ตอนที่แล้วตอนที่ 845 แสนปีแห่งความเกลียดชัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 847 ลาก่อนความสุขของข้า

ตอนที่ 846 นี่หรือความรัก?


ด้านบนศีรษะของเย่ว์หยางเพลิงอมฤตลุกท่วมสูงถึงร้อยเมตร

หงส์เพลิงแผดเผาทุกอย่าง

มันบินรอบกองเพลิงอมฤต

รอจนเมื่อมันบินขึ้นไปยังจุดสูงสุดและทิ้งตัวกลับลงมา

ความเกลียดชังทำลายล้างที่เกิดขึ้นในตอนแรก ถูกกำจัดได้หมด

แพนดอราสูญเสียสติต้องการกอบกู้ศักดิ์ศรีเทพ ยิ่งโกรธมากขึ้นที่มีใครบางคนต่อต้านนาง

ดวงตาทั้งสองของนางยิงแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ทำลายสวรรค์และล้างโลกได้  พลังทำลายล้างกวาดมาทางเย่ว์หยาง  เพลิงอมฤตที่ลุกโพลงสูงถึงร้อยเมตรกลับกลายเป็นเหมือนเข็มในลำธารมิอาจเทียบกันได้

เย่ว์หยางถอยห่างออกไปสองสามกิโลเมตร  และพบว่ายังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง

เพลิงอมฤตที่ลุกโชนไม่มีวันมอดเพราะพลังเทพของอีกฝ่ายหนึ่ง  แม้แต่เทพเจ้าก็ไม่สามารถทำลายเพลิงอมฤตได้

“เจ้าต้องการจะต่อต้านข้า?” แพนดอราลอยมาอยู่ข้างหน้าเย่ว์หยาง  นางคำรามลั่นพลังเทพหายนะกับพลังความเกลียดชังที่สะสมมาแสนปีผสานกันเข้าโจมตีใส่เย่ว์หยาง

“เอาอย่างนั้นก็ได้”

สนามพลังสร้างโลกของเย่ว์หยางขยายตัวอย่างรวดเร็ว วงจักรนิรันดรเกิดขึ้นที่ใต้เท้าเขา

พลังเทพหายนะและพลังความเกลียดชังของหุบเขาราคะที่สามารถทำลายได้ทุกอย่างเคลื่อนไปข้างได้อย่างเชื่องช้า

เหมือนกับสายน้ำหลากถูกประตูเหล็กยักษ์ขวางกั้นหยุดเอาไว้   แม้ว่ากระแสจะรุนแรงท่วมไม่มิดทั้งหมด แต่ก็มีพลังทำลายสะสมขึ้นก่อตัวขึ้น  เพียงแต่แรงหลากกระแทกกระทั้นถูกขัดขวางไว้    พลังหลากเข้ามาข้างหน้าเย่ว์หยางช้าลงๆ และหยุดลงในที่สุด เย่ว์หยางไม่ได้มองโลกในแง่ดี   สภาพเช่นนี้จะคงอยู่ได้ไม่นาน นอกจากนี้ผลกระทบจากสำนึกเทพ และพลังเทพในภาพนอกจะช่วยให้พลังทำลายล้างนี้หลากเข้ามาได้เร็ว เมื่อวงจักรนิรันดรหายไปทันที ผลที่ตามมาก็คือหายนะแท้จริง!

เขาต้านทานด้วยความยากลำบากเป็นเวลาสิบนาที

วงจักรนิรันดรที่เท้าของเย่ว์หยางเริ่มสลาย

พลังเทพหายนะและพลังความเกลียดชังแสนปีเริ่มบดขยี้เข้ามา เย่ว์หยางตกใจ ยกมือเตรียมใช้วงจักรล้างโลก  แต่แล้วเขาหยุดทันที

ถ้าเขาใช้งานวงจักรล้างโลก  เขาสามารถตัดแบ่งพลังเทพหายนะได้ และทำร้ายแพนดอรา

แต่การทำเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะช่วยตัวเองให้รอด

บางทีจำเป็นต้องดับ (นิพพาน)

ตายเพื่อตาย

ตาย มีความหมายว่าเริ่มต้นชีวิตใหม่ไม่ใช่หรือ?

หากไม่ผ่านการตาย เขามิอาจเข้าใจได้ แล้วยังกล้าจะพูดถึงปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ในระดับสูงๆ ขึ้นไปอีกหรือ?  ยังกล้าพูดว่ารู้แจ้งได้อีกหรือ?  เทพเจ้าเท่านั้นเป็นอมตะ  มีแต่มนุษย์อ่อนแอเท่านั้นที่กลัวตาย!  ถ้าเขาต้องการไปให้ถึงระดับนั้น เขาต้องปล่อยวางความรู้สึกของมนุษย์ เข้าถึงความรู้สึกของเทพ  แม้ว่ายังจะเร็วไปเล็กน้อย แต่นี่เป็นโอกาสและวิถีฝึกฝนมิใช่หรือ?

ถ้าเขาทำไม่สำเร็จ เขาก็ตาย และเป็นการตายเพื่ออุดมการณ์

ไม่ว่าจะเป็นการเอาชนะตัวเอง หรือก้าวข้ามขอบเขตเดิมของเขา ข้ามไปยังขอบเขตเทพ จะได้เห็นกันในบัดนี้!

เย่ว์หยางค่อยๆ หลับตา และในขณะนี้เขาเลือกจะเชื่อความรู้แจ้งของตนเอง

เขายังคงเชื่อว่าพี่น้องหงส์เพลิงได้นำเอาร่างกายพิเศษมาให้เขา

นกฟีนิกซ์ที่สามารถกลับมาเกิดใหม่ได้อีก

เขาโชคดีที่มีสองพี่น้องหงส์เพลิงปกป้อง ไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาจะดับแล้วเกิดใหม่ได้สำเร็จหรือไม่?

เขาปลดปล่อยความคิด ไม่ใส่ใจร่างกาย หลีกเลี่ยงความคิดฟุ้งซ่านทั้งหมดหลุดพ้นจากขีดจำกัดของโลกมนุษย์ด้วยตนเอง และข้ามเข้าสู่ดินแดนแห่งเทพที่เขาได้เห็น.....

ขณะที่เย่ว์หยางเตรียมพร้อมจะพบกับความตายและใช้ความตายนั้นเปลี่ยนแปลงขอบเขตความรู้แจ้งของตน  พลังเกลียดชังแสนปีที่น่ากลัวกลับหายไป

เขาลืมตาและเห็นว่าแพนดอราได้สติแล้ว

นางหลั่งน้ำตาอาบแก้ม

“โอว, ข้าเกือบจะฆ่าเจ้าแล้ว! ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นได้, นี่คือความตายตามที่ข้าทำนายไว้ ฆาตกรที่แท้จริงคือตัวข้าเองหรือ?”  แพนดอราหลั่งน้ำตา  “ข้าทนเห็นเจ้าจากไปไม่ได้  แต่นั่นกลายเป็นสาเหตุให้ฆ่าเจ้า ข้าต้องการได้รับบางอย่างครั้งแรก  แต่ข้ากลับต้องทำลายตนเอง  ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว  เข้าใจเหตุผลที่พวกเขาเรียกข้าว่าตัวหายนะ  กลับกลายเป็นว่าข้าคือตัวโชคร้ายที่แท้จริง!”

“ไม่ต้องจริงจังนักหรอก” เย่ว์หยางยิ้มเล็กน้อย และรอยยิ้มของเขาเฉิดฉันเหมือนดวงอาทิตย์ “ข้ายังไม่ตายไม่ใช่หรือ?”

“ถ้าข้ารู้สึกตัวช้าไปกว่านี้เล็กน้อยเจ้าคงตายไปแล้ว”  ใบหน้าของแพนดอรายังคงแสดงอาการเศร้าสร้อย

“ความจริงเจ้าอาจจะตื่นอยู่ และบางทีข้าอาจจะฝ่าผ่านอุปสรรคไปก็ได้ ใครจะรู้!”  เย่ว์หยางมีความเสียดายเล็กน้อย แต่กลับมีความสุขมากกว่า   การเผชิญหน้ากับความตายนัน เป็นช่วงเวลาที่สงบสุขมาก  แต่หลังจากนึกย้อนกลับไป หากจะบอกว่าไม่กลัว นั่นคงเป็นเรื่องโกหก พลังเทพล้างผลาญไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแน่นอน  เว้นแต่เทพธิดากระบี่ฟ้าลงมือเอง  นางเป็นผู้ทรงพลังที่สุดเท่าที่เย่ว์หยางเห็นมาทั้งชีวิต  แต่หลังจากเห็นพลังเทพทำลายล้าง  เย่ว์หยางตระหนักได้ว่ายังมีช่วงห่างระหว่างมนุษย์กับเทพอีกช่วงใหญ่

“ข้าเกือบจะฆ่าเจ้า แต่เจ้ายังปลอบโยนข้าอีกหรือ?”  แพนดอราร้องไห้หนักกว่าเดิม

“เจ้าคงไม่คิดจะให้ข้าร้องไห้พร้อมกับเจ้าหรอกนะ?”  เย่ว์หยางพูดว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้

“เจ้ามักจะเป็นแบบนี้เสมอ... ยิ่งอยู่กับเจ้ามากเท่าใด ข้ายิ่งไม่อยากปล่อยให้เจ้าจากไป  แล้วทีนี้เราจะทำยังไง?”  แพนดอราทำให้เย่ว์หยางขำยิ่งขึ้น  นางบัดเดี๋ยวร้องไห้ บัดเดี๋ยวหัวเราะ พอนางตื่นเต้นก็ไม่สามารถสงบใจลงได้

“ให้ข้าคิดดูก่อน”  เย่ว์หยางรู้สึกว่าเขาต้องการเวลาเพิ่มอีกเล็กน้อย

“ไม่มีเวลาเหลืออีกแล้ว เหลือเวลาอีกครึ่งวัน คำทำนายว่าตายของข้ายังคงมีผล เจ้าจะต้องตายแน่นอน!”  แพนดอรากรีดเสียงร้องตื่นตระหนก

“ได้โปรด, เจ้าทำไปครั้งหนึ่งแล้ว และไม่มีเหตุผลที่จะทำซ้ำอีกครั้ง” เย่ว์หยางยิ้ม  “เจ้าควรจะมองโลกในแง่ดีบ้าง  ควรจะคิดแบบนี้ว่า ยังมีเวลาอีกตั้งครึ่งวัน ไม่ใช่นาทีเดียวสักหน่อย  ยังจะต้องกลัวอะไรอีก  ตอนนี้ยังพอมีเวลาไตร่ตรองหาวิธีการ  ต่อให้เหลือเวลาหนึ่งนาที แต่นั่นก็คือเวลาหนึ่งนาทีเพื่อชีวิตไม่ใช่หรือ?”

“ข้าไม่ใช่คนมองโลกในแง่ดี!”  แพนดอราพยายามพูดอย่างจริงจัง แต่ในที่สุดก็ยิ้มทั้งน้ำตา

“การร้องไห้ไม่ใช่วิธีที่ฉลาด...”  เย่ว์หยางดึงผ้าเช็ดผ้าหน้าออกมาซับน้ำตาให้นางอย่างอ่อนโยน

“รีบๆ คิดเถอะ!”  แพนดอรารู้สึกสุขใจและพอใจมาก  นางสูญเสียบุคลิกเดิมของนาง อารมณ์แบบนี้ทำให้นางรู้สึกแปลก เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

“ก็ได้!”

เย่ว์หยางไตร่ตรองเกี่ยวกับเรื่องของแพนดอรา  และนางต้องการจะกระตุ้นเตือนเขาหลายครั้ง

แต่นางเกรงว่าจะไปรบกวนความคิดของเขา  ดังนั้นนางได้แต่รออย่างกระวนกระวาย

ในที่สุด เย่ว์หยางก็เปิดปากสอบถาม  “เจ้าจำเรื่องของเจ้าที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นได้บ้างไหม?  อดีตของเจ้า? เรื่องที่เกิดก่อนจะเสียร่างกายไป?  ไม่จำเป็นต้องมากก็ได้ แค่เศษเสี้ยวของความจำก็ยังดี!”

แพนดอราส่ายหน้า “ไม่, บางทีอาจจำได้บางอย่างตอนเผลอตัวควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่ตามปกติข้าจำอะไรก่อนหน้านั้นไม่ได้เลย”

เย่ว์หยางคาดไว้แล้วว่าคำตอบของนางจะเป็นเช่นนี้

ตราบใดที่นางโกรธ  แพนดอราจะฟื้นฟูความทรงจำครั้งเป็นเทพธิดาแห่งโชคร้าย  ปกตินางจะมีแต่ศีรษะที่ถูกผนึกความทรงจำไว้

เมื่อเห็นเย่ว์หยางเงียบ  ดวงตาของแพนดอรามีแววหดหู่

นางเริ่มเศร้า

นางไม่สามารถช่วยเขาได้แม้แต่สักเล็กน้อย

ด้วยอาการแบบนี้มีแต่ต้องดูเขาตาย และจะยิ่งน่ากลัวเมื่อถึงที่สุดแล้วเขาก็ยังฆ่าตัวตาย  ในอดีตแสนปีที่ผ่านมาระหว่างที่นางหลับสนิท และสุดท้ายนางได้พบบุรุษแปลกหน้าจนได้  ในครั้งแรกบางคนก็ทำให้หัวใจนางเต้นแรง “ครั้งแรก บางคนก็สามารถทำให้นางรู้สึกมีความสุข ครั้งแรกที่บางคนทำให้นางรู้สึกเศร้า ครั้งแรกที่บางคนทำให้นางอึดอัด... ครั้งแรกที่บางคนทำให้นางหัวเราะและร้องไห้  ครั้งแรกที่บางคนทำให้นางเกลียดและเสียใจ...

หรือว่านี่.. นี่คือความรัก?

หรือว่านี่คือสิ่งที่เป็นความรักความหลงใหลที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ แต่ต้องรับรู้ด้วยใจ

นางควรจะทำอย่างไรดี? นางควรจะทำอย่างไรเพื่อให้เขารอด? ตามคำทำนายมรณะ เขายังคงมีชีวิตอยู่ได้อีกสักพักหนึ่ง นี่เป็นการยืนยันว่าไม่มีอะไรผิด  เขาสามารถคงอยู่ได้ในหุบเขาราคะไม่มีใครสังหารเขาได้ ยกเว้นแต่ตัวนางเอง

เมื่อเป็นเช่นนี้

แพนดอราลอบตัดสินใจแน่วแน่

นางจะไม่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอีกต่อไป  แต่นางนางจะยิ้มเต็มหน้าเพื่อให้โลกเปลี่ยนสี  “ใช่แล้วยังมีเวลาอีกครึ่งวัน เราควรจะหวงแหนช่วงเวลานี้ไว้  เรามาคุยเรื่องความรักในช่วงเวลาที่ยังเหลืออยู่เถอะ!  บอกข้าได้ไหม คนรักกันต้องทำอะไรบ้าง? ข้าไม่มีร่างกาย เจ้าบอกว่าจะมีความรักกันก็ทำไม่ได้ นี่น่าเสียดายอยู่บ้าง แต่นั่นไม่สำคัญ  เราน่าจะทำอะไรอย่างอื่นได้”

“ใครบอกว่าคนรักกันจะต้องมีความรู้สึกทางร่างกาย? สตรีต้องรักนวลสงวนตัว!”  เย่ว์หยางสอนแพนดอรา “เมื่อแรกเริ่มรักกัน เจ้าก็แค่ให้จับมือถือแขนนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้น”

“แต่ข้าไม่มีอะไรต้องสงวนนะ!”  แพนดอราถอนหายใจ

“.....” เย่ว์หยางลืมจุดนี้

“งั้นบอกอีกที คนรักกันทำอะไรได้บ้าง!”  แพนดอราอึดอัดแต่ก็มีความสุข  ดวงตางดงามทอประกายละอายใจ

“มันน่าเบื่อจะตาย ข้าก็พอรู้เรื่องทั่วไปของคนรักกันเ  ปกติพวกเขาจะไปยังสถานที่นัดพบกัน เช่นสวนสาธารณะ หรือที่สงบคนไม่พลุกพล่าน อาจจะไปที่ภัตตาคารสั่งสเต็กอย่างดี หรือไปคาเฟ่สั่งกาแฟและเครื่องดื่มโปรดปรานมาดื่ม หลังจากนัดหมายสองสามครั้ง  พวกเขาจะนัดไปกินอาหารหรือไปดูหนัง หรือไปเต้นรำจนกระทั่งดึก แล้วค่อยเปิดบ้าน แต่นั่นก็ยังไม่ใช่รักแท้  เป็นแค่ระบายความต้องการทางร่างกาย!  เป็นสาวเป็นนางควรจะรักตัวเองไม่ควรปล่อยตัวเองไปตามความต้องการของอารมณ์ราคะ ไม่ปล่อยให้เขาเด็ดดมความรักของตนเองโดยง่าย เจ้าก็เห็นผู้แพ้ที่นี่ในหุบเขาราคะ ล้วนแต่ทำตามความใคร่ของตนเองทั้งนั้น” เย่ว์หยางให้สัญญาณมือ “เจ้ากับข้ายังไม่ใช่คนรัก  อาจกล่าวได้ว่าเป็นการคุยกันระหว่างสหาย  แน่นอนว่าไม่ต้องถือเอาเป็นสาระ บทเรียนที่ข้าสอนนี้ ข้าไม่คิดค่าปรึกษาก็แล้วกัน”  “ปกติเจ้าทำอะไรกับสตรีที่เจ้าชอบ?”  แพนดอราช่างสงสัย

เย่ว์หยางเหงื่อตก และเกือบพูดว่า เป็นเรื่องที่เด็กไม่สมควรรู้ และในที่สุดเขากระแอม “มีหลายอย่างให้ทำ อย่างเช่นค้นคว้าอักษรรูน ฝึกปรือด้วยกัน ปลูกต้นไม้ด้วยกัน อ่านหนังสือด้วยกัน ทดลองด้วยกัน ว่ายน้ำด้วยกัน โฮ่ย..เยอะแยะไปหมด...”  “งั้นมาลองทำกันเถอะ!” แพนดอรากระพริบตาข้างหนึ่งและกระตือรือร้นอยากจะลอง

“เฮ้, เรายังไม่ใช่คนรักกันนะ” เย่ว์หยางปฏิเสธ

“ไม่สำคัญ ยังไม่ใช่ตอนนี้ อาจจะเป็นในอนาคต  ลองทำดูก่อนเถอะ ไม่มีเวลาแล้ว”  แพนดอรารู้สึกว่านางต้องหวงแหนเวลาครึ่งวันนี้ไว้

“ทิ้งห้วงเวลาที่ประทับใจไว้ให้ข้าบ้างเถอะ!  บางทีข้าอาจตายไปแล้ว ไม่สำคัญว่าเจ้าจะคิดยังไง” เย่ว์หยางเกียจคร้านเกินกว่าจะคลั่งไคล้นาง แม้ว่าอาจจะตกอยู่ในดินแดนแห่งความตายก็ตาม  แต่ก็เป็นไปได้ว่าอาจเกิดใหม่อีกครั้งด้วยเพลิงอมฤต  แต่ ไม่ว่ากรณีใดก็ตามก็ต้องเขียนจดหมายสองสามฉบับถึงเสวี่ยอู๋เสียและแม่เสือสาว  ว่าเขาจำใจ! สิ่งที่เย่ว์หยางกังวลมากที่สุดไม่ใช่ความตาย แต่เป็นผนึกในหุบเขาราคะ จะกักเขาเอาไว้เหมือนกับแพนดอรา

เขาเรียกสาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ผู้อยู่ในคัมภีร์อัญเชิญออกมาดูแลเขา และเล่าเรื่องย่อให้นางฟัง

นางร้องไห้ และรู้สึกอ่อนแรงไปทั้งตัว

เขาวางเข็มทิศสามพิภพไว้ในมือของสาวใช้เอลฟ์ “กลับไปหาอู๋เสีย และขอให้นางไปพบจักรพรรดินีราตรี จื้อจุน อย่าร้องไห้  ข้ายังไม่ตาย แค่อาจจะถูกผนึกไว้ในที่แห่งนี้ รอให้ข้าค้นหาวิธีตายให้แพนดอราก่อนคลี่คลายความโกรธแค้นของนาง และแยกพลังโกรธแค้นออกจากพลังกฎสวรรค์ ก็อาจจากไปได้  โธ่..นี่เจ้าไม่ฟังข้าเลยหรือ? ต้องทำภาระให้สำเร็จ  เข้าใจไหม?  ภารกิจของเจ้าสำคัญต่อข้ามาก”  สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์ไม่ยอมเชื่อฟัง เอาแต่ร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนเย่ว์หยาง ร้องไห้แทบขาดใจ  “ให้ข้าน้อยได้ตายเพื่อท่านเถิด!  นายท่านไม่อาจอยู่ที่นี่ได้ ข้าน้อยไม่มีทางทิ้งนายท่านไป!  ถ้านายท่านตาย ข้าน้อยจะขออยู่ที่นี่ อยู่กับนายท่านตลอดไป!”

นางกลัวเย่ว์หยางจ้องตามอง

สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์เผชิญหน้าเขาอย่างกล้าหาญ  น้ำตานางก็เหมือนกับนาง  นางมักจะเชื่อฟังเสมอ  นางกำหมัดแน่นปฏิเสธจะเชื่อฟังและจากไป นางดื้อรั้นอย่างไม่เคยทำมาก่อน

“ข้าบอกแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร แค่ให้เจ้าไปส่งจดหมาย!”  สาวเอลฟ์ไม่ยอมฟัง “โธ่เอ๊ย, นี่จะให้ข้าบอกเจ้ากี่ครั้ง...”

“ข้าน้อยจะไม่ไป ข้าน้อยจะไม่ไป  อย่าขับไล่ข้าน้อยเลย  ไม่ว่านายท่านจะขับไล่ข้าน้อยยังไง ข้าน้อยก็จะไม่ไป เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป!”  แพนดอราตะลึงมองอยู่นาน นางรำพึงกับตนเอง  “นี่ หรือว่านี่คือความรัก?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด