ตอนที่แล้วChapter 92 : โล่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 94 : ออกเดินทาง

Chapter 93 : ลำดับเหตุการณ์


“ดูดกลืน!”

หลังจากอ่านรายละเอียดโจวเฉินก็ทำการดูดกลืนสกิลติดตัว ‘โล่’ ในทันที

เพียงเสี้ยวพริบตาเขาพลันสัมผัสได้ถึงม่านพลังป้องกันโปร่งใสชั้นหนึ่งรอบร่างกายที่แทบจะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ม่านพลังป้องกันนี้ทั้งไร้น้ำหนักแต่กลับสัมผัสได้ถึงการคงอยู่

“ดูเหมือนจะกันลมซะด้วยสิ...”

โจวเฉินรู้สึกได้ว่าลมหายใจของเขาถูกโล่นี้ขวางเอาไว้

ด้วยความที่ช่วยไม่ได้เขาจึงทำได้เพียงปิดการทำงานของสกิลติดตัวนี้ไปชั่วคราว

แม้ว่าเขาจะสามารถกลั้นลมหายใจได้เป็นชั่วโมงในสภาวะไร้อ๊อกซิเจนเนื่องจากสกิลติดตัวอย่าง ‘กลั้นหายใจ’ แต่ถ้าเป็นไปได้เขาก็ไม่ค่อยอยากทำเท่าไหร่นัก

“เอาเป็นว่าใช้งานสกิลนี้เป็นสกิลประเภทใช้งานไปแล้วกัน”

หลังจากคิดอยู่ซักพักเขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะเปิดใช้งานสกิลนี้เฉพาะในการต่อสู้เท่านั้น

“สงสัยจริงๆว่าโล่จะยังฟื้นตัวได้อยู่ไหมถ้าปิดการทำงานไปหลังจากที่มันถูกทำลาย...”

แม้จะคิดเช่นนี้แต่ในใจของเขากลับคิดว่าน่าจะเป็นไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นแล้วสกิลติดตัวนี้คงจะติดบัคก็เพราะเขานี่แหละ

โจวเฉินเดินออกจากถ้ำและออกสำรวจต่อไป

ไม่นานนักเขาก็พบเข้ากับมอนสเตอร์อีกกลุ่มหนึ่งแต่โชคไม่ดีนักที่พวกมันทั้งอ่อนแอและไม่มอบสกิลติดตัวใดๆให้กับเขาทั้งนั้น

เขาเดินทางต่อผ่านทางเดินอันคดเคี้ยวภายในถ้ำและมาถึงสถานที่ที่ผิดปกติแห่งหนึ่ง

ด้วย ‘มองเห็นในที่มืด’ ของเขาทำให้เขาสังเกตเห็นว่ามีหินสีทองอยู่ภายในถ้ำข้างหน้านี้ พวกมันดูเหมือนกับแร่อะไรบางอย่าง

“หรือนี่จะเป็น...เหมืองทอง?”

เขาเดินเข้าไปและจ้องมองดูอย่างตั้งอกตั้งใจ

ยังไงก็ตามตัวเขาไม่ใช่ผู้ประเมินมืออาชีพจึงไม่อาจสรุปอย่างชัดเจนได้ เขาทำได้เพียงกล่าวเท่านั้นว่าหินพวกนี้มีโอกาสสูงมากที่น่าจะมีค่าพอสมควร

“ชั้นหินบริเวณนี้เต็มไปด้วยชั้นหินสีทองและยังมีเยอะซะด้วยสิ”

โจวเฉินเดินไปต่อตามทางเดินและในสิบนาทีให้หลังเขาก็สังเกตเห็นศพของมนุษย์มากมายหลายศพนอนกองอยู่ ศพเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะเป็นคนพื้นเมืองที่ทำงานอยู่ที่นี่เนื่องจากรอบๆตัวพวกเขายังมีอีเต้อร์และรถขนแร่กองอยู่เลย

สาเหตุการตายเองก็คงเหมือนกับคนกลุ่มที่แล้ว ลำคอและหน้าอกของพวกเขาถูกโจมตีและดูจากลักษณะการโจมตีแล้วมีโอกาสสูงมากที่จะเป็นฝีมือของเจ้าแวมไพร์ตนนั้น

“คนพวกนี้โชคร้ายจริงๆ มาที่เหมืองแท้ๆแต่กลับเจอเข้ากับแวมไพร์ซะอย่างนั้น”

ขณะที่ขบคิดอยู่นั้นโจวเฉินก็ค้นพบบางสิ่งบางอย่าง เขาสัมผัสได้ถึงการไหลเวียนของเลือดไม่ไกลจากบริเวณพื้นที่เหมืองทองมากนัก

เมื่อมุ่งหน้าไปตามการนำทางของสกิล ‘กระหายเลือด’ โจวเฉินเดินผ่านทางเดินอันคดเคี้ยวและมาหยุดอยู่ตรงหน้าหินที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงหินสีทองธรรมดาๆก้อนหนึ่ง กระแสการไหลเวียนของเลือดที่เขาสัมผัสได้ถูกส่งออกมาจากด้านในนี้

เขาเหยียดหอกออกไปเคาะที่หินสีทองก้อนนั้นและพบว่ามันทั้งหนาและยากจะทำลาย

“เลือดที่สัมผัสได้อยู่ลึกเข้าไปในชั้นหินก้อนนี้ราวสามเมตรและดูเหมือนจะมีมนุษย์อยู่สามคน”

โจวเฉินไม่เข้าใจนักว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงได้เข้าไปอยู่ภายในหินก้อนนี้ได้ เขาเริ่มทำการตรวจสอบรอบๆและจากนั้นก็พบเข้ากับหินที่ยื่นออกมาก้อนหนึ่งทางด้านขวาที่ดูแปลกแยกกว่าหินก้อนหนึ่งๆในมุม

เขารู้ได้ทันทีเลยว่ามันคือกลไกอะไรบางอย่างจึงทำการกดลงไป

หลังจากลองอยู่หลายครั้ง เมื่อเขาลองใช้แรงประมาณมนุษย์ผู้ชายโตเต็มวัยสองคนกดลงไปที่หินเสียงการเคลื่อนไหวเบาๆของอะไรบางอย่างก็ดังขึ้นและก้อนหินเบื้องหน้าก็ค่อยๆขยับออกไปด้านข้าง

หลังจากก้อนหินที่ดูเหมือนจะเป็นประตูขยับออกไปก็เผยให้เห็นห้องหินสี่เหลี่ยมด้านล่าง

เสี้ยวพริบตาต่อมาโจวเฉินก็ต้องขมวดคิ้วเนื่องจากเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นเลือดอบอวล

ภายในห้องนั้นมีเก้าอี้และโต๊ะที่ดูหรูหราตั้งอยู่ บนโต๊ะนั้นมีจอกสีทองแก้วหนึ่งวางเอาไว้

ทางด้านขวาของโต๊ะคือโรงศพหินที่บนฝาโลงนั้นถูกสลักเอาไว้ด้วยลวดลายอันลึกลับ ด้านข้างโรงศพหินเต็มไปด้วยเศษกระดูกของมนุษย์และรอยเลือดมากมาย

หลายเมตรทางด้านซ้ายถัดจากโต๊ะและเก้าอี้คือคุกที่ทำจากเหล็ก ภายในคุกเหล็กนั้นมีสตรีวัยเยาสามคนนั่งตัวสั่นอยู่บริเวณมุม พวกเธอทั้งสามร่างกายสั่นสะท้านและกอดกันแน่นขณะที่จ้องมองมายังโจวเฉินด้วยสายตาหวาดกลัว

เนื่องจากหินเรืองแสงไม่ทราบชนิดที่ประดับอยู่บนกำแพงภายในห้องแห่งนี้ทำให้พวกเธอสามารถมองเห็นลักษณะของโจวเฉินได้อย่างชัดเจน

โจวเฉินมองไปที่เครื่องแต่งกายของคนทั้งสามภายในคุกเหล็ก เมื่อมองไปยังบาดแผลบริเวณข้อมือและสีหน้าอันขาวซีดเหล่านั้นเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

“ที่นี่น่าจะเป็นรังของแวมไพร์และผู้หญิงทั้งสามคนนี้ก็ถูกจับมาเป็นอาหารสำรองของมัน”

โจวเฉินลองคาดเดาลำดับเหตุการณ์ดู จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้น่าจะเกิดขึ้นตอนที่กลุ่มทหารรับจ้างค้นพบเหมืองทองภายในถ้ำที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์แห่งนี้และเข้าทำการยึดครอง จากนั้นพวกเขาก็เริ่มกวาดล้างมอนสเตอร์และเตรียมจะทำการขุดเหมืองแต่กลับบังเอิญไปรบกวนแวมไพร์ที่ใช้ชีวิตอยู่ใกล้ๆเข้าจึงถูกล่าสังหาร

ในตอนที่โจวเฉินกำลังคิดสะระตะไปเรื่อยเปื่อยและหยิบถ้วยทองบนโต๊ะขึ้นมาดูว่ามันทำจากทองแท้รึเปล่านั้น สตรีภายในคุกก็เอ่ยขึ้นมา

“ท่าน...ท่านเป็นมนุษย์รึ?! ได้โปรดช่วยพวกเราด้วย!”

สตรีผู้นั้นวิ่งมาเกาะลูกกรงและตะโกนบอกโจวเฉินด้วยน้ำเสียงกังวล

“ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวฉันจะปล่อยพวกเธอออกมาแน่นอนอยู่แล้ว”

โจวเฉินตอบกลับเสียงเรียบและยัดถ้วยทองลงกระเป๋ากางเกง

จากนั้นเขาก็เดินไปเปิดโรงศพหินและพบอัญมณีกับเหรียญทองจำนวนหนึ่งภายในนั้น

“ของสะสมของเจ้าแวมไพร์นี่ไม่เลวเลย...”

ดวงตาของโจวเฉินเปล่งประกายระยิบระยับ นอกจากนี้เขายังพบกับกล่องหรูหราภายในห้องที่ด้านในนั้นเต็มไปด้วยอัญมณีและเหรียญทองอยู่อีกด้วย

“เจ้าหมอนี่ไม่เก็บพวกไอเทมเหนือธรรมชาติเอาไว้เลยแฮะ...”

โจวเฉินไม่พบกับไอเทมที่ระบบระบุได้เลยซักชิ้น

หลังจากปล้นจนหนำใจโจวเฉินก็เดินตรงไปที่คุกเหล็ก จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปกำลูกกรงเหล็กเอาไว้แน่นและออกแรงดึงมันออกไปด้านข้างจนทำให้เกิดช่องโหว่ที่ใหญ่พอจะให้มนุษย์ลอดผ่านได้

หลังจากฝืนเปิดลูกกรงโจวเฉินก็ถอยออกมาก่อนที่หญิงสาวคนที่พูดกับเขาเมื่อครู่เขาวิ่งออกมาอย่างร้อนใจ

“ขอบคุณจริงๆค่ะที่ช่วยพวกเรา!”

พอออกมาได้เจ้าหล่อนก็คุกเข่าลงและเอ่ยขอบคุณโจวเฉินอย่างซาบซึ้ง

“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณเพราะมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร จะหนีออกไปจากที่นี่ได้รึเปล่านั่นก็ขึ้นอยู่กับพวกคุณเองแล้ว”

โจวเฉินเลือกที่จะช่วยพวกเธอออกมาเท่านั้นแต่ไม่ได้สนใจว่าพวกเธอจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัยรึเปล่าเพราะที่นี่คือส่วนลึกของถ้ำไร้นาม...ไม่เพียงแต่เส้นทางทั้งวกวนและมืดสนิทเท่านั้นแต่ยังมีมอนสเตอร์อีกด้วย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด