ตอนที่แล้วตอนที่ 838 พายุพลังงาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 840 เรือรบในตำนาน

ตอนที่ 839 กลับมาแล้ว


พวกเขากลับมาอย่างเงียบงันเหมือนกับตอนที่ออกเดินทาง

เมื่อกองพลเกราะเทพเจ้ากลับมาพวกเขาไม่มีความตั้งใจจะซ่อนตัวเอง  คนทั้ง200 เร่งความเร็วข้ามพื้นที่แห้งแล้งกันดารตัดผ่านอากาศ ผ่านเข้าไปในเมฆหนาแน่นมีเสียงกึกก้องและประกายแสงกระพริบผ่านเข้ามาในสายตาทุกคนจากเส้นขอบฟ้า

กองพลเกราะเทพเจ้ากำลังแสดงพลังแกร่งกร้าวที่หยิ่งผยองได้กับทุกอย่างที่อยู่ภายในสายตาพวกเขา

เสียงกึกก้องของการบินด้วยความเร็วสูงทำให้พื้นสั่นสะเทือนราวกับว่าโลกต้อนรับการกลับมาของวีรบุรุษ

ยิ่งพวกเขาใกล้เข้ามาก็ยิ่งรู้สึกถึงแรงกดดันที่รุนแรง

คนบนเรือทั้งหมดรู้สึกว่าสายตาของพวกเขาเป็นสีดำ  นั่นคือกองพลเกราะเทพเจ้าที่อยู่หน้าขบวนเรือกะทันหันและในทันทีนั้นทุกคนรู้สึกอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดอย่างไม่เคยมีมาก่อน  ก็แค่คน 200 คน  แต่ความรู้สึกของพวกเขาคลุมล้อมท้องฟ้ารู้สึกเหมือนกับว่ามีมังกรโบราณเดินออกมาสยายปีกและทอดเงาครอบคลุมทั้งขบวนเรือขนส่ง

เสียงกึกก้องยังคงสะท้อนลอยอยู่ในอากาศ

สมาชิกบนเรือมีสายตาเต็มไปด้วยความนับถือ

การลงมาของกองพลเกราะเทพเจ้าทำให้พวกเขาได้เห็นว่าทหารทุกคนเหนื่อยล้าอย่างไม่อาจปกปิดไว้ได้  พวกเขามีรอยเปื้อนเลือดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า  ทุกคนแฝงไปด้วยรังสีฆ่าฟัน เห็นได้ชัดว่าการสู้รบรุนแรงไม่คลายลงเลยสักน้อย

ใช่แล้ว แทบไม่ผ่อนคลายลงแม้แต่น้อย

หมัดเทพเจ้าที่สั่นสะเทือนสวรรค์ของถังเทียนกวาดซิดนี่ย์และนำไปสู่การล่มสลายของกองพลกงล้อ  แผนของถังเทียนไม่ได้แค่เอาชนะศัตรู  แต่ต้องฆ่าพวกเขาทั้งหมด เขาไม่ต้องการให้เรื่องแพร่สะพัดออกไปก่อนที่หน่วยสุญญตาจะได้รับเรือรบ  และทำให้ทวีปกวงหมิงจับตาดูพวกเขา

การดึงดูดความสนใจของพวกเขาให้มาเมืองฮวงเป็นแผนในอนาคต

ด้วยเหตุนั้นเองการล่าที่โหดเหี้ยมจึงเริ่มขึ้น

การซุ่มโจมตีก่อนหน้านี้ทำให้กองพลกงล้อสูญเสียพลังต่อสู้ไปมากกว่าครึ่ง  แต่หลังจากซิดนี่ย์ตายพวกเขายังคงมีคนแข็งแกร่ง 2000 คน และเพราะฝ่ายของถังเทียนมีคนเพียง 200 คนซึ่งก็หมายความว่าแต่ละคนจะต้องล่าคน 10 คน อาจจะไม่ยากถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้หลบหนี

ทหารที่พ่ายแพ้เป็นเหมือนแมลงวันไร้หัวและเพื่อป้องกันพวกเขาไม่ให้หนี ฝูเจิ้งจือต้องทำลายความหวังพวกเขา

ถังเทียนไม่ได้ทำอะไรหลังจากฆ่าซิดนีย์เป็นโอกาสดีสำหรับสมาชิกกองพลเกราะเทพเจ้าส่วนใหญ่พวกเขายังฟื้นพลังไม่ถึงครึ่ง  และมีคนอย่างจี๋เจ๋อไม่กี่คนที่กฎธรรมชาติของเขาอ่อนแอมากในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์และจำเป็นต้องหาวิธีใหม่ที่เหมาะสมในการต่อสู้

สำหรับพวกเขานั่นเป็นการทำความเข้าใจทักษะใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ไม่ต้องคำนึกถึงวิธีการที่แต่ละคนจะต้องเรียนรู้และเข้าใจ  ไม่มีอะไรดีไปกว่าฝึกฝนผ่านการสู้รบจริง

ถังเทียนไม่สามารถช่วยให้พวกเขาเข้าใจวิถีการต่อสู้แบบใหม่

ในกระบวนการล่าเป็นการต่อสู้ที่ขมขื่นสำหรับพวกเขา ข้อเสียเปรียบของพวกเขาในเรื่องจำนวนกลายเป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดมาก  แต่พวกเขาไม่เคยต่อรองให้ทำงานง่าย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคำสั่งของถังเทียน

จากจุดเริ่มต้นที่งุ่มง่ามในตอนแรก จี๋เจ๋อและพวกที่เหลือก็เริ่มเข้าใจการประสานพลังกัน

วิ่ง, แยก, ไล่ล่ากลยุทธทั้งหมดนี้เปลี่ยนพวกเขาให้เป็นนักล่าที่มีประสบการณ์  หลังจากนั้นพวกเขายังคงเข้าใจวิธีใช้กับดักโดยใช้กฎธรรมชาติลอบสังหารทหารและประสิทธิภาพในการล่าของพวกเขาเพิ่มขึ้น

แต่ถึงกระนั้นการสู้รบของพวกเขาใช้เวลา 2ชั่วโมงและพวกเขาทุกคนเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส

พวกเขาทุ่มใช้พลังกันจนหมด  แต่ก็ยังตื่นเต้นมากเหมือนกับว่าเป็นศึกแรกของพวกเขาหลังจากเข้าดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ และตัวชัยชนะเองช่วยเพิ่มกำลังใจพวกเขาอย่างมหาศาล ที่สำคัญยิ่งกว่าทุกคนในนั้นได้รับประโยชน์จากการสู้รบ

ตัวอย่างเช่น จี๋เจ๋อ

จี๋เจ๋อก่อนนั้นไม่พอใจกับผลงานของเขาเอง แต่การติดตามไล่ล่าทำให้ผลงานของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์  เขาค่อยๆพบความสามารถพิเศษในการต่อสู้ในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  และพลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก และในที่สุดดาบพิศวงของเขาเป็นเหมือนมัจจุราชคอยเอาชีวิตไม่ว่าจะบุกไปทางใดก็ตาม

ไม่ใช่เฉพาะเขาเท่านั้น  อีกหลายๆ คนก็ได้รับประโยชน์มหาศาลเช่นกัน  ในสมรภูมิที่พวกเขามีโอกาสตายได้ประสิทธิภาพและประสบการณ์จะแตกต่างจากการฝึกฝน

หลังจากผ่านการต่อสู้สองสามศึกพลังของกองพลเกราะเทพเจ้าจะมีคุณภาพก้าวกระโดด

ถังเทียนเองก็เหนื่อยอย่างมากหลังจากถอดเกราะเทพเจ้าแล้ว เขานั่งลงกับพื้น สีหน้าซีดขาว เหงื่อผุดออกมาตามใบหน้าอย่างรวดเร็วและควบคุมไม่ได้  ในพริบตาเขาเปียกโชกไปทั้งตัวราวกับว่าผ่านการอาบน้ำเพียงแต่ว่าเป็นเหงื่อ

ถังเทียนหอบหายใจ มึนศีรษะและแทบจะเป็นลม

หลังจากพักฟื้นไปช่วงเวลาหนึ่งเขาฟื้นความรู้สึกกลับมา แม้ว่าเขาจะรู้สึกเหนื่อยมากก็ตาม แต่เขาก็ตื่นเต้นอย่างน่าประหลาด

หมัดที่เขาปลดปล่อยออกไปนั้นคือพลังโจมตีที่กล้าแข็งที่สุดที่เขาทำให้ในชีวิตของเขา

แม้แต่ตัวถังเทียนเทียนก็ตกใจกับพลังที่หมัดของเขาสร้างขึ้นมา แน่นอนว่าเขาตกใจเพียงหนึ่งวินาทีก่อนที่เขาจะมีความสุข  พลังของหมัดเทพเจ้าไร้เทียมทานถึงระดับที่พังทลายทุกอย่างที่อยู่ต่อหน้า  มนุษย์จะสร้างพลังหมัดเช่นนั้นได้ทรงพลังมากขนาดไหน?

‘ใช่เลย,ข้า..หนุ่มชาวฟ้าทรงพลังขนาดนั้น!’

‘ข้าเกือบร้องไห้เพราะความอ่อนไหวของตัวเองแล้ว  ข้าจะทำยังไงดี?’

‘โชคดีที่เชียนฮุ่ยไม่เห็น...’

บุรุษหนุ่มมองท้องฟ้าและไม่พูดอะไรรู้สึกชีวิตช่างโหดร้ายและไม่มีความรู้สึกสำหรับเขาแล้วจะดูเยือกเย็นมากเมื่อเชียนฮุ่ยไม่อยู่ใกล้ๆ

บุรุษหนุ่มจมอยู่กับความเศร้าใจของเขาไม่ทันสังเกตว่ามีบางคนกำลังเดินเข้ามาหาเขา

ซือหม่าเซี่ยวถามตามปกติ  “เจ้าฆ่าพวกเขาหมดเลยหรือ?”

ถังเทียนค่อยรู้สึกตัวและพยักหน้า “ถูกแล้ว,เราจัดการพวกเขาทั้งหมด”

ฝีเท้าของซือหม่าเซี่ยวแผ่วลงด้วยความรู้สึกกลัว  เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของตัวเองการนำคนฝีมือดี 200 คน และไม่ว่าวิธีการเขาพยายามใช้วิธีการอะไร  เขาไม่สามารถกำจัดกองทัพที่มีคนแข็งแกร่ง 5000คนได้

‘200ต่อ 5000 เรื่องตลกแบบไหนกัน? ต้องเป็นเรื่องตลกแน่นอน’

“เจ้าฆ่าพวกเขาหมดจริงๆหรือ?”  เขาอดทบทวนคำถามอีกครั้งไม่ได้

ถังเทียนมองดูสีหน้าของซือหม่าเซี่ยวอย่างแปลกประหลาดจากนั้นตอบอย่างเป็นจริง “แน่นอน, ข้าปล่อยให้พวกเขาหนีไปไม่ได้ดังนั้นจึงได้แต่ฆ่าพวกเขาทั้งหมด”

ถังเทียนทำสีหน้าดุดัน และชูกำปั้นทั้งสอง

‘แม้จะพูดแบบนั้น...’

‘เจ้าทำเสียงราวกับว่าเจ้าไม่มีทางเลือก นอกจากกำจัดพวกเขาทั้งหมด...’

‘เจ้ายังทำให้คนต้องอารมณ์เสียด้วยการพูดแบบนั้นอีก!’

‘และยังการกระทำเหมือนเด็กๆ ของเจ้าเช่นกัน!’

ซือหม่าเซี่ยวรู้สึกหงุดหงิดในใจเหมือนกับมีก้อนด้ายพันกันนุงนังอยู่ด้านหน้าเขา

‘ถูกฆ่าทุกคน!’เมลิซซาและแฟรงค์ที่อยู่ด้านหลังซือหม่าเซี่ยวราวกับถูกฟ้าผ่าตะลึงเป็นไก่ตาแตก ‘กองพล 5000 นายถูกกองทัพ200 ทำลายล้าง นะ นี่..’

แฟรงค์ที่ตอนแรกคิดจะฉวยโอกาสใช้แผนถึงกับความคิดว่างเปล่าทันที  เขาปากอ้าค้าง ขณะที่มองดูด้วยความตกใจ

เขาพบแล้วว่ายากจะยอมรับว่าโจรเป็นฝ่ายตามหากองพลกงล้อก่อน  พวกโจรดุดันมากขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อใดกัน?เพียงแต่ซือหม่าเซี่ยวพูดว่าพวกเขาชนะตามมาด้วยพายุพลังงานก็ทำให้เขาเข้าใจเต็มที่ว่าพวกโจรแข็งแกร่งทรงพลังมากขนาดไหนแต่ไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งมากขนาดไหน พวกเขาก็มีคนแค่ 200 คน คนเพียง 200คนจะกำจัดคน 5000 คนได้ยังไง?

มันยากจะกลืนน้ำลายได้ลงคอ  แผนที่แฟรงค์ตั้งใจไว้กระจายไปหมด

“อย่างนั้นเรือเล่าเป็นยังไงบ้าง?”  ซือหม่าเซี่ยวถาม

“พังหมดเลย”  ถังเทียนรู้สึกเจ็บปวดที่ต้องพูดอย่างนั้น  เรือขนส่งมาตรฐานทหารนั้นราคาแพงมาก  และถ้าพวกเขาต้องจ่ายค่าเรือที่เมืองดินแดงก็จะต้องใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก

ถังเทียนพึมพำ  “เราไม่มีเงินดูเหมือนว่าเราได้แต่ปล้นชิงสักสองสามลำ”

แฟรงค์เป็นคนแรกที่สั่นสะท้านเนื่องจากพวกเขาพบแล้วเป็นครั้งแรกที่ได้ยินคำพูดของโจรที่เหมาะสมออกมาจากปากของถังเทียน

‘ก็ได้,พวกเขาเป็นโจร  พวกเขาเป็นโจรจริงๆ’  แฟรงค์กัดฟันจากนั้นถามอย่างระมัดระวัง  “ข้าขอถามได้ไหม, นายท่านต้องการเรือรบแบบไหน?”

ถังเทียนถือว่าค่อนข้างมีความรู้เรื่องเรือรบแล้ว  หลังจากคิดชั่วขณะ เขาตอบ  “เรือรบระดับเงิน ติดตั้งอาวุธเรือรบประเภทดาบเป็นหลักต้องไวและคล่องแคล่ว และมีความสามารถสู้รบโดดเด่นในการรบระยะไกล”

แฟรงค์พยักหน้า  “จากตรงนี้คงยากจะได้เรือที่พลังป้องกันแข็งแกร่ง”

“เราไม่มีทางเลือกอื่น,เราไม่เน้นการป้องกัน” ถังเทียนรู้ว่าพวกเขาต้องเป็นจริงเป็นจัง จะต้องเน้นเกี่ยวกับการป้องกันของพวกเขา แต่เขากล่าวเสริม “แต่ก็ไม่เลวร้ายเท่าไหร่”

“ข้าเข้าใจ”  แฟรงค์พยักหน้า“ตามแบบเรือรบที่นายท่านต้องการ ข้าขอแนะนำเรือรบวายุขาว นี่คือเรือระดับเงินที่โดดเด่นที่เราดำเนินการได้ มันรวดเร็วพลังรุกแข็งแกร่ง เป็นเรือมาตรฐานสำหรับลูกเรือ 200 คน ซึ่งบังเอิญ...”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นถังเทียนขัดจังหวะ  “200 คน นั่นเรือเล็กหรือเปล่า?  ข้าต้องการเรือลำใหญ่!”

“ใหญ่?”แฟรงค์ตกใจ จากนั้นเขาแนะนำต่อ  “นายท่าน,ถ้าท่านมีกำลังพลไม่เพียงพอถึงเกณฑ์มาตรฐานที่จำเป็นต้องใช้ปฏิบัติการในเรือรบ  ก็จะไม่ก่อให้เกิดพลังต่อสู้ได้เลย”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นซือหม่าเซี่ยวเข้าใจเหตุผลที่แฟรงค์คิดเช่นนั้นและหัวเราะ  “นั่นไม่ใช่เรือรบสำหรับเรา”

แฟรงค์ตกใจ “อย่างนั้นนายท่านต้องการเรือลำใหญ่ขนาดไหน?”

หัวใจของเขาสั่นสะท้านแล้ว  ‘หรือว่าโจรเหล่านี้ยังมีสหายอยู่อีก?’ เขาตระหนักโดยไม่รู้ตัวว่าเขายังประเมินกำลังของโจรต่ำเกินไป  ‘ใช่แล้วโจรที่แข็งแกร่งขนาดนี้จะมาลำพังแค่นี้ได้ยังไง?’

“ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งดี  จะดีที่สุดก็คือสามารถรองรับกำลังได้ 5000นาย”  ถังเทียนตัดสินใจ

ถังเทียนเข้าใจชัดเจนว่ายิ่งเรือลำใหญ่ก็ยิ่งง่ายและสะดวกกับการให้เนี่ยชิวควบคุม หน่วยสุญญตามีร่างกายที่โดดเด่นมีวินัยสูงและประสานงานกันได้เป็นอย่างดี เหมาะกับเรือรบอย่างสมบูรณ์ที่สุด ถ้าพวกเขามีเรือรบที่รองรับหน่วยสุญญตาได้รวดเดียวโดยมีเนี่ยชิวเป็นผู้บัญชาการ อย่างนั้นเรือรบก็คือป้อมเคลื่อนที่แท้จริง!

แต่ถังเทียนยังคงรู้ว่าเรือรบที่สามารถรับคนได้ถึง5000 คนเป็นเรือรบที่ใหญ่ที่สุด สำหรับมหาอำนาจใดๆ ก็ตาม เรือรบระดับนี้ไม่สามารถซื้อกันได้ด้วยเงิน

แต่เรือรบระดับเงินที่จุคนได้ 1000นายได้รับความนิยมมากและพบเห็นได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นหน่วยสุญญตาต้องใช้เรือรบอย่างนั้นถึง 5 ลำ

แฟรงค์อ้าปากกว้างขณะที่เขามองดูถังเทียนอย่างมึงงง

‘เรือรบบรรทุกได้5000 คน...’

‘หรือว่าพวกเขายังมีสหายอีก 5000 คน?’

‘โจร 200 คนที่อยู่ต่อหน้าเขาก็เพียงพอกำจัดกองพลกงล้อได้แล้ว  ถ้า 5000 คน...’

ความหนาวเหน็บและกลัวแล่นขึ้นมาจากเท้าของเขา  เหมือนกับว่าเขาเห็นคน 5000ที่แข็งแกร่งราวกับอสูรร้ายกวาดไปทั่วทวีปกวงหมิง ด้วยหมัดแสงที่สว่างเหมือนกับดวงอาทิตย์และพลังทำลายล้างทหารกองทัพแล้วกองทัพเล่าถูกเขาสังหาร

แม่น้ำโลหิตไหลนองและแผ่นดินจะเต็มไปด้วยภัยพิบัติ

‘สวรรค์,โลกกำลังจะพินาศหรือนี่?’

‘คนพวกนี้มาจากที่ไหน!’

“เรือบรรทุกคนได้5000 คน มีแนวโน้มว่าคงไม่สามารถซื้อได้ต่อให้ท่านต้องการก็ตาม  ข้าคิดว่าน่าจะพิจารณาถึงมาตรฐานบรรทุกคนได้1000 คนไว้ชั่วคราวก่อน ในความเป็นจริงก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน ข้าสามารถทำเรือสำหรับคน 800 อย่างไรก็ตามพวกเขาจะต้องฝึก...”

ถังเทียนพูดตัดบททำให้เขาตื่น

แฟรงค์รู้สึกตัวและพูดราวกับถูกปีศาจเข้าสิง“ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเรือรบสำหรับ 5000 คน....”

พื้นที่รอบๆ เงียบทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด