ตอนที่แล้วตอนที่ 870 ชัยชนะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 872 วิหารกวงหมิง

ตอนที่ 871 ความสับสนของสงครามในทุกทิศ


โกวเฉิงเวิ่นเต้าอ่านรายงานอย่างเฉยเมย

แม้ว่าเขาจะคาดเดาได้ถึงการรูปแบบการโจมตีต่อไปของสัมพันธมิตรใต้ได้  แต่เมื่อเกิดขึ้นจริงยังคงหงุดหงิด

เส้นทางลำเลียงถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องและจากวิธีที่เขาเห็น เขาคาดได้ว่าเป็นกองทัพเล็กสองกอง หนึ่งในนั้นคือกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวซึ่งมีหลายคนรู้จักสัมพันธมิตรใต้มีหน่วยรบที่ทรงพลังมากก็คือกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจว  หน่วยรบของกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวนี้ดึงดูดความสนใจคนนับไม่ถ้วน  เนื่องจากพวกเขาเป็นกองกำลังที่ตกต่ำและกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่งในมือของสัมพันธมิตรใต้

เทียบกับกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวที่ร่ำรวยประวัติศาสตร์แล้ว หน่วยรบอื่นอย่างกองกำลังน้ำแข็งเงินไม่ถือว่ามีอะไรจริงๆ  กล่าวกันว่านี่เป็นกองทัพที่สร้างใหม่ที่แม้แต่นายกองก็ยังเป็นมือสมัครเล่น แต่กองทัพมือใหม่นำโดยแม่ทัพนายกองมือสมัครเล่นกลับทำให้เส้นทางลำเลียงไม่ปลอดภัยได้จริงๆ

โกวเฉิงเวิ่นเต้าไม่มีความคิดอะไรเพิ่มอีกต่อไป

กองเรือของเขาได้รับความเสียหายหนักและเขาออกมาพร้อมกับเรือรบขนาดเล็กที่มีจำนวนน่าสมเพชซึ่งถ้าเขาขืนส่งออกไปมีแต่จะกลายเป็นงานเลี้ยงฉลองให้ศัตรู  สัมพันธมิตรใต้เชี่ยวชาญในการเดินทางในทะเลพลังงานและการต่อสู้ในนั้น แสดงให้เห็นว่าพวกเขาผ่านการฝึกฝนมาก่อน ก่อนหน้านี้โกวเฉิงเวิ่นเต้าไม่เคยเชื่อว่าจะมีคนที่ฝึกเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง  ทะเลพลังงานเป็นโลกของเรือรบนั่นเป็นความรู้พื้นฐานที่สุด

สัมพันธมิตรใต้พังทลายองค์ความรู้ทั่วไปนี้  ตั้งแต่การโจมตีอย่างรุนแรงในภูมิภาค  ดูเหมือนว่าสัมพันธมิตรใต้ยังพยายามแสดงตนเองอย่างต่อเนื่องแสดงวิธีที่กองทัพสามารถสู้กับเรือรบในทะเลพลังงาน  กลยุทธเหล่านี้ที่แย้งกับความรู้ทั่วไปถูกนำมาแสดงได้อย่างไม่ธรรมดาในเงื้อมมือของสัมพันธมิตรใต้ที่ซึ่งโกวเฉิงเวิ่นเต้าพบเจอมาด้วยตัวเองอย่างซาบซึ้ง  ความสามารถควบคุมวังวนพลังงาน ความสามารถในการซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่กระแสพลังแฝงเร้นห้าวันเต็มกลยุทธทั้งหมดนี้ฟังดูแล้วไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึง เพราะทั้งหมดนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อน

ตอนนี้แม้แต่กองกำลังน้ำแข็งเงินและกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวก็ทำให้โกวเฉิงเวิ่นเต้าได้พบกับสิ่งที่เรียกว่าไม่สามารถกินได้หรือพักอย่างสงบ

สิ่งที่ทำให้โกวเฉิงเวิ่นเต้ากังวลมากยิ่งขึ้นไม่ใช่สถานการณ์การสู้รบแต่เขาตระหนักได้ทันทีว่าพวกเขาประเมินความแข็งแกร่งของสัมพันธมิตรใต้ผิดเพี้ยนไปมาก

โกวเฉิงเวิ่นเต้ารู้เหตุผลว่าทำไมถึงมีข้อผิดพลาดมากมายขนาดนั้น

เมื่อเห็นไพ่ของสัมพันธมิตรใต้เทียบกับทวีปกวงหมิงมีแต่ไพ่แย่ในมือ ในกองทัพสัมพันธมิตรใต้ทั้งหมด มีเพียงคนเดียวที่อาจนับได้ว่ามีชื่อเสียงอย่างแท้จริง ก็คือไป๋เยี่ย!

แต่ไพ่แย่ในมือนี้ สัมพันธมิตรใต้กลับเปลี่ยนเป็นไพ่ดีในมือได้

เซี่ยอวี่อันผู้เคยเป็นเพียงแม่ทัพธรรมดาผู้มีความสำเร็จรุ่งเรืองอย่างดีที่สุดก็คือรักษาความสงบตามกฎหมายทั่วไป สิ่งที่แย่ก็คือกองพลนางแอ่นและเขาถูกถังเทียนซื้อไป!  และราคาก็แสนถูก  ถูกขนาดที่อาจทำให้คนอื่นบ้าได้

อีกหน่วยที่ถูกซื้อมาก็คือหน่วยกะโหลกกองทหารรับจ้างที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของทวีปกวงหมิงเลย แต่เป็นเพราะกองทัพทหารรับจ้างที่ไม่ธรรมดานี้ที่แสดงเส้นทางที่โหดร้ายและขมขื่นในทวีปป่าหินทรายความดึงดันและจิตวิญญาณนักสู้ของพวกเขานับว่าน่าเกรงขาม

ไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายเรื่องกองกำลังปีศาจทวีปโยวโจว  พวกเขาตกต่ำจนถูกลืมเลือนมานาน ในสายตาของทุกคนพวกเขากลายเป็นขยะราคาถูก แต่ภายใต้คำสั่งของถังเทียนพวกเขากลายเป็นกองทัพที่น่ากลัวที่ทำให้ศัตรูต้องสั่นสะท้านเสียวสันหลัง ทวีปโยวโจวในปัจจุบันที่ถูกลืมไปนานเกี่ยวกับการทดสอบของกองกำลังปีศาจกลับรุ่งเรืองเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง สายเลือดใหม่นับไม่ถ้วนทำให้กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจวแข็งแกร่งมากขึ้น

และยังมีห้าตระกูลเกาะใต้ที่หนีตาย และอาเฮ่อที่ไม่รู้จักและกองกำลังน้ำแข็งเงิน หรือจิ่งหาวผู้ซ่อนตัวอยู่ในวังวนพลังงานทั้งหมดนี้เปล่งรัศมีแพรวพราวเจิดจรัสสั่นสะเทือนไปทั้งดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์

โกวเฉิงเวิ่นเต้าเป็นคนที่บ้าคลั่งและมั่นใจในตนเองคนหนึ่ง  แต่เขาไม่ใช่คนโง่

ด้วยคนแค่กลุ่มนี้เขาต้องผ่านความยากลำบากมากเพื่อให้มุ่งหน้าไปได้ แต่ก็ยังจบลงกับสถานการณ์ดังกล่าว เมื่อเห็นระดับความเติบโตของพวกเขาโกวเฉิงเวิ่นเต้ารู้สึกหนาวถึงขั้วกระดูก เขาไม่รู้ว่าถังเทียนไปรับกลุ่มคนแบบนั้นมาได้ยังไง แต่เบื้องหลังของพวกเขาทุกคนกลับเป็นเงาร่างลึกลับอีกร่างหนึ่ง

ปิง ผู้บัญชาการสูงสุดของสัมพันธมิตรใต้ผู้บัญชาการที่เป็นขุนพลวิญญาณคนแรกในประวัติศาสตร์ อาจเป็นเพราะปิงนั่งอยู่ในตำแหน่งนี้จึงใช้งานกองทัพของเขาส่งภารกิจให้พวกเขานั่นจึงนำมาซึ่งความลำบากให้กับโกวเฉิงเวิ่นเต้า

แม้แต่คนหยิ่งอย่างโกวเฉิงเวิ่นเต้าต้องยอมรับว่าปิงเป็นผู้บัญชาการที่โดดเด่น อาจกล่าวได้ว่าปิงใช้พลังของตัวเขาเองนำสัมพันธมิตรใต้มาถึงจุดที่เป็นอยู่

ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงฝีเท้าของเคนที่นอกประตู  ‘เคน! โกวเฉิงเวิ่นเต้าสั่นเล็กน้อย ความคาดหวังเกิดขึ้นในใจของเขา ‘หรือว่าพวกเขาพบทางเข้าสวรรค์วิถี?’

เคนเดินเข้ามาและเมื่อโกวเฉิงเวิ่นเต้าเห็นสภาพทุลักทุเลของเคน ถึงกับใจหายวูบ

“เราโดนคนแคระน้ำเงินโจมตี!”

น้ำเสียงของเคนเหน็ดเหนื่อย

“คนแคระน้ำเงิน?”  โกวเฉิงเวิ่นเต้าตกใจ  แต่เขาลอบถอนหายใจโล่งอกโดยไม่รู้ตัว เขารู้สึกถึงอารมณ์ที่แปลกประหลาดของเขาได้อย่างรวดเร็ว  และอดยิ้มขมขื่นไม่ได้  ‘ดูเหมือนความกลัวที่ข้ามีต่อสัมพันธมิตรใต้จะมีมากกว่าที่ข้าคิดเสียแล้ว’

“ขอรับ”เสียงเคนแหบแห้ง “มีคนแคระน้ำเงินมากมายต้องบอกว่าเป็นกองทัพคนแคระน้ำเงินขอรับ การโจมตีของพวกมันมีระเบียบมาก และทำให้เราสูญเสียอย่างหนัก”

“กองทัพคนแคระน้ำเงิน!”  โกวเฉิงเวิ่นเต้าหรี่ตา  เขาอยู่ในอาการตกใจ

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาเผชิญกับคนแคระน้ำเงินในทะเลน้ำเงิน  เนื่องจากเป็นโลกของพวกมัน  และการไม่เผชิญกับพวกมันนั่นแหละเป็นเรื่องแปลก ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะสูญเสียพ่ายแพ้หนักเพราะกองทัพคนแคระน้ำเงิน เนื่องจากเป็นที่ไม่เหมาะสมที่ทหารทวีปกวงหมิงจะต่อสู้ในทะเลน้ำเงิน ขณะที่คนแคระน้ำเงินสามารถปลดปล่อยพลังพวกเขาได้เต็มที่  โกวเฉิงเวิ่นเต้าคาดการณ์ถึงความสูญเสียนั้นไว้แล้ว

แต่ชื่อกองทัพคนแคระน้ำเงินทำให้โกวเฉิงเวิ่นเต้าประหลาดใจ

ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ประสบเจอกับคลื่นน้ำเงินมาหลายปีแล้วและค่อยๆ ได้รับประสบการณ์ความรู้เกี่ยวกับคนแคระน้ำเงิน คนแคระน้ำเงินภายในทะเลน้ำเงินดูเหมือนมีไม่หมดสิ้นปรากฏตัวออกมาเหมือนคลื่น ส่วนใหญ่ของพวกมันจะไม่มีปัญญาหรือความรับรู้รายบุคคล  พวกมันอาศัยจำนวนเข้าสู้รบและบุกใส่ศัตรูของพวกมัน

คนแคระน้ำเงินที่ตื่นรู้หาได้ยากและกองทัพคนแคระน้ำเงินก็หาได้ยาก กองทัพคนแคระน้ำเงินปฏิบัติอย่างพื้นฐานและเคลื่อนไหวอยู่ในใจกลางทะเลแสงน้ำเงิน  และในประวัติศาสตร์ทั้งหมดไม่เคยปรากฏกองทัพคนแคระน้ำเงินขึ้น

เป็นสถานการณ์ไม่ธรรมดาสำหรับพวกเขาเมื่อเผชิญกับกองทัพคนแคระน้ำเงิน

“ขอรับ,เป็นกองทัพแน่นอน, และเราสามารถบอกได้ว่าพวกมันฝึกฝนมาแล้ว  ถ้าเราสู้บนแผ่นดินหรือในทะเลพลังงานเราจะต้องชนะแน่นอน  แต่ภายในทะเลแสงน้ำเงินเราเสียเปรียบ”  เคนกล่าวเขาขยายความเกินจริงและไม่ปิดบังอะไร

โกงเฉิงเวิ่นเต้าเงยหน้าขึ้นและแสดงให้เห็นสีหน้าที่ไร้ชีวิตชีวา  “เราไปกันต่อได้ไหม?”

เคนรู้ว่าเจ้านายหมายความว่ายังไง  เขาสูดหายใจลึกและตอบ “ขอรับ!”

เคนรู้ว่าจะต้องอันตรายเพียงไหน  พวกเขาไม่มีทางให้ถอย แต่ไม่ใช่เวลาที่พวกเขาจะต้องมาสนใจเรื่องการพ่ายแพ้หรือความตาย  นอกจากเดินหน้า พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น

เขามองขุนพลมือขวาของเขาอย่างลึกซึ้งและผงกศีรษะ  “ไม่สนใจความตาย  ข้าจะใช้ทหารทั้งหมดที่ข้าสามารถระดมมาได้แม้แต่บริวารสายตรงของข้าก็ตาม คำร้องขอเสริมกำลังของเราถูกส่งไปที่สภาฯ แล้ว ทหารกำลังเสริมน่าจะมาถึงโดยเร็ว”

โกวเฉิงเวิ่นเต้าคาดไม่ผิด  สภาอาวุโสได้รับข้อความจากเขาแล้ว แต่เขาไม่เคยคาดเลยว่าพวกเขาก็ตกอยู่ในความยากลำบากพอกัน

*******************

การฟื้นขึ้นมาของแดนบาปเป็นเรื่องใหญ่มาก  และพวกเขาเห็นพวกแดนบาปเป็นศัตรูใหญ่และตกอยู่ในสภาพตึงเครียด ถ้าการกลืนสวรรค์วิถีเป็นความฝันของทวีปกวงหมิงมาหลายชั่วอายุคน อย่างนั้นการกลับจากแดนบาปเข้าสู่ทวีปกวงหมิงจะเป็นอันตรายต่อรากฐานการควบรวมของพวกเขา

เป็นเหตุผลที่สภาฯ จะต้องกังวล

คอลลินได้รับเลือกให้รับผิดชอบอย่างหนักภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น

นอกจากนายพลโทสองสามคนแล้ว พรสวรรค์ของคอลลินไม่อาจเทียบกับแลนซ์ได้และได้รับการแต่งตั้งอย่างคาดไม่ถึง  แต่เขาก็ทำหลายอย่างได้หนักแน่นและมีเสถียรภาพ  เขาเป็นคนขยันและไม่เคยทำอะไรผิดพลาด

คอลลินรู้เหตุผลที่เขาเป็นตัวเลือกแรกของสภาฯ  และรู้ว่าสภาฯเผชิญหน้ากับสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หลังจากเขาได้รับคำสั่ง เขาไม่เคลื่อนทัพออกไปในทันที  หลังจากส่งคนสอดแนมออกไปทวีปทุ่งขาวกองกำลังส่วนใหญ่ของเขาเคลื่อนไหวอย่างมั่นคงและโจมตีอย่างหนักตามรายทางที่มีการปล้นในกองทัพท้องถิ่น

สายตานับคู่ไม่ถ้วนในทวีปกวงหมิงจับตาอยู่ที่คอลลิน การเคลื่อนไหวของคอลลินพิสูจน์ให้เห็นถึงความระมัดระวังและประสบการณ์ของเขาพวกเขาหลายคนลอบพยักหน้าพอใจ แม้ว่าแดนบาปจะกลับมา ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามมากมายเพียงไหน แต่สภาอาวุโสมีพลังแข็งแกร่งมากกว่าพวกเขาแน่นอน  ในสถานการณ์อย่างนั้น ไม่ว่าแผนหรือกลยุทธอะไรย่อมไม่ได้ผลเท่ากับพลังกดขี่ข่มขวัญที่มาจากความแข็งแกร่งที่แท้จริง

ทุกคนสภาอาวุโสเชื่อมั่นว่าท่านคอลลินจะกลับมาพร้อมกับชัยชนะ

**************

จงหลีไป๋หันกลับไปมองเทือกเขาและหุบเขารู้สึกถึงอารมณ์ไม่มีที่สิ้นสุด  ‘ในที่สุดเราก็ออกจากไอ้ที่บ้าๆนี่เสียที’ ไม่มีภาพศัตรูให้เห็นในที่นั้น และนั่นเป็นที่กันดารและหนาวเย็น

หน้าของจงหลีไป๋เต็มไปด้วยเคราครึ้มเหมือนกับมนุษย์ถ้ำ  เขาไม่สนใจ ม่านตาของเขาที่คล้ายกับหมาป่าหิวโหยมีแววอันตราย เขาใช้ลำธารกำจัดศัตรูซึ่งหมายความว่าเขาถือความได้เปรียบโจมตีก่อนอีกครั้ง

สำหรับบุรุษนักทำลาย โอกาสเช่นนั้นหาได้ยากมากเนื่องจากมีถ้ำหนึ่งที่นำเขาไปโผล่ที่ใดก็ได้ที่เขาต้องการ และสามารถลงมือโจมตีได้จากที่ใดก็ได้ที่เขาวางแผนไว้

เขาเป็นเหมือนดาบที่อันตรายและคมกริบพร้อมที่จะเสียบท้องอ่อนของศัตรูให้ทะลุ

จงหลีไป๋ไม่ยอมเสียเวลา  เขารีบนำกองพลสัตว์ประหลาดของเขาและเริ่มโจมตีหนึ่งในค่ายทหารท้องถิ่นของสภาอาวุโส ค่ายทหารนี้ยึดครองโดยกองทัพท้องถิ่นติดอาวุธและปกครองควบคุมอย่างง่ายๆ  และพวกเขาไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะเผชิญกับศัตรูที่แข็งแกร่งทรงพลังขนาดนั้น  และเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาเตือนศัตรู จงหลีไป๋ออกคำสั่งเป็นพิเศษให้สัตว์ประหลาดใช้ทักษะการบินที่อ่อนด้อยน่าสงสารบินไปชายขอบของค่ายอย่างเงียบงัน

เมื่อสัตว์ประหลาดทะลักเข้าไปในค่ายทหาร  ทหารทุกคนกำลังนอนหลับไม่มีเวลาได้ต่อต้านทุกคนถูกจงหลีไป๋จับตัวได้

เขาไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิต

จงหลีไป๋ไม่มีความตั้งใจใดๆจะถอยกลับอยู่แล้ว  ในช่วงเวลาสั้นๆ  เขาโจมตีอย่างต่อเนื่องและโจมตีค่ายทหารเล็กๆ เขาไม่ปล่อยให้ใครในค่ายรอดชีวิต ทั่วทั้งทวีปกวงหมิงตกตะลึงกับความป่าเถื่อนของจงหลีไป๋!

ทวีปกวงหมิงเองไม่ได้พบกับสงครามมาเป็นเวลานานแล้ว และการกระทำที่โหดเหี้ยมอำมหิตนั้นถือว่ามากเป็นประวัติการณ์  ในประวัติศาสตร์ของทวีปกวงหมิงมักจะสร้างความเจ็บปวดไว้กับฝ่ายอื่น

จงหลีไป๋เหมือนกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์  ความเคลื่อนไหวของเขาเร็วและยากจะเข้าใจสิ่งที่ทำให้เขาดูเจ้าเล่ห์มากขึ้นก็คือเขาเพียงแต่หากองทัพท้องถิ่นที่อ่อนแอจากนั้นฆ่าพวกเขา กองทัพท้องถิ่นตายในเงื้อมมือเขามากขึ้นทุกที  และการเข่นฆ่าที่ต้องเสียเลือดเนื้ออย่างนี้สร้างความประหลาดใจให้กับทวีปกวงหมิง และทำให้พวกเขากังวลมากขึ้น กองทัพท้องถิ่นทั้งหมดตกอยู่ในความหวาดกลัวและรู้สึกไม่ปลอดภัย  การเผชิญหน้ากับกองทัพที่ทรงพลังอย่างนั้น  พวกเขากลัวว่ากองทัพของทวีปทองจะมาฆ่าพวกเขาในบ้านตนเอง

ความกลัวฝังแน่นต่อไปจนกระทั่งโจรทวีปทองสู้จากภูมิภาคตะวันตกเข้าไปยังพื้นที่ภาคกลาง

เมื่อสถานที่ในพื้นที่กลางซึ่งเรียกว่าทวีปหย่งหมิงล่มสลายความกลัวก็เพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด