ตอนที่แล้วตอนที่ 820 กลับ, ความลับของแม่สี่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 822 แดนสวรรค์ใต้ ความหวังของเย่ว์หยาง

ตอนที่ 821 น้ำตานางเงือก


เย่ว์หยางหาเวลาไปที่สมาคมนักรบรับจ้างหอทงเทียนชั้นที่หกและตั้งภารกิจ

รางวัลหนึ่งแสน น้ำตานางเงือก

เมื่อกลับมาจากแดนสวรรค์ เย่ว์หยางถามกับเผ่าตระกูลที่มีอิทธิพลทุกที่ ก็ยังไม่ได้ข่าวของน้ำตานางเงือก ไม่ว่าจะเป็นทวีปมืดเผ่าโยวหมิง เผ่าภูตบูรพาและเอลฟ์ชั้นสูง ฯลฯ รวมทั้งเผ่าทะเลที่ไห่อิงอู่ปกครองทั้งหมด แม้ถามหาทั่วทุกที่แล้วก็ตาม แต่น้ำตานางเงือกนั้นดูเหมือนเป็นแค่ของในตำนาน ไม่มีใครที่มีครอบครองอยู่  เพราะเรื่องนี้เองไห่อิงอู่ถึงกับปลีกตัวกลับมาตามหาท่านหญิงจูเว่ยและท่านหญิงเยี่ยนรวมทั้งเผ่าตระกูลทะเลอื่นเพื่อพูดคุยเรื่องนี้เป็นพิเศษ  ราชันย์ปีศาจใต้ก็ยังกลับไปตรวจดูคลังสมบัติของนางเอง..แม้แต่เซี่ยอีกลับไปบ้านเกิดพร้อมกับราชินีซิกเพื่อช่วยตามหา แต่ก็ยังไม่ได้ร่องรอย

น้ำตานางเงือกอยู่ในมือของใครบางคน เพียงแต่ไม่มีคนรู้

เกี่ยวกับตำนาน หอทงเทียนมีบันทึกประวัติศาสตร์มากมาย และเย่ว์หยางได้พบเห็นมาหลายบันทึก

อันน้ำตานางเงือกนี้ ไม่ได้หมายถึงน้ำตาของนางเงือกจริงๆ มิฉะนั้นแค่ขอให้นางเงือกวายุช่วยร้องไห้ เรื่องก็สิ้นเรื่องไปแล้ว

แต่นั่นเป็นสมบัติพิเศษมาก

เพราะด้วยความสวยงามล้ำค่าอย่างหาที่เปรียบมิได้  คนธรรมดาทั่วไปเมื่อได้เห็นจะไม่สามารถกำจัดเสน่ห์นั้นออกไปได้ มีตำนานว่าแม้แต่นางเงือกเห็นสิ่งนี้แล้วก็ยังกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่  ดังนั้นจึงได้ชื่อว่าน้ำตานางเงือก

ถ้าสวมน้ำตานางเงือกไว้บนตัว สิ่งมีชีวิตในน้ำจะสามารถขึ้นฝั่งและหายใจอย่างอิสระได้  ในทำนองเดียวกัน สิ่งมีชีวิตบนแผ่นดินสามารถหายใจใต้น้ำได้  ในขณะต่อสู้เมื่อนักรบสวมน้ำตานางเงือกต่อสู้จะส่งผลมาก แน่นอนว่าน้ำตานางเงือกสามารถสนับสนุนเพิ่มความสามารถได้ นี่จึงเป็นสมบัติเสริมพลังที่หาได้ยากมาก

หลายพันปีมาแล้ว น้ำตานางเงือกมีอยู่ค่อนข้างมาก และทั่วทั้งหอทงเทียนคาดกันว่ามีมากกว่าร้อยชิ้น

โดยทั่วไปนักสู้ปราณราชันย์ของเผ่าพันธุ์ต่างๆ ล้วนมีเป็นเครื่องประดับ  แต่สงครามเมื่อหกพันปีก่อน น้ำตานางเงือกหายไปในกระแสธารประวัติศาสตร์

บางทีอาจมีอยู่ แต่ด้วยพลังของเย่ว์หยางไม่สามารถหาพบในทันทีได้  เขาถามทุกคนที่รู้จักในทุกที่  เย่ว์หยางเดินทางมาที่หอทงเทียนชั้นหกก็เพื่อตามหาน้ำตานางเงือก

ก่อนอื่นไม่สำคัญว่าน้ำตานางเงือกจะมีราคาเท่าใด เย่ว์หยางตัดสินใจตั้งรางวัลหนึ่งแสนเหรียญไว้ก่อนหวังว่าคนวงในที่รู้จักจะรู้ถึงได้

“เขยเรา ได้ข่าวว่าเจ้ากำลังตามหาน้ำตานางเงือกหรือ?”  ราชันย์ฟ้าบูรพาจู่ๆ ก็วิ่งเข้ามาตามหาเย่ว์หยาง

“หา? ท่านมีด้วยหรือ?”  เย่ว์หยางเมื่อได้ยินก็มีความสุข

“ข้าไม่มี, ของแบบนั้นเอาไว้ประดับจมูกสตรี บุรุษหยาบกร้านอย่างข้าจะเอาไปทำไม?”  ราชันย์ฟ้าบูรพาปฏิเสธ

“ปัญหาก็คือข้าจำเป็นต้องได้สมบัติชิ้นนี้เพื่อเอาไปรายงานความสำเร็จของข้า”  เย่ว์หยางมองดูราชันย์ฟ้าบูรพาเพื่อเตรียมหาข้อแก้ตัวไม่ให้เขาลากตัวไปเป็นเพื่อนดื่ม  ตอนนี้เย่ว์หยางไม่มีอารมณ์ดื่ม  ตรงกันข้ามเขาคิดถึงเรื่องคัมภีร์เทพ ด้านหนึ่งต้องเตรียมเก็บกักพลังเอาไว้เพื่อไปพบกับนางพญาเฟ่ยเหวินหลี และตอนนี้ก็กังวลเรื่องน้ำตานางเงือก ไม่มีเวลาจะให้ความสนใจราชันย์ฟ้าบูรพาแต่อย่างใด

“เอาแต่หน้านิ่วคิ้วขมวดเคร่งเครียดทั้งวัน จะแก้ปัญหาอะไรได้!”  ราชันย์ฟ้าบูรพาพบว่าเย่ว์หยางไม่อยู่ในอารมณ์ที่ดีจึงไม่คิดจะชวนไปดื่ม  แต่ก่อนที่เขาจะแยกไป เขาป้องปากกระซิบที่หูเย่ว์หยาง “เจ้าไปทูลขอฝ่าบาทได้  แต่อย่าบอกนะว่าข้าเป็นคนบอกความลับนี้”

“แน่นอนอยู่แล้ว”  เย่ว์หยางมีความสุข

เขาตบอกและให้คำรับรองกับราชันย์ฟ้าบูรพา

ความจริงถ้าเย่ว์หยางต้องการวิพากษ์วิจารณ์จักรพรรดิเทียนหลัวหัวซิ่วรี่ เขายิ่งไม่กล้าตำหนิโดยเปิดเผย

นอกจากนี้ราชันย์ฟ้าบูรพาทำผิดแล้ว จะไม่ถูกลงราชอาชญา  ต่อให้ทำผิดสองครั้งก็ไม่โดน เขาเป็นพวกหนังหน้าหนาอยู่แล้ว ไม่สนใจอะไร  ราชันย์ฟ้าบูรพาหนังหนาขนาดที่กล้าดื่มเหล้าถูกๆ ของพวกทหารรับจ้าง  นั่นคือสิ่งที่พวกเขารู้กัน

ราชันย์ฟ้าบูรพาตบไหล่เย่ว์หยางและขอยาเม็ดพลังยุทธ

ค่าแจ้งข่าวคือยาเม็ดพลังยุทธ เขารู้ว่าจะรีดไถอะไรได้บ้าง

“ดีมากเขยข้า  ข้าจะไปก่อน ต่อไปเจ้าต้องการหาอะไร ไม่ต้องตั้งเป็นภารกิจก็ได้ มันยุ่งยากเกินไป แค่มาถามข้าตรงๆ รู้ไหมว่าข้าเป็นใคร? ข้าไปมาทั่วหอทงเทียนมาหลายปี” ราชันย์ฟ้าบูรพามีความรู้สึกว่าตนเองมีคุณสมบัติทำหน้าที่นักสืบส่วนตัว

“...”  เย่ว์หยางอึ้ง

โชคดีที่คนผู้นี้มีธิดาที่ไม่เหมือนกับเขา!

ในทางกลับกันจักรพรรดิเทียนหลัวหัวซิ่วรี่ ถ้าเป็นบุรุษแล้วจะมีน้ำตานางเงือกได้ยังไง?

ต่อให้มีน้ำตานางเงือก แล้วเป็นความลับมากขนาดนั้นได้อย่างไร? แม้แต่ราชันย์ฟ้าบูรพาและคนอื่นไม่ได้ถือว่าเป็นความลับหรือ?

เย่ว์หยางรู้สึกว่าความสงสัยนี้ฆ่าแมวได้ ฝันหยก, น้ำตานางเงือก หอสมุดแห่งจักรวรรดิเทียนหลัว ไม่รู้ว่ามีสมบัติวิเศษมากเพียงไหน?

ราชันย์ฟ้าบูรพาแยกจากไป  เย่ว์หยางไปขอเข้าเฝ้าจักรพรรดิเทียนหลัว หัวซิ่วรี่ทันที

เช่นเดียวกับเหตุผลครั้งล่าสุด จักรพรรดิประชวร ไม่สะดวกจะรับอาคันตุกะ

สตรีที่เป็นเจ้าหน้าที่วังถามเย่ว์หยางอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ในการเข้าเฝ้าของเย่ว์หยาง ขณะที่ผลการแจ้งให้จักรพรรดิเป็นผู้กำหนด

ครั้งนี้ก็เหมือนกับครั้งก่อน ล่าสุดนั้นเป็นจุ้ยมาวอี้พาเขาไปทูลขอหยกสุบิน  คราวนี้เขาต้องดำเนินการจริง แม้ว่าจะอยู่ห่างจากประตูวัง แต่เย่ว์หยางไม่ว่ายังไงก็ตาม ก็เข้าไปหาจักรพรรดิในระยะสิบเมตรไม่ได้  ใช้เวลานานกว่านั้นจะมีรัศมีที่เย่ว์หยางผู้มีปณิธานราชันย์สามารถชักจูงได้ง่ายและสามารถรู้สึกได้ ในฐานะของคนรุ่นหลัง จักรพรรดิช่วยดูแลแม่สี่และซวงเอ๋อ  นอกจากยังมีผู้สูงอายุอื่นรวมอยู่ด้วย เย่ว์หยางแสดงความเคารพ เป็นการแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นเด็กดี

เสียงของจักรพรรดิหัวซิ่วรี่กริ้วมาก  “ใครบอกเรื่องนี้กับเจ้า?”  เย่ว์หยางไม่ลังเลแม้แต่น้อยรีบขายพ่อตาทันที  “ถวายบังคมฝ่าบาท เป็นราชันย์ฟ้าบูรพา”

“เจ้าผู้นี้หนังหนาชาด้านจริงๆ ถ้าไม่เอาแต่เมาเหล้าฝันเฟื่องไปวันๆ ก็หาคุยเรื่องไร้สาระกับผู้เยาว์!”  จักรพรรดิเทียนหลัวหัวซิ่วรี่กริ้วถึงกับตรัสบริภาษ  ท่าทีเคร่งขรึมพระพักตร์บึ้งตึงทำให้เย่ว์หยางตกใจกลัว  เขาคิดว่าหลายวันที่ผ่านมาราชันย์ฟ้าบูรพาคงไม่ได้สร้างความรู้สึกที่ดี  อย่างไรก็ตามหลังจากราชันย์ฟ้าบูรพาแจ้งข่าวให้ทราบแล้ว เขาคงรู้ผลที่ตามมา และเผ่นหนีไปตามปกติ เพราะรู้ว่าฝ่าบาทจะกริ้ว  เขาคงยังไม่กลับมาในช่วงนี้ก่อน อย่างไรก็ตามราชันย์ฟ้าบูรพาคงเผ่นไปหาจักรพรรดิจุนอู๋โหย่วหาเพื่อนดื่มเหล้าสักวันหรือสองวัน

“เขาทำไม่ถูกมาก ข้าก็เพิ่งจะตำหนิเขาไป” เย่ว์หยางถือโอกาสแสดงออกว่าเขาเป็นคนดีมีคุณธรรม

“เจ้าก็ต้องมาให้น้อยลง!”  น่าเสียดายที่เขามองออก

“พะย่ะค่ะ ข้าผิดเอง!” เย่ว์หยางก็หนังหนาไม่ด้อยไปกว่าราชันย์ฟ้าบูรพา

“น้ำตานางเงือกไม่ใช่เป็นของที่หายาก  แค่เป็นเพราะเจ้า ถึงกับต้องใช้กลอุบายหลอกล่อด้วยหรือ น่าหงุดหงิดจริง!” จักรพรรดิเทียนหลัวหัวซิ่วรี่แม้ว่าจะพูดอย่างนี้แต่ดูเหมือนจะไม่สบายใจที่ของอย่างนี้ต้องตัดใจส่งให้เย่ว์หยาง  หลังจากชะงักเล็กน้อย เขากล่าว “ด้วยเหตุผลบางอย่าง เจ้าอาจต้องทำงานบางอย่างชดใช้ให้ข้าในอนาคต”

“เรียกข้าน้อยได้ทุกเมื่อ”  เย่ว์หยางเอามือแตะอกเป็นการปฏิญาณว่าพร้อมบริการยี่สิบสี่ชั่วโมง

“อย่ามาทำหน้าระรื่น นี่เป็นเรื่องจริงจัง และเจ้าห้ามไม่ให้แสดงความไม่เคารพต่อหน้าจักรพรรดิอีก”  ฝ่าบาทดูเหมือนจะกริ้วกับมารยาทของเย่ว์หยาง จนถึงกับวิพากย์วิจารณ์ถึงรอยยิ้ม

“พระเจ้าค่ะ, เพียงแต่ข้าพระบาทไม่ทราบว่าพระองค์ต้องการให้ข้าพระบาททำอะไร?”  เย่ว์หยางเดาว่าไม่มีใครในฮาเร็มของพระองค์ต้องเปลี่ยวเปล่าจนต้องการความอบอุ่นหรือเปล่า?  แน่นอน เรื่องแบบนี้เย่ว์หยางได้แต่คิดในใจเท่านั้น และไม่กล้าเผยออกมาแม้แต่น้อย  มิฉะนั้นเป็นไปได้ว่าเขาอาจถูกฉีกเป็นชิ้น  ไม่ว่ายังไงก็ตามศักดิ์ศรีของฝ่าบาทก็ยังเป็นหลักสำคัญ

“ค่อยว่ากันทีหลัง ห้ามไม่ให้เจ้าบอกเรื่องนี้กับใคร  เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้ตัดสินใจ และเป็นเรื่องที่น่ารำคาญมาก ช่างเถอะ ตอนนี้เจ้ากลับไปได้แล้ว  น้ำตานางเงือกจะมีคนนำไปให้เจ้า!  จักรพรรดิเตือนเย่ว์หยางก่อนจากไป ”ห้ามคิดถึงมันด้วย และห้ามไม่ให้บุคคลที่สามรู้เรื่องการสนทนาในวันนี้  ถ้าอู๋เสียรู้เข้า ข้าจะตัดลิ้นเจ้า!”

“สบายพระทัยได้, ข้าพระบาทรักษาความลับได้เสมอ แม้แต่ตอนหลับก็ยังไม่พูดเลย แม้จะไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับสาวงามก็ตามที  ก็จะไม่พูดคุยความลับของวันนี้แน่นอน”  เย่ว์หยางพร้อมจะตั้งฉายาของของบุคคลที่เข้มงวดที่สุดในหอทงเทียน

“ใครจะรู้ว่าเจ้ากลอกกลิ้งแค่ไหน ฮึ่ม..”  จักรพรรดิแค่เสียงหงุดหงิด

เย่ว์หยางยิ้มและเดินถอยจากมา

แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างจากประตูตำหนัก แต่เขาไม่ได้กลิ่นอายเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาเลื่อนระดับพลังเป็นนักสู้ปราณราชันย์แล้ว ความรู้แจ้งของเขาแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

เขาเคยใช้การดู และตอนนี้เขารู้สึกจากการดูและชัดเจน  ตอนนี้พลังตาทิพย์แม้ว่ายังไม่ถึงระดับสูงสุด แต่ก็ใกลเคียงระดับสูงสุด และตาของเทพปรากฏที่หน้าประตู  ลักษณะของประตูทำให้ไม่เห็นได้ชัด  แต่ยังน้อยเย่ว์หยางยังพอเห็นได้บ้าง

แน่นอนว่าเย่ว์หยางผู้ฉลาดถึงไม่สามารถเห็นได้  แต่การปกป้องศักดิ์ศรีของเขาก็สำคัญเช่นกัน

ไม่ใช่จักรพรรดินีราตรี....

เย่ว์หยางได้ข้อสรุป

เขาสงสัย แต่ตอนนี้ปฏิเสธการคาดเดานี้ออกไป  จักรพรรดินีราตรีก็คือจักรพรรดินีราตรี ฝ่าบาทก็คือฝ่าบาทแม้ว่า บางส่วนจะค่อนข้างคล้าย

ในเวลาเย็นเจ้าหน้าที่หญิงส่งกล่องมาให้เขาเปิดดูมองเห็นน้ำตานางเงือกที่เปล่งประกายรัศมีที่แตกต่างกัน  เย่ว์หยางทำจมูกฟุดฟิดเหมือนกับว่าเขาได้กลิ่นที่อยู่ในกล่องมาเป็นเวลานาน แต่ไม่ได้ทำให้กลิ่นอ่อนๆ ของสมบัติจางหายไป เขารีบขอบคุณสตรีเจ้าหน้าที่ผู้นั้นแล้วรีบกลับไปยังดินแดนฝึกฝนของแดนสวรรค์ตะวันตก เขาลอบเข้าไปในวงล้อมของนักรบมรณะตำหนักกลางและกลับเข้าไปในดินแดนทดสอบผ่านเข้าไปที่ด่านที่สาม ด่านหุบเขาทรายพบกับแม่เฒ่าซาและช่วยให้นางสมปรารถนา

เมื่อแม่เฒ่าซาสวมน้ำตานางเงือก ร่างนางเปล่งรัศมีเฉิดฉัน

แม้ว่าจะไม่สามารถดึงน้ำในสระออกมาได้มากนัก แต่จะล้างหน้าล้างมือย่อมไม่มีปัญหา

นี่แค่เริ่มต้น ด้วยทักษะของแม่เฒ่าซาและพลังของน้ำตานางเงือก ความต้องการจะได้อาบน้ำของนางคาดได้ว่าจะได้รู้กันไม่นาน

แม่เฒ่าซากำลังร้องไห้อย่างมีความสุข

แม้ว่านางไม่ได้ให้รางวัลเย่ว์หยาง แต่นางพยายามนึกและบอกตำแหน่งวงเวทอักษรรูนโบราณให้เย่ว์หยางทราบ “ถ้าไม่มีใครทำลายเสียก่อน  มันน่าจะอยู่ตรงนั้นและวงเวทอักษรรูนโบราณจะไม่หายไปกับกาลเวลา  มันอยู่มานานอย่างนั้นจนข้านึกภาพไม่ออก  อย่างไรก็ตามข้าจำได้อย่างหนึ่ง เมื่อภูตไหมฟ้ากับจ้าวอัคคีพิโรธสู้กัน ทั้งสองน่าจะถูกฝังไว้ที่หุบเขากระบี่ เมื่อทั้งสองไม่มีข่าวคราวอะไรจนบัดนี้ คิดว่าอาจจะตายในที่เดียวกัน... เจ้าลองไปมองหาดู  บางทีเจ้าอาจจะพบสิ่งของโบราณของทั้งสอง... ต้องขอโทษด้วยเย่ว์หยางน้อย เพราะช่วงเวลายาวนานมากจริงๆ และวันนี้ข้ามีความสุขมาก แต่ข้าจำเหตุการณ์ในอดีตได้ไม่มาก บางทีเจ้าค่อยกลับมาครั้งหลังก็ได้ ข้าจะพยายามเค้นหาความทรงจำที่มีประโยชน์ให้เจ้า!”

“ขอบคุณแม่เฒ่าซาลามาน ข่าวอักษรรูนโบราณก็เป็นตัวนำทางที่ยอดเยี่ยมมากอยู่แล้ว ผู้เยาว์มีแต่จะขอบคุณ”  เย่ว์หยางตอบด้วยความจริงใจ  คุณค่าของอักษรรูนโบราณเป็นสิ่งที่ไม่มีวัตถุวิเศษอย่างใดเทียบได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเย่ว์หยางในปัจจุบันนี้ ต้องการหลอมรวมกับอักษรรูนโบราณให้ได้มากที่สุด!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด