ตอนที่แล้วตอนที่ 859 ฝึกฝนและการเข้าด่านสอบแรก  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 861 ออกแบบกรอบ? ตอบโต้

ตอนที่ 860 ตะลุยโถงวิญญาณอสูร  


“ยินดีต้อนรับ, ยินดีต้อนรับ!”เมื่อเย่ว์หยางพาตั๊กแตนมัจจุราชมาถึงหอโถงสำหรับทดสอบด่านที่หนึ่ง จ้าวคางคกรอคอยอยู่ที่หน้าประตูวิหารอยู่แล้ว มันตบหน้าท้องแล้วหัวเราะลั่นทำให้ผู้คนรู้สึกอยากอาเจียน  หากจะบอกว่าฟังเสียงผายลมของคนอื่นยังไพเราะกว่าเสียงหัวเราะของมันก็คงไม่ผิดผิดนัก

“เป็นเจ้าเองหรือ?  เจ้าต้องการทำอะไร?”  เย่ว์หยางรู้ว่าเจ้าผู้นี้ไม่ได้มาดี

“ข้าหวังดีจึงมาเตือนเจ้าว่าเมื่อเจ้าล้มเหลวในด่านแรก  อสูรของเจ้าจะถูกลงโทษจากกฎสวรรค์จนถึงตาย  ด่านทดสอบแรกนี้มีผู้ท้าทายล้มเหลวมากมายแล้ว พ่อหนุ่ม!  ขอให้โชคดี!”  ริมฝีปากที่น่าเกลียดของจ้าวคางคกขยับเปิดปิดไม่หยุดหย่อนขณะที่มันส่งเสียงหัวเราะ  มันไม่รอให้เย่ว์หยางได้เอ่ยปาก แต่หันหลังและจากไปทันที ดูเหมือนว่ามันจะกลัวเย่ว์หยางใช้คำสาปพลังเทพวิบัติ ก่อนออกไป มันหันกลับมาและทำเป็นเตือนด้วยความหวังดี “แม้ว่ากฎสวรรค์ของหุบเขาอสูรจะปกป้องผู้ท้าทาย แต่ภายในกล่องของตำหนักใหญ่ สำหรับอสูรแล้วไม่ใช่เขตปลอดภัย ข้าจะบอกข้อมูลให้เจ้าเอาบุญก็ได้  หากมีบางสิ่งบางอย่างในกล่องของโถงใหญ่โจมตี เมื่ออสูรของเจ้าผลักจนกล่องเปิด แล้วอย่ามาตำหนิว่าข้าไม่เตือนไว้ก่อนนะ ฮ่าฮ่าฮ่า!”

จ้าวคางคกปล่อยกลิ่นไม่ดีขณะหัวเราะ

เย่ว์หยางลังเลเล็กน้อย

ในที่สุดเขาแนะนำให้ตั๊กแตนมัจจุราชเข้าไปในวิหารเพื่อทดสอบอย่างเป็นทางการ หลงหม่าและวีเซลหางดาบที่ซ่อนตัวอยู่ห่างๆ กังวล คิดว่าควรจะเข้าไปบอกความจริงในหอโถงกลางดีไหม?  หากพวกเขาเปิดเผยตัวตอนนี้ บอกความจริงเกี่ยวกับหอโถง จะต้องมีการลอบซุ่มทำร้ายแน่นอน พวกเขาคงถูกพวกจ้าวคางคกพบเจอ  แต่ถ้าไม่บอก  ถ้าอสูรน้อยทดสอบล้มเหลว....

หลงหม่าและวีเซลหางดาบตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกทั้งคู่

ถ้าเด็กหนุ่มผู้นี้ล้มเหลว อย่างนั้นอิสรภาพ จะเป็นยังไง?

พวกเขาหวังว่าเขาคงไม่ถูกทำลายต่อหน้าพวกเขา  ไม่อย่างนั้นยากจะมีเด็กหนุ่มอย่างนี้อีก!

หลงหม่าส่งสัญญาณให้วีเซลหางดาบไม่ให้ปรากฏตัว  ที่สำคัญในฐานะผู้พำนักนี่ยังเป็นโอกาสทำให้อสูรตายได้  เขาตัดสินใจยืนขึ้นเพื่อบอกเย่ว์หยางถึงกับดักเกี่ยวกับอสูรวิญญาณ

แม้ว่าหลังจากนั้นอาจจะตกเป็นเป้าโจมตีจากจ้าวคางคกและคนอื่น แต่เขาไม่สามารถคิดอะไรได้มากอยู่แล้ว

วีเซลหางดาบกัดฟันแน่น

เขาจ้องทางทิศทางที่จ้าวคางคกหายไป ถ้าหลงหม่าถูกโจมตี เขาจะเข้าไปช่วยให้หลงหม่าหนีอย่างไม่ลังเลใจเลย

เป็นไปไม่ได้ที่จะทำการแลกเปลี่ยนก่อน  แต่วันนี้เขากับหลงหม่ายืนอยู่แนวหน้าเหมือนกันต้องต่อสู้เพื่อความหวังในใจ และต่อสู้เพื่อความฝันปลดแอกตนเอง

“พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่?”

เสียงไพเราะดังขึ้นด้านหลังหลงหม่าและวีเซลหางดาบ

แม้ว่าเสียงจะราบเรียบไพเราะราวเสียงสวรรค์  แต่ทั้งสองได้ยินแล้วรู้สึกแต่เพียงว่าความเย็นแล่นไปทั่วร่างเหมือนกับอยู่ในอากาศหนาวเหน็บกะทันหัน เย็นยะเยือกตั้งแต่ปลายเท้าแผ่ซ่านไปตามสันหลังจนถึงศีรษะ เป็นนางพญาผึ้งพิษ มือทั้งสองของนางทาบอยู่ที่ด้านหลังหลงหม่าและวีเซลหางดาบเบาๆ  ด้วยพลังระดับนาง ตราบใดที่นางต้องการ นางสามารถปลี่ยนทั้งร่างของพวกเขาให้แข็งทื่อเหมือนอสูรแร้งได้ทันที เหล็กในของนางพญาผึ้งพิษเป็นหนึ่งในไม้ตายที่ขึ้นชื่อของนาง สามารถฆ่าพวกเขาได้อย่างไม่ต้องสงสัย

หลงหม่าและวีเซลหางดาบตกใจทั้งคู่

ทันใดนั้น

พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำยังไง

นางพญาผึ้งพิษรั้งมือกลับทันทีและแค่นเสียง “เจ้าพวกที่ชอบซ่อนหัวหลุบหาง เจ้าคิดว่าวิชาสะกดรอยของพวกเจ้าพรางตัวได้ดีนักหรือ ความจริงถ้าไม่ใช่คนตาบอดก็สามารถมองเห็นแล้ว อย่างไรก็ตาม เราจ้าวอสูรวันนี้ยังอารมณ์ดี ตราบใดที่พวกเจ้าไม่ก่อกวนอะไรมากมาย ศีรษะของพวกเจ้ายังอยู่บนบ่าชั่วคราว  จำเอาไว้, ดูเฉยๆ พูดให้น้อย ไม่ต้องทำอะไร ที่นี่ไม่อนุญาตให้เจ้าพูด เข้าใจไหม?”

ดูเหมือนว่ามีร่างเงาหนึ่งอยู่ในระยะห่าง และนางพญาผึ้งพิษหยุดพูดทันที

พวกเขากลั้นลมหายใจ พรางตัวล่องหน

หลงหม่าและวีเซลหางดาบยังคงยืนอยู่  ฝีมือของมันไม่ธรรมดาสามารถพรางตัวได้ดีกว่าพวกหลงหม่าไม่รู้ต่อกี่เท่า

นางพญาผึ้งพิษเคลื่อนตัวอย่างเงียบงันและหายไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน

หลงหม่าและวีเซลหางดาบหลั่งเหงื่อเยียบเย็น

สมรภูมินี้เป็นสนามของนักสู้กับนักสู้ ดูเหมือนว่าพลังของพวกเขาคงไม่อาจเปลี่ยนอะไรได้นอกจากชมดู...

มีเงาร่างสูงใหญ่มาจากที่ไกล เป็นยักษ์ไซคลอปส์ (ตาเดียว) สูงหกเมตร

ไซคลอปส์นี้มีพลังปราณฟ้าระดับสี่

แม้ว่าจะไม่สูงมากนัก แต่มองจากประกายแววตา รู้ได้ว่าสติปัญญาของมันไม่ต่ำทราม อย่างน้อยก็ฉลาดมากกว่าไซคลอปส์ทั่วไป  ไซคลอปส์ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มองเย่ว์หยางแต่อย่างใด แต่วิ่งตะลุยเข้าไปในหอโถงวิญญาณอสูรโดยตรง

เย่ว์หยางประหลาดใจเล็กน้อย

การทดสอบของหุบเขาอสูรต้องเข้าคิวด้วยหรือ?  ยังมีบางคนรีบมาอีกหรือเปล่า?

หลงหม่าและวีเซลหางดาบรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น ในโถงวิญญาณอสูร มีกล่องหลากสีสันเป็นร้อยๆ ใบกระจายอยู่ชั้นบน กลางและล่างของห้องโถงวิญญาณอสูร ในบรรดากล่องเหล่านั้นจะมีกล่องห้าธาตุ ซึ่งมีค่ามากที่สุด เมื่อเปิดออกจะได้รับตราสถานะอสูร  เมื่อเปิดกล่องห้าธาตุถัดไป ก็จะได้รับตราที่สูงขึ้นก้าวหน้ามากขึ้น

แน่นอนว่าเมื่อเปิดกล่องห้าธาตุมากเข้า ก็ยิ่งจะหากล่องได้ยากมากขึ้น

กล่องที่ดีที่สุดต้องมีสหายช่วยเปิดกลไกบางอย่าง

ตัวอย่างเช่น ถ้ามีประตูมิติบางแห่ง  ประตูนั้นจะปิดโดยอัตโนมัติเมื่อพวกเขาเข้าไป  ถ้าอสูรตนเดียวเข้าไป  ก็อาจจะออกมาไม่ได้เลยตลอดชีวิต  ดังนั้นคู่หูที่ไว้ใจได้จะคอยเปิดประตูให้จากด้านนอก  ในทำนองเดียวกัน  ตราบใดที่มีบางคนเข้าไป ก็จะไม่เปิดออกอีกเลย  แม้ว่าจะมีประตูมิติ ถ้ามีบางคนยืนควบคุมกลไก ก็ใช้ไม่ได้อยู่ดี...อาจกล่าวได้ว่า โถงอสูรเป็นสถานที่ทดสอบที่ง่ายต่อการจัดการศัตรูที่ร้ายกาจ และจำเป็นต้องได้คู่หูช่วยสนับสนุนในการทดสอบ

เว้นแต่ได้รับป้ายสถานะซึ่งจะพบได้บ่อยที่ชั้นหนึ่งของหอโถงวิญญาณอสูร

ในกรณีรางวัลที่จะได้รับ มีน้อย

ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกกฎสวรรค์ลงโทษได้ง่าย..ในชั้นแรกของหอวิญญาณอสูร มีกล่องไม้หลายใบ กล่องไม้เหล่านี้จำเป็นต้องวางให้เป็นรูปแบบอย่างหนึ่งจึงจะเปิดประตูได้  ถ้าวางผิดหรือถ้ากล่องไม้แตกหักผลที่ได้รับจะรุนแรงมาก ความเป็นไปได้ 50% กฎสวรรค์จะสุ่มส่งอสูรปีศาจเข้ามาสิบตัว และ 30% มีโอกาสถูกสายฟ้าฟาดใส่

โอกาสเป็นไปได้เพียง 20% ที่ปลอดภัยจากการลงโทษ

เห็นไซคลอปส์แล้ว หลงหม่าและวีเซลหางดาบไม่ต้องเดา จะต้องมีการลอบทำร้ายที่ชั้นหนึ่งเพื่อหลอกล่อให้ฝ่ายตรงข้ามทำลายกล่องโดยตรง

ถ้าวิธีนี้ไม่สามารถฆ่าศัตรูได้ อย่างนั้นมันจะวิ่งขึ้นไปชั้นที่สอง โดยใช้กลไกบางอย่างขวางถนนไว้

แม้กระทั่งหนีเข้าไปในประตูชั้นสามล่วงหน้า

ไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายเข้ามา และทำให้อีกฝ่ายถูกบังคับให้เลือกกล่องธรรมดา... ลูกไม้อย่างนี้ในหุบเขาอสูรเป็นกลโกงเอาเปรียบที่มีมานานแล้ว  ทุกคนรู้วิธีทำร้ายผู้คน แต่ไม่มีใครหาทางออกได้ดี

“บางทีอาจเป็นไซคลอปส์มากกว่า นั่นเป็นเป้าหมายที่จ้าวคางคกวางไว้อย่างจงใจ”  หลงหม่ากังวลเรื่องไซคลอปส์มากที่สุด

“บางทีนางอาจมีวิธีแก้ปัญหา!”  วีเซลหางดาบพูดปลอบใจตนเอง

อสูรน้อยนั่นมีความฉลาดมากเป็นพิเศษ

การทดสอบของหอวิญญาณอสูร นางจะสับสนได้ยังไง?  แม้ว่าจะมีไซคลอปส์คอยรบกวน นางจะต้องผ่านด่านทดสอบได้อย่างง่ายดาย เพราะว่านางสามารถกลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ในเวลาเพียงสิบวันหรือสิบห้าวัน นางไม่ใช่อสูรธรรมดา ที่สำคัญอย่าว่าแต่นี่เป็นด่านที่ง่ายที่สุด และการทดสอบแรกก็คือผ่านด่านแรกที่ง่ายที่สุด!

เย่ว์หยางนั่งอยู่บนบันไดทางขึ้นของหอวิญญาณอสูร จากนั้นหยิบเสื่อออกมาปูและหลับอย่างสบายใจ

เขาดูไม่เหมือนกับเจ้าของอสูรที่เข้าทดสอบ  แต่เหมือนกับผู้ตรวจสอบที่เกียจคร้าน

ตั๊กแตนมัจจุราชก้มหัวน้อยๆ ครุ่นคิด

หลังจากใช้เวลาเพียงเล็กน้อยนางค่อยๆ บินเข้าไปในโถงอสูรวิญญาณ

ไม่มีใครบอกนางว่าต้องทำอย่างไร และไม่มีใครสามารถช่วยนางได้  ในหอวิญญาณอสูร ทุกอย่างต้องพึ่งพาความสามารถของตนเอง!

เงายักษ์ของจ้าวคางคกกระพริบวาบอยู่ในทิศทางที่ห่างไกล มันยืนยันการกระทำของตั๊กแตนมัจจุราช  นางตั้งใจแน่วแน่เข้าไปในหอวิญญาณอสูรและจะจากไปทันทีโดยไม่ลังเล  ตามประสบการณ์ของหลงหม่าและวีเซลหางดาบพบว่าจ้าวคางคกผู้น่ารังเกียจ เจ้าผู้นี้ยังไม่ได้ออกไปอย่างแท้จริง แต่จะซุ่มโจมตีหรือทำการขัดขวางอีกฝ่ายหนึ่ง  ความจริงจ้าวคางคกนี้ได้ทำลายจุดปลอดภัยอย่างสิ้นเชิง และขัดขวางอสูรที่ทดสอบอีกทางหนึ่ง  นอกจากนี้เพื่อเป้าหมายฆ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่มีศักยภาพและเพื่อล้างอายของตัวเขาเอง เพื่อศักดิ์ศรีของจ้าวอสูร  จ้าวคางคกตัดสินใจว่าถ้าฆ่าตั๊กแตนมัจจุราชน้อยนี้ไม่ได้ เขาไม่ยอมเลิกรา

หอวิญญาณอสูร

ไซคลอปส์ที่ไม่ยอมปะทะรุนแรง รีบวิ่งเข้าไป มองดูไปรอบๆ

มันพบว่าเย่ว์หยางยังคงหลับและแอบย่องเข้ามาเงียบๆ

ตั๊กแตนมัจจุราชไม่สนใจยักษ์ไซคลอปส์  นางระมัดระวังและค่อยๆ ลอบเข้าไป

ภายในมีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นพิเศษ นอกจากทางเดินและระเบียงซึ่งส่วนใหญ่จะแยกเข้าไปในห้องหนึ่ง  ห้องเหล่านี้จะคล้ายกัน  แต่ประตูมีจำนวนแตกต่างกันไปและแต่ละห้องก็มีกล่องขนาดแตกต่างกัน

ตั๊กแตนมัจจุราชพยายามใช้ความคิดย้ายกล่องที่ใหญ่ ผลลัพธ์ที่ได้คือประตูอีกบานถูกปิด

และเมื่อนางยกกล่องใหญ่กลับคืนมา ประตูเปิดอีกครั้ง

นี่คงจะเป็นบ้านที่มีน้ำหนักสมดุล

ตั๊กแตนมัจจุราชได้รับคำตอบนี้ เมื่อนางไปถึงสะพานกลไก นางเข้าใจทันทีว่าทำไมถึงต้องมีกล่องใบหนึ่งอยู่ในห้อง  กล่องเหล่านี้ใช้เพื่อถ่วงน้ำหนัก เมื่อนางวางกล่องใหญ่บนหัวสะพานกลไก  สะพานที่ดูเหมือนเป็นสะพานพังยืดขนาดออกไปอีกหนึ่งเมตรทันที  ตั๊กแตนมัจจุราชโยนหินก้อนหนึ่งเข้าไปตรงๆ แต่กฎสวรรค์ในพื้นที่ทำลายจนก้อนหินเป็นผุยผง ... ดูเหมือนว่านอกจากเคลื่อนกล่องให้ได้พอดีแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านสะพานกลนี้ไปได้

หากไม่ใช้สะพานกล  ก็ต้องไปใช้เส้นทางอื่น

มีทางเดินมากมายในนั้น

ในกลุ่มพวกเขาที่ท้ายทางเดิน ไซคลอปส์คอยสำรวจและมองมาทางตั๊กแตนมัจจุราช

ในใจของตั๊กแตนมัจจุราชยังจำคำสอนของเจ้านายได้ไว้ได้มากมาย ไม่ว่าสถานการณ์ใดๆ ก็ตามเจ้าต้องรักษาความสงบเอาไว้ ตื่นตัว สำรวจดูสภาพแวดล้อม ใช้สติปัญญาวางกลยุทธ์ผสมผสานการใช้สมองเอาชนะศัตรูให้ได้  และต้องเอาชนะศัตรูด้วยกำลังที่เด็ดขาด  ผ่อนคลายให้มากขึ้น... ยิ่งคิดเรื่องนี้ ดวงตานางยิ่งมีแววมุ่งมั่น ใบหน้านางค่อยๆ มีรอยยิ้ม เหมือนพระอาทิตย์ฉายรัศมีกระทบยอดเขา

ศัตรูทุกคนที่เห็นรอยยิ้มนี้ จะรู้สึกกลัวจากก้นบึ้งหัวใจ

เพราะรอยยิ้มเช่นนี้น่ากลัวกว่ารอยยิ้มของปีศาจเป็นร้อยเท่า!

“มาเลย!”  ตั๊กแตนมัจจุราชกำหมัดแน่นและนางตรงไปยังจุดที่ร่างของไซคลอปส์หายไป

นายท่านเคยสอนไว้

ในโลกนี้ มีความลำบากไหนที่ไม่สามารถเผชิญหน้าได้บ้าง?

ต้องพยายามให้หนัก!

พยายามให้หนักกว่าอาหง อาหมันและตั่วตั่ว มั่นใจว่าจะต้องไล่ตามพวกนางได้ทันในไม่ช้าแต่ ต้องไม่ทำให้นายท่านผิดหวัง  ต้องใจสู้เข้าไว้ ตั๊กแตนมัจจุราชเริ่มลงมือ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด