ตอนที่แล้วตอนที่ 859 เชียนฮุ่ย!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 861 ความตายของโรเจอร์

ตอนที่ 860 กับดัก


ถังเทียนเล่าให้เชียนฮุ่ยฟังมากมายว่าเขาไปถึงแดนบาปได้ยังไงออกมาได้ยังไง เรื่องแผนการของปิงและแน่นอนว่าหนุ่มชาวฟ้าทรงพลังมากเพียงไหน...

เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาสามารถเดินหน้าต่อไปทั้งหมดต้องใช้ความอดทนมาก เสียงของเขาบางครั้งก็สูง บางครั้งก็ต่ำเขาอธิบายเรื่องราวของเขาด้วยสีสันต่างๆ ในอีกด้านหนึ่งหน้าของเชียนฮุ่ยยังคงยิ้มหวานนางฟังอย่างตั้งใจและหัวเราะเป็นบางคราวโดยไม่รู้สึกเบื่อหรือรำคาญ

ขณะที่พวกเขาสนทนากันต่อเนื่องเชียนฮุ่ยจะคุยเรื่องของนางด้วยเช่นกัน เรื่องประสบการณ์ของนางวิธีที่นางออกจากสนามรบโบราณ เกี่ยวกับเรื่องแปลกประหลาดที่นางได้พบเห็นเรื่องอาซิ่นและเรื่องสนุกๆ ของเสี่ยวม่าน.....

เชียนฮุ่ยพูดอ่อนโยนขณะที่ถังเทียนตะโกนดังลั่น บางครั้งอุทานออกมาดังๆ อย่างมีชีวิตชีวา

‘เสียงของเชียนฮุ่ยไพเราะมาก’ ถังเทียนคิด

เขามีความสุขมาก  และไม่รู้ว่าจะอธิบายอารมณ์ของเขายังไง  เขาเพียงแต่รู้ว่าเขามีความสุขมากขนาดที่อยากจะกระโดดไชโยด้วยความดีใจ

เวลาผ่านไปโดยที่ทั้งสองคนไม่รู้

ทั้งสองคนคุยกันถึงสี่ชั่วโมงก่อนจะจบลงอย่างไม่เต็มใจนัก  โชคดีที่ทั้งสองคนอยู่ในทวีปกวงหมิงและสามารถติดต่อกันได้สะดวกมากขึ้น

เมื่อกลับมายังทวีปกวงหมิง ถังเทียนเต็มไปด้วยจิตใจพร้อมจะสู้  ร่างของเขาเปี่ยมไปด้วยพลังไม่มีขีดจำกัด  เมื่อคิดถึงเรื่องที่สนทนาเขายืนงงอยู่กับที่และหัวเราะเองคนเดียว

เมื่อซือหม่าเซี่ยวเห็นถังเทียน  เขาผิวปากและพูดด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า  “ดูเหมือนชายหนุ่มจะติดเชื้อเสียแล้ว! หึหึ แม้แต่หนุ่มชาวฟ้าก็ไม่สามารถต้านพลังแห่งความรักได้  ข้าสงสัยจริงแม่นางเชียนฮุ่ยเป็นยังไงบ้างถึงทำให้หนุ่มชาวฟ้าของเรามึนเมาตกหลุมรักนางได้”

หน้าของคนอื่นมีท่าทีแปลกประหลาดพวกเขาต้องการหัวเราะแต่ว่าไม่กล้า ซือหม่าเซี่ยวสามารถหยอกล้อถังเทียนได้ แต่พวกเขาไม่กล้า แต่หลายคนมีท่าทีแปลกประหลาด กองพลเกราะเทพเจ้าติดตามถังเทียนมานานแล้วและไม่เคยเห็นถังเทียนแสดงท่าทีกับหญิงสาว ไม่ว่าพวกนางจะงดงามอย่างไรก็ตาม  จอห์นสันรู้เรื่องนี้ชัดเจนเนื่องจากเขาอยู่ใกล้เมลิซซาเสมอและชายหนุ่มธรรมดาทุกคนไม่ว่าพวกเขาจะมีตำแหน่งอะไรหรือมีอาชีพใดก็ตามทุกคนที่คุยกับเมลิซซาจะชื่นชมความงามของนาง สรรเสริญนาง หรือไม่ก็น้ำลายหก

ยกเว้นอยู่คนเดียว คือเจ้านายเขาไม่เคยเห็นการแสดงออกอย่างนั้นมาก่อน เขาจำได้ชัดเจน เจ้านายเคยแสดงรังสีฆ่าฟันแม้ต่อเมลิซซาด้วย  ในใจเขาเจ้านายเย็นชาและไร้อารมณ์และไม่มีหญิงใดที่ส่งผลอิทธิพลต่อเขาแม้แต่น้อย เขาคือเครื่องจักรฆ่าคน

เมื่อเขาเห็นถังเทียนหัวเราะอย่างโง่เขลากับตัวเองถึงครึ่งค่อนวันมองดูเหมือนคนปัญญาอ่อนเขาตกใจ ‘นี่คือนายท่านผู้ไร้ปราณีเย็นชา ละเอียดอ่อนและไร้อารมณ์ใช่หรือเปล่า?’

จู่ๆ จอห์นสันก็เต็มไปด้วยความสงสัยต่อแม่นางเชียนฮุ่ย  ‘สตรีแบบไหนที่ทำให้นายท่านเป็นแบบนั้นได้?หรือว่านางจะงดงามมากกว่าเมื่อเทียบกับคุณหนูเมลิซซา?’

หลังจากหัวเราะกับตัวเองถึงครึ่งค่อนวันแล้ว  ถังเทียนเทียนตัดสินใจเริ่มงานที่เหมาะสม  เขาคิดถึงเรื่องความคิดที่เชียนฮุ่ยให้เขาและเรื่องที่นางเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เมื่อถังเทียนพูดกับทุกคนถึงแผนของเชียนฮุ่ยทุกคนเงียบ พวกเขาทุกคนทำหน้าแปลกประหลาด

ปฏิกิริยาของทุกคนทำให้ถังเทียนตกใจ“มีปัญหาอย่างนั้นหรือ?”

หลังจากนั้นเป็นเวลานานซือหม่าเซี่ยวเป็นคนแรกที่หายตกใจเขามีสีหน้าซับซ้อน “แม่นางเชียนฮุ่ยน่าทึ่งมาก เจ้ามันโชคดีบัดซบ!”

“มันแน่อยู่แล้ว!  ไม่มีใครฉลาดกว่าเชียนฮุ่ย!”  เมื่อยินเช่นนั้นถังเทียนดีใจแต่ทันใดนั้นเขาเหลือกตากว้าง “ใครพูดวะ..โชคดีบัดซบ? อยากมีเรื่องหรือไง?”

ทุกคนหายตกใจ แต่ละคนมีสีหน้าเทิดทูนบูชา

*******************

ทวีปป่าน้อย

เถี่ยจี๋อำลาซ่างกวนเชียนฮุ่ยด้วยความรู้สึกเคารพอย่างสูง  “คุณหนู, ขอให้สบายใจได้ผู้น้อยจะทำให้สำเร็จได้อย่างแน่นอน!  ขอให้คุณหนูรักษาตัวเองด้วย!”

เขาไม่ชักช้าอีกต่อไปและจากไปพร้อมกับซางเป่ย  พวกเขาเริ่มเดินตรงไปที่ทางน้อยซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายกลับไปยังทวีปแดนเถื่อน

เมื่อเห็นเถี่ยจี๋และซางเป่ยแยกจากไป  เสี่ยวม่านอดยกดาบยักษ์ขนาดประตูในมือชูขึ้นอย่างกระตือรือร้นไม่ได้“ข้าอยากได้การต่อสู้ดีๆ สักตั้ง!”

อาซิ่นได้เพ่งสายตาเต็มที่เสียทีแต่ตาของเขากลับมองอยู่ที่หน้าอกยั่วยวนของเสี่ยวม่านที่สั่นเคลื่อนไหวไปตามจังหวะการเคลื่อนไหวของดาบยักษ์เขากลืนน้ำลายอย่างลุ่มหลง

เสี่ยวม่านหันหน้ากลับมาทันใดและยิ้มหวานให้อาซิ่น  “เป็นไง ดูดีไหม?”

“มันดีจริงๆ...”อาซิ่นโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว

เงาร่างหนึ่งบดบังสายตาของเขาอย่างรวดเร็วดาบยักษ์, โอว ต้องบอกว่าอาวุธขนาดบานประตูกระแทกใส่หน้าอาซิ่นจนเขากลิ้งเป็นลูกบอลไปไกลเกินกว่า30 เมตร

ซ่างกวนเชียนฮุ่ยที่อยู่ข้างๆยังหยุดยิ้มไม่ได้

เสี่ยวม่านไม่สนใจอาซิ่นอีกต่อไปและถามเชียนฮุ่ยอย่างกังวล “คุณหนู, ตอนนี้ซางเป่ยกลับไปแล้วเราควรจะเคลื่อนไหวด้วยตนเองหรือเปล่า?”

เป็นงานยากมากในการเคลื่อนไหวในดินแดนศัตรูโดยไม่มีใครนำทางพวกเขา  นอกจากนี้พวกเขายังสะดุดตาเกินไปกลุ่มที่ประกอบด้วยขุนพลวิญญาณเป็นส่วนใหญ่ตราบใดที่พวกเขาเดินอยู่ในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ ก็ยากที่จะไม่ดึงดูดความสนใจ

เชียนฮุ่ยส่ายศีรษะ  “ไม่, เรารออยู่ที่นี่  จะมีคนมารับเรา”

“จะมีคนมารับเราหรือ?  นั่นเยี่ยมเลย!”  เสี่ยวม่านถอนหายใจโล่งอกจากนั้นถามอย่างสงสัย  “คุณหนู,  ใครจะมารับเรา?”

“กลุ่มการค้าเมซฟิลด์”  เชียนฮุ่ยยิ้ม จากนั้นถาม “ทุกคนรู้สึกยังไงบ้าง?”

เสี่ยวม่านตอบอย่างตื่นเต้น  “แตกต่างจากทวีปแดนเถื่อนโดยสิ้นเชิง  พลังงานที่นี่มีชีวิตชีวามากกว่า และหนาแน่นมากกว่าเมื่อเทียบกับทวีปแดนเถื่อน  ทุกคนแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องถ้ามีเวลาเพียงพอ ข้าเชื่อว่าทุกคนสามารถเผยร่างจริงออกมาได้แต่นั่นคงต้องใช้เวลายาวนาน”

เชียนฮุ่ยหัวเราะและกล่าว  “เราจะมีเวลานั้น”

*****************

เมื่อมองดูพื้นที่ก่อสร้างซึ่งกำลังขยายตัวอย่างมีชีวิตชีวา  โรเจอร์ไม่สบายใจแม้แต่น้อย อัศวินพิเศษกวงหมิงผู้มีตำแหน่งสูงส่งถูกปล่อยให้อยู่ในเขตที่ก่อสร้างที่ไม่มีแม้แต่นกบินผ่านเป็นเหมือนหัวหน้าช่างก่อสร้าง

ถูกแล้วเขารู้สึกตนเองว่าเป็นเหมือนหัวหน้าช่าง

‘ไม่มีอะไรที่นี่เลย,เป็นไปได้ว่าสหายของข้าคงต้องมุ่งหน้าไปยังทวีปซางโจวพร้อมกับฝ่าบาท’  เขามีท่าทีอยากไปทวีปซางโจวเพื่อประกาศความสำเร็จและมีแนวโน้มว่าพวกเขาจะสามารถจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์สภาอาวุโสได้  ‘แล้วข้าเล่า?ในหนังสือประวัติศาสตร์ของอัศวินพิเศษกวงหมิงที่รุ่งเรือง โรเจอร์ผู้โชคร้ายกลายเป็นคนคุมงานก่อสร้าง’

โรเจอร์ยังต้องคอยปกป้องคาร์ล ถูกแล้วอัศวินพิเศษกวงหมิงคนหนึ่งต้องมาคอยปกป้องพ่อค้าคนหนึ่ง ทำให้เขารู้สึกอับอายทั่วทั้งหน่วยอัศวินพิเศษกวงหมิงได้รับอิทธิพลจากโซเฟียและไม่มีใครในพวกเขามีความรู้สึกที่ดีต่อพ่อค้าอย่างคาร์ล  ในทวีปกวงหมิง สภาอาวุโสคือผู้ปกครองที่แท้จริงและภายในสภาฯ อัศวินกวงหมิงอยู่ในตำแหน่งที่น่านับถือและแต่ละคนล้วนเป็นอัจฉริยะในอัจฉริยะและโรเจอร์เองก็มีอัจฉริยะมากผ่านการคัดเลือกทดสอบมาหลายครั้งหลายครา ด้วยตำแหน่งที่สูงส่งและน่านับถือและความสามารถที่เหลือล้น  พวกเขามีพลังเฉพาะตัวสูงกันทุกคนมีคุณสมบัติพอจะแสดงความหยิ่งต่อคนที่มีบุคลิกโดดเด่นได้

โรเจอร์ไม่สามารถขัดคำสั่งของโอรสศักดิ์สิทธิ์ได้  เนื่องจากเขามีความภักดีต่อสภาฯและโอรสศักดิ์สิทธิ์ และเริ่มคิดว่าไม่ว่าเขาจะคิดยังไงก็อาจเป็นการล่วงละเมิดต่อโอรสศักดิ์สิทธิ์

ขณะนั้นยามคนหนึ่งวิ่งเขามาหาทันที  โรเจอร์จำเขาได้ทันที  เขาเป็นผู้ช่วยที่น่าเชื่อถือของคาร์ล

“ท่านโรเจอร์,ท่านคาร์ลเชิญให้ท่านมาหาขอรับ” ยามผู้นั้นพูดเสียงอ่อน “นายท่านมีการค้นพบใหม่ขอรับ”

เมื่อโรเจอร์ได้ยินครึ่งประโยคแรก  สีหน้าของเขาพลันเย็นชา  ‘โรเจอร์ผู้นี้ยังจะมีผู้บังอาจขอให้ข้าไปหาหรือ?’ แต่เมื่องเขาได้ยินครึ่งประโยคต่อมา เขาตกใจ

‘การค้นพบใหม่?’

เขาสงสัยทันที  “การค้นพบอะไร?”

ยามผู้นั้นพูดเบาๆ“นายท่านค้นพบกลุ่มซากหักพัง และพบพลังงานเฉพาะแบบเหลืออยู่”

‘พลังงานตกค้างที่ไม่เหมือนใครหรือ?’

โรเจอร์ตาเป็นประกายความสนใจของเขาเพิ่มขึ้นทันที  ‘พลังงานที่เหลืออยู่ต้องเป็นพวกโจรทิ้งไว้แน่นอนหรือว่ายังมีความแตกต่างระหว่างพวกมัน?’

“นำทางได้”  โรเจอร์พูดโดยไม่ลังเล

โดยมีทหารยามนำทางโรเจอร์พบตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วที่ซึ่งมีการคุ้มกันหนาแน่นโดยหลายคนที่ใบหน้าไม่คุ้นเคย  โรเจอร์รู้ว่าองค์กรใหญ่อย่างกลุ่มการค้าตะวันตกจะมีสมบัติมั่งคั่งมากกว่าองค์กรธรรมดาทั่วไปและมียอดฝีมือมากมาย ทั้งหมดเป็นกลุ่มทหารยามที่ไม่คุ้นและเป็นคนเช่นนั้น

โรเจอร์ตื่นเต้นอยู่ภายใน  ‘เพราะคาร์ลให้ความสำคัญต่อที่นี้มากต้องมีอะไรบางอย่างจริงๆ งั้นหรือ?’

ถ้ามีการค้นพบที่พิเศษ สำหรับโรเจอร์ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังคือโอกาสอีกด้วย กลุ่มที่ทำการสอบสวนก็ไม่ได้อะไรที่ชัดเจนเกี่ยวกับโจร อาจเป็นเพราะโกวเฉิงเวิ่นเต้ายึดทวีปซางโจวก็ได้ ถ้าโรเจอร์สามารถพบอะไรบางอย่างที่มีค่าจากการสอบสวนอาจจะเป็นประโยชน์ต่อเขามากมายก็ได้

เขาเห็นคาร์ลนั่งอยู่กับพื้นเหมือนกับเขากำลังคุยปรึกษาเบาๆ กับกลุ่มทหารยามรอบตัวเขา

โรเจอร์เดินตรงไปที่กลุ่มโดยไม่ลังเลและพูดเสียงดัง  “พูดไป, ว่าเป็นการค้นพบอะไร?”

เมื่อทหารที่ก้มหน้าอยู่ ได้ยินเขาพูดพวกเขายืนขึ้น

โรเจอร์หรี่นัยน์ตาทันที

รังสีดาบแดงงดงามปรากฏออกมาจากคนในกลุ่มนั้นบดบังทัศนวิสัยของเขาทันที

สายเกินไปที่โรเจอร์จะทันได้ชักดาบออกมาแต่ในที่สุดเขาแข็งแกร่งทรงพลังและมีประสบการณ์ต่อสู้เต็มที่ เขาไม่ตื่นเต้นเมื่อเผชิญกับการโจมตีกะทันหัน  แต่คำรามและรวบฝ่ามือกลายเป็นหมัดเปล่งรังสีกระแทกใส่รังสีดาบสีแดง

รังสีหมัดและรังสีดาบแดงปะทะกัน  เลือดในร่างของโรเจอร์ดูเหมือนจะถูกจับไว้ด้วยเชือกที่มองไม่เห็น

เป็นครั้งแรกที่โรเจอร์เผชิญกับกับความรู้สึกแปลกประหลาดแบบนั้นและหน้าของเขาเปลี่ยนไป

รังสีหมัดของเขาเพิ่มพลังขึ้นทันทีและรัศมีสีขาวคลุมรอบหมัดของเขาทันทีกลายเป็นเข็มที่แหลมคมขณะที่มันสลายรังสีดาบสีเลือดกระจายออกไป

จี๋เจ๋อครางแต่เขาก้าวหน้าแทนที่จะถอยหลัง รังสีดาบแดงกระจายขยายเป็นข่ายที่รวบรัดโรเจอร์

โรเจอร์โกรธทันทีแต่เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่โจมตีรวดเร็ว เขาไม่สามารถป้องกันและสูญเสียโอกาสตกอยู่ในสภาพเฉื่อยชาได้ แต่อัศวินพิเศษกวงหมิงทุกคนมีประสบการณ์ฝึกฝนอดทนที่สุดและโหดร้ายที่สุดแม้จะอยู่ในสภาวะอันตราย ก็ไม่ตื่นเต้น

โรเจอร์ตระหนักว่ารังสีดาบของคู่ต่อสู้แปลกประหลาด  ตาของเขาเป็นประกายโกรธกร้าวและเกราะทองของเขาเปล่งแสงเจิดจ้าโดยรอบ

เพลิงสีขาวดูเหมือนจะลุกโชนออกมาจากผิวภายในของเกราะเมื่อทั่วทั้งร่างของโรเจอร์เต็มไปด้วยเปลวเพลิงขาว

สายเส้นสีทองนับไม่ถ้วนแฝงอยู่ในเปลวเพลิงทำให้ดูเหมือนมีสายฟ้าสีทองกระพริบอยู่ในเปลวไฟ

เมื่อใยดาบสีเลือดถูกเพลิงขาวขัดขวางจึงเหมือนหยดน้ำที่หยดลงไปในเปลวเพลิงลุกโชน มีเสียงดังฉ่า.. แล้วใยนั้นก็หายไป

จี๋เจ๋อสะดุด เลือดไหลออกจากมุมปากของเขา

โรเจอร์อยู่ในเปลวเพลิงมองดูเหมือนกับเทพสงคราม  ม่านตาของเขากลายเป็นสีขาวขณะที่เขาพูดอย่างเฉยเมย  “คาร์ล เจ้ากล้าทรยศต่อสภาฯข้าจะลงโทษประหารเจ้าซะ!”

เขาใช้ฝ่ามือแทนกระบี่ที่มีเปลวเพลิงคลุมและแทงไปที่คาร์ล

เป็นการแทงง่ายๆ  แต่ทุกคนสีหน้าเปลี่ยน พลังงานรอบตัวพวกเขาระเบิดออกทำให้ไม่สามารถต้านทานได้

“ฮึ”

บุรุษหนุ่มคนหนึ่งแค่นเสียงขึ้น

หมัดที่ดูเหมือนธรรมดาปรากฏขึ้นมาโดยไม่มีเค้าลางเตือนหยุดมือของโรเจอร์ไว้ได้

ระเบิดในท้องฟ้าก็หยุดกะทันหัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด