ตอนที่แล้วตอนที่ 842 ด่านที่สี่ กลายเป็นหมากของศัตรู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 844 เจ้ามอบความรักให้ข้าได้ไหม?  

ตอนที่ 843 ทำนายว่าเจ้าจะต้องตายวันนี้


ความโกรธบ้าคลั่งในการไล่ล่าภาพลวงตาอย่างเอาเป็นเอาตายนั้นคล้ายกับภาพลวงตาของประตูเป็นตาย เมื่อจิตสำนึกยอมรับร่างกายก็ได้รับความเสียหายไปด้วยเช่นกัน

ไม่ใช่แค่เพียงเท่านั้น หายนะนี้เป็นเพราะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของกฎราคะ

ในที่สุด เมื่อถลำลึกลงไป ก็ยากจะตื่นขึ้นได้

แม้ว่ารองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้จะมีพลังที่แข็งแกร่งน่าเกรงขาม แต่ผลลัพธ์ที่เขาได้รับต้องบอกกล่าวว่าไม่สามารถหลุดพ้นไปได้

ภาพลวงตายังคงดำเนินต่อไป เพื่อให้ได้สตรีมากขึ้นและอภิรมย์กับพวกนางมากยิ่งขึ้น และเพื่อให้ได้สมบัติสูงสุดให้ได้อยู่เหนือผู้คนนับไม่ถ้วน รองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้ต่อสู้ทั้งวันทั้งคืน

กลางวันเป็นเทพนักรบพิชิตศัตรูชิงสตรีให้ได้มากขึ้น

ในเวลากลางคืนเขาเป็นนักรักที่ไม่เคยหยุดพัก

กลางวันศึกรบ กลางคืนศึกรัก ไม่ทำให้รองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้รู้สึกเหนื่อยแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้ามเขากลับเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ  ถ้าไม่ใช่เพราะในใจของเขายังมีความคิดจะแยกออกเดินทางอยู่เล็กน้อย เขายินดีที่จะอยู่ที่นี่ตลอดไป  ศัตรูทั้งหมดที่นี่ล้วนอ่อนแอ แม้จะมีศัตรูที่ทรงพลังอยู่หลายคน แต่ไม่สามารถคุกคามชีวิตของเขาได้ ทำให้เขาแค่ต้องคอยระวังหลังปกป้องสตรีของเขาไม่ให้ถูกจู่โจม  ยิ่งมีผู้ยอมรับความพ่ายแพ้และเทิดทูนบูชาเขา สตรีของเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เป้าหมายก็คือเพื่อให้ได้รับผู้สืบสายเลือดที่โดดเด่น

อยู่ข้างนอกหุบเขารองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้ เป็นแค่รองเจ้าตำหนักคนหนึ่ง

แต่อยู่ที่นี่,  เขาเป็นจักรพรรดิ!

จักรพรรดิที่ไม่มีใครอาจเอื้อมถึง

มีนางสนมมากกว่าพันนางอยู่ในวัง  แต่ไม่มีนางใดทำให้เขาเหน็ดเหนื่อยได้สตรีทุกคนทำให้เขามีความสุขอย่างหาที่เปรียบมิได้  รองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้ชอบชีวิตเช่นนั้น แม้ว่าท้ายที่สุดจะต้องจากไป  แต่เขาตัดสินใจเป็นจ้าวอยู่ที่หุบเขาราคะ และจะเอาชนะได้รับรางวัลนำพาทุกคนออกไป  ก่อนหน้านั้นเขาจะไม่คิดอะไรอื่น

รองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้ไม่รู้ว่ายังมีอีกคนหนึ่งคอยสังเกตดูเขาอยู่เงียบๆ

เขาไม่รู้ว่าเย่ว์หยางใช้เขาเป็นกระจกเพื่ออธิบายหลักการของหุบเขาราคะอย่างไม่หยุดยั้ง

เขาเพียงแต่ดำรงชีวิตอยู่ในโลกลวงตาที่เขาเห็น

ในโลกลวงตานี้ เขากำจัดมนุษย์ครึ่งม้านับไม่ถ้วน ฆ่ามังกรดำที่น่ากลัวด้วยตนเอง แม้กระทั่งเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง

ในโลกของเซิ่นตู้เวลาผ่านไปสิบปี

ภายใต้บริวารผู้ภักดีและยอมสู้ถวายชีวิตมีมากกว่าแสนนาย นางสนมในตำหนักมีมากกว่าหมื่นคน

แต่ละนางมีความงามที่โดดเด่น

แต่ละนางมีความสามารถโดดเด่นในทุกคืนสามารถปรนนิบัติจนเขาได้รับความสุขสุดยอด

อย่างไรก็ตาม เวลาในโลกของเย่ว์หยาง พื้นที่ซึ่งเย่ว์หยางอยู่เวลาผ่านไปเพียงสองวันกว่า ไม่ถึงสามวัน... สิ่งที่เหมือนเดิมก็คือเซิ่นตู้ยังคงระบายอารมณ์รักอย่างบ้าคลั่ง

ภายใต้กฎแห่งราคะ รองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้ใช้พลังร่างกายไปด้วยระดับความเร็วที่น่าทึ่ง

การสูญเสียนี้ เป็นความพอใจเป็นสำนึกที่ผิดพลาด และส่งเสริมให้เซิ่นตู้ใช้พลังเพิ่มมากขึ้นไปอีกโดยไม่เก็บรั้งสำรองไว้

“ท่านจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่  ท่านคือผู้ที่ข้าราชบริพารทั้งชายและหญิงเทิดทูนอย่างที่สุด  เราห่างจากการเข้าถึงระดับขั้นสุดท้ายเพียงสองขั้นเท่านั้น”  หญิงสาวที่เขาช่วยไว้คนแรกกลายเป็นสนมคนโปรดของรองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้ นางคือแหล่งแห่งความสุขของเขา  เกือบทุกคืนนางจะสนองตอบความรักของเขาทุกท่วงท่าทำให้เขามีความสุข  สิ่งที่นางบอกจะทำให้เอาชนะฝ่ายตรงข้ามผู้แข็งแกร่งสองคนสุดท้าย ถือเป็นคู่ต่อกรสำคัญของเซิ่นตู้ และเป็นผู้อาวุโสที่เข้ามาก่อนเซิ่นตู้ นั่นคือ ‘อั่นชาน’ กับ ‘เยี่ยนหัว’

“ถูกแล้ว แม้ว่าครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเป็นสหายของเราจักรพรรดิ แต่พวกเขากำลังสร้างความเป็นพันธมิตรกับคนอื่น ถือว่าไม่ซื่อสัตย์และคอยตามกวนใจถือมีดฟันเราลับหลัง  ครั้งนี้เราจักรพรรดิจะไม่อดทนกับพวกเขาอีกต่อไป การทำลายสัญญาพันธมิตรเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้  ผู้ชนะสุดท้ายมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น นั่นคือเราจักรพรรดิ!  พวกเขาไม่คำนึงถึงมิตรภาพเก่าในอดีตก็อย่าได้โทษว่าเราจักรพรรดิโหดร้ายไร้น้ำใจ ประวัติศาสตร์และเกียรติยศจะถูกจารึกไว้เพื่อผู้ชนะตลอดไป!”  รองเจ้าตำหนักที่เคยเป็นมิตรสหายกับอั่นชานและเยี่ยนหัวมาก่อน ได้เอาชนะฝ่ายตรงข้ามมามากมาย  เมื่อเขาเผชิญหน้ากัน ในฐานะจักรพรรดิ เขาจะฆ่ามิตรสหายเก่าได้โดยไม่ลังเล

“ฝ่าบาท..มีปรีชาญาณยิ่งนัก เราเหล่าข้าราชบริพารจะติดตามฝ่าบาทตลอดไป”  หญิงสาวผู้ภักดีมีความกังวล  “ฝ่าบาทไร้เทียมทาน  ถ้าทำสงครามกับฝ่ายตรงข้ามสองคน  ถ้าฝ่าบาทสามารถดูดซับพลังงานได้มากขึ้น นั่นจะทำให้บรรลุความสำเร็จได้เต็มร้อยแน่นอน”

“เข้าใจแล้ว  ข้าจะใช้พลังลับนั่น”

พลังลับที่รองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้กล่าวก็คือบูชายัญด้วยการแสดงความรักสังวาสต่อหน้าเทพเจ้าจากนั้นรับเอาพลังวิเศษ

ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็คือทำให้เทพพอใจ

ก็จะได้ทุกอย่างที่ต้องการ

เย่ว์หยางมองด้วยตาทิพย์จากระยะไกลทราบว่า ทุกอย่างนั้นไม่มีอยู่จริง

แม้แต่สองผู้อาวุโสอั่นชาน และเยี่ยนหัวก็ตายไปนานแล้ว และวิญญาณของพวกเขายังติดอยู่ในหุบเขาราคะกลายเป็นหนึ่งในคำสาปที่เกลียดชัง

ในโลกลวงตาของรองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้  เทพีในร่างเปลือยที่มาถึงงดงามจนไม่มีคำบรรยาย  ทำให้รองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้และสาวๆ ในฮาเร็มตื่นเต้นแทบคลั่ง  เทพเทวีถามว่าเขายินดีจะทำทุกอย่างเพื่อเทพหรือไม่?  และเจ้าตำหนักเซิ่นตู้ตอบตกลงทุกอย่างโดยไม่ยั้งคิด

การโรมรันก็เริ่มขึ้น

ระหว่างที่รองเจ้าตำหนักมีความสุขอย่างยิ่ง วิญญาณของเขาลอยละล่องออกจากร่างไปอยู่กับดวงวิญญาณผู้พ่ายแพ้นับไม่ถ้วน ภูมิปัญญาถูกทำลายล้าง เหลือแต่เพียงสัญชาตญาณจมอยู่กับความเจ็บปวดตลอดไป

หลังจากล้มเหลวในการใช้ม่านพลังป้องกัน พลังกฎสวรรค์จึงทำงานได้ทันที

ตามทัณฑ์ทรมาน ร่างของรองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้กลายเป็นยักษ์ศิลาขนาดใหญ่  ก่อนที่เขาจะตายเขาคิดว่ารูปสลักหินนับพัน นอกจากเขาแล้วยังมีผู้อาวุโสตำหนักสองคนที่เข้ามาก่อนเขารวมอยู่ด้วย   ต้นไม้ก็มีลักษณะเหมือนกัน  พวกเขาตายอยู่ในภาพลวงตาเดียวกัน ตายเพราะความหมกมุ่นในราคะอย่างไม่มีวันตื่น!

ถ้ารองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้สามารถรับมือสถานการณ์ที่น่ากลัวทั้งหมดด้วยความสุขุมไม่ประมาท ทั้งที่เขามีความแข็งแกร่งมากมายอยู่แล้ว  เขาคงไม่เดินเข้าสู่จุดจบอย่างนี้แน่นอน

น่าเสียดายเขาคือเซิ่นตู้  แต่พฤติกรรมของเขาไม่สมกับชื่อตัวของเขาเลย

เย่ว์หยางสามารถมองเห็นกระบวนการทั้งหมดได้

จนกระทั่งรองเจ้าตำหนักเซิ่นตู้เปลี่ยนไปเป็นรูปปั้นหินยักษ์ทั้งตัว เขาจึงค่อยๆ ลุกขึ้นยืน

เขาไม่เคยสับสนกับภาพมายา  ไม่ต้องดิ้นรนกับสิ่งยั่วยวน แค่เดินก้าวเท้าผ่านรูปสลักหินยักษ์ที่เกิดจากร่างของผู้แพ้ไปจนกระทั่งถึงท้ายหุบเขาราคะ สามารถผ่านด่านหุบเขาราคะ และเขาสามารถไปจากหุบเขาราคะได้

อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางผู้เข้าใจสนามพลังสร้างโลกในประตูเป็นตายไม่ยินดีจะจากไป  ในหุบเขาราคะ เขารู้สึกว่ามีพลังตกค้างที่กล้าแกร่งนอกจากกฎแห่งราคะค้างอยู่  แม้แต่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีผู้มากประสบการณ์ก็ยังไม่เข้าใจ  เพราะในเวลานั้นนางพญาเฟ่ยเหวินหลีอยู่ในช่วงเร่งรีบจึงไม่ได้คิดไตร่ตรอง เร่งรีบจนถึงท้ายหุบเขาและผ่านด่านหุบเขาที่วุ่นวายนี้ไปได้

นางบอกเขาว่าตราบใดที่ไปถึงที่สุดท้ายหุบเขาจะใช้หยดน้ำตาหรือเลือดบริสุทธิ์ก็จะผ่านด่านที่สี่หุบเขาราคะได้สำเร็จ

เย่ว์หยางรู้คำตอบทั้งหมดแล้ว

แต่เขายังไม่พอใจ

เขาหวังจะสังเกตด้วยตาตนเองและใช้ตัวหมาก(เซิ่นตู้) เพื่อค้นหาความจริงของพลังเกลียดชังที่แฝงอยู่ในหุบเขาราคะ

“ในท้ายหุบเขามีตุ๊กตาหินที่แตกหักอยู่สองตัวซึ่งเหมือนกับรูปสลักหินที่ปากทางเข้ามาก  ตุ๊กตาหินทั้งสองตัวแรกเป็นบุรุษ หยดเลือดลงบนฝ่ามือของตุ๊กตาบุรุษ หยดน้ำตาลงบนฝ่ามือของตุ๊กตาหินอีกตัวหนึ่ง ผลทั้งสองดูเหมือนจะเหมือนกัน ข้ามัวแต่ตั้งใจจะผ่านหุบเขาราคะไปให้ได้  หากเจ้าไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้าในการผ่านหุบเขาราคะไปให้ได้  ชีวิตสตรีมากมายที่นี่คือผู้ที่พ่ายแพ้และวนเวียนกลับมาเกิด  กล่าวกันว่าตราบเท่าที่ได้รับความรักจากสตรีเหล่านี้ ก็จะสามารถผ่านด่านไปได้  แต่จะไม่มีอะไรรับประกันได้เลย  เจ้ายังต้องเตรียมตัวให้ดี!”  นี่คือประสบการณ์การผ่านด่านหุบเขาราคะของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี

“น้ำตาและเลือด ข้ามีแล้ว” เย่ว์หยางแบมือและพึมพำกับตัวเองอย่างไม่ตั้งใจ  “แต่พลังเกลียดชังที่ยังตกค้างอยู่นี้คืออะไรกันแน่?”

“เจ้ารู้สึกได้ถึงพลังเกลียดชังที่ตกค้างอยู่หรือ?”

มีเสียงเหมือนดังมาจากสวรรค์ ดังขึ้นด้านหลังของเย่ว์หยาง

วิญญาณของเย่ว์หยางเหมือนถูกสายฟ้าฟาด  เขาสะดุ้งตกใจ

เขาไม่รู้สึกว่ามีคนอยู่ด้านหลังของเขา

นี่ นี่ไม่น่าเป็นไปได้...ภายใต้การปกป้องของสนามพลังสร้างโลก และยังมีพลังตาทิพย์ ต่อให้เป็นเทพเจ้า เป็นไปไม่ได้ที่จะมากลั่นแกล้งอยู่ข้างหลังของเขาโดยที่ตัวเขามิได้สังเกต  อย่าว่าแต่รอบๆ ตัวเขาเองมีพลังกฎสวรรค์น้อยแฝงอยู่ และภายในระยะร้อยเมตรไม่น่าจะมีคนอื่นเข้ามาได้

ทำไมกัน?

ใครทำเช่นนี้ได้?

เย่ว์หยางแผ่ปณิธานปราณราชันย์ทันที สงบจิตใจมิให้ปั่นป่วน

นั่นเป็นสตรีผู้งดงามจนสุดจะพรรณนาคนหนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับเทพธิดาที่เซิ่นตู้พบเห็นก่อนนั้น เหมือนกับเอาหิ่งห้อยไปประชันแสงกับพระจันทร์

น่าเสียดายที่สตรีผู้นี้มีแต่เพียงศีรษะ

ส่วนร่างกายตั้งแต่คอลงไปไม่ทราบถูกตัดไปอยู่ที่ไหน

ถึงอย่างนั้นใบหน้าของนางก็งดงามน่าลุ่มหลง แม้เย่ว์หยางจะควบคุมสติด้วยพลังปณิธานราชันย์ไว้ แต่ก็ยังอดรู้สึกปั่นป่วนใจเล็กน้อยมิได้ หากมิใช่เพราะพลังจื้อจุน พลังนางพญาเฟ่ยเหวินหลีและโลกพฤกษา แนวทางหลายอย่างของสุดยอดนักสู้โบราณ ทำให้เย่ว์หยางเข้าใจขอบเขตพลังเทพและสำเร็จปณิธานราชันย์ได้สมบูรณ์  เขาคงมิอาจต้านทานเสน่ห์ของฝ่ายตรงข้ามได้

นี่เห็นแค่เพียงศีรษะเท่านั้น

ถ้านางมีร่างกาย เย่ว์หยางรู้สึกว่าปณิธานราชันย์ของเขาก็อาจต้านนางไม่อยู่!

น่ากลัวจริงๆ!

เย่ว์หยางไม่เคยคิดว่าจะพบกับสาวที่งดงามในระดับที่น่ากลัว!  งามลักษณะนี้เรียกว่างามล่มเมืองเป็นพิษที่ร้ายแรงที่สุดของบุรุษทุกคน  เขาเชื่อว่าบุรุษทุกคนคงประเคนทุกอย่างในโลกและยินดีสยบอยู่ใต้ชายกระโปรงของนาง

“เจ้ากลัวข้าด้วยหรือ?”  สตรีงามนั้นยิ้ม รอยยิ้มของนางทำให้โลกเปลี่ยนสีได้ทันที

“อา..เจ้าคือแหล่งของพลังเกลียดชังนี่เอง!”  ในใจของเย่ว์ยาง เขารู้สึกถึงการมีอยู่ของอีกฝ่ายอย่างคาดไม่ถึง  ปณิธานปราณราชันย์ของเขาสั่นสะท้านทันทีและตกใจ “ไม่, เจ้าคือแหล่งพลังงานทั้งหมดของหุบเขาราคะ  มิน่าเล่าข้าถึงไม่รู้สึกถึงความคงอยู่ของเจ้าก่อนนั้น เจ้าคือกฎแห่งหุบเขาราคะ.. ไม่ กฎแห่งหุบเขาราคะทั้งหมดไม่ใช่กฎแห่งราคะ ความคงอยู่ของสิ่งนี้มีเพื่อผนึกเจ้าเอาไว้  แต่เจ้ากลับหลอมรวมเข้ากับกฎแห่งราคะ, พระเจ้า, เจ้าคือใครกันแน่?”

“ข้าคือแพนดอรา ข้าตายมาแสนปีแล้ว  ข้าจำอดีตไม่ได้  มีแต่ความเกลียดชังที่ไม่รู้จักหมดสิ้น”  หญิงงามยิ้มแล้วถาม  “เจ้าพอใจกับคำตอบนี้ไหม? อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนข้าเกิดมาเพื่อทำนายความตาย  เจ้าอยากรู้ไหมว่าเจ้าจะตายเมื่อไหร่? โอว.. ดูเหมือนจะเป็นวันนี้สินะ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด