที่อำนาจของวิหารไม่เคยถูกท้าทายมาก่อน

เมื่อซีอุสเห็นการกำจัดกองพลตระกูลชิวกับตาตนเอง  เขาได้รับผลกระทบใหญ่ และไม่อาจสงบใจลงได้เมื่อเขามาถึงกลุ่มการค้าตระกูลเมซฟิลด์ เขายังถูกความตกใจเรื่องตระกูลชิวปกปิดพลังของชิวเทียนชิงครอบงำ  ถ้าเขาทำการตามแผนและลงมือกับตระกูลชิว  พวกเขาคงได้เจ็บตัวกันหนัก

เมื่อคิดถึงโซ่ที่ห้อยลงมาจากท้องฟ้าเซอุสยังคงสั่นสะท้าน  ‘ดูเหมือนมีเพียงคนเดียวในวิหารที่สามารถรับมือโซ่เหล่านั้นได้ก็คือโซเฟีย’

‘โชคดีที่กลุ่มการค้าเมซฟิลด์ปะทะกับพวกเขาก่อนและช่วยวิหารให้พ้นจากปัญหาใหญ่

‘มิน่าเล่ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์ไม่ยอมเห็นแก่หน้าตระกูลชิว พวกเขาเองก็มีไพ่ที่ทรงอำนาจเอาไว้เล่นเช่นกัน  และไม่กลัวตระกูลชิวเลยแม้แต่น้อย’  ตระกูลชิวอาจนับได้ว่าโชคร้ายทำให้ผู้อาวุโสซีอุสฉลองกับภัยพิบัติของพวกเขา

ซีอุสตัดสินใจผูกสัมพันธ์กับกลุ่มการค้าเมซฟิลด์  ด้วยพลังต่อสู้ที่ทรงอำนาจขนาดนั้นถือว่ามีระดับเพียงพอ ขุนพลวิญญาณชั้นพลเอกที่สามารถฉีกมิติได้ทรงพลังจริงๆ ไม่ต้องคำนึงถึงความจริงที่ว่าพวกเขาอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก  แม้ว่าจะเป็นวันธรรมดา  วิหารคงยินดีจ่ายเพื่อให้ได้พลังนั้น

เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นซีอุสถามอย่างกระตือรือร้นทันที “ข้าจะขอพบกับผู้อาวุโสซิ่นได้ไหม?”

เมลิซซาลอบตกใจแต่ก็สงบใจได้ น้ำเสียงการพูดและทัศนคติของอีกฝ่ายไม่ได้มาหาเรื่อง ‘ตอนนี้ ทำไมพวกเขามาที่นี่เพื่อหาผู้อาวุซิ่น?’  เมลิซซาคิดเรื่องนั้น  ‘หัวหลี่รั่วดูเหมือนจะพูดบางอย่างเกี่ยวกับผู้อาวุโสซิ่นเช่นกัน  แต่เรากลับให้ความสนใจไปที่กองพลหน้ากากเหล็ก'

“ผู้อาวุโสซิ่น?”  เมลิซซามีสีหน้าสงสัย  ‘ดูเมหมือนว่าข้าไม่มีใครอยู่ที่นี่เลย’  นางคาดเดาอายุของซีอุส  ‘จากที่เขาเรียกใครบางคนว่าเป็นผู้อาวุโส  ผู้นั้นจะต้องเป็นคนแก่ชราผมหงอก’

‘แต่ฝ่ายนายท่านไม่มีคนแก่ที่แข็งแกร่งทรงพลังอยู่เลย’

“ถูกแล้ว ข้าซีอุสได้เห็นพลังของผู้อาวุโสซิ่น และชื่นชมผู้อาวุโสซิ่นจริงๆ  ข้าบากหน้ามาที่นี่ หวังว่าคุณหนูเมลิซซาจะไม่กีดกันหรอกนะ”  ซีอุสหัวเราะ

เขาไม่ได้สังเกตเห็นว่าหัวหลี่รั่วอยู่ข้างๆหน้าของเขาบึ้งตึง

“แต่ไม่มีผู้อาวุโสที่ชื่อซิ่นในสาขาของข้าเลย”  เมลิซซามีสีหน้าสงสัย “ข้าไม่แน่ใจว่าท่านไปได้ยินชื่อผู้อาวุโสซิ่นจากที่ใด?  ข้าคิดว่าคงมีคนเข้าใจผิด”

“เป็นไปไม่ได้!”

เสียงทั้งสองดังขึ้นพร้อมกัน

ใจของซีอุสเครียด  เมื่อเขาเข้ามา  เขาไม่สังเกตเลยว่ายังมีคนอื่นอีก!

เขาหันหน้าไปดู  และเมื่อเขาเห็นว่าเป็นใคร  รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไปทันที  “ข้าไม่เคยคิดเลยว่าแม่ทัพหัวจะมาที่นี่ด้วย”

ซีอุสเชิดหน้าทันที  และพูดต่อ “กลุ่มการค้าเมซฟิลด์เป็นตระกูลที่ทวีปกวงหมิงของข้าจะขาดไปไม่ได้  ใครก็ตามที่ต่อต้านกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ก็ถือว่าต่อต้านวิหารไปด้วย”

หัวหลี่รั่วไม่กลัวขณะที่เขาแค่นเสียง “กลุ่มการค้าเมซฟิลด์คือสหายตลอดกาลของตระกูลหัวของข้า สำหรับวิหาร  ท่านแค่เป็นตัวแทนของวิหารคนเดียวเท่านั้น!”

“สหาย?” ซีอุสตอบ  “ข้าคิดว่าไม่  ใครกันที่ช่วยตระกูลชิวสู้กับผู้อาวุโสซิ่น?”

หัวหลี่รั่วแค่เสียง  “น่าขัน!  ตระกูลหัวของข้าลงมือตั้งแต่เมื่อไหร่?  ผู้อาวุโสซีอุสแก่แล้ว และหูไม่ดีเป็นธรรมดาที่ท่านจะเข้าใจผิด”

ซีอุสหัวเราะ  “ถ้าข้าจำได้ไม่ผิด  ตระกูลชิวเป็นพันธมิตรกับตระกูลหัว ตระกูลหัวปฏิบัติต่อพันธมิตรของตนเองอย่างนั้นหรือ?  เจ้าเลือดเย็นจริงๆ”

หน้าของหัวหลี่รั่วเขียวคล้ำ  แค่เมื่อทุกคนคิดว่าเขาเตรียมระเบิดอารมณ์  เขาหัวเราะทันที  “เลือดเย็น? ใครจะเทียบได้กับวิหารเมื่อว่ากันถึงเรื่องความเลือดเย็น?  พันธมิตรทั้งหมดปีกลายอยู่ที่ไหนเล่า?  รสชาติของคนที่ก่อกบฏและการต้องแตกจากสหายคงไม่ดีแน่”

เมลิซซาอยู่ในอาการตะลึง  ขณะที่นางดูทั้งสองคนเถียงกันคอเป็นเอ็น  หน้าของนางเหม่อมอง

‘นี่...เกิดอะไรขึ้นกันแน่?’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด