ตอนที่แล้วตอนที่ 840 เรือรบในตำนาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 842 อาจารย์ลั่วซือ

ตอนที่ 841 สุสานเรือรบ


ถ้ามีใครบอกว่าก่อนหน้านี้แฟรงค์ยังมีความกังวลเต็มที่เกี่ยวกับทางเลือก  แล้วตอนนี้....

ถูกแล้วต่อให้เป็นแฟรงค์ไม่สามารถอธิบายถึงอารมณ์ของเขาเองได้เนื่องจากเขาอยู่ในอาการตกใจ

‘โจรทวีปทองเป็นบริวารของนายท่าน!’

‘โจรทวีปทองที่เพิ่งทำลายกองพลกลางวัน, เป็นบริวารของนายท่าน!’

เป็นครั้งแรกที่แฟรงค์รู้สึกเหมือนกับว่าเขามีชีวิตอย่างไม่ได้อะไร,ไม่ต้องคิดเปรียบเทียบระหว่างตัวเขาเองกับนายท่าน นายท่านเป็นอัจฉริยะ และแฟรงค์เชื่อว่านายท่านแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป

และเขาเริ่มสงสัยกับสายตามองการณ์ไกลของเขาเอง

แฟรงค์มักจะมั่นใจในสายตาตนเองอยู่เสมอ ภูมิปัญญาที่สั่งสมมาหลายปีและประสบการณ์มากมายของเขาทำให้เขามีสายตาที่เฉียบคม  และเป็นเขาที่รับผิดชอบมากที่สุด แต่การต้องเจ็บตัวจากการพ่ายแพ้กับส่วนที่เขาต้องรับผิดชอบมากที่สุด  สำหรับต่อเจ้านายเป็นบางครั้ง  ไม่ว่าความรู้สึกตัดสินใจที่ไม่ดีหรือว่าเป็นสิ่งที่เขาคาดหมายแท้จริง

เป็นครั้งแรกที่แฟรงก์รู้สึกว่าเขาไม่สามารถเข้าใจได้อย่างแท้จริงไม่เคยมีใครรู้ว่าเขามีไพ่เด็ดอยู่มากมายเท่าใดและทุกครั้งเมื่อใครคิดว่าพวกเขามองเห็นไพ่ทีเด็ดของท่านแล้ว ไม่นานต่อมาเขาก็ต้องตระหนักว่าเขาคิดตื้นและโง่เพียงไหน

แฟรงค์ดึงสติกลับมาไว้กับตัวเอง หลังจากเขาเองตกใจอยู่นาน

‘ข้าดีใจที่การตัดสินใจของข้าไม่ผิด’  นั่นคือความยินดียิ่งใหญ่ของแฟรงค์ ‘พลังที่นายท่านแสดงออกไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน’  แฟรงค์พอสงบใจได้ก็สามารถคิดได้

‘หรือว่านายท่านมาจากทวีปทอง?’

นั่นเป็นกระบวนคิดที่เป็นธรรมชาติอย่างไม่ต้องสงสัย  โจรทวีปทองมีจำนวนเกินหมื่น  และใช้อาวุธจักรกลนั่นไม่ใช่สิ่งที่องค์กรอื่นสามารถทำได้

สำหรับทวีปกวงหมิงเป็นพวกต่างถิ่นประเทศแน่นอน  ทวีปทองตั้งอยู่ในทิศตะวันออก  และทวีปกวงหมิงอยู่ทางทิศตะวันตกด้วยระยะที่ไกลกันเป็นแสนลี้ ขณะที่ทวีปทุ่งขาวซึ่งอยู่ไกลไปทางทิศตะวันตกในทวีปกวงหมิงเป็นที่ซึ่งไกลจากทวีปทองมาก

ความเข้าใจของพวกเขาที่มีต่อทวีปทองหยุดความรู้ไว้ที่ว่าทวีปทองเป็นทวีปที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกและเป็นจ้าวปกครองที่นั่น

สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกสนใจก็คือหุ่นจักรกลวิญญาณของทวีปทอง  หุ่นจักรกลวิญญาณเป็นธรรมเนียมอย่างหนึ่งของทวีปทอง  และด้วยประวัติศาสตร์เกินหมื่นปีเป็นระบบที่แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง อาจกล่าวได้ว่าวิชาฝีมือที่นักสู้ทวีปทองใช้ฝึกมาแตกต่างจากทวีปกวงหมิง เนื่องจากพวกเขาจำเป็นต้องใช้เวลานานเพื่อควบคุมหุ่นวิญญาณ

‘ถ้านายท่านมาจากทวีปทอง...’

เมื่อคิดออกมาอย่างนั้นเขาไม่รู้จะทำอย่างไร แฟรงค์ไม่สนใจความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นมิตรกับทวีปกวงหมิงแล้วเนื่องจากเขาไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อทวีปกวงหมิง

สำหรับโลกภายนอกทวีปกวงหมิงมีความเป็นเอกภาพและทรงอำนาจ  จากเบื้องสูงลงมาข้างล่างทุกคนคือองค์กรที่เข้มงวดทั้งหมด แต่การผนวกรวมทวีปต่างๆในภูมิภาคตะวันตกของทวีปกวงหมิงกระทำการอย่างรวดเร็วมาก แค่เพียงสองสามร้อยปีเทียบกับประวัติศาสตร์ยาวนานเกินหมื่นปี ทวีปกวงหมิงคือเจ้าปกครองใหม่  ขณะที่ราชตระกูลของทวีปต่างและตระกูลชั้นสูงพวกเขาถูกโยนเข้าแดนบาปกันหมด แต่ทวีปต่างๆ ทั้งหมดยังมีความรู้สึกไม่ดีต่อการควบรวมนี้ เพียงแต่ว่าทวีปกวงหมิงเน้นการกดดันทางการเมืองต่อทวีปทั้งหลายทำให้พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้  มีแต่ต้องทนเก็บความโกรธไว้ในใจ

ไม่ต้องสงสัยความแข็งแกร่งของทวีปกวงหมิง  แต่กับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเป็นนามธรรมก็ยังช่วยอะไรไม่ได้ในบางแง่มุม

แฟรงค์เป็นหนึ่งในกรณีตัวอย่าง แผ่นดินของพวกเขาถูกพิชิต  พวกเขาไร้พลังต่อต้านและสูญเสียความเชื่อมั่น  พวกเขาไม่กล้ากบฏต่อทวีปกวงหมิง แต่ความโกรธและความเกลียดในหัวใจพวกเขาไม่เคยคลี่คลาย  ทวีปกวงหมิงยังคงเข้าใจจุดนี้นั่นคือเหตุผลที่ผลประโยชน์ของทวีปกวงหมิงมักจะมอบให้พวกอย่างกลุ่มพ่อค้าตะวันตกเป็นผู้อยู่ใต้พวกเขาไม่ใช่กลุ่มการค้าเมซฟิลด์

สำหรับแฟรงค์ความสนใจของตระกูลมักจะถูกจัดไว้สูงกว่าทวีปกวงหมิง ถ้าพวกเขาต้องไปจากทวีปกวงหมิงและไปทวีปทองจะปล่อยให้ตระกูลของพวกเขาขยายออกไปได้หรือไม่?

เบื้องหลังนายท่านเป็นกองกำลังที่ทรงพลังและยิ่งใหญ่มหึมาและมีแนวโน้มว่าจะเป็นหนึ่งในตระกูลระดับสูงของทวีปทอง แฟรงค์ยังเชื่อว่าพลังของนายท่านเป็นแค่เพียงปลายยอดภูเขาน้ำแข็ง

แฟรงค์ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น

ก่อนนี้, เขาตัดสินใจร่วมกับถังเทียนเพราะพลังของถังเทียนและกองพลเกราะเทพเจ้า ถ้ากลุ่มการค้าเมซฟิลด์มีกองทัพระดับสูงเคยปกป้องพวกเขาก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก และเพราะกองทัพระดับสุดยอดนี้มีองค์กรใหญ่อยู่เบื้องหลังพวกเขา  พลังของมันก็เพิ่ม 10 ถึง 100 เท่า นั่นคือสิ่งที่ไกลเกินกว่าเขาจินตนาการ

เป็นระดับที่แตกต่างสิ้นเชิง

เป็นอนาคตที่แตกต่างสำหรับพวกเขา

แฟรงค์กลายเป็นตื่นเต้นกระตือรือร้นมากขึ้น

สุสานเรือรบอยู่ในที่รกร้างมากดังนั้นกองเรือของกลุ่มการค้าเมซฟิลด์จึงออกไปโดยเร็ว  กองพลเกราะเทพเจ้าไม่เดินทางด้านนอกอีก  แต่เข้ามาฝึกฝนในเรือ

ประโยชน์ที่พวกเขาได้รับจากการสู้รบมีมากยิ่งกว่าตอนที่พวกเขาฝึก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากกองพลเกราะเทพเจ้ามีรากฐานลึกซึ้งอยู่แล้วและเพียงแต่ต้องการปรับตัวเท่านั้น

ถังเทียนและคนที่เหลือฟังแฟรงค์คุยด้วยความสนใจ

“ทวีปกวงหมิงมีสุสานเรือรบมากกว่าสิบแห่งและเกือบทั้งหมดที่มีอยู่ในภูมิภาคตะวันตก ก็มีแปดแห่งแล้ว  เนื่องมันตั้งอยู่ในที่รกร้างประชากรเบาบางพวกเขาจึงหาที่สร้างสุสานเรือรบได้ง่าย และหลังจากถอดอุปกรณ์ที่มีค่าบางอย่างออกไปเรือเหล่านั้นจะถูกโยนเข้าสุสาน

“นั่นเสียของจริงๆโยนเรือใหญ่ทิ้ง” ถังเทียนพูดอย่างมีอารมณ์

เขาไม่ลืมความขมขื่นที่เขาต้องดิ้นรนมีชีวิตในอดีต ที่ซึ่งเขาต้องยอมบากหน้าเพื่อให้ได้เงินสองสามพันดอลลาร์  จอมเกเรถังเคยยากจนมาก่อนเช่นกัน และรู้ว่าความลำบากเป็นเช่นไรและเขาจะไม่มีทางยอมเสียทรัพยากรอย่างนั้นเป็นแน่!

สิ่งเขาไม่อาจทนได้มากไปกว่านั้นก็คือจอมเกเรถังไม่สามารถเสียสิ่งเหล่านั้นได้!

ถังเทียนคงไม่มีทางโยนของแบบนั้นทิ้งแน่  และไม่ใช่เขาที่จะทำอย่างนั้น

‘แค่รอข้า,รอข้าอยู่ที่นั่นแหละ’ บุรุษหนุ่มพึมพำอย่างหงุดหงิดในใจเขา

“เรือรบทั้งหมดเหล่านี้โดยพื้นฐานสร้างขึ้นใช้จนตลอดอายุขัยของมัน  และเป็นการไม่คุ้มค่ามาก ทั้งยังต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก  มันแตกต่างจากอดีตวัสดุสำหรับทำเรือรบผ่านการคัดแยกไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีกและไม่สามารถเพิ่มมูลค่าได้แต่อย่างใด อาวุธของมันได้รับความเสียหายอย่างหนักและยังมีความก้าวหน้าในวิทยาการจึงไม่มีใครต้องการมัน  อาวุธอย่างนั้นใช้เพื่อรักษาชีวิตพวกเขาจึงเป็นธรรมดาที่ต้องซื้อของดีมากมาใช้” แฟรงค์อธิบาย

ทุกคนพยักหน้า แฟรงค์พูดถูก  ทุกคนล้วนเป็นนักสู้ตราบใดที่เกี่ยวข้องถึงชีวิต พวกเขาคงไม่มีทางตระหนี่อาวุธอย่างนั้นได้

เมื่อแฟรงค์ยังอายุน้อย  เขาท่องโลกและหาประสบการณ์ด้วยตนเอง  เขาเองก็ช่างเจรจาและได้ของที่น่าสนใจทุกอย่างดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงไม่เครียดและน่าเบื่อแม้แต่น้อย

สองวันต่อมาพวกเขาก็มาถึงสุสานเรือรบที่แฟรงค์พูดถึง

ถังเทียนและพวกตกใจกับสิ่งที่พวกเขาเห็น

กองซากเรือรบอัปปางเป็นภูเขาเลากา  กองเหล่านั้นถูกรวมกันไว้ชิดติดกันกินพื้นที่เกินกว่า10 ลี้มีสีเทาทั้งหมด ไม่มีสีสันอย่างอื่นในที่นั้น มันคือสุสานสีเทา บ้านของเรือรบ มีเรือรบขนาดต่างๆมีร่องรอยการรบและเสียหาย และมีหลายลำผุพังและทรุดโทรมมาก ใยแมงมุมมองเห็นได้อยู่ทั่วทุกที่ และมองเห็นสัตว์ป่าปรากฏเป็นระยะ

ที่นี่มีเรือรบอยู่กี่ลำ?  ไม่มีใครรู้

เมื่อเผชิญหน้ากับโลกสีเทาข้างหน้า  ทำให้ทุกคนรู้สึกลึกๆถึงความแข็งแกร่งของทวีปกวงหมิงเป็นครั้งแรก

เพียงแต่หลังจากผ่านไปขณะหนึ่งทุกคนก็รู้สึกตัว  แต่ทุกคนมีแววนับถืออยู่บนใบหน้า เรือรบที่ทรุดโทรมถูกซ้อนกองกันเหมือนกระดูก  เรือรบทุกลำเสียหายอย่างหนักเห็นได้ชัดว่าผ่านไฟสงครามมาแล้ว

พวกมันเหมือนทหารผ่านศึกที่แก่กำลังหลับอย่างเงียบงัน

อดีตที่รุ่งเรืองของพวกมันไม่อาจมองเห็นได้อีกต่อไปภายใต้แสงอาทิตย์  เสียงลมพัดหวีดหวิวไม่ได้นำมาซึ่งเสียงกึกก้องคำรามที่ทำให้ศัตรูของพวกเขาครั่นคร้าม

หลายปีผ่านไปได้พรากเอาสหายของพวกมันไป  และยังทำให้พวกมันเอายุเก่าแก่ยิ่งขั้น พวกมันหลับใหลอยู่ที่นี่อย่างเงียบงันผ่านกาลเวลาไปอย่างช้าๆ

ไม่ต้องต้องคำนึงถึงจุดยืนของพวกมันเมื่ออยู่ต่อหน้าทหารผ่านศึกที่หลับใหลทุกคนจริงจังและนับถือ

ถังเทียนไม่มีการหัวเราะเหมือนอย่างปกติทำให้เขาคิดถึงปิงและกองทัพดาวกางเขนใต้ เขาคิดถึงตนเอง คิดถึงกลุ่มดาวหมีใหญ่และสัมพันธมิตรใต้

พวกเขาไม่เคยยอมแพ้และต่อสู้เคียงข้างกันเพื่อป้องกันความฝันของพวกเขา

พวกเขาเดินไปตามเส้นทางของบรรพบุรุษของพวกเขาในเปลวเพลิงสงครามและดาบท่ามกลางเสียงร้องคำรามของเรือรบ พวกเขาต่อสู้เคียงข้างกัน

กาลเวลาผ่านไป พวกมันเก่าแก่เช่นกันและพวกมันก็ต้องจากไปด้วยเช่นกัน เดี๋ยวนี้มนุษย์ยังจะจำพวกมันได้หรือ

ถังเทียนหัวเราะทันที ดวงตาของเขากระจ่างสดใส

‘แม้แต่ชื่อของพวกมันก็เลือนหายไปในประวัติศาสตร์ แม้ว่าพวกมันจะไม่ประสบความสำเร็จในการดำเนินการใด  แต่ทุกคนก็ต่อสู้เคียงข้างกันและเราสามารถพิสูจน์ได้  อารมณ์ทั้งหมดของเราเป็นจริงจัง  และความฝันของเราก็อยู่ในใจจะติดตามทุกคนไปตลอดเวลาที่เหลือของเรา

‘’มีชีวิตเพียงหนึ่งเดียวก็พอแล้ว มีชีวิตเป็นอมตะเกี่ยวอะไรกับข้า?’

ถังเทียนสูดหายใจลึก  ทันใดนั้นขาคำนับให้กับเรือเก่านับไม่ถัวน

กองพลเกราะเทพเจ้าด้านหลังเขาโค้งตัวคำนับกันทุกคน

เมลิซซาตกใจการกระทำของพวกเขาและหลุดคำพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว “พวกท่านเป็นโจรไม่ใช่หรือ? พวกท่านเป็นศัตรูกับพวกมันไม่ใช่หรือ?”

“ใช่”ถังเทียนพูดโดยไม่หันหลัง “ผิดด้วยหรือที่ข้าจะให้เกียรติศัตรู?”

เมลิซซาพูดไม่ออก

ซือหม่าเซี่ยวรู้สึกจมอยู่ในความคิดที่ลึกเขามองดูถังเทียนอย่างลึกซึ้งและในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมถังเทียนถึงสร้างปาฏิหาริย์ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า

แฟรงค์มีท่าทีชื่นชม และพูด“นายท่านแบกภาระมากกว่าคนธรรมดา โจรจะทำแบบนั้นได้ยังไง?”

ถังเทียนหันไปจ้องมองชายชราอยู่นาน

แฟรงค์รู้สึกว่าเจ้านายตรวจจับกลิ่นอายความหมายพื้นฐานของเขา

“ท่านกำลังดูถูกพวกโจรหรือ?”  ถังเทียนมองดูชายชราอย่างแข็งกร้าว  แม้ว่าเขาจะเป็นโจรคนหนึ่งในช่วงเวลาสั้นๆ  แต่เขาก็ยังปกป้องศักดิ์ศรีของอาชีพ

แฟรงค์ตกใจ

เมื่อเห็นเช่นนั้นซือหม่าเซี่ยวไม่อาจทนต่อไปได้ เขาหัวเราะลั่น

แฟรงค์รู้ว่าเรือรบรังสีกัมปนาทจอดอยู่ในสุสานข้างในแต่ไม่แน่ใจว่าอยู่ทางตำแหน่งใดกันแน่  กลุ่มพวกเขาเริ่มค้นหาทั่วสุสานและหลังจากค้นหาอยู่ชั่วโมงหนึ่ง พวกเขาก็พบเป้าหมายได้ในที่สุด

โครงเรือมหึมาขนาดเท่าภูเขากองอยู่เงียบๆ

มันอยู่ในศูนย์กลางสุสานและไม่เหมือนกับเรือรบอื่นที่วางไว้ลวกๆ รอบๆ เรือในรัศมี 200 เมตรเป็นพื้นที่ว่าง

แม้แต่ในสุสาน มันยังเหมือนกับราชาผู้งามสง่ายังคงมีความเด่นสง่า ราวกับว่าเรือรบทั้งหมดในสุสานกำลังปกป้องอยู่ด้านข้างของมัน

ตำนานแห่งอดีตครั้งหนึ่งเคยเป็นจ้าวครองความเป็นใหญ่ในท้องฟ้า เรือรบรังสีกัมปนาท

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด