ตอนที่แล้วตอนที่ 872 วิหารกวงหมิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 874 การสู้รบในทวีปรกร้าง

ตอนที่ 873 คอลลิน


เป็นครั้งแรกของคอลลินที่ย่างเท้าไปบนดินของทวีปรกร้าง

แย่จริงๆ

พลังงานในอากาศเบาบางมากเพิ่มความรู้สึกที่ไม่สบาย คอลลินรู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นเหมือนปลาที่บังเอิญกระโดดขึ้นมาจากน้ำ ความรู้สึกหอบหายใจอย่างรุนแรงทำให้เขาเคลื่อนไหวไปข้างหน้าได้ยากลำบาก นอกจากนี้เขาสามารถรู้สึกได้ว่าพลังงานในร่างของเขากำลังจะหมดลงซึ่งก็หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถทำการสู้รบใดๆ ได้ซึ่งมีแต่จะทำให้พวกเขาเสียเปรียบ

‘นี่จะเป็นการสู้รบที่แย่มาก’

‘อยู่ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงเช่นนี้ ยังไม่ต้องคำนึงถึงการเตรียมพร้อมของทหาร พวกเขาต้องทนกับแรงกดดันมากเป็นประวัติการณ์’

หน้าของคอลลินดูหวาดกลัว  สถานการณ์รุนแรงมากกว่าที่เขาจะนึกภาพออก

สายตาของเขามองเห็นหนึ่งในหน่วยสอดแนมของแดนบาป นี่เป็นครั้งแรกที่คอลลินพบกับนักสู้แดนบาป วิหารหมิงกวงระงับข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับแดนบาป  และประชาชนไม่สามารถหาข้อมูลอะไรๆได้จากที่ไหนๆ เลย

คนสอดแนมของแดนบาปเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วว่องไว พลังงานที่เบาบางไม่ส่งอิทธิพลต่อพวกเขาแม้แต่น้อย  พวกเขาเป็นเหมือนปลาที่ว่ายอยู่ในน้ำ

คอลลินสามารถเห็นความเกลียดชังในดวงตาของนักสู้แดนบาป  พวกเขามีความกล้าและเต็มไปด้วยความก้าวร้าวขณะที่หน่วยสอดแนมของคอลลินถูกฆ่าตายไปมากกว่าสิบคนแล้ว

คอลลินลอบส่ายศีรษะและโยนความคิดที่ใช้ไม่ได้ออกไปจากใจ

ความเกลียดชังกันระหว่างสองฝ่ายไม่อาจประนีประนอมกันได้  และเพราะการสู้รบจบจะต้องมีฝ่ายหนึ่งโชกเลือดแน่นอน

คอลลินเรียกความสงบกลับคืนมาอีกครั้ง  หลังจากเขาได้รับคำสั่ง เขาขอข้อมูลเนื้อหาเกี่ยวกับแดนบาปจากวิหารกวงหมิงทันที  จากตรงนั้น เขาได้รับความรู้อย่างเพียงพอถึงวิธีที่นักสู้แดนบาปใช้สู้กัน และหลังจากตรวจสอบพลังงานที่เบาบางในทวีปรกร้างแล้ว  เขาคิดหาวิธีสองสามอย่างโดยเร็ว

เขาไม่เคยสู้โดยไม่เตรียมตัวมาก่อน

สิ่งที่คอลลินไม่รู้ก็คือเมื่อเขากวาดสายตาผ่านแดนบาป  มีปลาใหญ่สองตัว

*****************

ตู้เค่อและน้องสาวสังเกตกองทัพใหญ่ของศัตรูอย่างรอบคอบ และเนื่องจากพวกเขาไม่มีการป้องกันรอบตัวพวกเขา  ทำให้พวกเขาดูไม่แตกต่างจากหน่วยสอดแนมอื่น ทั้งสองคนได้รับการคัดค้านจากบริวารของพวกเขา  แต่ตู้เค่อมีความมั่นใจและพลังของตนเอง

นักสู้อันดับหนึ่งของแดนบาปในสภาพแวดล้อมที่ติดกับแดนบาป เขาสามารถปล่อยพลังได้ถึง 90%

“มันเป็นยังไงเล่า?”  ตู้เค่อถาม

ในแง่กระบวนศึก  เขาเชื่อถือน้องสาวของเขา  ตู้ซินหวี่ตัดสินใจได้มากกว่า

“ไม่มีตำหนิ”  ตู้ซินหวี่ส่ายศีรษะ  นัยน์ตาของนางเปล่งประกายมีเสน่ห์  ขณะที่หัวใจนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน

ในความรู้สึกบางอย่าง คงจะเป็นการรบครั้งแรกของกองทัพแดนบาปหลังจากที่ตู้เค่อและน้องสาวสร้างกองทัพขึ้นมาและได้รวมเอายอดฝีมือระดับสูงเกือบทั้งหมดในแดนบาป  หลังจากเป็นพันธมิตรกับถังเทียนแล้ว  กลุ่มที่บุกโจมตีประตูบาปก็คือกองพลเกราะเทพเจ้าของถังเทียน  นี่นำมาซึ่งสถานการณ์ที่น่าอาย  เนื่องจากกองทัพแดนบาปถูกสร้างขึ้นมาแล้ว  พวกเขายังไม่เคยผ่านการสู้รบจริง

การสู้รบครั้งแรกของพวกเขาเพียงพอจะทำให้ทุกคนตื่นเต้น  และเพื่อต่อต้านกองทัพของทวีปกวงหมิง กองทัพแดนบาปทั้งหมดดูราวกับว่าคลั่งไคล้หลงใหลการสู้

จะมีอะไรมากไปกว่าได้สู้กับศัตรูคู่แค้นของพวกเขา?

ตู้เค่อหัวเราะเบาๆ  “ดูเหมือนว่าเขาค่อนข้างเป็นศัตรูที่ทรงพลัง”

“ย่อมแน่นอน  คอลลินเป็นหนึ่งใน 12 ผู้บัญชาการชั้นพลโทยังไม่นับห้าแม่ทัพใหญ่ เขาคือหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดในสิบสองคน”  ตู้ซินหวี่เตือน  “การจัดตั้งค่ายของเขาระมัดระวังตัวมากไม่มีข้อบกพร่องให้เห็นชัดเจน ตามรายงานที่ถังเทียนส่งมา คอลลินเป็นคนที่ระมัดระวังตัวมากจากที่เห็นดูเหมือนจะเป็นความจริง”

“ข้าสงสัยว่าห้าแม่ทัพใหญ่จะเป็นยังไง”  ตู้เค่อเริ่มคิดนอกทาง

ตู้ซินหวี่ไม่สนใจเรื่องที่พี่ชายของนางมีความคิดของตนเองเป็นครั้งคราว  นางไม่เคยละสายตาจากกระบวนทัพข้างหน้านางแม้แต่ชั่วขณะ  ขณะที่นางพึมพำกับตัวเอง “ทหารศัตรูมีคุณภาพชั้นยอดไม่ด้อยไปกว่าเรา  พวกเขามีความเชี่ยวชาญในกระบวนทัพของพวกเขา ถังเทียนมักจะพูดไว้ว่าการผสานพลังของพวกเขาจะถูกซ่อนเอาไว้  นี่คือกองทัพที่ทรงพลัง  แต่คำถามตอนนี้ก็คือ เขาเตรียมจะจัดการกับเรายังไง?”

ค่ายทหารมีความโอ่อ่าตระการตา  แต่ในพื้นที่ 10กิโลเมตรจากค่ายทหารเป็นสนามรบที่เข้มข้นที่สุด

หน่วยสอดแนมของทั้งสองฝ่ายเริ่มมีส่วนร่วมรบ

พวกคนสอดแนมทั้งหมดเป็นคนฝีมือดีในกองทัพ เนื่องจากพวกเขาต้องทำภารกิจในกลุ่มเล็กและสามารถเผชิญหน้ากับอันตรายและสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงทุกรูปแบบ  ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้พวกเขาแต่ละคนมีความแข็งแกร่งเฉพาะตน

จากที่เห็นหน่วยสอดแนมของแดนบาปจะกุมความได้เปรียบ

สิบห้าต่อสอง

หน่วยสอดแนของคอลลินสิบห้าคนตาย  แต่ของแดนบาปเสียคนไปสองคนแสดงให้เห็นคามแตกต่างขนาดใหญ่

ตู้ซินหวี่ไม่ได้รับผลจากจำนวน  น้ำเสียงนางยังคงชัดและเยือกเย็น  “ทวีปกวงหมิงก็คือสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ถ้าเราไม่ได้ถังเทียนช่วยไว้ เราคงไม่มีโอกาสชนะ ทวีปกวงหมิงอาจจะมีกองทัพเช่นนั้นสิบสองกองทัพ  แม่ทัพใหญ่ห้าคนก็มีพลังที่น่าทึ่ง อำนาจสั่งการของแม่ทัพใหญ่อย่างน้อยครอบคลุมสามกองพลเช่นนั้นขณะที่ผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรงของพวกเขาก็ยังแข็งแกร่งกว่า  ข้าไม่แน่ใจจริงๆว่าสัมพันธมิตรใต้ของถังเทียนจะสามารถต้านทานห้าแม่ทัพใหญ่ได้”

“นั่นก็ถูกแล้ว”  ตู้เค่ออดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ “ตอนนี้เรารู้ความจริงว่าเราก็มีกองทัพอยู่ด้วยเช่นกันไม่ว่าจะเป็นทวีปกวงหมิงหรือถังเทียน พวกเขาทั้งสองก็คือสัตว์ประหลาดยักษ์สำหรับเรา  นับเป็นโชคร้ายที่ทวีปกวงหมิงมีศัตรูอย่างเรา  แต่เป็นโชคดีของเราที่มีถังเทียนเป็นสหาย  โชคดีที่เขาสามารถช่วยเราได้  แต่ชะตากรรมของเรา ตระกูลเรา  เราจะต้องได้มาจากการสู้รบของเราเอง”

ประโยคสุดท้ายของเขาดูเหมือนเป็นการตอกย้ำ

ตู้ซินหวี่หันมามองพี่ชายนางผู้มีสีหน้ามุ่งมั่น

ตู้เค่อไม่ปิดบังสายตาจากตู้ซินหวี่ และพูดขึ้น“ไม่ว่าเราจะต้องทุ่มเทราคาเท่าใด เราต้องชนะสงครามครั้งนี้!”

ตู้ซินหวี่กัดริมฝีปากและกล่าว  “เราจะชนะได้แน่นอน!”

ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาฝึกกันหนักเพียงไหนเพื่อการสู้รบ ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขายินดีจะทุ่มเทมากเพียงไหนเพื่อการสู้รบ

ด้วยประสบการณ์ของเขา  เมื่อคอลลินเห็นสภาพแวดล้อมของทวีปรกร้าง  เขารีบร่างแผนอย่างรวดเร็ว

เมื่อสินค้าที่สำคัญที่สุดของสงครามส่งมาถึง เขาจะไม่ถอยและสั่งให้กองทัพเข้าทวีปรกร้าง  เพื่อป้องกันเส้นทางถอยของเขาถูกตัดขาด เขาจัดให้กองทัพของโอลิเวอร์คุ้มกันอยู่ที่ประตูดวงดาว  โอลิเวอร์ถูกกักขังอยู่ กองทัพของเขาเตรียมเผชิญกับภัยพิบัติเนื่องจากเหตุการณ์ในกลุ่มการค้าตะวัตก  แต่พวกเขาถูกวางกองทัพกลับไปรบ

เพียงเมื่อพวกเขาพบกับคอลลินทำให้พวกเขาถูกเห็นความสำคัญอีกครั้ง

สิ่งแรกที่คอลลินทำเมื่อเข้ามาในภูมิภาคตะวันตกก็คือนำพวกฝีมือดีมารวมกัน  โอลิเวอร์ถูกคุมขังกองทัพของเขาเป็นเหมือนมังกรไร้หัว กำลังใจของทหารตกต่ำมาก แต่กำลังทั้งหมดไม่ได้รับอิทธิพลมากนัก เนื่องจากพวกเขาค่อนข้างเป็นกองกำลังระดับสูง

เนื่องจากทหารเหล่านี้ไม่เห็นอนาคตความหวังพวกเขายินดีจะสู้เพื่อชีวิตพวกเขา

คอลลินไม่มีกำลังคนเพียงพอดังนั้นไม่ว่ายังไงก็ตาม กองทัพนี้จำเป็นต้องใช้และยังแข็งแกร่งมากกว่าทหารกระสุนมนุษย์ของกองกำลังท้องถิ่นทั้งหมด

ด้วยกองกำลังฝีมือดีนี้คอยคุ้มกันตัดทางถอย  คอลลินค่อยสบายใจ  โจรทวีปทองเพิ่งปรากฏตัวที่ทวีปหย่งหมิงซึ่งอยู่ห่างไกลไปมาก มีความเป็นไปได้ต่ำมากที่ทวีปทุ่งขาวจะถูกโจมตี  แต่เพื่อความรอบคอบ  คอลลินยังคงประจำกองกำลังไว้เบื้องหลัง

หลังจากจัดการทางถอยไว้แล้ว  คอลลินนำกองทัพใหญ่เข้าไปในทวีปรกร้างทันที

หลังจากเข้าทวีปรกร้างกองทัพใหญ่มุ่งหน้าตรงไปที่ป้อมที่แดนบาป แม้ว่าหน่วยสอดแนมของพวกเขาไม่สามารถเทียบได้กับหน่วยสอดแนมของแดนบาป  คอลลินยังคงส่งหน่วยสอดแนมออกไป  แม้สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือตาย

จำนวนคนตายมากมายสำหรับหน่วยสอดแนมที่รวบรวมข้อมูลที่มีค่า ในทวีปรกร้าง นอกจากป้อมที่ประตูบาปแล้ว ชาวแดนบาปที่หลงเหลืออยู่ไม่ได้สร้างป้อมอื่น นั่นก็หมายความว่าพวกเขาต้องโจมตีป้อมที่แดนบาป และพวกเขาจะสามารถขังพวกเขาไว้ในแดนบาปได้อีกครั้งหนึ่ง

เรื่องนี้ทำให้คอลลินถอนหายใจโล่งอก

ในสถานการณ์ที่รุนแรงอย่างนั้น เวลามีค่ามากและเขากลัวที่สุดกับการเทียวไปเทียวมา

หน่วยสอดแนมส่วนใหญ่ของแดนบาปบินอยู่รอบกองทัพใหญ่เหมือนแมลงวัน  เมื่อเห็นว่าพวกเขาสามารถฉวยโอกาสได้  แต่คอลลินไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อย  เมื่อไม่สนใจพวกเขาก็เคลื่อนที่ไปด้านหน้า  หน่วยสอดแนมมีพลังส่วนตัวที่ทรงพลัง  แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพลังระเบิดของกระบวนศึกพวกเขาไม่มีท่าทีคุกคาม

เพราะการสังเกตการณ์และสอดแนมพวกเขา  คอลลินไม่มีสนใจจริงๆ เขาวางแผนไว้แล้วสำหรับการสู้รบโดยไม่ต้องใช้กลอุบายใดๆ

เมื่อพวกเขาอยู่ห่างออกไป 10ลี้จากประตูแดนบาป กงอทัพใหญ่หยุดตั้งค่ายอยู่กับที่ ขณะที่หน่วยสอดแนมส่วนใหญ่ยังคงสังเกตพวกเขาจากระยะไกล

คอลลินลี่ย์ไม่ใส่ใจพวกเขา  แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนหลายคน  แต่การเคลื่อนไหวเสียงดังของพวกเขาทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนมือสมัครเล่น  ในสงครามขนาดใหญ่ ความแข็งแรงส่วนบุคคลไม่มีประโยชน์เท่าใดนัก  ไม่สำคัญว่าหน่วยสอดแนมจะแข็งแกร่งมากเท่าใดไม่สำคัญว่าพวกเขาจะมีกันกี่คน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่า พวกเขาไม่มีประโยชน์

สายตาของเขามองไปที่ป้อมประตูบาปในที่ไกลออกไป

แดนบาปเรียกมันว่าเมืองฮวงเฉิง  แต่คอลลินเรียกว่าป้อมประตูบาปมันคือดินแดนของทวีปกวงหมิง  พวกเดนตายจากแดนบาปมีสิทธิ์อะไรมาตั้งชื่อสถานที่นี้?

เทียบกับป้อมกวงหมิงที่โดดเด่นและสง่างาม  ป้อมที่อยู่ต่อหน้าคอลลินดูน่าเกลียดมาก  แต่เขาไม่ได้รีบโจมตี  แต่เรียกทหารรักษาการณ์

หลายค่ายทหารถูกสร้างขึ้น

แม้เมื่อเขาคิดหาวิธีให้จบการสู้รบอย่างรวดเร็ว  แต่ตอนนี้พอการสู้รบเริ่มจริงๆ  เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่าง  คำสั่งถูกส่งลงไป  และเขาลาดตระเวนไปรอบๆ เพื่อความแน่ใจในทุกสิ่ง

ในป้อมปราการ ตู้เค่อและตู้ซินหวี่มองดูกองทัพที่ตั้งค่ายพักความเข้มงวดการตั้งกระบวนทำให้พวกเขาดูเหมือนกับอันตรายมาก

“เรามีศัตรูที่ทรงพลัง”  ตู้วินหวี่ชื่นชม

แม้แต่ตู้เค่อก็สามารถมองเห็นมาตรฐานสูงส่งของคอลลิน  จากการเคลื่อนไหวของพวกเขาเพื่อตั้งค่าย  เพื่อสร้างค่ายของพวกเขา  ตลอดทั้งกระบวนการราบรื่นและจัดเรียงอย่างเป็นระบบ  พวกเขาทุกคนมีความมุ่งมั่นราวกับว่าทหารทุกคนรู้ว่าพวกเขาต้องทำอะไร สำหรับหน่วยสอดแนมแดนบาปจ้องมองพวกเขาเหมือนกับพยัคฆ์  พวกเขาไม่สามารถหาโอกาสบุกเข้าไปได้และได้แต่จ้องมองจากระยะไกล

แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าหน่วยสอดแนมไม่สามารถทำอะไรได้มาก  แต่ตู้ซินหวี่ก็ยังส่งหน่วยสอดแนมออกไปหลายคน

ในแดนบาป พวกเขามีทหารที่น่าสมเพช แต่พวกเขามีนักสู้ผู้ทรงพลังนับจำนวนไม่ถ้วน  ซึ่งสามารถสอดแนม  นางไม่หวังให้คนสอดแนมพวกนี้ได้รับความเสียหายจริงจัง แต่ตราบใดที่พวกเขาสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของศัตรูได้  นั่นก็นับว่าพอเพียงแล้ว

ตู้ซินหวี่รู้ว่านางยังเป็นมือใหม่  และไม่ลังเลจะใช้ประโยชน์จากต้นทุนที่นางมี

แต่คอลลินเจ้าเล่ห์ไม่ได้กังวลกับนาง

ขณะนั้นเองหน้าของตู้ซินหวี่เปลี่ยน นางเงยหน้าขึ้นทันทีและจ้องมองศัตรูที่ข้างหน้าพวกเขา  ตู้เค่ออยู่ข้างนางก็พลอยเคร่งเครียดไปด้วย

พลังงานหนาแน่นขยายออกมาจากค่ายศัตรู

สิบนาทีต่อมา พลังงานหนาแน่นคลุมไปทั้งค่ายของคอลลิน  แต่ไม่กระจายสลายไป เหมือนกับว่าค่ายทหารเองมีพลังที่มองไม่เห็นที่แผ่พลังงานยึดกับค่ายไว้หนาแน่น

ทุกคนในป้อมเคร่งเครียด

การสู้รบคงจะไม่สู้กันง่ายๆ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด