ตอนที่แล้วตอนที่ 20 พูดคุยธุรกิจ [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 22 บัคกี้ตกหน้าผาและการพบกันครั้งแรกของอาซาเซล [ฟรี]

ตอนที่ 21 เจ้าของตึกผู้ยิ่งใหญ่ซูไป๋ [ฟรี]


ตอนที่ 21

เจ้าของตึกผู้ยิ่งใหญ่ซูไป๋

"ถึงแม้ว่าวิธีจะค่อนข้างทำให้ฉันดูชั่วร้าย แต่ว่า ... มันเจ๋งดีแหะ!" ซูไป๋จัดเสื้อผ้าของเขาให้เข้าที่ก่อนที่จะเหลือบมองไปยังชายวัยกลางคนที่กำลังนอนเอามือกุมหัวอยู่ที่พื้น พร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยท่าทางของผู้ดีว่า "เอาล่ะ! ความผิดใจระหว่างเราจบลงแล้ว ถึงเวลาที่เราจะได้คุยธุรกิจกัน"

"ไวน์!"

ซูไป๋พูดขึ้นมาก่อนที่ดอตตี้จะหยิบขวดไวน์ขึ้นมาและยื่นให้กับเขา

ซูไป๋หันไปพูดกับชายวัยกลางคนด้วยรอยยิ้มว่า "ฉันต้องการซื้อที่นี่ คุณลองเสนอราคามาได้เลย"

"นี่ ... ที่นี่ ฉัน ... ฉันไม่สามารถ ... ขายมันได้" ชายวัยกลางคนพูดขึ้นมาด้วยความกลัวพร้อมกับร่างกายที่สั่นเครือ

"ไม่เป็นไร ... " ซูไป๋ยิ้มขึ้นมาก่อนที่จะเขาจะขยับมืออีกครั้ง

เพล้ง!!

ไวน์อีกขวดถูกตีลงไปที่เดิม

"ไม่ขายอย่างงั้นหรอ คุณจะพูดขึ้นมาแบบนั้นไม่ได้ ฉันอุส่าเดินทางมาตั้งไกลคุณจะปล่อยให้ฉันกลับไปมือเปล่าอย่างงั้นหรอ?" ซูไป๋พูดขึ้นมาพลางสบตากับดอตตี้ให้หยิบไวน์ขึ้นมาอีกขวด

เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของดอตตี้ ชายวัยกลางคนก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นมากกว่าเดิมพร้อมกับรีบพูดขึ้นมาว่า "ขาย ... ขาย ... ไม่สิ ...ฉันจะให้มันกับคุณฟรี ๆ!"

"จริงหรอ?"

"จริง ๆ ครับ"

"ฉันรู้สึกอายมากเลย คุณรีบให้คนไปร่างสัญญามาเถอะ เราจะจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเร็วที่สุด" ซูไป๋หันไปสั่งคนรับใช้ของเขาโดยไม่มีความรู้สึกอับอายเลยแม้แต่น้อย

แน่นอนว่าชายวัยกลางคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ถ้าเกิดว่าเขาทำไม่ดีก็จะถูกขวดไวน์ตีเข้าที่หัวจนตายหลังจากขวดที่สามและสี่อย่างแน่นอน นอกจากนี้ซูไป๋ยังเป็นคนที่แปลกประหลาดและไม่ใช่คนธรรมดา ถึงแม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะมีค่า แต่ชีวิตของเขานั้นสำคัญยิ่งกว่า หลังจากผ่านไปไม่นานการลงชื่อในสัญญาก็เสร็จสมบูรณ์ ทำให้ที่นี่กลายเป็นของซูไป๋โดยสมบูรณ์

"ฉัน ... ฉันไปได้หรือยัง" ชายวัยกลางคนถามขึ้นมาอย่างไม่ลังเล

ซูไป๋ยิ้มพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มว่า "แน่นอน ว่าแต่คุณต้องการให้ฉันเดินออกไปส่งคุณไหม?"

"ไม่เป็นไรฉันไปเองได้!"

ชายวัยกลางคนรีบส่ายหัวอย่างรวดเร็วพร้อมกับรีบวิ่งออกไปอย่างรีบร้อน

เมื่อเขาผลักประตูออกมาด้านนอกและสังเกตว่าไม่มีใครแอบตามเขามา เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

"ไอ้บ้าเอ้ย!! ไอ้ลิงเหลืองเวรนั่นสักวันฉันจะต้องแก้แค้นมันให้ได้ในสักวันไม่ช้าก็เร็ว .... " ชายวัยกลางคนพูดสาปแช่งขึ้นมาเบา ๆ แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดจบ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงหวีดร้องของสายลมดังขึ้นมาจากบนหัวของเขา เขาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองด้านบนโดยไม่รู้ตัว ป้ายขนาดใหญ่ของตึกกำลังตกลงมาอย่างรวดเร็วและก่อนที่เขาจะได้ตอบสนองอะไรมันก็มีเสียงดัง ตูม! ดังขึ้นพร้อมกับร่างชายวัยกลางคนที่ถูกป้ายขนาดใหญ่ทับจนแบน

ทันใดนั้นเลือดก็เริ่มไหลออกมาจากรูทวารทั้ง 7 อย่างรวดเร็ว

ปกติแล้วถ้าเกิดว่ามีป้ายขนาดใหญ่ตกลงมาจากบนท้องฟ้าและทับพวกเขาโดยบังเอิญ แน่นอนว่าคนที่เห็นเหตุการณ์อยู่ด้านนอกจะต้องบอกว่าชายคนนี้ช่างโชคร้ายเกินไป

แต่สำหรับคนที่อยู่ข้างในตึกไม่ได้คิดอย่างนั้น

เป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ อย่างงั้นหรอ?

พวกเขามองไปที่ซูไป๋โดยไม่รู้ตัว

ความซวย!

เพราะชายวัยกลางคนคนนั้นบอกซูไป๋ว่าเป็นลิงเหลืองจึงทำให้เขาถูกลิขิตให้โชคร้ายแบบนี้

"รีโนเวทสถานที่นี้ใหม่ทั้งหมด สไตล์ในตอนนี้ ... มันดูเชยเกินไป" การแสดงออกของซูไป๋ยังคงเป็นธรรมชาติและสงบ เขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการตบแต่งใหม่ทั้งหมดราวกับว่าเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านนอก

หลังจากอยู่ที่นี่สักพักและให้พนักงานออกไปทั้งหมดแล้ว เขาก็ล็อคประตู และเตรียมตัวไปสถานที่ต่อไป ซึ่งซูไป๋ได้ติดต่อเจ้าของเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

มันเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สามารถสร้างเป็นบล็อกเล็ก ๆ ได้มากมาย

ซึ่งด้วยความโชคดีทำให้เขาเจอเจ้าของที่เป็นมิตรและเขากำลังเตรียมตัวที่ย้ายไปต่างประเทศพร้อมกับครอบครัวและต้องการเปลี่ยนทรัพย์สินทั้งหมดของเขาเป็นเงินอยู่พอดี ดังนั้นซูไป๋จึงซื้อคฤหาสน์แห่งนี้มาในราคาที่ต่ำกว่า 2 ล้านดอลลาห์สหรัฐ ถึงแม้ว่าในอนาคตเขาจะไม่ทำอะไรหลังจากผ่านไปสองสามทศวรรษราคาของที่ดินผืนนี้ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ อย่างต่ำก็หลายร้อยล้าน ซึ่งอนาคตยังอีกยาวไกลดังนั้นอย่าเพิ่งไปนึกถึงมัน

อย่างไรก็ตามสัญญาซื้อขายก็ไม่สามารถทำให้เสร็จสิ้นได้ภายในหนึ่งวัน แต่โชคยังดีที่ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ซูไป๋เป็นคนจัดการเองทั้งหมด แน่นอนว่าที่นี่ไม่ได้มีห้องเพียงห้องเดียว ทำให้เขาจึงนอนค้างคืนอยู่ทีนี่ และแน่นอนว่าเรเวนและดอตตี้ก็นอนกลับซูไป๋ตามเดิม

ทำให้ซูไป๋ในตอนนี้อดอยากมาหลายวัน และเขาก็คงไม่บ้าพอที่จะทำมันต่อหน้าของเรเวนแบบนั้น

หลังจากนั้นไม่นานคฤหาสน์ก็เปลี่ยนเจ้าของเป็นของซูไป๋โดยสมบูรณ์ และเขาขอให้แม่บ้านช่วยดูแลมันเอาไว้ชั่วคราว ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังไม่ได้ย้ายมาอยู่ที่นี่ในตอนนี้ หลังจากจัดการอะไรเสร็จสิ้นแล้วซูไป๋และคนอื่น ๆ ก็ออกเดินทางอีกครั้งเพื่อตามหามนุษย์กลายพันธุ์คนต่อไป แน่นอนว่าชอว์เป็นคนใจกว้างทำให้การจะทำสิ่งต่าง ๆ มันจึงง่ายดาย

ซึ่งมนุษย์กลายพันธุ์ที่เขากำลังตามหาคนต่อไปก็คือสมาชิกดั้งเดิมของเฮลไฟร์คลับ อาซาเซล!

อาซาเซล มนุษย์กลายพันธุ์ผิวแดงคล้ายกับซาตา เขามีความสามารถในการเทเลพอร์ตข้ามมิติ รวมถึงพาคนอื่น ๆ เทเลพอร์ตไปด้วยกันได้ ในภาพยนตร์อาซาเซลนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมากและยากที่จะป้องกันความสามารถของเขาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหางของเขาที่สามารถทำอันตรายได้ถึงชีวิต และหากริพไทด์ทำอะไรให้อาซาเซลไม่พอใจแล้วละก็เขาจะถูกอาซาเซลทุบตีอย่างรุนแรงทุกครั้ง!

และในการ์ตูนอาซาเซลนั้นมีความสามารถในการรักษาตัวเองได้อย่างรวดเร็ว สามารถงอกแขนที่ขาดขึ้นมาใหม่ได้และมีอายุที่ยืนยาว ปีศาจแดงและซาตานคือนามแฝงที่เขาเคยใช้ แต่ถึงอย่างนั้นด้วยประสบการณ์และลักษณะนิสัยของอาซาเซลมันคงไม่ง่ายเลยที่จะชักชวนเขาได้ง่ายเหมือนกับริพไทด์ ดังนั้นซูไป๋จึงจะต้องเตรียมความพร้อมให้ดีซะก่อน ไม่งั้นเขาคงคว้าน้ำเหลวอย่างแน่นอน

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

 

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด