ตอนที่แล้วตอนที่ 2 ความบังเอิญและกัปตันอเมริกา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4 เพ็คกี้ คาร์เตอร์

ตอนที่ 3 กระสุนนัดนี้เพื่อคุณ!


ตอนที่ 3

กระสุนนัดนี้เพื่อคุณ!

หลังจากนั้นไม่นานรถก็ค่อย ๆ หยุดลงอย่างช้า ๆ พร้อมกับมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากไม่ไกลมากนัก ดูเหมือนว่าในตอนนี้พวกยามกำลังตรวจสอบรถอยู่ หลังจากผ่านไปได้ประมาณ 1 – 2 นาทีก็เริ่มสตาร์ทรถอีกครั้งพร้อมกับขับเข้าไปภายในฐาน ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานรถจะหยุดอีกครั้งทำให้ทหารที่อยู่บนรถก็ทยอยกันลงมาที่ละคน และเมื่อตรวจสอบว่าไม่มีใครอยู่แล้วสตีฟ โรเจอร์ส และซูไป๋ก็กลิ้งออกมาจากใต้ท้องรถพร้อมกัน

พวกเขาหันไปมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย และในขณะที่สตีฟกำลังจะพูดอะไรบางอย่างทันใดนั้นเขาก็เห็นซูไป๋โบกมือให้เขาพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "คุณคือสตีฟ โรเจอร์ส หรือที่รู้จักกันในชื่อของ กัปตันอเมริกา ส่วนฉันชื่อ ซูไป๋ แน่นอนว่าจุดประสงค์ของพวกเราเหมือนกันนั่นก็คือช่วยคนที่อยู่ข้างในออกมา"

"รู้ได้ยังไง ... " สตีฟพูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ

"ฉันยังรู้อีกด้วยว่าที่คุณมาที่นี่ก็เพื่อมาช่วย บัคกี้ บาร์นส์ และถ้าหากว่าคุณต้องการรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนคุณก็ตามฉันมาซะ ฉันรู้ว่าพวกเขาถูกขังเอาไว้ที่ไหน!" ก่อนที่สตีฟจะพูดจบซูไป๋ก็พูดขัดจังหวะขึ้นมาอีกครั้ง

เมื่อเห็นว่าสตีฟรู้สึกตกตะลึงและประหลาดใจจนพูดไม่ออก ซูไป๋ก็รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก บางที่การแกล้งทำเป็นรู้อนาคตมันก็สนุกไปอีกแบบ ?

ในขณะที่กำลังคิดอะไรต่าง ๆ ซูไป๋ก็ไม่ได้อยู่นิ่งเขาซ่อนตัวและลักลอบเข้าไปในฐาน ทำให้ในใจของเขาในตอนนี้ภาพลักษณ์ของเขามันช่างหล่อเท่ห์ซะเหลือเกิน แต่สำหรับสตีฟที่อยู่ข้าง ๆ แล้วเรื่องพวกนี้มันปกติมาก เพราะว่านี่คือความแตกต่างระหว่างยอดมนุษย์และคนปกติ!

พวกเขาทั้งสองคนใช้ความเร็วในการลักลอบเข้าไปภายในฐานอย่างแนบเนียน โดยไม่มีอันตรายอะไรทั้งสิ้น

หืม ... ?

เขาจำไม่ได้ว่าห้องขังอยู่ที่ไหน

เพราะตอนที่เขาถูกพาตัวออกไปข้างนอกฐานมันเป็นช่วงเวลาที่เขากำลังตายอยู่และรอเวลาที่จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ ทำให้เขาไม่รู้เส้นทางเลยแม้แต่น้อย ทันใดนั้นเขาก็สังเกตุเห็นสายตาของสตีฟมองมาที่เขา หลังจากใช้สมองคิดอย่างรวดเร็วซูไป๋ก็ชี้นิ้วไปอีกทางหนึ่งทำให้สตีฟเดินไปทางนั้นทันที ส่วนเขาก็เดินไปอีกทางซึ่งเป็นทางตรงข้ามกัน

"พวกเราแบ่งออกเป็นสองฝ่าย"

"ได้ แต่ห้องขังอยู่ฝั่งไหน ?" สตีฟพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับถามว่าฝั่งไหนไปห้องขัง แต่ก่อนที่จะได้คำตอบซูไป๋ก็ออกตัววิ่งไปก่อนแล้ว

สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าของสตีฟมีสีหน้ามืดมนด้วยความสิ้นหวังก่อนที่เขาจะหันหลังกลับเดินเข้าไปยังทางอีกฝั่งหนึ่ง

"เนื่องจากพวกเรามีสองคนและทางมันมีสองทาง มันต้องมีสักทางแน่ที่ถูกต้อง ฉันนี่มันฉลาดจริง ๆ!" ซูไป๋หัวเราะออกมาเบา ๆ แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่ข้างหน้าเขา และมันก็กำลังเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ พร้อมกับเสียงคนกำลังพูดอะไรบางอย่างอยู่

"เสียงนี้มันดูคุ้น ๆ หรือว่าจะเป็นเสียงของคนที่มันยิงฉัน" ซูไป๋ยิ้มออกมาทันทีพร้อมกับกระโดดออกไปขว้างเอาไว้

"อะไร ... "

ผู้คุมตกใจเป็นอย่างมากที่อยู่ดี ๆ ก็มีคนกระโดดมาตรงหน้าเขาอย่างกะทันหัน และมันก็ยิ่งตกใจมากยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเขาใบหน้าของอีกฝ่าย มันคือใบหน้าของคนที่เขาเพิ่งจะยิงทิ้งและเอาศพไปโยนให้หมาป่ากิน

"ทำไมแกยังไม่ตาย ? ทำไม ผี ... ผีหลอก!!"

"อ้าว ? ทำเป็นตกใจไปได้ฉันก็กลับมาเพื่อตอบแทนบุญคุณให้เป็นพิเศษเลย กระสุนนัดนี้ฉันให้!" ซูไป๋พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับชักปืนออกมาและลั่นไกลทันที กระสุนพุ่งเข้าไปที่หน้าอกของผู้คุมคนนั้นอย่างแม่นยำ ก่อนที่ผู้คุมจะแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมาพร้อมกับร่างของเขาที่ค่อย ๆ ล้มลงกับพื้น

"ไอ๊หยา! เสียงปืนมันจะดังไปแล้วลืมไปเลยว่าไม่ได้ใส่ที่เก็บเสียง แต่ช่างมันเถอะเพราะยังไงอีกไม่นานพวกมันก็พบฉันอยู่ดี" ซูไป๋โยนปืนในมือของเขาทิ้งไปก่อนที่เขาจะก้มลงไปหยิบปืนของผู้คุมคนนั้นขึ้นมา "ปืนพลังงาน ? มันได้รับการพัฒนาขึ้นมาจากเทสเซอร์แร็คต์!"

ซูไป๋ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมกับเดินจากไปพร้อมปืน

เมื่อมีเสียงกรีดร้องและเสียงกระสุนปืนดังขึ้นทำให้ทหารและผู้คุมรีบวิ่งมาทางด้านนี้อย่างรวดเร็ว

เล็งและเหนี่ยวไก

ลำแสงพลังงานขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากปากกระบอกปืนพร้อมกับร่างของผู้คุมที่กำลังวิ่งมาล้มลงกับพื้น

"เจ๋ง!!"

ด้วยปืนพลังงานนี้กับทักษะการยิงปืนซูไป๋รู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังเล่นเกมยิงปืนอยู่อย่างไงอย่างงั้น

เหนี่ยวไกหนึ่งครั้งก็จะมีคนตายหนึ่งคน แต่ซูไป๋คิดว่ายิงที่ละคนมันช้าไปเขาจึงตั้งใจเล็งไปที่ทหารที่ยืนซ้อนกันอยู่และค่อยลั่นไก ทำให้การยิงหนึ่งครั้งของเขาสามารถฆ่าได้สองคน เรียกได้ว่า ดับเบิ้ลคิล!

"เกิดอะไรขึ้น ? ดูเหมือนข้างนอกจะเกิดเรื่องขึ้น มีใครมาช่วยเราอย่างงั้นหรอ ?"

"เป็นไปไม่ได้ เว้นแต่ว่าจะยกกองทัพขนาดใหญ่มา ไม่งั้นเปอร์เซ็นสำเร็จมันน้อยมาก"

"และถ้าเป็นกองทัพขนาดใหญ่จริง มันคงจะวุ่นวายมากกว่านี้อย่างแน่นอน"

นักโทษที่อยู่ในห้องขังได้ยินเสียงดังที่เกิดขึ้นบริเวณด้านนอก แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังไม่เชื่อว่าพวกเขาจะรอดไปได้อย่างแน่นอน

"ปัง!!"

ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดออกอย่างรุนแรง

"ฉันต้องการคนที่ใช้ปืนใหญ่เป็น มีใครอยากมากับฉันไหม ?"

ซูไป๋ถือปืนพาดบ่าพร้อมกับถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

....

เงียบกริบ ~

มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองถึงสามวินาทีก่อนที่จะมีเสียงโห่ร้องดังขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

"นายยังไม่ตายอย่างงั้นหรอ ? ทำไมกัน ... " ชายร่างใหญ่ที่มีหนวดเคราถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ

"คุณชื่ออะไร ?" ซูไป๋ถาม

"ดูอิน"

"ใช้ปืนใหญ่เป็นไหม ?" ซูไป๋ถามขึ้นมาอีกครั้ง

ดูอินพยักหน้าขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่ซูไป๋จะยกปืนขึ้นมายิงไปที่แม่กุญแจของห้องขัง

"ข้างนอกมีปืนกองอยู่ หลังจากนี้พวกเราจะยึดรถถังกัน และพวกเราทุกคนจะหนีออกไปจากที่นี่ด้วยกัน นอกจากนี้บัคกี้อยู่ที่ไหน ?" ซูไป๋ตะโกนถามขึ้นมา

"เขาถูกพาตัวออกไปก่อนหน้านี้แล้ว" ชายคนหนึ่งเดินออกมาด้านหน้าพร้อมกับพูดขึ้นมา "ฉันชื่อเจมส์ ขอบคุณที่ช่วยพวกเรา ... "

"อย่ามัวแต่พูดเรื่องไร้สาระรอหลังจากที่หนีออกไปได้แล้วค่อยขอบคุณฉันก็ยังไม่สาย เอาล่ะตามฉันมา" แน่นอนว่ากัปตันอเมริกาจะต้องช่วยบัคกี้ได้อย่างแน่นอน และซูไป๋ก็ขี้เกรียจเกินไปที่จะไปขัดขวางการพบกันของเพื่อนรักทั้งสองคน เขาเอาเวลาไปทำอย่างอื่นจะดีกว่า หลังจากพูดจบซูไป๋ก็หันหลังวิ่งออกมาไปพร้อมกับปืนในมือ

"รีบไปกันเร็วเข้า!"

"รีบตามพ่อหนุ่มคนนั้นไปเร็วเข้า!"

ผู้คนที่อยู่ด้านหลังจะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับวิ่งตามซูไป๋ไปด้วยแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

 

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด