ตอนที่แล้วตอนที่ 851 แนวคิดของถังเทียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 853 หน่วยสืบสวน

ตอนที่ 852 หายเรียบ


ร่างของถังเทียนขยายออก ขณะที่สายใยกฎธรรมชาติที่เชื่อมโยงถูกดึงอย่างช้าๆ

หมัดเรียบง่ายที่แหวกอากาศกระทบกับส่วนที่สะท้อนพลังงาน

โซโลมอนเพียงแต่รู้สึกเหมือนถูกตบดังสนั่นขณะที่เขาไม่สามารถตั้งหลักขณะที่ลำแสงที่เขาโอบไว้สว่างขึ้นด้วยรัศมีสีเงิน

หน้าของถังเทียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย

พร้อมกับเสียงแค่น เขาดึงทุกคนและรีบเร่งออกไป

ความคิดสุดท้ายของโซโลมอนอยู่ที่แสงเงินที่ไม่มีที่สุด  แสงสีเงินที่เขาคุ้นเคยกับมันมากที่สุดกลืนกินเขา

ปัง!

แสงสีเงินสูญเสียการควบคุมล่มสลายเหมือนกับกระแสคลื่นในมหาสมุทรที่ปั่นป่วน

แสงเงินเป็นแสงที่มีระดับพลังงานเข้มข้นสูงมากได้รับการเสริมพลังหลายเท่าจากไม้ตายเพลงโศกกระบี่แสงจึงเต็มไปด้วยพลังทำลายล้าง  ทหารของกลุ่มการค้าตะวันตกถูกกลืนกินเป็นพวกแรกพวกเขาไม่มีเวลาได้ส่งเสียงใดๆ และถูกย่อยสลายในแสงเงิน ทหารของกองกำลังจอมฉีกกระชากเปล่งประกายแสงเจิดจ้ากันทุกคนซึ่งทะลุผ่านผิวของพวกเขาและแทงเข้าไปในกระดูกของพวกเขาทำให้เปลวไฟสีเงินลุกพรึ่บจากกระดูกของพวกเขา เสียงโหยหวนคร่ำครวญของพวกเขาดังเข้าหูไม่หยุดหย่อนพวกเขาดิ้นรนเอาชีวิตรอด แต่เพลิงเงินจากร่างกายพวกเขาปะทุออกมาแล้ว และกลับเผาผลาญคนทั้งหมด  เสียงโหยหวนของพวกเขาค่อยๆ เบาลง ขณะที่ทุกคนสลายไปภายในแสงเงินจนไม่มีอะไรเหลือ

กำแพงที่สามารถป้องกันอาวุธเรือรบได้ ชั้นป้องกันหลายชั้นที่สร้างขึ้นด้วยราคาแพงพังทลายเหมือนกับกระดาษ  ในแสงสีเงินนั้นมันถูกเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่านทันที

แสงสีเงินแผ่กระจายไปเหมือนน้ำ

ในแสงสีเงินถังเทียนและหน่วยของเขาทุ่มกำลังหนีออกมา

พลังของแสงสีเงินเกินกว่าที่ถังเทียนคาดไว้มาก  เขาเพ่งความสนใจอยู่ข้างหน้าตนเองทำหน้าที่ของเขาอย่างดีที่สุดเพื่อเลียนแบบคลื่นความถี่ของแสงสีเงิน  แสงสีเงินที่สูญเสียการควบคุมความถี่ของมันแทนที่จะเป็นพลังมั่นคง กลับกลายเป็นยุ่งเหยิงหนักขึ้น

เขาต้องการให้แน่ใจว่าคลื่นพลังผันผวนของพวกเขาเทียบเท่ากับแสงสีเงิน

โดยการทำเช่นนั้นจะทำให้แสงสีเงินเห็นพวกเขาเหมือนกับตัวมันเองและพวกมันจะไม่ทำร้าย  ถ้าเขามีความคลาดเคลื่อนแม้แต่เล็กน้อย  แสงสีเงินจะกลายเป็นอันตรายเขาเองอาจจะสามารถอาศัยเกราะเทพเจ้าหนีเอาตัวรอดได้  แต่จี๋เจ๋อและพวกที่เหลือจะถูกแสงกินจนหมด

การคุกคามของความตายโดยตรงทำให้ความระมัดระวังของเขาถึงในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนทำให้ถังเทียนเข้าสู่สภาวะแปลกประหลาด

เวลาดูเหมือนจะคืบคลานช้าลง  ในแสงสีเงินรอบตัวของเขา คลื่นความถี่ที่แกว่งไปมาถูกถังเทียนจับจังหวะได้เหมือนกับว่ามีความชัดเจนขึ้นเห็นได้ชัดว่าเขาสามารถเห็นว่าภายใต้แสงสีเงินที่แพรวพราวยังมีตาข่ายที่มองไม่เห็นเป็นระลอกคลื่นต่อเนื่อง

‘นั่นคือ...’

ถังเทียนตระหนักได้ทันที ‘มันคือผิวกฎธรรมชาติ!’

‘ข่ายที่มองไม่เห็นนั้นก็คือผิวกฎธรรมชาติ!’

ความคิดของเขาชัดเจนมากขึ้นและหลายสิ่งหลายอย่างที่คลุมเครือสำหรับเขากลับกลายเป็นชัดขึ้นทันที  เขาไม่ได้ยินดีกับความจริงนั้นแต่ยังคงสงบใจเย็น สภาวะใจของเขาที่อยู่ในสภาพเพ่งสมาธิหนักทำให้ถังเทียนแทบไม่พูด

คลื่นพลังผันผวนนับไม่ถ้วนของแสงสีเงินชัดเจนกับเขายิ่งขึ้น

จี๋เจ๋อและพวกที่เหลือรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของถังเทียนทันที  ความเคลื่อนไหวช้าในตอนแรกกลายเป็นเร็วและนุ่มนวล พวกเขาเป็นเหมือนฝูงปลาที่มีชีวิตอยู่ภายในแสงสีเงิน  เคลื่อนไหวไปตามแสงสีเงินเหมือนกับว่าพวกเขาผสานรวมกับแสงสีเงิน

ควั่บ!

ภายในทะเลแสงสีเงินกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งทะยานขึ้นฟ้าพร้อมกับเพลิงเงินรุนแรง

พวกเขาบินขึ้นไปสูงขึ้นทุกทีสูงขึ้นทุกที เปลวเพลิงสีเงินที่พวกเขาสร้างขึ้นมาร่วงลงมาเหมือนกับสายฝน

พอมาถึงจุดนี้ถังเทียนและทุกคนถอนหายใจโล่งอก  หลังจากเห็นประจักษ์ทุกสิ่งว่ามีอะไรเกิดขึ้นภายในทะเลแสงและผ่านจะอันตรายร้ายแรงซึ่งถ้าพวกเขาประมาทเล็กน้อย พวกเขาอาจตายได้

“ออกไปจากที่นี่!”

เมื่อถังเทียนพูดเช่นนั้น ตาของเขาเหลือกค้างเนื่องเขาหมดสติไปแล้ว

ทุกคนยังคงตกใจกลัวแสงสีเงิน แต่เมื่อจู่ๆพวกเขาเห็นเจ้านายร่วงลงจากท้องฟ้า พวกเขาตกใจกันหมด  โชคดีที่จี๋เจ๋อตั้งตัวได้ทันและไวที่สุดเขาคว้าตัวถังเทียนได้ในพริบตา

เมื่อเขาตระหนักว่าถังเทียนหมดสติ  หน้าของเขาเปลี่ยน เขาตะโกนอย่างกระวนกระวาย“ออกไปได้แล้ว”

ขณะนี้จอห์นสันหน้าซีดบินเข้ามาทันทีและกล่าว  “ทางนี้!”

ทุกคนติดตามจอห์นสันมุ่งหน้าออกจากเมืองทันที

พวกเขาไม่กล้าหยุดแม้แต่น้อยและเร่งความเร็วบินออกไปเกินกว่า100 ลี้ก่อนจะหยุด

แม้หลังจากบินออกไปแล้ว  พวกเขาก็ยังเห็นแสงสีเงินในความมืด  ทุกคนเงียบแสงสีเงินที่ฉายพุ่งขึ้นท้องฟ้าในยามราตรี พวกเขาสามารถจินตนาการได้ว่าเมืองวายุน้ำเงินกลายเป็นนรกไปแล้ว

จากนั้นจอห์นสันรู้สึกตัวว่าขาเขากำลังสั่น

เมื่อเขาเห็นเพลงโศกกระบี่แสง เขาคิดว่าถังเทียนและกองพลเกราะเทพเจ้าคงตายแน่นอน  ‘จะมีทหารกี่คนที่สามารถรอดอยู่ได้จากไม้ตายสังหารของกองทัพระดับทอง? บางทีถังเทียนสามารถเอาตัวรอดได้ด้วยพลังที่ผิดธรรมดา  แต่คนอื่นจะไม่สามารถรอดได้’

แต่ความเปลี่ยนแปลงหลังจากนั้นทำให้เขาตะลึง

เขาสู้กับกองกำลังจอมฉีกกระชากก่อนและเห็นไม้ตายเพลงโศกกระบี่แสง  แต่กลับเพิ่มพลังขึ้นอย่างต่อเนื่องและแสงสีเงินทำให้เขากลัว

ในขณะนั้น เขาถอยออกมาอยู่ในระยะห่างเพื่อรักษาชีวิตของเขาไว้

เมื่อเขาเห็นทหารของกองกำลังจอมฉีกกระชากถูกแสงเงินกลืนและเผาจนเหลือแต่เถ้า  ความกลัวที่มองไม่เห็นเกิดขึ้นไปทั่วร่างกายของเขา แต่ว่าเขายังมีสายใยความหวังว่าสถานการณ์ของการสู้รบจะแตกต่างจากที่เขาคิด

‘หรือว่าถังเทียนจะชนะ?’

มันเป็นสายใยแห่งความหวังที่ทำให้เขาไม่ตื่นตระหนกและหลบหนีไป  แต่เลือกที่จะอยู่ เมื่อเขาเห็นถังเทียนและพวกวิ่งออกมาจากแสงสีเงิน  เขาไม่อยากเชื่อสายตาของเขา

‘พวกเขาชนะจริงๆ!’

‘โอวพระเจ้า!’

มือของเขากุมศีรษะ ปากของเขาพึมพำไม่ได้ศัพท์

เพียงแต่เมื่อเขาเห็นท่าทีเหนื่อยล้าของทุกคนและแสงสีเงินที่สว่างไกลในท้องในยามราตรี ในที่สุดก็ยืนยันว่าพวกเขาชนะ

‘แม้ในวิชาไม้ตายสังหารของกองทัพระดับระดับทองแต่พวกเขากำจัดกองกำลังจอมฉีกกระชากได้

‘โอว..พระเจ้า...’

เขาพึมพำกับตนเอง

ทุกคนที่อยู่ข้างตัวเขามองดูเมืองวายุน้ำเงินที่มีแสงสีเงินครอบคลุมทั้งท้องฟ้าทุกคนอยู่ในอาการงงงวย

พวกเขาไม่รู้ว่าการสู้รบของพวกเขาจะเป็นให้เกิดเรื่องตื่นเต้นใหญ่โต

*************************

พลโทโอลิเวอร์ฟังบริวารของเขาอ่านรายงานโดยไม่มีความรู้สึกอะไรตอนนี้เขาอายุ 54 ปีอยู่ในชุดเครื่องแบบทหารเขาผมสีขาวแซมซึ่งได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ผิวของเขาสะอาดซึ่งยังมีร่องรอยของความยากลำบากที่ผ่านมา ในฐานะอัจฉริยะจากสภาอาวุโสที่สามารถก้าวเข้าสู่ยศพลโทได้การรบทุกอย่างที่เขาประสบมาล้วนแต่รุนแรงมากทั้งนั้น

แม่ทัพนายกองทั้งหมดในตำแหน่งของเขาเป็นคนมีชื่อเสียงและแข็งแกร่งกันทุกคน

“...เราคลาดร่องรอยของพวกเขาเนื่องจากพวกเขาบินเข้าไปในหุบใหญ่บิล ซึ่งนั่นทำให้คนของพวกเราหายไปด้วย  มีแนวโน้มว่าพวกเขาคงจะพบกับความยากลำบาก”

ทั้งหมดนั้นเป็นข่าวร้ายทั้งนั้น

ดวงตาของโอลิเวอร์ทอประกายโกรธเกรี้ยว  หุบเขาบิลเป็นภูมิประเทศที่ไม่เหมือนใครมันทอดตัวยาวกินพื้นที่เกินกว่าพันลี้ มีถ้ำอีกนับไม่ถ้วน เป็นสถานที่ดีที่สุดในการซ่อนตัวและหลบเลี่ยงการถูกโจมตี

“เราส่งหน่วยสอดแนมไปเพิ่มแล้วและลาดตระเวนในท้องฟ้าเหนือพื้นที่ โจรทวีปทองแข็งแกร่งแต่อ่อนหัดในเรื่องการบิน  เรามีเปรียบในการสู้ทางอากาศตราบใดที่เรารักษาความปลอดภัยพื้นที่เหนือหุบเขาไว้ได้  พวกมันไม่สามารถหลบหนีจากสายตาพวกเรา”

โอลิเวอร์พยักหน้าพอใจปฏิกิริยาของบริวารของเขาไม่ชักช้า และพวกเขาเป็นมืออาชีพสามารถเข้าใจจุดอ่อนของคู่ต่อสู้พวกเขาได้

“ไม่ต้องกังวลศัตรูก็แค่มีกองทัพเดียว เรายังมีพลังเริ่มแรกอย่างเพียงพอ ตราบใดที่พวกมันเปิดเผยร่องรอยเราสามารถล้อมพวกมันจากจุดใดๆ ก็ได้”

โอลิเวอร์พูดอย่างเฉยเมย เสียงของเขาทุ้มและเต็มไปด้วยอำนาจทำให้คนเชื่อมั่นเขาโดยไม่รู้ตัว

“ขอรับ!”  บริวารของเขาลังเลเล็กน้อยจากนั้นกล่าว “ฝ่ายกลุ่มการค้าตะวันตกกำลังเร่งรัดเรื่องนี้มากขึ้น”

“ช่างพวกเขา”  โอลิเวอร์พูดอย่างสบายๆ

แม้ว่าความสัมพันธ์ของเขากับกลุ่มการค้าตะวันตกจะดีก็ตาม แต่พวกเขาไม่เคยเป็นหุ่นเชิดของกลุ่มการค้าตะวันตก  การร่วมมือของพวกเขาเป็นเพราะมีความสนใจร่วมกันส่วนจะสู้รบอย่างไรนั้น กลุ่มการค้าตะวันตกไม่เคยทำอะไรเขาได้

โอลิเวอร์รู้ว่าเขาสามารถดำรงตำแหน่งพลโทได้เป็นเวลายาวนานเป็นเพราะกลุ่มการค้าตะวันตก  แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาไม่เคยทำอะไรผิดพลาด

มีการสู้รบขนาดไม่ใหญ่ในภูมิภาคตะวันตก  แต่แม้จะมีกองโจรขนาดใหญ่และขนาดเล็กการแสดงฝีมือของเขายังเป็นไปอย่างสม่ำเสมอเป็นอย่างดี  และนั่นคือเหตุผลที่แท้จริง  ตราบใดที่เขายังทำหน้าที่อย่างมั่นคง  ตำแหน่งของเขาก็จะมั่นคงด้วย ‘ผลประโยชน์ลดน้อยลงหรือ? แล้วยังไง? ผู้นำของห้าแม่ทัพใหญ่มู่จือเสียก็ไม่เห็นต้องทำอะไรมากเหมือนกันไม่ใช่หรือ?’

แต่ถ้าเขาพ่ายแพ้การรบแม้แต่ศึกเดียว ตำแหน่งที่มั่นคงของเขาจะพังทลายอย่างรวดเร็ว มีคนที่อยู่เบื้องล่างเขาหลายคนริษยาตำแหน่งของเขา มีเก้าอี้พลโทเพียง 12ตำแหน่งเท่านั้น และเพื่อให้ได้เลื่อนขึ้นไป พวกเขาจำเป็นต้องออกไปคนหนึ่ง

สภาอาวุโสไม่เคยขาดแคลนแม่ทัพที่ทรงพลัง

ตราบใดที่เขามั่นคง กลุ่มการค้าตะวันตกจะไม่มีทางกล้าล่วงเกินเขา  และมีแต่ต้องการจะผูกมัดเขา

“ผู้อาวุโสวอร์เรนท่านเข้าไปไม่ได้นะ!ตอนนี้นายท่านกำลังอยู่ในช่วงประชุมการทหาร!”

“ข้ามีข่าวเร่งด่วนมารายงานนายท่าน!”

“ข้าเสียใจด้วย,แต่การประชุมทางทหารยังไม่จบ, ไม่มีใครเข้ามารบกวนได้!”

“ไม่ได้,มันเป็นเรื่องเร่งด่วน! ข้าจำเป็นต้องพบท่านโอลิเวอร์เดี๋ยวนี้!”

……

ความสับสนวุ่นวายสามารถได้ยินจากด้านนอกโอลิเวอร์ขมวดคิ้วและเกิดโทสะขึ้นในใจ ‘กลุ่มการค้าตะวันตกชักจะกำเริบมากขึ้นทุกคนพวกเขายังกล้าทำผยองที่นี่อีก’

“ให้เขาเข้ามา”

โอลิเวอร์พูดอย่างเฉยเมยเก็บความไม่พอใจไว้ในใจ

ประตูใหญ่เปิดทันทีและมีร่างหนึ่งวิ่งเข้ามา

เมื่อโอลิเวอร์เห็นสารรูปของผู้อาวุโสวอร์เรน  เขาตะลึง ‘นี่ผู้อาวุโสวอร์เรนหรือนี่? ทำไมเขาดูเหมือนแก่ขึ้นเป็นสิบๆ ปี ทั้งผมหงอกและรอยย่นนั่น?’

โอลิเวอร์ประหลาดใจสัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่ดี เขาถามทันที  “ผู้อาวุโสวอร์เรนเกิดอะไรขึ้นกับท่าน?  มีอะไรเกิดขึ้น?”

หน้าของผู้อาวุโสวอร์เรนซีดขาวมีท่าทางหวาดกลัว เขาละล่ำละลักพูด “นายท่าน, แย่แล้ว, แย่จริงๆ!”

ความรู้สึกแย่ในตัวโอลิเวอร์รุนแรงมากขึ้น  เขาพูดอย่างรวดเร็วทันที  “ผู้อาวุโสวอร์เรน, เกิดอะไรขึ้น?”

“พวกมันฆ่ากองกำลังจอมฉีกกระชากได้  เมืองวายุน้ำเงิน.. เมืองวายุน้ำเงิน...”  ผู้อาวุโสวอร์เรนตะกุกตะกัก

‘กองกำลังจอมฉีกกระชาก?’ โอลิเวอร์เลิกคิ้ว ‘กองกำลังจอมฉีกกระชากเข้ามาอยู่ในภาพนี้ตั้งแต่เมื่อใด?’ แต่คำพูดที่ตามมาทำให้เขาแตกตื่นและลุกขึ้นยืน  “เกิดอะไรขึ้นกับเมืองวายุน้ำเงิน?”

ผู้อาวุโสวอร์เรนสั่นสะท้านไปทั้งตัว  “เมืองวายุน้ำเงิน.. เมืองวายุน้ำเงินหายไปแล้ว!”

“หายไป?”โอลิเวอร์ตะลึง  แต่ครู่ต่อมาเขาถึงกับโกรธ “ท่านหมายความว่ายังไง หายไป? ผู้อาวุโสวอร์เรน, พูดให้ชัดกว่านี้!”

“มัน...หายไปหมดแล้ว”  เหมือนกับว่าผู้อาวุโสวอร์เรนอยู่ในความฝันตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

‘หายไปหมด...’

ห้องประชุมเงียบกริบ ทุกคนตะลึงกับข่าวและมีแต่เพียงเสียงของผู้อาวุโสวอร์เรนเท่านั้น

“เมืองวายุน้ำเงินได้ร้องขอความช่วยเหลือจากกองกำลังจอมฉีกกระชาก  แต่ใครจะรู้มีการลอบเข้ามาโจมตีในคืนนั้น กองกำลังจอมฉีกกระชากใช้ไม้ตายเพลงโศกกระบี่แสงของพวกเขา  แต่พวกเขาตายกันหมด  เมืองวายุน้ำเงิน... เมืองวายุน้ำเงินได้รับผลกระทบและถูกลบหายไปด้วย”

‘เมืองวายุน้ำเงินถูกลบหายไปอย่างสิ้นเชิง...’

ทุกคนมองหน้ากันเองความรู้สึกกลัวแล่นไปทุกสัดส่วนของร่างกายพวกเขา

โอลิเวอร์ทิ้งตัวลงกับพื้น ใบหน้าซีดขาว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด