ตอนที่แล้วตอนที่ 900 เผชิญหน้ากองพลจู่โจมตระกูลชิว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 902 แสงแห่งอดีตจะฉายเจ้าในปัจจุบัน

ตอนที่ 901 ทำไม?


พลังวายุใบไม้ร่วงที่ทรงพลัง!

ตาของถังเทียนทอประกายวูบ ความแตกต่างระหว่างพื้นที่ของไม้ตายพลังวายุใบไม้ร่วงทุกนิ้วช่างน่าทึ่ง ในสายตาของเขาพลังงานภายในกองพลตระกูลชิวเป็นอันหนึ่งเดียวกัน มีกลิ่นอายที่เยือกเย็น

กลิ่นอายที่ลึกลับและเยียบเย็นนี้ดูเหมือนสามารถแผ่ซ่านเข้าไปในหัวใจของผู้คนได้  เมื่อถังเทียนยืนอยู่ภายในพื้นที่ไม้ตายวายุใบไม้ร่วงต้นไม้และใบไม้นับพันที่บินลอยอยู่ในอากาศปล่อยรังสีเยือกเย็นเลือนรางเสียดกระดูกทำให้เขาสั่นสะท้าน

เป็นประสบการณ์เผชิญกับการโจมตีเช่นนั้นครั้งแรกของถังเทียน  นอกจากนี้ยังเป็นไม้ตายสังหารของกองทัพ  แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง  เขามีความรู้สึกเลือนรางว่าคุ้นเคยกับมันเหมือนกับว่าเขาเคยเห็นที่ใดมาก่อน เขารู้ว่าเขาไม่เคยเห็นมันมาก่อน ถ้าเขาเคยเห็นวิชาไม้ตายสังหารกองทัพแบบนั้นมาก่อน เขาคงไม่ลืมอย่างแน่นอน

วิชาไม้ตายสังหารของกองทัพระดับทอง  นอกจากนั้นยังเป็นไม้ตายสังหารของกองทัพชั้นทองที่เฉพาะแบบเมื่อเทียบกับเพลงโศกกระบี่แสงที่ถังเทียนเคยเผชิญมากก่อนนั้น  ไม้ตายสังหารพายุใบไม้ร่วงแข็งแกร่งกว่ามาก

ม่านตาของเขาหดลงทันที  ‘กฎธรรมชาติ!’

ใช่แล้วมีร่องรอยของกฎธรรมชาติในนั้น!

จากนั้นถังเทียนตระหนักได้  ‘มิน่าเล่าข้าถึงรู้สึกว่าคุ้นเคยมาก’  กฎธรรมชาติภายในกองพลเกราะเทพเจ้าถังเทียนมีความรู้สึกที่ไวต่อกฎธรรมชาติมากเป็นพิเศษ  แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในสภาวะเกราะเทพเจ้าในขณะนั้น  เขาก็ยังมีประสาทที่แหลมคมต่อกฎธรรมชาติ

เป็นครั้งแรกของถังเทียนที่ได้เห็นไม้ตายสังหารของกองทัพที่แฝงไปด้วยกฎธรรมชาติ  ภายในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่ซึ่งมีพลังงานมากมายสมบูรณ์  กฎธรรมชาติถูกบดบังโดยพลังงาน  ดังนั้นการรู้แจ้งกฎธรรมชาติจึงเป็นเรื่องที่ยากมากยากยิ่งกว่าแดนบาปและสวรรค์วิถี นั่นคือเหตุผลที่ถังเทียนไม่เคยเห็นคนอื่นในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่รู้แจ้งกฎธรรมชาติมาก่อน

‘เป็นอย่างนี้นี่เอง...’

ถังเทียนเปล่งประกายแสงสลัว  นอกจากความยากแล้วอีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่มีใครในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์มีการรู้แจ้งกฎธรรมชาติเป็นเพราะรูปแบบของการต่อสู้ของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ผ่านการต่อสู้ด้วยกองทัพ  ‘รูปแบบการรู้แจ้งกฎธรรมชาติของพวกเขายังแตกต่างจากข้า แม้ว่าแม่ทัพนายกองแห่งดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์จะไม่สามารถได้รับการรู้แจ้งกฎธรรมชาติได้โดยเฉพาะ  แต่พวกเขาก็มาถึงจุดนี้ด้วยวิธีการที่ไม่ซ้ำแบบใคร’

‘พลังสะท้อน!’

พลังสะท้อนของเพลงโศกกระบี่แสงคือการสะท้อนพลังงาน ขณะที่ไม้ตายพายุใบไม้ร่วงก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง  นอกจากพลังงานสะท้อนแล้ว  ยังรวมความผันผวนของสายใยกฎธรรมชาติซึ่งเหมือนกับไม้น้ำที่อยู่ใต้น้ำ  ธรรมดาว่าผิวน้ำจะระอุ  ขณะที่ส่วนลึกของทะเลจะเงียบสงบมาก

เพลงโศกกระบี่แสงก็เป็นอย่างนั้น  ดูเหมือนจะมีความเปลี่ยนแปลงกับพลังคลื่น  แต่ก็เป็นเพียงส่วนผิว

พลังสะท้อนของไม้ตายพายุใบไม้ร่วงเหมือนกับว่าสามารถเทียบได้กับพลังที่เด่นสง่าของเพลงโศกกระบี่แสง แต่พลังผันผวนจะแพร่กระจายอยู่ในส่วนลึกและขยับกระตุ้นสายใยกฎธรรมชาติที่พื้นของมหาสมุทร

‘ช่างเป็นการพบที่บังเอิญ’

ความตั้งใจกระตือรือร้นสู้ในตอนแรกของถังเทียนเปลี่ยนเป็นหลงใหลกับไม้ตายสังหารที่ทรงพลังของกองทัพ  เขาเพ่งความสนใจที่ร่างกายของเขาเอง  ‘ความรู้สึกช่างแปลกแตกต่างจากเมื่อตอนที่ข้าอยู่ในเกราะเทพเจ้าตื่นรู้’  ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่ในเปลวไฟ แต่ใจและศีรษะของเขารู้สึกเหมือนเป็นก้อนน้ำแข็ง

ความคิดนับไม่ถ้วนวาบผ่านเข้ามาในใจของเขา  ขณะที่มือของถังเทียนไม่เคยหยุดเคลื่อนไหว

เขายังคงเดินเข้าหาที่ตั้งกองกำลังและมือขวาของเขาดูเหมือนกับหยก และฟันลงต่อเนื่อง ความเร็วที่เขาฟันเร็วขึ้น เร็วขึ้นทุกที

ใบไม้ที่ลอยพลิ้วอยู่ในท้องฟ้าไม่มีทีท่าว่าจะร่วง  เมื่อรังสีฝ่ามือเข้ามาใกล้ที่ตั้งของกองพลตระกูลชิวจะกระจายออกไปเนื่องจากใบไม้

ชิวเทียนชิงรู้สึกเบาใจขึ้นไม้ตายพายุใบไม้ร่วงทำให้เขาโล่งใจอยู่เสมอ

เขาหัวเราะกับตัวเอง  ‘ดูเหมือนข้ามัวตกตะลึงกับคู่ต่อสู้ก่อนนั้น  ข้าต้องยอมรับว่าไม้ตายพายุใบไม้ร่วงไม่สามารถจะคุกคามเขาได้โดยไม่รู้ตัว

คู่ต่อสู้ทรงพลังมากและเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ชิวเทียนชิงเคยเห็น  ‘แต่เขาประมาทเกินไป  เขาคิดจริงๆว่าลำพังเขาจะเอาชนะกองทัพตระกูลชิวได้’

ดวงตาชิวเทียนชิงทอประกายดุร้ายวูบ ตอนนี้เขาเข้าสู่สภาพสู้รบและทิ้งความคิดทั้งหมดออกไปจากใจ  และสายตาของเขาเป็นประกายเยือกเย็น

‘เป็นไปได้ยังไงที่จะไม่มีฝนใบไม้ร่วงในเมื่อยังมีพายุใบไม้ร่วง?’

ชิวเทียนชิงทิ้งความคิดทั้งหมดแผนทั้งหมด และตั้งสมาธิอยู่ด้านหน้าเท่านั้น เขาเป็นแม่ทัพทหารแท้ๆ สายตาจ้องอยู่ที่การสู้รบข้างหน้าเขา

เป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมาในชีวิต

ฝ่ายตรงข้ามมีพลังเฉพาะตัวเกินกว่าเขาจะเข้าใจ  ‘นักสู้ทรงพลังที่มีชื่อเหล่านั้นทั้งหมดและบางทีนายใหญ่ของสัมพันธมิตรใต้ที่ร่ำลือกันยังอ่อนแอกว่าบุรุษผู้นี้’

เช่นเดียวกับเมื่อถังเทียนเห็นประจักษ์ไม้ตายพายุใบ้ไม้ร่วงของชิวเทียนชิงและเกิดความดีใจ ก็เหมือนกับชิวเทียนชิง คู่ต่อสู้ที่หยั่งไม่ถึงทำให้ความตั้งใจต่อสู้เกิดขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนในใจเขา

“พายุสายฝนใบ้ไม้ร่วงทำลายล้าง”  เสียงคำรามของชิวเทียนชิงดังทั่วกองพลตระกูลชิว

เผียะเผียะ เผียะ

หยดขนาดเท่าถั่วเริ่มร่วง  ถังเทียนไม่หยุดเดิน  ทุกๆ หยาดฝนอัดแน่นไปด้วยพลังงาน  และดูไม่เร็ว แต่ทุกหยดบรรจุไปด้วยพลัง

ด้วยร่างกายที่ผิดธรรมดาของถังเทียน  เขาไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใดเมื่อฝนกระทบร่างกายของเขา  ทุกๆ หยดแฝงไปด้วยพลังสังหารของไม้ตายและแทรกซึมเข้าร่างถังเทียน

ถังเทียนเคลื่อนไหวเล็กน้อยเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง ปกติคนทั่วไปจะกระตุ้นพลังงานภายในหยดฝนให้ระเบิดและใช้สร้างพลังโจมตี แต่ถังเทียนไม่ทำเช่นนั้น แต่กลับปกปิดความตั้งใจของเขาที่มีพลังงานภายในไม้ตายของกองทัพตระกูลชิวและปล่อยให้หยาดฝนพลังงานโจมตีพลังป้องกันของฝ่ายตรงข้าม  แต่จงใจให้ซึมซาบเข้าไปในร่างของศัตรู

ถังเทียนรู้สึกได้ทันทีว่าสภาพใจของเขาเฉื่อยชาลงเล็กน้อยทำให้ใจของเขาสั่นสะท้าน มีรัศมีแสงภายในใจที่เหมือนกระจกแก้วสำแดงพลัง ขณะที่กระบี่อมตะในร่างของสั่นสะเทือนทันทีและกำจัดพลังแฝงในไม้ตายใบไม้ร่วงในร่างกายของเขาสลายไปทันที

‘พลังสำนึกก็สามารถใช้แบบนั้นได้!’

ตาของถังเทียนเป็นประกายอีกครั้ง  ถ้าไม่ใช่เพราะถังเทียนมีรูปแบบการต่อสู้ที่แตกต่างเมื่อเทียบกับนักสู้ของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ ประกอบกับสัญชาตญาณที่ไม่มีใครทัดเทียมของเขา  ไม้ตายพายุสายฝนใบไม้ร่วงอาจสังหารเขาได้

เมื่อรู้สึกถึงความโกรธก้าวร้าวของกระบี่อมตะในร่างของเขา  ถังเทียนเรียกมันออกมาโดยไม่ลังเล

เมื่อกระบี่บรอนซ์ที่มีรอยร้าวปรากฏขึ้นในมือของถังเทียนม่านตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีบรอนซ์ทันทีและมีเครื่องหมายกางเขนเห็นได้เลือนรางอยู่ในดวงตา

กลิ่นอายที่เคร่งขรึมและปั่นป่วนพลุ่งขึ้นท้องฟ้าทำให้บรรยากาศรอบตัวเขาเกิดระลอก

ฝนหยดรดร่างของถังเทียน  แต่เขายังคงเฉยๆ ไม่สนใจ พลังทำลายพายุสายฝนใบไม้ร่วงกลายเป็นฉากหลังให้เขาช่วยเพิ่มบรรยากาศให้เคร่งขรึม

‘อะไรกันนั่น!’

ชิวเทียนชิงถลึงตาขณะจ้องมองกระบี่บรอนซ์ในมือของถังทียน

มือที่ดูเหมือนหยกแปลกประหลาดและกระบี่บรอนซ์ที่ร้าวเป็นภาพขัดกันอย่างใหญ่หลวง

สิ่งที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงก็คือความรู้สึกเคร่งขรึมเหมือนกับว่าเขาเห็นภาพเงาของศัตรูนับไม่ถ้วนผุดออกมา ด้วยรังสีฆ่าฟันของศัตรูตั้งใจจะล้างผลาญพวกเขาทั้งหมด

“นั่นคือกองทัพ นั่นคืออาวุธที่บรรจุเครื่องหมายของกองทัพไว้ด้วย! มีอาวุธเช่นนั้นอยู่ในโลกได้ยังไง? กองทัพแบบไหนยินดีใช้ความตายของพวกเขา สร้างอาวุธที่น่ากลัวเช่นนั้น?’

‘สำหรับอาวุธที่มีเครื่องหมายของทหารตกไปอยู่ในมือของนักสู้ที่มีพลังส่วนตัว  ช่างน่าเสียดาย’

ช่างน่าตกใจนักน่าเสียดายมาก ที่สำคัญคือน่ากลัว น่ากลัวแทบตาย

เมื่อเผชิญกับบุรุษที่ชูกระบี่บรอนซ์ผมขนทั้งหมดในตัวของชิวเทียนชิงลุกชัน เหมือนกับว่าสัตว์ร้ายกำลังจ้องมองเขา  เขารู้ว่าความรู้สึกนี้หมายความว่าเขากำลังจะเผชิญกับอันตรายที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนอันตรายที่รุนแรง

“ใบไม้ร่วง!  ใบไม้ร่วง!  ใบไม้ร่วง!”

เส้นเลือดของชิวเทียนชิงปูดโปนขณะที่เขาคำรามสุดกำลัง

ทหารรอบตัวเขาตกใจพอกันและคำรามพร้อมกัน  “โจมตี!  โจมตี!  โจมตี!”

ฝนรอบตัวถังเทียนหายไปทันทีราวกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นรวบฝนไว้ทั้งหมด และเอามาสร้างไว้รวมกัน กระแสพลังหลากไหลอยู่ในกองพลตระกูลชิวและพลังใบไม้แสงไม่ลอยเร็วนัก เหมือนกับฝูงปลาที่ว่ายอย่างสบายๆ  แต่ยังรวมอยู่รอบๆ พวกเขานิ่งๆ

บุรุษวัยกลางคนผู้สังเกตการณ์อยู่ด้านข้างมีสีหน้าแปลกใจ  เขารู้ว่าชิวเทียนชิงจะต้องสู้เพื่อชีวิต

บนเรือสินค้าอาซิ่นจ้องมองกระบี่บรอนซ์ร้าวในมือของถังเทียน ร่างกายของเขาเริ่มสั่น

เสี่ยวม่านที่อยู่ด้านข้างถามทันที  “เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?”

นางรู้สึกว่ามีบางอย่างต่างไปจากแต่ก่อน เหมือนกับว่าอาซิ่นถูกดึงดูดเข้าไปในภวังค์แปลกประหลาดเพราะกระบี่ที่ถังเทียนเรียกออกมา นางรู้ว่าอาซิ่นปกติจะเหมือนกับโง่เขลาพูดจาสนุกสนานไร้สาระ  แต่เขาเป็นคนที่ใจเย็นและเชื่อมั่นตนเอง  และสภาพใจของเขายังดีกว่านางมาก

หน้าของอาซิ่นซีดขาว  เขาเริ่มสั่นรุนแรงมากขึ้น  ขาของเขาสั่น นิ้วของเขาสั่นและริมฝีปากก็สั่น แต่ตาของเขาจับนิ่งอยู่ที่กระบี่บรอนซ์เหมือนกับว่าไม่ได้ยินคำพูดของเสี่ยวม่าน

‘กลิ่นอายของสหายข้านั่น  กลิ่นอายของความตาย กลิ่นอายจากทะเลสุคติ’ เขาคาดเดาพื้นฐานของกระบี่ได้ แต่...

‘ทำไมพวกเขาถึงไม่มีความสุข?’

‘ทำไมพวกเขาอยู่ในความเศร้า?’

‘ทำไมข้าจึงรู้สึกอยากร้องไห้?’

‘เกิดอะไรขึ้นกับทะเลสุคติ?พี่น้องทั้งหลาย ทำไมพวกเจ้าทุกคนจึงไม่ยอมพัก? ทำไม?’

(ขอแก้จากคำว่า‘ทะเลสันติภาพ’ เป็น ‘ทะเลสุคติ’ นะครับ)

ร่างของอาซิ่นกำลังสั่นถูกแล้ว เขาไม่เคยสั่นมาก่อน แม้แต่ในการรบครั้งก่อน เขาวิ่งออกมาจากสุสานบุกโจมตีศัตรูโดยไม่สั่นกลัวหรือลังเล

พวกเขามาจากทะเลสุคติที่ซึ่งสหายของเขานอนอยู่ในความสงบ ไม่ว่าการสู้รบจะรุนแรงเพียงไหนมันคือแผ่นดินสุดท้ายที่พวกเขาจะมีความสุขได้ วิญญาณของพวกเขาจะกลับไปยังทะเลสุคติเพื่อพักผ่อนนิรันดร  นั่นคือแผ่นดินที่พวกเขาต้องปล่อยวางความกังวลสุดท้าย  แผ่นดินเพื่อการรบสุดท้ายสหายยังมีชีวิตอยู่สามารถตายได้ แต่สหายของพวกเขาจะพักผ่อนอย่างสงบสุขตลอดไป

‘ทำไมเจ้าต้องปลุกพวกเขา?’

‘ทำไม!’

อาซิ่นกำหมัดแน่นจนแดง  เขาก้มหน้าโดยไม่รู้ตัว  หน้าของเขาดูน่ากลัวขณะที่ร่างของเขาสั่นรุนแรง

‘ทำไมเจ้าถึงรบกวนพวกเขา!  ทำไม!’

‘เพราะเจ้าต้องการคนไปรบให้เจ้าใช่ไหม?  ข้าจะไปรบเพื่อเจ้าเอง!  เจ้าต้องการส่งคนไปตายหรือ?  ข้าจะไปแทนพวกเขาเอง!  ทำไมเจ้าต้องเรียกพวกเขาออกมา?  ทำไมเจ้าไม่ปล่อยให้พวกเขาตายอย่างสงบ?’

แสงรัศมีสีบรอนซ์สว่างวูบและฉายผ่านหน้าต่างเข้ามาฉายลงบนใบหน้าที่น่ากลัวของอาซิ่น ความเจ็บปวดชัดเจนมาก ชัดเจนจนทำให้หัวใจของเสี่ยวม่านสะท้าน

ตัวกระบี่กำลังสั่นสะเทือนเป็นเสียงทุ้มเหมือนกับสายน้ำ  เสียงเริ่มดังขึ้นๆ

‘เสียงนี้....’

ร่างของอาซิ่นสะท้านเขาเงยหน้าโดยไม่รู้ตัว

กระบี่บรอนซ์ที่ถูกชูขึ้นสูงดูเหมือนกับธงศึกของกองทัพดาวกางเขนใต้ที่กำลังถูกชู

เสียงกระหึ่มต่ำดังเหมือนกับทหารเป็นล้านคนตะโกนพร้อมกัน  ความโกรธของพวกเขา  ความไม่พอใจ ความเศร้าโศกของพวกเขา

ถังเทียนมองดูเหมือนกับว่าเขาถูกวิญญาณสิง กระบี่ครางกึกก้องทำให้ตลอดทั้งร่างของเขาสั่นสะท้านรุนแรง ทะเลสุคติปรากฏในใจของเขาอีกครั้งและปรากฏฉากภาพที่เขาไม่มีวันลืม

คลื่นของคนจากทะเลสุคติระลอกแล้วระลอกเล่ากระแทกใส่ม่านพลังบนท้องฟ้าขณะที่พวกเขายอมเสียสละตนเอง

ใบหน้าที่บาดเจ็บและแตกร้าวนับไม่ถ้วนเหมือนกับชิ้นส่วนที่แตกหักแล้วเอากาวมาทาต่อกลับเข้าด้วยกัน

การสู้รบสลับกับการนอนหลับไปร้อยปีซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลาหมื่นปี  พร้อมกับประโยคว่า “อีกร้อยปีต่อไป  เราจะสู้ร่วมกับเจ้า!”

ร่างถังเทียนสั่นสะท้านเสียงคำรามด้วยความโกรธจากทะเลสุคติก้องอยู่ในหูของเขา ท่าทีไม่พอใจปรากฏบนใบหน้าที่แตกร้าวเจตนาสู้ในร่างของเขาพลุ่งขึ้นมาเหมือนลาวาที่พ่นออกมานอกร่างของเขา

จากแสงที่ฉายมาด้านหลังมีหลายร่างวิ่งตรงเข้ามา ขณะที่กระบี่ส่งเสียงกระหึ่ม ถังเทียนคำราม

“เมื่อไม่รู้ว่าทหารของเราเป็นหรือตายจะให้เราพักอย่างสงบได้ยังไง!”

ภายในหน้าต่างของเรือสินค้า  อาซิ่นมีท่าทางสะท้านเฮือกเหมือนกับถูกฟ้าผ่า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด