ตอนที่แล้วตอนที่ 820 ข้ากลับมาแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 822 บุรุษผู้ตัดสินชัยชนะ

ตอนที่ 821 ภารกิจเร่งด่วน


ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังจนได้ยิน

“เข้ามา”

ผี่ผาก้มหน้าอยู่กับหนังสือ  แก้มของนางไม่ขาวซีดเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป  แต่มีเลือดฝาดที่หญิงสาวจะพึงมี  ร่างของนางเปลี่ยนเป็นดีขึ้นแต่ที่ตามมาจากนั้นคือภารกิจและงานที่หนักขึ้น

“นายหญิง”สุภาพสตรีคนหนึ่งคำนับและรอคำสั่งจากผี่ผาด้วยความเคารพ

ช่างจักรกลของเมืองสามวิญญาณผู้กระตือรือร้นและงานสงครามที่ยิ่งใหญ่ได้รับการดูแลโดยผี่ผา  แต่เนื่องจากว่างานของนางยิ่งมาก็ยิ่งหนักนางจึงต้องเพิ่มจำนวนผู้ช่วยนาง  กุ้ยหยวน(ลำไย) เป็นหนึ่งในนั้น

“ส่งคำสั่งนี้ออกไป”  ผี่ผาพูดโดยไม่เงยหน้า

กุ้ยหยวนค่อนข้างประหลาดใจ  “นายหญิง!  มีเวลามากกว่าสองวันที่จะส่งคำสั่งใหม่...”

“นี่คือคำสั่งเร่งด่วน”  ผี่ผาตอบอย่างใจเย็น

“ผู้น้อยจะรีบดำเนินการให้ค่ะ!”  กุ้ยหยวนใจสั่นสะท้าน  จากนั้นนางถาม “คำสั่งนี้เร่งด่วนระดับใดคะ?”

“สูงสุด”  ผี่ผาตอบโดยไม่ลังเล โดยไม่เงยหน้าขึ้น

กุ้ยหยวนใจสั่นสะท้าน นางรู้สึกได้ว่ากระดาษในมือของนางกำลังลวกมือนางเหมือนกับโลหะร้อน  จากนั้นนางรีบเรียกสติกลับคืนและกล่าว  “ผู้น้อยจะรีบดำเนินการให้เดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”

ผี่ผายังคงเขียนต่อเนื่องไม่หยุด  นางเงยหน้าขึ้นร่างบุรุษหนุ่มคนหนึ่งผุดขึ้นมาในใจนาง

ถังห้าวโบกมือของเขาทำท่าและพูดคุยประสบการณ์ทั้งหมดของเขาขณะที่นางฟังอยู่ด้านข้างเงียบๆ

ในการควบคุมกิจการภายในของเมืองสามวิญญาณทั้งหมด ความรู้สึกและความคิดของนางแหลมคมมากกว่าคนธรรมดา แม้ว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในช่วงเวลานี้ แต่ความเคลื่อนไหวในเงามืดและมือที่กำลังดำเนินการทำให้ทุกคนกังวล  และทุกคนฝืนบังคับตนเองให้สงบ

สงครามปัจจุบันในสวรรค์วิถีกระจายตัวไปทั่วทุกแห่งเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า

และอำนาจของวิหารเซียนไม่สามารถหยุดยั้งได้!

เพื่อปราบสยบสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคา  พวกเขาผนวกรวมเป็นกลุ่มดาวที่ไม่เคยมีมาก่อน –กลุ่มดาวกวงหมิง!

ในแผนการที่ยิ่งใหญ่นี้ผู้อาวุโสอันเริ่มเข้าควบคุมวิหารเซียน พิชิตวิหารเซียนทั้งหมด  กองพลเลือดเซียนของหลิวย่าจือ, กองพลฤดูหนาวของฌอนกลายเป็นดาบที่คมกล้าที่สุดสองเล่มของเขา  ผู้อาวุโสอันมีใจทะเยอทะยานเริ่มปฏิรูปวิหารเซียนอย่างกล้าหาญ

เมื่อกวาดล้างวิหารเซียนได้รวดเดียวก็ยิ่งย่ามใจมากขึ้น

สถานการณ์นี้ยิ่งเห็นได้ชัดเมื่อวิหารเซียนฮุบกลืนกลุ่มดาวกุมภ์  กลุ่มดาววัวและกลุ่มดาวแกะ  พวกเขาโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าและในช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่เดือนก็กลายเป็นสงครามขนาดใหญ่ พวกเขายังคงชนะต่อเนื่อง แสดงอำนาจของวิหารเซียนไปทั่วสวรรค์วิถี

ไม่มีใครคาดว่าวิหารเซียนผู้ย่ามใจจะใช้วิธีครอบงำผนวกรวมเช่นนี้จริงๆ

กลุ่มดาวมีน (ปลา) จู่ๆเปลี่ยนข้างและประกาศว่าพวกเขากำลังเข้าร่วมกับวิหารเซียน

ในบรรดาสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาได้ตกอยู่เงื้อมมือของวิหารเซียนหนึ่งในสามแล้ว การทำรัฐประหารอย่างต่อเนื่องทำให้สิบสองกลุ่มดาวตำหนักระนาบสุริยุปราคาอื่นตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง เนื่องจากจากวิหารเซียนมีคนวงในนับไม่ถ้วนอยู่แทบทุกที่ การกวาดล้างขนาดใหญ่และการต่อสู้ภายในเกิดขึ้นในกลุ่มดาวระนาบสุริยุปราคาหลายกลุ่มดาว

และมีสี่ตำหนักกลุ่มดาวตกไปอยู่ภายใต้เงื้อมมือวิหารเซียน  พวกเขาประกาศเป็นกลุ่มดาวกวงหมิง

กลุ่มดาวกวงหมิงที่ก่อตั้งโดยสี่กลุ่มดาวใหญ่ได้สร้างความเข้มข้นของพลังงานอย่างไม่เคยมีมาก่อนถึงระดับมากกว่าสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาเดิมถึงสองเท่า!

ความเข้มข้นพลังงานที่น่ากลัวนี้หมายความว่าการฝึกนักสู้จะได้ผลเป็นสองเท่าเร็วกว่ากลุ่มดาวตำหนักระนาบสุริยุปราคาธรรมดา  เมื่อมีเวลาเพียงพอ  พวกเขาจะสามารถสร้างนักสู้ระดับทอง,เซียนได้มากมาย และกลุ่มดาวกวงหมิงจะกลายเป็นกลุ่มดาวที่น่ากลัวมากขึ้น

สำหรับทุกคนแรงกดดันมหาศาลที่กดทับหัวใจของพวกเขา พวกเขาทุกคนรู้สึกว่าความเกลียดชังระหว่างกลุ่มดาวหมีใหญ่และวิหารเซียนจะไม่มีทางคลี่คลายได้

พวกเขามองดูขณะที่ทั้งสองฝ่ายถ่วงเวลายืดยาวออกไป อันตรายที่มากมายเป็นประวัติกาลก็ยิ่งท่วมทับหัวใจทุกคน

เพียงแต่เมื่อถังเทียนกลับมาเท่านั้นบรรยากาศความกดดันก็หายไปไม่เหลือร่องรอย เหมือนกับว่าทุกคนเป็นคนตาบอดที่เชื่อมั่นต่อเขา  เชื่อว่าถังเทียนต้องมีแผน

ผี่ผารู้ว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น

ไม่มีใครรู้สึกว่าถังเทียนจะมีความคิดอะไร  นอกจากรู้ว่า “ทุกคน เราสู้ตายพร้อมกัน”  คนโง่ไม่เคยคิดถึงแผนอื่นเลย

แต่เมื่อพวกเขาเห็นรอยยิ้มเรียบง่ายของเขา  เมื่อได้ยินเสียงพล่ามไร้สาระ เงามืดที่ห่อหุ้มหัวใจของทุกคนก็หายไปไม่เหลือร่องรอย

‘กับคนง่ายๆไม่รู้จักกลัวผู้นี้ สู้เคียงข้างเขา ความจริงก็ไม่เลวนักหรอก’

‘ช่วยทำให้เรากลายเป็นคนกล้าหาญได้ดีกว่า’

ผี่ผาหัวเราะจากนั้นทำงานต่อ

‘ข้าไม่สามารถสู้พร้อมกับเจ้าได้ ทำได้แต่เพียงใช้วิธีการของตัวเองสู้เคียงข้างกับเจ้า’

‘เราจะปล่อยให้เจ้าสู้ตามลำพังได้ยังไง?’

หอประชุมบรอนซ์เมืองสามวิญญาณสร้างในรูปแบบของกลุ่มดาวกางเขนใต้  มีเสาบรอนซ์หนาใหญ่มหึมาถึง 12 ต้นสูงถึง 30เมตรค้ำโดมขนาดใหญ่ รูปลักษณ์ที่หยาบกร้านและเรียบง่ายดูไม่เหมือนใคร

หอประชุมบรอนซ์มีกลุ่มผู้คน  ทุกคนยินดีที่ได้พบกัน  ทั้งหมดคือเป็นช่างวิศวกรจักรกล

เมืองสามวิญญาณปัจจุบันนี้ไม่สามารถอยู่ได้ง่ายเหมือนในอดีต เป็นแผ่นดินที่มีวิศวกรจักรกลรวมตัวกันอยู่  และการแข่งขันรุนแรงมาก  ที่ทำการเมืองสามวิญญาณเผยแพร่พิมพ์เขียวอาวุธจักรกลวิญญาณ เพื่อกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงวิชาจักรกลใหม่  นอกจากจิตวิญญาณยุทธทำให้เกิดเคล็ดวิชาจักรกลรูปแบบต่างๆ ไม่สิ้นสุด และทำให้วิศวกรจักรกลได้ทำการสำรวจโลกใหม่

ความคิดแปลกประหลาดต่างๆ  วิธีการต่างๆ อาวุธจักรกลวิญญาณรูปแบบต่างๆปรากฏออกมาเหมือนกับไผ่งอกงามในฤดูฝน

ในเวลานี้การถือกำเนิดอาวุธจักรกลวิญญาณรูปแบบใหม่ไม่ได้ปลุกความสนใจเหมือนในอดีตอีกแล้ว  วิศวกรจักรกลผู้พยายามเข้าสู่เคล็ดใหม่ๆโดยธรรมชาติกลายเป็นจุกจิกมากขึ้น สิ่งที่ดึงดูดพวกเขาอย่างแท้จริงก็คือ ที่ทำการเมืองสามวิญญาณเตรียมปล่อยเคล็ดเทคนิคใหม่

สำหรับอาวุธจักรกลวิญญาณเคล็ดความรู้เหล่านี้ไม่นับว่าเป็นความรู้ล่าสุดแต่อย่างใด แต่สำหรับวิศวกรจักรกลอิสระนับว่าเป็นความก้าวหน้าที่ดีพอสมควร

และแม้ว่าเคล็ดเทคนิคเหล่านี้จะให้เปล่าแต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะรับเอาไปได้ ที่ทำการเมืองสามวิญญาณมีวิธีการคำนวณคัดกรองที่เข้มงวดและต้องเข้าถึงคุณค่าในผลงานจึงจะสามารถแลกเปลี่ยนเทคนิคนี้ไปได้

ความเคลื่อนไหวนี้ทำให้ห้องปฏิบัติการในเมืองสามวิญญาณเพิ่มขึ้นถึงเก้าเท่า

ศิลปะและงานที่สำเร็จมีผลต่อห้องปฏิบัติงานจักรกล  และเมื่อมีเงื่อนไขว่าพวกเขาจะต้องมีผลงานระดับหนึ่ง พวกเขาจึงจะสามารถเข้าฟังคำบรรยายของผู้เชี่ยวชาญใหญ่นั่นเป็นความฝันและเป้าหมายที่ช่างวิศวกรจักรกลปรารถนาอย่างมิต้องสงสัย

ทั้งหมดคือพลังที่น่าหลงใหลเย้ายวนใจเป็นเหมือนใยที่มองไม่เห็นที่ขังวิศวกรจักรกลทั้งหมดไว้ในเมืองสามวิญญาณ วิศวกรจักรกลที่ครั้งหนึ่งเคยดูถูกวิศวจักรกลในเมืองสามวิญญาณทั้งหมด พวกเขาเห็นความตั้งใจของเมืองสามวิญญาณเป็นธรรมดา แต่พวกเขาก็ยังพาตัวเองเข้ามาด้วยความหลงใหลและไม่ลังเลใจ

คนผู้คิดแผนนี้ขึ้นมาก็คือผี่ผาผู้อ่อนแอ

เซรีนและพวกที่เหลือให้ความสนใจค้นคว้าเทคนิคจักรกลเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันนี้ตลาดอาวุธจักรกลวิญญาณใหญ่โตมากไม่ใช่สิ่งที่ธุรกิจเดียวสามารถสนับสนุนได้ เมืองสามวิญญาณผลิตอาวุธจักรกลวิญญาณคุณภาพสูง และกำไรจากตลาดระดับสูงก็มากเพียงพอ และสถานที่ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้กำลังคนมากขนาดนั้นสำหรับตลาดคุณภาพปานกลางและต่ำจะถูกผลักดันโดยร้านค้าในเมืองสามวิญญาณ

การใช้จุดตรงผลงานนี้ ธุรกิจอื่นๆจะได้รับเทคนิคที่น่าทึ่งและเสริมความแข็งแกร่งพวกเขาด้วย  และจากนั้นจึงค่อยใช้เทคนิคและงานของพวกเขาเพื่อสนับสนุนความอยู่รอดของร้านค้าปฏิบัติการของพวกเขาและช่วยเพิ่มมาตรฐาน และลดค่าใช้จ่ายของพวกเขา

ในอีกทางหนึ่งวิศวกรจักรกลในเมืองสามวิญญาณและเมืองสามวิญญาณจะได้สร้างสัมพันธ์บางอย่างขึ้น

หลังจากได้ยินงานใหม่ วิศวกรจักรกลทั้งหมดจากร้านค้าปฏิบัติการต่างก็เร่งรีบเข้ามา งานของเมืองสามวิญญาณจะอยู่ในที่ตั้งเป็นปกติ  แต่จู่ๆ ทุกคนได้รับแจ้งงานทันที  เป็นภารกิจเร่งด่วนแน่นอนภารกิจเร่งด่วนแบบนั้นจะได้คะแนนผลงานมากขึ้น

“ข้าได้ยินว่าหนุ่มชาวฟ้ากลับมาแล้วใช่ไหม?  เยี่ยมไปเลย!  คืนนี้เราคงได้ฉลองกัน!”

“ดีแล้วที่เขากลับมาดีแล้วที่เขากลับมา  เรารอดชีวิตผ่านช่วงสองสามวันนี้มาได้  ช่างยากลำบากนัก ไม่มีหนุ่มชาวฟ้าอยู่ด้วย  ข้าไม่เคยสงบได้เลย”

“เรามาฉลองกันคืนนี้กับความสงบสุขของข้า!”

“ฮ่าฮ่าเรามาดูกันว่าใครได้รับคำสั่งคืนนี้ คนนั้นจะต้องเป็นเจ้าภาพ!”

“โอย..หัวคิดดี, งั้นว่ากันตามนี้!”

…..

ทุกคนจับกลุ่ม 3-5 คนพูดคุยอย่างสบายใจเกี่ยวการกลับมาอย่างกะทันหันของหนุ่มชาวฟ้า  ชีวิตของทุกคนมีความก้าวหน้าหลายเท่าเมื่อเทียบกับในอดีต อาชีพวิศวกรจักรกลคืออาชีพที่ทุกคนเคยดูถูก แต่พวกเขาในตอนนี้ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการ  ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหนุ่มชาวฟ้า พวกเขาหลายคนมาถึงเมืองสามวิญญาณก่อนนั้นนานแล้วเพราะเหตุนั้นทุกคนจึงรู้พัฒนาการความแข็งแกร่งของเมืองสามวิญญาณ

สมาชิกกลุ่มหนึ่งที่เดินเข้ามาคนที่นำคือกุ้ยหยวน และเสียงพูดคุยฮือฮาของทุกคนสงบลง

วิศวกรจักรกลผู้กล้าคนหนึ่งตะโกนลั่น  “แม่นางกุ้ยหยวน ครั้งนี้เป็นภารกิจระดับไหน?”

ทุกคนป้องหูฟัง  ภารกิจระดับสูงก็ยิ่งมีผลงานมาก

“สูงสุด”

กุ้ยหยวนพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อพูดอย่างสงบ แต่นางต้องรู้ว่าคำพูดที่ดึงดูดความสนใจจะเกิดปฏิกิริยาแบบไหนตามมา

ทุกคนตะลึง และทั้งหอประชุมบรอนซ์ตกอยู่ในความเงียบ

ในประวัติศาสตร์เมืองสามวิญญาณ  ไม่เคยมีภารกิจระดับสูงสุด ตาของทุกคนให้ความสนใจกับแผ่นภารกิจในมือของนักสู้คนหนึ่ง

“เรากำลังซื้ออาวุธจักกลวิญญาณสัตว์ประหลาดไม่จำกัดจำนวนในช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์”

‘สัตว์ประหลาด?’

ทุกคนตกใจอีกครั้งสัตว์ประหลาดไม่ใช่อาวุธจักรกลวิญญาณระดับสูง หลังจากลั่วซือสร้างสัตว์ประหลาดขึ้นมามันไม่เคยถูกมองว่าสำคัญในกองทัพจักรกลของกลุ่มดาวหมีใหญ่  แต่คนอื่นทุกคนกลับชอบมันเหมือนกับดอกไม้ที่งอกอยู่บนกำแพง ไม่ใช่เรื่องแปลก กองทัพจักรกลของกลุ่มดาวหมีใหญ่ถูกยกย่องเหมือนเป็นวังของนักสู้จักรกลนักสู้จักรกลผู้ฉลาดยังไม่ขาดแคลน และอาวุธจักรกลวิญญาณระดับคุณภาพต่ำนั้นไม่มีใช้กันมากในกลุ่มนักสู้ผู้ฉลาด

แต่สำหรับนักสู้จักรกลธรรมดาอาวุธจักรกลวิญญาณที่เป็นยุทโธปกรณ์เรียบง่ายถูกแต่มีความสามารถต่อสู้ที่โดดเด่นนี้เป็นเกราะที่ดีที่สุดจริงๆ  นอกจากข้อที่ว่ามันน่าเกลียดแล้วมันไม่มีข้อบกพร่องมากนัก

เป็นเรื่องแปลกสำหรับเมืองสามวิญญาณที่สั่งซื้อสัตว์ประหลาดและดูเหมือนต้องการมากเสียด้วย

‘ระยะเวลาเพียงสัปดาห์เดียวไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นภารกิจเร่งด่วน’

‘แต่ภารกิจแบบนั้นกลายเป็นภารกิจสูงสุดได้ยังไง?

กุ้ยหยวนสังเกตดูรอบๆ และเหมือนกับว่านางไม่เห็นใบหน้าที่คลางแคลงใจของพวกเขา  นางพูดอย่างใจเย็น  “ภารกิจนี้รับมาจากมือนายท่านถังเทียนโดยตรง”

หอประชุมที่เงียบอยู่แล้วยิ่งเงียบมากขึ้นราวกับป่าช้า  เป็นภารกิจเร่งด่วนครั้งแรก  และก็ทำให้พวกเขารู้สึกแปลกใจ  นอกจากนี้ยังเป็นภารกิจระดับสูงสุดครั้งแรกที่เคยมี  และนอกจากนี้ยังเป็นนายท่านถังเทียนมอบภารกิจเอง

‘ต้องมีบางอย่างเกี่ยวกับภารกิจนี้!’

‘นายท่านเพิ่งกลับมา และเขาก็มอบหมายภารกิจเลยเชียวหรือ?’

ช่างวิศวกรจักรกลทุกคนเป็นผู้ที่มีความคิดเร็วและบางคนตั้งข้อสงสัยทันที “เกี่ยวข้องกับสงครามที่กำลังจะมาถึงหรือเปล่า?”

กุ้ยหยวนไม่ตอบ

จากนั้นวิศวกรจักรกลคนอื่นก็รู้ได้ นอกจากใช้สัตว์ประหลาดจำนวนมากเพื่อสู้สงครามแล้วไม่มีความเป็นไปได้อย่างอื่น แม้ว่าทุกคนไม่รู้เหตุผลที่นายท่านต้องการอาวุธจักรวิญญาณมาตรฐานระดับล่างมากมาย  แต่ข้อขอร้องขนาดใหญ่ด้วยขีดจำกัดเรื่องเวลาทำให้ทุกคนไม่สบายใจ

สงคราม!

หอประชุมบรอนซ์ตกอยู่ในความโกลาหลทันที  ทุกคนเริ่มตะโกนเสียงดัง

“มีบางคนต้องการสู้กับเราหรือ?”

“พวกเขากล้าลงมือกับเรา!  พวกมันเบื่อหน่ายชีวิตหรือไง!”

…..

หน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความไม่พอใจโกรธและกลัว

เมื่อเห็นใบหน้าที่ตื่นเต้นของพวกเขา  กุ้ยหยวนตื้นตัน นางคำนับ“ขอวิงวอนทุกท่านที่อยู่ที่นี่!”

เกิดความเงียบในช่วงสั้นๆอีกครั้งก่อนที่ทั้งหอประชุมจะมีเสียงฮือฮาวิศวกรอาวุธจักรกลที่ปกติจะใจเย็นและสงบเสงี่ยมแสดงอาการโกรธ หน้าของทุกคนแดงจนไปถึงถึงคอรวมทั้งตาของพวกเขาด้วย

“ไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย! แค่สัตว์ประหลาดใช่ไหม! ท่านต้องการเท่าใดเราจะทำให้ท่านเท่านั้น!”

“ไปกันเถอะ!  เราจะเริ่มงานกันเดี๋ยวนี้!”

“บัดซบ,เราต้องให้เจ้าพวกเลวเหล่านั้นได้รู้จักพลังของเราซะบ้าง!”

“ใครขาดแคลนบรอนซ์มาเอาที่โกดังของข้า  ทุกคน,อย่าให้อนาคตของเราต้องลากยาวออกไป!”

“แก่นวิญญาณบรอนซ์มีค่าไม่มาก  ข้าจะยัดมันใส่ไว้ที่ทางเข้าร้านข้า

…..

เฉียนเซินสะดุดจากห้องประชุมบรอนซ์ กับคำว่า ‘สงคราม’ ในใจเขา เขามีร้านจักรกลของตนเอง  ร้านจักรกลเฉียนจือมาถึงเมืองสามวิญญาณค่อนข้างเร็วและเวลานั้นราคาของร้านยังคงครึ่งเดียวของปัจจุบันนี้ เมืองสามวิญญาณกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักสู้สายจักรกล  และชื่อเสียง 70%เป็นวิศวกรจักรกลที่มีชื่อ วิศวกรจักรกลแทบทั้งหมดได้เรียนรู้ทักษะของจากอดีตของพวกเขา

ลูกชายของเขาบังเอิญได้ข้อมูลโลหะผสมที่ไม่เหมือนใครเนื่องจากข้อมูลโลหะผสมนี้ทำให้ร้านจักรกลเฉียนจือสร้างสรรค์ผลงานได้มาก และร้านจักรกลเฉียนจือได้แลกเปลี่ยนผลงานนี้เพื่อการค้นคว้าโครงการและเทคนิคดีๆซึ่งจะทำให้อาวุธจักรกลวิญญาณขยายตัว  ตามมาด้วยราคาขาย

เฉียนเซินขยายร้านของเขาและรับสมัครช่างจักรกลร้านจักรกลเฉียนเซินมีช่างจักรกลถึง 20 คน แม้จะถือว่าไม่ใช่ร้านจักรกลใหญ่ในเมืองสามวิญญาณ  แต่ก็ค่อนข้างเป็นที่รู้จักดี

เขาสูดหายใจลึก อากาศเย็นทำให้เขาตื่นตัวทันที  หน้าของเขาแดง เขากำหมัดแน่นทันใดนั้นเขาก้าวเท้ามุ่งหน้าไปที่ร้านที่ของเขาทันที

ภายในร้านบุรุษหนุ่มผิวดำกำลังคร่ำเคร่งตัดเกราะบรอนซ์ให้เป็นชิ้น เขาคือบุตรของเฉียนเซินนามว่าเฉียนเหลียน เฉียนเหลียนมีความตั้งใจมาก ความเคลื่อนไหวของเขาไหลลื่นเหมือนกับสายน้ำไหลน่าชื่นชม

เฉียนเซินยิ้ม  พรสวรรค์ของเฉียนเหลียนดีกว่าเขามากร้านจักรกลเฉียนจือเจริญรุ่งเรืองในมือบุตรชายของเขา

เขาปรบมือและตะโกนเรียกทุกคน  และพูดด้วยเสียงจริงจังอย่างไม่เคยมีมาก่อน  “ทุกคน,หยุดงานที่พวกเจ้ากำลังทำตอนนี้ไว้ก่อน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะมุ่งมั่นผลิตสัตว์ประหลาดกัน”

“อย่างนั้นงานที่สั่งไว้เหล่านี้จะเป็นยังไง?”  ช่างจักรกลคนหนึ่งถาม

“จ่ายค่าปรับไป”  เฉียนเซินรู้สึกว่าเขายังสงบมาก

‘ทุกคนมองหน้ากันเอง‘นี่ยังใช่เฉียนเซินจอมตระหนี่หรือเปล่า?’

เมื่อทุกคนตระหนักถึงเรื่องที่เกิดขึ้น  ทุกคนตาแดงทันทีและโดยไม่พูดอะไรสักคำพวกเขาหมกมุ่นอยู่กับงานทันที

ทั้งที่เป็นเวลายามราตรีแต่ท้องฟ้าสีเทาของเมืองสามวิญญาณยังสะท้อนสีแดงจากบรอนซ์หลอมร้านจักรกลทั้งหมดกำลังเผาน้ำมันในยามราตรีทำงานทั้งคืน  ประกายไฟกระเด็นกระจายไปทุกที่  เมืองสามวิญญาณสว่างเจิดจ้า และเมื่อสายลมพัดผ่านเมืองกลับอบอ้าวเหมือนฤดูร้อน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด