ตอนที่แล้วตอนที่ 895 เจียย่าออกรบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 897 ความตายของชาร์ลส์

ตอนที่ 896 พบพานอีกครั้ง


ภายใต้เงาอาทิตย์ปรากฏร่างที่คุ้นเคยและงดงามขึ้นแค่ชำเลืองมอง  ถังเทียนก็จำนางได้

ความร่าเริงยินดีเอ่อท้นไปทั้งร่างกายของเขา เขาเหม่อจ้องมองนางขณะที่แสงอาทิตย์ส่องมาจากด้านหลังผ่านผมยาวสวยงามของนาง  ความงดงามของวันวานยังคงเหมือนเดิม หญิงสาวที่เขารู้จักดูเหมือนเดินออกมาจากความฝันและปรากฏตัวอยู่หน้าเขา

เขาลืมพูดและเหม่อมองนางอย่างไม่เกรงใจ

เหมือนกับความฝันฝันที่เขาปรารถนาไม่หยุดยั้ง ความทรงจำอันไกลโพ้นทั้งหมด เมืองซิงฟงสถานบันแอนดรูว์ เด็กหญิงที่อ่อนแอร้องไห้ขี้มูกโป่ง เด็กหนุ่มอัจฉริยะที่คนก่นด่าทั่วเมืองเด็กสาวผู้ยืนอยู่ข้างเขาเงียบๆ บนภูเขา เด็กสาวผู้เสี่ยงชีวิตเพื่อเขา...

ร่างเด็กสาวที่มีทั้งด้านมืดและด้านสว่างได้ฝังอยู่ในใจของเขา

ไม่รู้ว่านางไปอยู่ตรงนั้นเมื่อใด

นางอยู่ตรงที่นั้นโดยไม่รู้ตัว

“เชียนฮุ่ย”  เขาพูดราวกับว่าส่งเสียงละเมอ ไม่มีวี่แววของผู้ทรงอิทธิอำนาจของกลุ่มดาวเหลืออยู่เลยไม่รังสีฆ่าฟันของเทพสงครามไร้เทียมทาน ถังเทียนในตอนนี้เป็นแค่บุรุษหนุ่มธรรมดา

เขาพูดเสียงอ่อนโยนมาก  เหมือนกับว่ากลัวนางจะตกใจกลัว

ตั้งแต่เวลาที่นางเห็นถังเทียนความรู้สึกเหมือนกับว่าถูกฟ้าผ่า เชียนฮุ่ยนิ่งอึ้งอยู่กับที่  เพราะเหตุผลบางอย่าง สาวน้อยเม้มฝีปากแน่นเหมือนกับเด็กหญิงที่ได้รับทุกข์ใจนางเริ่มหลั่งน้ำตา ส่วนที่ยากที่สุดนางผ่านมาได้แล้ว ความปรารถนาทั้งหมด  ความทุกข์ทนทั้งหมดความว้าเหว่เดียวดายทั้งหมดนั้นผุดขึ้นมาพร้อมกัน

น้ำตาเอ่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวร่างที่อยู่ข้างหน้านางพร่าเลือน และร่างอ่อนล้าที่ปกป้องนางคอยยืนอยู่หน้านางและร่างที่มักจะรับการเยาะเย้ย แต่ไม่เคยยอมแพ้ร่างที่นอนอยู่บนสนามหญ้าเคียงข้างแหงนดูท้องฟ้า และร่างที่นั่งอยู่บนโต๊ะเขียนจดหมายถึงนาง ทั้งหมดผสานรวมเป็นหนึ่ง

เสียงร้องเบาๆ ครั้งสุดของสาวน้อยเชียนฮุ่ยที่ยับยั้งเอาไว้ทำให้ความอดทนในร่างนางหายไป

“พี่เทียน!”

อารมณ์ความยินดีนับไม่ถ้วนทะลักออกมาจากน้ำตา  ขณะที่นางวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดถังเทียน

ผมที่สยายอยู่ด้านหลังของนางสะท้อนกับแสงแดดอบอุ่น

ไม่ใช่ว่าทุกที่จะมีความชื่นมื่นยินดีเหมือนกับกลุ่มการค้าเมซฟิลด์  ในมุมอื่นของเมืองหิมะขาวบรรยากาศในลานแห่งหนึ่งเคร่งขรึมและมีความวิตก

“เป็นไปได้หรือว่าเราจะต้องปล่อยไป?”  ชิวหวินฉียืนขึ้นไม่มีบุคลิกเดิมของเขาตามปกติ ตอนนี้เขาดูท่าทางน่ากลัว เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาปูดโปน “พวกมดแมลงเหล่านั้นพวกมันกล้าได้กล้าเสียกับเรา  หน้าตาของตระกูลชิวไม่มีค่าแล้วหรือไง?  ต่อหน้าคนมากมายตระกูลชิวของเรากลายเป็นตัวตลก ตระกูลชิวของเราไม่สามารถรับมือพวกมดแมลงอย่างกลุ่มการค้าเมซฟิลด์แล้วใช่ไหม?  วิหารมีเจตนาเข้าข้างพวกมัน  พวกมันกำลังกำลังต้านเรา  อัศวินพิเศษกวงหมิงมาแล้วไงเล่า?  ถ้าพวกเขากล้าลงมือ...”

เผียะ!

เสียงตบดังขึ้น  ชิวหวินฉีถึงกับทำหน้าบิดเบี้ยว  พลังรุนแรงขนาดทำให้ชิวหวินฉีหมุนคว้างกระแทกกับชั้นวางหนังสือ  โครม.. หนังสือร่วงลงใส่ชิวหวินฉีทั้งหมด

“สวะ”บุรุษที่มีสีหน้าเฉยเมยรั้งมือขวากลับ เขามองดูคล้ายกับชิวหวินฉีมาก แต่เมื่อเทียบกับชิวหวินฉี เขาดูไม่แยแสและใจเย็น รังสีฆ่าฟันแผ่อยู่รอบตัวเขาทั้งหมด เขาคือพี่ชายของชิวหวินฉี ชิวเป่ยฟง

แรงตบของเขาแฝงด้วยพลังมากจนชิวหวินฉีไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ครึ่งค่อนวัน

“ถ้าเจ้าไม่ใช่น้องชายข้า  เจ้าตายไปแล้ว” สายตาของชิวเป่ยฟงไม่มีร่องรอยความอบอุ่นแม้แต่น้อยเหมือนกับว่าเขากำลังพูดเรื่องธรรมดา “หยุดเรียกคนอื่นว่ามดแมลงได้แล้ว เจ้าไม่สามารถเอาชนะมดแมลงได้สักตัว ถ้าเจ้าไม่ใช่สวะ อย่างนั้นเจ้าเป็นอะไร? นี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ข้าไม่สนว่าเจ้าชอบผู้หญิงคนไหน ข้าไม่สนว่าเจ้าชอบอวดโอ่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้าต้องทำให้เจ้าเข้าใจให้ชัดเจน  อย่ากลายเป็นสวะ  ข้าเกลียดสวะ นี่จะเป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้า  ถ้าเจ้ายังทำตัวเหมือนสวะต่อไป  ข้าจะฆ่าเจ้ากับมือตัวเอง”

พูดเพียงเท่านั้นเขาออกไปโดยไม่หันมามองชิวหวินฉีอีกเลย

ชิวเป่ยฟงกลับไปที่ค่าย  ตั้งแต่เขาเข้าควบคุมกองทัพ  เขายืนยันที่จะกินและอยู่กับทหารของเขา

“เราจะปล่อยกลุ่มการค้าเมซฟิลด์ไปจริงๆหรือ?” บุรุษผู้คล่องแคล่วแข็งแรงแต่ดูดุร้ายเข้ามารับหน้าเขาชื่อชิวหลี่และเป็นลูกหลานของตระกูลชิว  แต่เขามาจากสายสาขาตระกูลชิว  และติดตามชิวเป่ยฟงมาหลายปีกลายเป็นขุนพลที่มีความสามารถและแข็งแกร่งภายใต้บังคับบัญชาของชิวเป่ยฟง

“ปล่อยให้หวินฉีจัดการ  ถ้าเขาไม่สามารถรับมือพวกเขาได้  เขามีชีวิตอยู่ไปก็ไม่มีความหมาย”  ชิวเป่ยฟงแค่นเสียง

ชิวลี่พยักหน้า  เขาคุ้นเคยกับอารมณ์ของชิวเป่ยฟง เขารู้ว่าถ้าชิวหวินฉีไม่สามารถรับมือตระกูลการค้าเมซฟิลด์ได้  ชิวเป่ยฟงจะฆ่าเขาแน่นอน

ชิวหลี่ติดตามชิวเป่ยฟงมาหลายปีมากแล้ว  และได้รับความหยิ่งมาจากชิวเป่ยฟง  เขาไม่สนใจในกลุ่มการค้าเมซฟิลด์เช่นกัน

“เหตุผลที่เรามาที่นี่ในครั้งนี้ก็คือรับโอกาสไปทวีปซางโจว”  ชิวเป่ยฟงพูดอย่างไม่ใส่ใจ

ทวีปกวงหมิงมีตระกูลชั้นสูงจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ในทวีปเซียน  แต่ด้วยตระกูลที่มากมาย  บางตระกูลก็จำเป็นต้องอยู่ในทวีปกวงหมิงขณะที่ตระกูลอื่นสามารถไปทวีปซางโจวได้  เนื่องจากทวีปกวงหมิงไม่มีความมั่นคงภายในไม่ว่าจะเป็นโจรทวีปทองหรือพวกแดนบาป พวกเขาล้วนเป็นปัญหาทั้งนั้นและต้องการได้คนไปตามจับพวกเขา

ผลประโยชน์ในทวีปกวงหมิงได้ถูกแบ่งไปแล้วจนกระทั่งไม่มีอะไรเหลือและตระกูลต่างๆปรารถนาจะได้ครอบครองดินแดนเป็นของตน และสิ่งที่เหลืออยู่ในทวีปกวงหมิงจะรับก็โดยผ่านการทำงานหนัก

เมื่อสามารถมุ่งสู่สัมพันธมิตรใต้เพื่อเสริมกำลังคนปกป้องเส้นทางลำเลียงนับได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากสัมพันธมิตรใต้ถือว่าเป็นพื้นที่ดีสำหรับขยายดินแดน

แต่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผลประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุดจะต้องไปที่ทวีปซางโจวเพื่อหาเส้นทางเข้าสวรรค์วิถี  มันคือโลกใหม่ซึ่งหมายถึงโอกาสและความมั่งคั่งไม่สิ้นสุด ถ้าพวกเขาสามารถเข้าสวรรค์วิถีได้เร็วกว่า รากฐานของตระกูลชิวจะสามารถคงอยู่ไปได้เป็นพันปี เชื่อมั่นว่าจะไม่ล่มสลาย

ตระกูลชิวและตระกูลอื่นเข้าใจตรงจุดนั้น  นั่นคือเหตุผลที่มีการแข่งขันและขัดแย้งกันระหว่างตระกูล

ทันใดนั้นชิวเป่ยฟงพูดขึ้นทันที “ไป, ส่งคนส่วนหนึ่งติดตามหวินฉีไป”

นับตั้งแต่ชิวเป่ยฟงนำทหารของเขาเข้ามาในเมืองหิมะขาว  บรรยากาศของเมืองหิมะขาวตึงเครียดทันที พลังและชื่อเสียงของชิวเป่ยฟงยิ่งใหญ่กว่าและแข็งแกร่งกว่าชิวหวินฉีหลายเท่า แต่เขามีชื่อเสียงที่สุดเพราะการเป็นนักฆ่าที่เย็นชา  เขาถูกเรียกว่าเพชฌฆาตเลือดเย็น และไม่มีใครรู้ว่าในสายตาของเขาเห็นคนตายมามากมายเท่าใด

ทุกคนรู้ว่าตระกูลชิวจะไม่ยอมปล่อยไปแน่นอน  ชิวหวินฉีจะไม่มีทางปล่อย  ชิวเป่ยฟงก็จะไม่มีทางปล่อย  พวกเขาจะต้องตอบโต้อย่างแน่นอน

แม้แต่หน่วยอัศวินพิเศษกวงหมิงจะลาดตระเวนอยู่ในเมืองหิมะขาว  ก็ยังกังวลว่าชิวเป่ยฟงจะบ้าระห่ำ  นี่คือหน่วยส่วนตัวของโซเฟีย  ซึ่งแสดงว่าทางวิหารจับตาสถานการณ์มากมายเพียงไหน

แต่ชิวเป่ยฟงไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร  ราวกับว่าเขาลืมเรื่องที่เกิดขึ้น  แต่โซเฟียยังคงสงบ  นางรู้ว่าชิวเป่ยฟงเจ้าเล่ห์ และปกติจะเคลื่อนไหวเมื่ออีกฝ่ายไม่รู้ตัว โซเฟียรู้ว่าการป้องปรามของนางส่วนใหญ่มุ่งไปที่ตระกูลชิว และถ้าตระกูลชิวเคลื่อนไหวเข้าย่ำยีกลุ่มการค้าเมซฟิลด์วิหารก็คงจนใจไม่สามารถลงโทษตระกูลชิวได้

ถ้าพวกเขาต้องลงโทษตระกูลชิวทางตระกูลชิวจะคิดถึงผลที่ตามมา วิหารจะไม่สามารถทนรับการตอบโต้ที่ตระกูลชิวเริ่มได้

สิ่งที่วิหารสามารถทำได้ก็คือหยุดการฆ่าก่อนที่จะเริ่มต้น

“สถานการณ์เป็นเช่นไร?”  โซเฟียถาม

“ชิวเป่ยฟงไม่เคลื่อนไหว”  อัศวินกวงหมิงคนหนึ่งรายงาน  “ชิวหวินฉีสร้างเครือข่ายติดต่อทุกที่  ดูเหมือนว่าเขาคิดส่งผ่านแผนของเขา  กล่าวกันว่าเขาจะถูกชิวเป่ยฟงลงโทษ  ชิวเป่ยฟงพูดว่าถ้าชิวหวินฉีไม่สามารถล้างแค้นได้ชิวเป่ยฟงจะฆ่าเขาด้วยตัวเอง แต่เราพบว่าเขาส่งคนไปบางส่วนเพื่อปกป้องชิวหวินฉี”

โซเฟียขมวดคิ้ว  ชิวเป่ยฟงไม่ได้เห็นความสำคัญของคำสั่งโอรสศักดิ์สิทธิ์ชาร์ลส์เลย

เขาเป็นคนดุร้ายที่ฆ่าได้โดยไม่ยั้งคิด  และสามารถฆ่าน้องชายแท้ๆ ได้โดยไม่กระพริบตา  สมกับฉายาว่าเพชฌฆาตเลือดเย็นจริงๆ

“ชิวเป่ยฟงให้ชิวหวินฉีไปจัดการล้างแค้นด้วยตนเอง ซึ่งก็หมายความว่าเขาจะไม่ระดมกำลังทหารส่วนตัว”  โซเฟียตาเป็นประกาย  “ชิวหวินฉีหาคนอื่น จงให้ความสนใจกับตระกูลที่สนิทกับชิวหวินฉี  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มการค้าอลิซาเบธ  เตือนพวกเขา ใครก็ตามที่กล้าต่อต้านคำสั่งฝ่าบาทจะต้องถูกทำลาย  เราไม่สามารถรับมือกับตระกูลชิวได้  แต่ตระกูลอลิซาเบธหลบเลี่ยงไม่ได้  จับตาทหารเหล่านั้นให้ดี  ชิวเป่ยฟงเป็นคนเจ้าเล่ห์มากฝ”

“ขอรับ!”  อัศวินนั้นรับคำและออกมา

‘ดูเหมือนว่าดีแล้วที่ข้ามา’  โซเฟียรู้ว่าชิวเป่ยฟงยังมีความกลัวเกรงต่ออัศวินพิเศษกวงหมิง  มิฉะนั้นเขาคงลงมือเองไปนานแล้ว

สถานการณ์ยิ่งแย่ลงมาก  และโซเฟียไม่ชอบให้ซับซ้อนแม้แต่น้อย  นางชอบการต่อสู้ดีๆ

‘โชคดีที่ข้าไม่ต้องคิดอะไรมาก ข้าแค่ต้องแน่ใจว่าตระกูลชิวจะไม่เคลื่อนไหว  และงานของข้าสำเร็จแล้ว สำหรับสิ่งที่เหลือข้าจะปล่อยให้ประมุขผู้อาวุโสและฝ่าบาท’

*********

สาขากลุ่มการค้าตระกูลเมซฟิลด์

“พวกเขาจะมาหรือไม่?”  หน้าของจี๋เจ๋อมีท่าทีเหลืออด  “เจ้าบอกว่าตระกูลชิวเป็นตระกูลอันดับหนึ่งไม่ใช่หรือ  ทำไมพวกเขาถึงขลาดกลัวนักเล่า?  จนป่านนี้ พวกเขายังไม่มารับคนของพวกเขา  พวกเขากำลังทำอะไร!”

เขากำลังจะร้องไห้ ‘มันยากนักหรือกับแค่มาขอท้าสู้ดีๆ?’

‘พวกเจ้าบอกว่าพวกเจ้าเป็นตระกูลอันดับหนึ่ง   ความหยิ่งยโสของเจ้าหายไปไหนแล้ว!’

‘ฮึก ฮึก ในที่สุด พวกเจ้าก็แค่โกหก!’

เมลิซซามองดูจี๋เจ๋ออย่างสงบ  นางไม่เคยเห็นใครที่ต้องการหาความผิดกับคนอื่นขนาดนั้น‘เจ้าอยู่อย่างปกติขึ้นหน่อยไม่ได้หรือไง’

“ใช่แล้ว นั่นก็ถูกแล้ว”  อาซิ่นอยู่ข้างๆ และรู้สึกเบื่อพอกันเขาใช้มือต่างหมอนนอนอยู่บนพื้นและพูดอย่างอ่อนอกอ่อนใจ“ทำไมชีวิตถึงไม่มีความหมายนะ? ถังเทียนและคุณหนูกำลังมีความสุข พวกเขาไม่คิดถึงอารมณ์ของเราเลยหรือ? เสี่ยวม่านจ๋า, เราได้แต่มองดูอย่างว่างเปล่า เพราะอัตตาของเราสูงส่ง  มามะ, มาช่วยข้าหน่อย ขอจุ๊บ..สักทีก็พอ...”

ป้าบ!

ด้านแบนของดาบยักษ์ฟาดใส่อาซิ่นปลิวไปในอากาศ

ฝูเจิ้งจือทำตาเหลือก  ‘ดูเหมือนบริวารของนายหญิงไม่มีตรงไหนที่ดีกว่า’

สำหรับจี๋เจ๋อตาของเขาแวววาวด้วยแสงขณะที่เขามองเสี่ยวม่าน ‘ดาบนั้น พลังนั่น อารมณ์แบบนั้น นางสมบูรณ์แบบที่จะสู้ด้วย!’

“มาเลยเรามาพนันกันด้วยเกียรติของเจ้านายเราและนายหญิง มาสนุกกับการต่อสู้เถอะ!”

รอบๆเขาทุกคนมีสีหน้าแปลกประหลาดทันที

ปัง!

ขาข้างหนึ่งยันเข้าที่หลังจี๋เจ๋อ  ตาเขาเบิกกว้างก่อนที่เขาจะทันรู้ตัวเขากลิ้งเป็นลูกบอลกระเด็นออกไป 20 เมตร

ถังเทียนถอนเท้ากลับมาอย่างสงบ  มือข้างหนึ่งจูงเชียนฮุ่ย และพูดอย่างเด็ดขาด

“ดูเหมือนพวกเจ้าทุกคนจะพักกันพอแล้วได้เวลายืดเส้นยืดสายกันบ้างแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด