ตอนที่แล้วตอนที่ 831 ผลึกเซียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 833 อัญมณีน้ำตาเลือด

ตอนที่ 832 ติดนิสัยชอบปล้น


“ลุง!  สบายดีหรือเปล่า?  ข้าได้ยินว่าท่านกำลังโดนคนอื่นกดดันอย่างน่ากลัวต้องพยายามหนักหน่อยนะลุง, อย่าโดนเขาทุบจนสั่นเป็นเจ้าเข้าล่ะ  ไม่อย่างนั้นเสียหน้าข้าหมด!”

“หึหึ,เจ้ายังมีหน้าให้เสียด้วยหรือ? เจ้ากำลังถามความมั่นใจกับใคร?และใครบอกเจ้าว่าข้าจะโดนทุบขนาดสั่นเป็นเจ้าเข้าหือ.. ไร้สาระ!”

“เอ่,เป็นไปได้ไหมว่าข่าวผิดพลาด?”

“เห็นได้ชัดว่าเป็นอาเฮ่อ!”

“อาเฮ่อ..ในฐานะเป็นแม่ทัพใหญ่ ลุงไม่ต้องลงมือด้วยตนเองล่ะ ข้าเข้าใจลุงผิดไป!  แต่ก็ดีแล้วธงยิ่งใหญ่ในการตัดสินชัยชนะมีแต่ต้องให้ข้า หนุ่มชาวฟ้านี้รับมือ!”

“ปล่อยให้เจ้า?ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า, ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ทันทีเลย ฉากภาพสมบูรณ์แบบเกินไป จนข้าไม่กล้าดู!  เจ้าหนุ่มห้าวไป ไป ไป โอวพระเจ้านี่มันที่ไหนกันนี่? โอว.. เสี่ยวซิ่วซิ่ว.. ทำไมข้าเจอกับเจ้าได้เล่า?ปล่อยให้เราไปลุยด้วยกัน!  เอ่.. ทำไมเจ้าแพ้อีกล่ะ?  ข้าเสียใจจริง การสู้รบจบแล้ว  แต่พวกเจ้าหลงทาง”

“ลุง,  อยากมีเรื่องใช่ไหม?”

“งั้นก็มาเลย,มาเลย, ถ้าข้ากลัวเจ้า ข้าไม่ขอเป็นขุนพลวิญญาณ คอยดู!”

……

สงครามน้ำลายดำเนินไปครึ่งชั่วระหว่างเจ้าเด็กน่าเบื่อกับลุงปิงก็หยุดลง  เมื่อได้ยินเช่นนั้นอาเฮ่อเหมือนกับว่าเขาอยู่สถานการณ์ยากลำบาก แต่ส่วนที่เหลือยังดูดี

ด้วยเหตุผลบางอย่างแม้ว่าเขาจะโกรธทะเลาะกับปิง แต่อารมณ์ของถังเทียนก็ผ่อนคลายอย่างน่าประหลาดความเหนื่อยล้าจากการทำงานแบกหามหลายวันก่อนหายไป เขากำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว และตะโกนอยู่ในใจ  ‘เฮ้หนุ่มชาวฟ้า จงทำให้ดีที่สุด!’

*******************

นอกเมืองเมืองอาเธอร์  ทุกคนชุมนุมกันหมด

“เคลื่อนขบวน!”

ถังเทียนตะโกนด้วยความกระตือรือร้นสูง  ทุกคนกระโจนขึ้นไปในอากาศและหายไปในท้องฟ้า

เมืองอาเธอร์กลายเป็นเมืองที่เงียบอยู่ไม่นานก่อนจะมีเสียงกรีดร้อง โห่ร้อง คนนับไม่ถ้วนดีใจร้องไห้และเช็ดน้ำตาโดยไม่ต้องปลอบโยน

ข่าวเมืองอาเธอร์โดนกวาดทรัพย์เรียบโดยกลุ่มโจรที่น่ากลัวแพร่กระจายไปทั่วทวีปทุ่งขาวราวกับพายุ

กลุ่มโจรอำมหิตไร้ความปราณีอย่างไม่เคยมีมาก่อน  แม้แต่กลุ่มที่ทรงอิทธิพลมากอย่างกลุ่มพ่อค้าตะวันตกก็ไม่สามารถหลีกหนีชะตาชีวิตที่ถึงฆาตได้ ข่าวลือพูดกันว่าเมืองอาเธอร์กลายเป็นเมืองที่นองเลือด  ในบ้านสิบหลังจะมีเก้าหลังที่ว่างเปล่า  โจรเข่นฆ่าอยู่ตลอดสามวันก่อนจะยุติ  ผู้โชคดีรอดชีวิตต่างมอบสมบัติเพื่อรักษาชีวิตไว้ สมบัติความมั่งคั่งที่สั่งสมอยู่ในเมืองอาเธอร์มาตลอดร้อยปีถูกกวาดเรียบด้วยอาการอย่างนั้น

******************

“เมืองอาเธอเป็นแค่เมืองเล็ก  และการกระพือข่าวก็เกินความเป็นจริงไปมาก”

เด็กสาวน่ารักอดบ่นกับชายชราข้างนางไม่ได้  นางอายุราว 17-18 ปีผมสีทองยาวประบ่า นางสวมชุดลูกไม้สีขาวราวกับเจ้าหญิงทำให้ดูงามและสงบ  ดวงตาเป็นประกายฉลาดเฉลียวและเจ้าปัญญา

ชายชราสีหน้าเครียด และส่ายศีรษะ “เมลิซซา,เจ้าอย่าดูถูกคนป่าเถื่อนกลุ่มนี้ ใช่แล้ว เมืองอาเธอร์ไม่ใหญ่  แต่กลุ่มพ่อค้าตะวันตกมีกองกำลังที่แข็งแกร่ง บุรุษที่ประจำการอยู่ที่นั่นคงจะเป็นโจนาธาน เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์และโลภมากไปด้วยความร้ายกาจ  บริวารที่อยู่ภายใต้การดูแลของเขาไม่ได้อ่อนแอเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวหน้าหน่วยคุ้มกันที่ชื่อว่าอ้าวเติ้ง”

“แต่เขาเป็นแค่หัวหน้าหน่วยคุ้มกันความปลอดภัย  ทำไมท่านต้องให้น้ำหนักเขามากนักเล่า?”  เมลิซซาประหลาดใจ

“เจ้าไม่รู้พื้นฐานเบื้องหลังของอ้าวเติ้งดังนั้นเจ้าจึงดูแคลนเขา เขาทำงานอยู่ในกองทัพมาหลายปี และครั้งหนึ่งเป็นบริวารโดยตรงของท่านเจียย่าและจำใจต้องเกษียณเร็วเพราะอาการบาดเจ็บ”  ชายชรากล่าว

“เขาคือบริวารโดยตรงของท่านเจียย่าหรือ?”  เมลิซซาตกใจ

ห้าแม่ทัพพยัคฆ์กวงหมิงมีตำแหน่งสถานะสูงส่งและเมลิซซาทำหยิ่งเรื่องอ้าวเติ้งเป็นเพราะนางไม่เคยได้ยินเรื่องของเขา แต่หลังจากได้ยินตำแหน่งสถานะของเขาว่าเคยเป็นขุนพลบริวารของท่านเจียย่า  นางเต็มไปด้วยความนับถือเขาทันที

“ใช่แล้ว,ข้าไม่รู้ว่าโจนาธานให้เงื่อนไขอะไรถึงได้รับสมัครขุนพลที่น่ากลัวนั้นมาทำงานได้”  ชายชรากล่าว “แม้ว่าอ้าวเติ้งจะบาดเจ็บ แต่เขาก็มีประสบการณ์ต่อสู้มามากมาย และแม้ว่าหน่วยคุ้มกันภัยของเขาที่เขาฝึกให้ด้วยตัวเองจะไม่ใช่หน่วยใหญ่ แต่พวกเขาก็มีความสามารถต่อสู้ได้อย่างน่าประหลาดใจ และพวกโจรและวายร้ายทำลายพวกเขาทุกคนรวมทั้งเจ้าพวกอื้อฉาวด้วย”

เมลิซซายินดีกับหายนะของคนอื่น  “ใครขอให้กลุ่มพ่อค้าตะวันตกเหิมเกริมเล่าครั้งนี้พวกเขาเตะใส่ถังเหล็กเข้าแล้ว”

ชายชราไม่ได้แสดงความเห็นกับเรื่องนี้“กลุ่มพ่อค้าตะวันตกจะไม่ปล่อยให้เรื่องเป็นแบบนี้แน่ภูมิภาคตะวันตกอยู่ในอำนาจของพวกเขา สำหรับการนองเลือดในเมืองอาเธอร์ถ้าพวกเขาไม่โค่นล้มศัตรูลง อย่างนั้นกลุ่มพ่อค้าตะวันตกจะต้องมีปัญหาแน่นอน  พวกเขาจะต้องทุ่มเทกำลังฆ่าโจรเหล่านั้นไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งเพียงไหน พวกเขาจะถูกทำลายในไม่ช้า”

“นั่นก็จริง”  เมลิซซาพยักหน้า แต่สีหน้าของนางยินดีกับภัยพิบัติของพวกเขามิได้ลดลง “แต่จะต้องมีอะไรดีๆให้ดู  ดังนั้นมันก็คงไม่น่าเบื่อ  ว่าแต่โจรที่แข็งแกร่งทรงพลังนั้นมาจากไหนกัน?”

ชายชราดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้จากนั้นพูดอย่างเฉยเมย “กลุ่มพ่อค้าตะวันตกมีปฏิปักษ์หลายคนเมื่อไม่นานนี้ ข้าคิดว่าคนบางกลุ่มอาจจะเห็นว่าท่านโกวเฉิงเวิ่นเต้าทำได้ไม่ดีดังนั้นจึงกระตือรือร้นจะลงมือ”

ดูเหมือนเมลิซซาจะรู้เข้าใจ กลุ่มพ่อค้าตะวันตกมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับแม่ทัพโกวเฉิงเวิ่นเต้า  และไม่ใช่เรื่องลับกับฝ่ายปกครองเบื้องสูง  เนื่องจากท่านโกวเฉิงเวิ่นเต้านำกองทัพบุกเข้าภูมิภาคใต้และสะดุดถูกขัดขวางหลายครา เบื้องบนจึงไม่ค่อยพอใจเขา

‘มิน่าเล่า...’

ทันใดนั้น เสียงเตือนภัยดังขึ้น

เสียงเตือนแหลมดังขึ้นทำให้ทั้งกองเรือเกิดเสียงฮือฮา

“ข้าจะไปดู!”  เมลิซซารีบวิ่งออกไป  ชายชราไม่สามารถนั่งต่อได้เช่นกันและเขาลุกขึ้นยืนตรงไปที่กราบเรือ

หลังจากเดินไปที่กราบเรือขนส่งหน้าชายชราพลันซีดขาว ในระยะไกลมีกลุ่มจุดดำกำลังบินตรงเข้ามาหาพวกเขาด้วยความเร็วอย่างน่าประหลาด

*************

ซือหม่าเซี่ยวมองดูถังเทียนที่กำลังแนะนำพวกที่เหลืออย่างสบายใจ

“อย่าได้ถูกพลังงานก่อกวน  หลังจากใช้มันแล้ว พวกเจ้าจะรู้สึกดีมากๆ”

“ใช้พลังของร่างกาย!  พวกเจ้าลืมวิธีกระตุ้นสายใยกฎธรรมชาติไปแล้วหรือ?”

“ใช่แล้ว,อย่างนั้นแหละ, กฎธรรมชาติไม่ได้มีอยู่ที่นี่เท่านั้นพวกเจ้าต้องหาจุดเชื่อมโยง  ใช่แล้วนั่นแหละคือพลังงานที่พวกเจ้าต้องการ!”

……

เมื่อโกวอวี้ฟื้นกลับมาสถานการณ์ของซือหม่าเซี่ยวก็เปลี่ยนไปเหมือนพลิกสวรรค์ จะบินหรือรบโกวอวี้จะคอยดูแลให้เขาทุกอย่าง คนที่เหลือยังทุกข์ทรมานเหมือนในนรกความเข้มข้นของพลังงานทวีปทุ่งขาวสูงกว่าทวีปรกร้างมาก  และพลังงานที่รบกวนกฎธรรมชาติก็ค่อนข้างรุนแรง

จี๋เจ๋อและพวกที่เหลือรู้สึกอึดอัดไม่สบายอยู่มาก

ทฤษฎีของตู้เค่อได้คลี่คลายปัญหาระหว่างกฎธรรมชาติและพลังงานของพวกเขา  แต่ไม่ว่าทฤษฎีจะสมบูรณ์แบบยังไงก็ตามความจริงเป็นสิ่งโหดร้าย หลังจากหลายสิบปีกับการคุ้นชินสภาพแวดล้อม พวกเขาถูกดึงเข้ามาในสถานที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงและไม่ว่าจะเป็นจิตใจหรือร่างกายพวกเขาต้องการเวลาปรับตัว

แม้ว่าถังเทียนจะกระวนกระวาย  แต่เขาไม่มีทางเลือกได้แต่ข่มใจ

สถานการณ์ของพันธมิตรใต้ยังดีกว่าที่เขาคาดไว้มาก  แม้ว่าพวกเขาจะมีปัญหาบ้างเล็กน้อยอาเฮ่อถูกต้อนย่ำแย่หนัก แต่สถานการณ์โดยรวม พวกเขาค่อยๆ ถอยออกมาจากความเสียเปรียบได้

ถังเทียนไม่กังวลเรื่องอาเฮ่อแม้แต่น้อย  เขาเป็นบุรุษที่มุ่งมั่นไม่หวั่นไหวและการพ่ายแพ้บ้างไม่ใช่เป็นปัญหาสำหรับเขา ขณะที่หลิงซิ่วพ่ายแพ้, ฮะฮะ นั่นขึ้นอยู่กับโชค

มีเพียงเรื่องเดียวที่ทำให้เขาเศร้าก็คือความสูญเสียอย่างหนักที่กองพลนางแอ่นและหน่วยกะโหลกพบเจอเพราะความสำเร็จนั้นเป็นพวกเขาได้สร้างไว้

ในคำพูดของปิงช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดผ่านไปแล้ว สัมพันธมิตรใต้ในปัจจุบันนี้ฟื้นคืนพลังกลับมาแล้ว  และศักยภาพสู้รบของพวกเขาถูกเติมเต็ม

ไม่มีความจำเป็นที่ถังเทียนจะต้องกังวลเกี่ยวกับสัมพันธมิตรใต้ ดังนั้นเขาปล่อยวางเรื่องทั้งหมดและเพ่งถึงแต่ตำแหน่งปัจจุบัน

ถังเทียนชอบแผนของปิงมาก  แต่พวกเขาเองมีปัญหาอยู่หลายอย่างพวกเขาจำเป็นต้องคลี่คลายให้ได้ ตัวอย่างเช่นกองทัพสัตว์ประหลาดที่จงหลีไป๋นำทัพ  พวกเขาจำเป็นต้องได้เวลาสำหรับการปรับตัวให้เข้ากับอาวุธจักรกลวิญญาณ  และพวกเขายังห่างไกลกับการสร้างความเข้มแข็งสำหรับต่อสู้

แต่ในเวลานั้นงานปัจจุบันของพวกเขาก็คือหาเรือรบให้ได้

ไม่มีเรือรบ หน่วยสุญญตาจะไร้ประโยชน์ นั่นคือเหตุผลที่ถังเทียนไม่ทำสิ่งที่เซรีนและผี่ผาขอร้องเขาให้ทำคือกวาดไปทุกเมือง  และใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนส่งสินค้าแต่ใช้ความเร็วสูงสุดบุกเมืองดินแดง

สำหรับกองพลเกราะเทพเจ้าถังเทียนไม่มีความหวั่นใจอะไร พวกเขาเพียงแต่ต้องการเวลาเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะด้านใดก็ตามทุกคนล้วนทำงานหนัก

ขณะที่ความปลอดภัย มีเขากับซือหม่าเซี่ยวที่อยู่ใกล้ๆ ตราบใดที่พวกเขาไม่พบกับกองทัพขนาดใหญ่จะไม่มีปัญหา

ซือหม่าเซี่ยวสังเกตว่าถังเทียนกำลังแนะนำทุกคนอย่างอดทนตาเขาเป็นประกาย  ถังเทียนในปัจจุบันเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีตการเติบโตของเขาเหนือกว่าที่ทุกคนคาด

ถ้าคนที่ใช้เวลากับเขามาตลอดจะไม่ค่อยรู้สึกชัดเจนนัก  แต่การแยกจากเขาช่วงหนึ่งแล้วค่อยมาพบกับเขาอีก คนผู้นั้นคงจะประหลาดใจมาก

“มีกลุ่มพ่อค้าอยู่ข้างล่าง!”

ใครบางคนตะโกนทันที

ทุกคนหยุดกันหมดและคนกระตือรือร้นสองสามคนเป่านกหวีดทันทีติดนิสัยชอบปล้นเป็นเรื่องง่ายจริงๆ

ถังเทียนหัวเราะ  เพื่อไปให้ถึงเมืองดินแดงได้เร็วพวกเขาเลือกทางตรงและไม่หยุดเมืองอื่นแต่อย่างใดจึงทำให้พลาดโอกาสกวาดทรัพย์จากเมืองต่างๆ

“ข้าหวังว่าพวกเขาจะอ้วนขึ้น!”

ถังเทียนบ่น เขาทำเสียงเหมือนกับเป็นหัวหน้าโจรจริงๆ

เขาโบกมือและตะโกน  “เดินหน้าเต็มกำลัง!”

เสียงแปลกประหลาดทุกอย่างดังออกมาจากปากของคนในกลุ่มนั้น พวกเขาตามหลังถังเทียนไปอย่างใกล้ชิดเหมือนกับนกอินทรีโฉบลง

ซือหม่าเซี่ยวอดหัวเราะไม่ได้รู้สึกว่าน่าสนใจ  “โกวอวี้,เราก็ไปด้วยเถอะ”

สองสามวันที่ฝึกฝนไม่สูญเปล่า แม้ว่าจี๋เจ๋อและพวกที่เหลือจะยังไม่ฟื้นความสามารถในการต่อสู้แต่พวกเขาก็มีความเข้าใจความสามารถพิเศษนี้แล้ว และฟื้นฟูความแข็งแกร่งมาได้ 75%

การฝึกของกองพลเกราะเทพเจ้ารุนแรงมาก  ภายใต้สภาพตื่นรู้หน้าของถังเทียนไม่มีอารมณ์และความรู้สึก เขาไม่พูดเรื่องความรู้สึก และกลายเป็นครูฝึกจอมเขี้ยวอย่างแท้จริง การฝึกที่ต้องใช้ความตั้งใจสูงสุดทำให้พวกเขารู้สึกว่าแม้พวกเขาจะยังไม่ฟื้นฟูความแข็งแรงเต็มที่แต่รูปขบวนของพวกเขายังคงรักษาไว้อย่างกลมกลืนและสมบูรณ์แบบ

สายลมหวีดหวิวผ่านพวกเขาขณะที่พวกเขาโฉบลงเหมือนสายฟ้า

มีแค่เพียง 200 คนแต่แรงเหวี่ยงที่พวกเขาแสดงออกทำให้เมลิซซาและคนที่เหลือซึ่งมาถึงกราบเรือสีหน้าเปลี่ยน

ถังเทียนผู้บินด้วยความเร็วสูงสูดหายใจลึกทันที  และพลังในร่างของเขาทะลัก

เขากำหมัดแน่นและปล่อยพลังรัศมีแพรวพราวทันที

ขณะที่แสงรัศมีแพรวพราวฉายท้องฟ้าดูเหมือนเป็นสีขาว ทัศนวิสัยการมืองของเมลิซซาพร่าขาวไปหมดไม่สามารถเห็นอะไรได้

การสูญเสียการมองกะทันหันทำให้นางรู้สึกกลัว

แต่แสงสีขาวหายเร็วเท่ากับตอนมาเวลาต่อมาแสงสีขาวก็ถอยหายไป และการมองเห็นของนางกลับคืนมา

สิ่งที่เมลิซซาเห็นต่อมาก็คือบางอย่างที่นางจะไม่มีทางลืมไปตลอดชีวิตที่เหลือของนาง

ในอากาศมีบุรุษหนุ่มคนหนึ่งชูหมัดขึ้น หมัดของเขาคลุมเต็มไปด้วยแสงสีขาว  รัศมีแพรวพราวสว่างเจิดจ้าสะท้อนใบหน้าของเขา แสงที่รุนแรงและดุดันสะสมกลมกลืนอย่างอธิบายไม่ได้  ภายใต้แสงแพรวพราวสีขาวร่างที่แข็งแรงกำยำของเขาดูเหมือนสวมชุดเกราะแสง

บุรุษหนุ่มคล้ายกับเทพเจ้าสงครามผ่อนลมหายใจและหมัดของเขา

เหมือนแสงอาทิตย์ฉายลงมาที่พวกเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด