ตอนที่แล้วตอนที่ 817 ทุกคน, ข้ากำลังมา!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 819 สุดยอดการรบ

ตอนที่ 818 ขอให้เอาชนะให้ได้


ในทวีปป่าหินทรายแท่งหินสุดสายตาตั้งอยู่กับที่ เกิดเป็นป่าหินเทาขนาดใหญ่

อูหม่าเทียนพ่นทรายในปากใบหน้าซูบตอบของเขาที่ควันปกคลุมมีตอหนวดเคราครึ้มที่ไม่ได้โกนมาหลายวันแล้ว  ตัวของเขาไม่มีส่วนที่เหลาะแหละอีกต่อไปแต่ดูเหมือนทหารผ่านศึกที่คมและมาดมั่นมากกว่า

เขาและสหายที่อยู่ห่างกันระยะสิบเมตรมองดูกันและกันทั้งสองฝ่ายส่งสัญญาณให้กัน จากนั้นถอยและหายไปในเงา

เมื่อกลับเข้ามาในค่าย อูหม่าเทียนนั่งเหยียดตัวกับพื้นและหยิบกระติกน้ำจิบลงคอดับกระหายทำให้รู้สึกดีขึ้น

“สถานการณ์เป็นไง?”

อายะเดินมาหาเขาและนั่งลง  สายตาของนางมองดูร่างของอูหม่าเทียนที่มีร่างผอมกว่าแต่ก่อน  แต่ม่านตาดำของเขาเจิดจ้า เมื่อเห็นบุคลิกอูหม่าเทียนเปลี่ยนไปทำให้อายะมีความสุขใจมาก นางรู้สึกว่าโชคชะตาผลักดันให้ราชาขาหมูมาอยู่ฝ่ายนาง

แผนของหน่วยกะโหลกถูกกำหนดโดยอูหม่าเทียนอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก  อูหม่าเทียนมีพรสวรรค์ที่โดดเด่นนอกจากนี้ยังได้รับการนับถือจากหน่วยกะโหลกทั้งหมด  สำหรับอายะอูหม่าเทียนเป็นคนที่คู่ควรยืนข้างท่านปิงและถูกดันให้ไปอยู่กับหน่วยกะโหลกนับว่าใช้เขาได้ไม่เต็มที่  หน่วยกะโหลกเดิมทีเป็นกองทหารรับจ้าง และแม้ว่าทุกคนจะมั่นคงไม่หวั่นไหวยามอยู่ข้างนอก  แต่พวกเขายังขาดความเชื่อมั่นตัวเอง และรู้สึกว่าพวกเขายังด้อยเมื่อเทียบกับกองทัพมาตรฐาน

นางรู้มาตรฐานของทุกคนในหน่วยกะโหลก  และถ้าไม่ใช่เพราะอูหม่าเทียน  พวกเขาคงพ่ายแพ้แน่นอน  นางพูดกับเขาด้วยความนับถือจากใจจริง

อูหม่าเทียนหัวเราะแก้มของเขานูนเด่นบนใบหน้าที่ตอบเผยให้เห็นบุคลิกคมสัน แต่เขาพูดอย่างอ่อนโยน “ทุกคนทำได้ค่อนข้างดี มีการบาดเจ็บล้มตายไปบ้าง  แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่  เทียบกับเราศัตรูไม่เหมาะกับการทำสงครามแบบนั้น แต่โกวเฉิงเวิ่นเต้าตรึงกำลังอยู่ป้อมพิทักษ์สมุทร ดังนั้นข้าเกรงว่าศัตรูที่อยู่ด้านนี้จะกังวลมากขึ้นคราวต่อไปจะเป็นการทดสอบที่แท้จริง การโจมตีที่ทุกคนต้องเผชิญจะรุนแรงมากขึ้น”

อูหม่าเทียนคิดถึงเรื่องรายงานจากแนวหน้า  และยังรู้สึกว่าเหลือเชื่อ

โกวเฉิงเวิ่นเต้ามีเรือล้อมโจมตีขนาดยักษ์22 ลำถูกป้อมพิทักษ์สมุทรหยุดไว้ได้ เขาไม่รู้ว่านั่นทำได้ยังไง เขาไม่เคยคบกับเซี่ยอวี่อันมาก่อน  และเพียงความประทับใจของเขาก็คือเขาเป็นคนซื่อสัตย์และรอบคอบและมีนิสัยเป็นกันเอง แต่เขาไม่เคยคาดเลยว่าเขาจะทรงพลังได้ขนาดนั้น เขารู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ท่านอาเฮ่อจะทรงพลัง นั่นคือความจริงที่ทุกคนเห็นอย่างชัดเจน

เมื่อเทียบกับพวกเขา  ความสำเร็จในการสู้รบของเขาน้อยนิดกว่ามาก  แต่ไม่ว่าจะเป็นเขาหรืออายะ พวกเขาทั้งสองคนเชื่อมั่นต่อความสำเร็จของเซี่ยอวี่อัน

ความจริงบันทึกการสู้รบของพวกเขาก็โดดเด่นเป็นอย่างดีเช่นกัน  และท่านปิงก็ชื่นชมพวกเขามากกว่าเป็นครั้งคราว

คลิฟบริวารของโกวเฉิงเวิ่นเต้าและกองทัพของเขาถูกพวกเขาถ่วงเวลาไว้ห้าวันเต็มทวีปป่าหินที่กว้างขวางกลายเป็นสมรภูมิที่ดีที่สุดของพวกเขา ภูมิประเทศที่ซับซ้อนกลายเป็นสวรรค์ของสงครามในเมือง หน่วยกะโหลกเคลื่อนที่ผ่านสมรภูมิเหมือนกับปลาในน้ำ  ขณะที่ศัตรูเคลื่อนไหวอย่างยากลำบาก

ทวีปป่าหินทรายกลายเป็นลานเนื้อสับที่ไม่มีคนสังเกตได้  และเมื่อคลิฟรู้ตัวจำนวนคนบาดเจ็บล้มตายของพวกเขาก็เกินสามพันคน สิ่งที่แย่ก็คือกำลังใจของพวกเขาความล้มเหลวของภารกิจที่ป้อมพิทักษ์สมุทรและศัตรูที่ปรากฎเหมือนภูตผียังคงเพิ่มพูนคนบาดเจ็บล้มตายทำให้กำลังใจของทหารตกต่ำกันหมด

เมื่อการกรีฑาพลเข้าภูมิภาคใต้เป็นเหมือนมีดร้อนที่ใช้หั่นเนยไม่ว่าจะมีคนบาดเจ็บล้มตายมากเพียงไหน ก็ไม่เคยส่งผลต่อกำลังใจพวกเขา แต่เมื่อโกวเฉิงเวิ่นเต้าเคลื่อนทัพด้วยตนเองแต่ก็ยังถูกขัดขวางได้นี่นับว่าส่งผลต่อกำลังใจของผู้ใต้บังคับบัญชาของเขามาก

โกวเฉิงเวิ่นเต้าถือว่าเป็นเทพสงครามในกองทัพเขา และในหัวใจทุกคนตราบใดที่โกวเฉิงเวิ่นเต้ายังเคลื่อนไหวเองได้  พวกเขาก็ถือว่าชนะแล้ว  พวกเขาไม่เคยแม้แต่จะยอมรับว่าโกวเฉิงเวิ่นเต้าจะล้มเหลวในที่แรก

ความดึงดันของพันธมิตรใต้ทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบมากกว่าที่คาดจนถึงจุดที่พวกเขารู้สึกกลัว  พวกเขามีความสามารถในการต่อสู้ในเมือง  แต่แม้ด้วยพวกเขาที่มีคนบาดเจ็บล้มตาย  พวกเขาก็ยังไม่ยอมถอยแม้แต่น้อย

ฝ่ายสัมพันธมิตรใต้สูญเสียคนไป1000 คน  แต่อัตราส่วน 1 ต่อ 3ก็พอจะทำให้คลิฟอายแล้ว แต่สัดส่วนของความแข็งแกร่งกลับขยายกว้างขึ้น  พวกเขามีสมาชิกและมี 3000 คนที่ตายไปไม่ได้ส่งผลต่อพวกเขา แต่พันธมิตรใต้มีคนเพียง 5000 คน และบาดเจ็บล้มตายไปพันคนและพันคนที่ตายไปก็มากถึง หนึ่งในห้า”

20% ก็เพียงพอจะทำลายกองทัพอ่อนแอได้

แต่ศัตรูยังคงรังควานอย่างเหนียวแน่น นั่นหมายความว่าอีกฝ่ายนับได้ว่าเป็นกองทัพที่มีมาตรฐานสูง  แต่คลิฟเชื่อว่าพวกเขายังไม่ถึงจุดวิกฤติ

คลิฟคาดเดาได้ถูกฝ่ายหน่วยกะโหลกสูญเสียกำลังพลไปถังพันนาย

เมื่อได้ยินการตัดสินใจของอูหม่าเทียนอายะถึงกับหน้าเสีย

กองทัพนี้ตกทอดมาจากบิดาของนาง  และทหารหลายคนในหน่วยทุกคนเหมือนกับพี่น้องของอายะ  เมื่อสหายผู้คุ้นเคยกันเหล่านั้นตาย  หัวใจนางราวกับถูกกรีด  ถ้าสถานการณ์ตึงเครียดมากยิ่งขึ้นก็หมายความว่าพวกเขาจะต้องมีคนตายเพิ่มอีก และมือที่จับดาบของอายะเปลี่ยนเป็นซีด

อูหม่าเทียนเข้าใจว่าอายะรู้สึกอย่างไร  เมื่อเห็นสหายของตนล้มตาย เขาก็รู้สึกทนไม่ได้

เขายังคงเงียบไประยะหนึ่งก่อนจะพูด  “กองพลสายรุ้งใต้ของเต๋อซิงกับกองพลหยวนม่อซังอยู่ด้านหลังเราแล้วและสามารถสนับสนุนเราได้ทุกเมื่อ  แต่ข้าไม่แนะนำให้พวกเขาเข้าสมรภูมิเลย  กำลังของศัตรูยังไม่หมด  พวกเขายังไม่เหนื่อยและพวกเขาเข้ามาตอนนี้ก็เปลี่ยนสถานการณ์ไม่ได้”

อายะมองดูอูหม่าเทียนมือกำดาบแน่นจนจำเส้นเลือดเริ่มปูดและกัดฟันถาม “เจ้าต้องการให้หน่วยกะโหลกสู้ตายพร้อมกับเราหรือ?”

อูหม่าเทียนไม่หันกลับแต่พูดเย็นชามากขึ้น “ก็แค่ทำเท่าที่เราจะมีโอกาสชนะได้”

อายะยืนโงนเงนหน้าซีดหลังจากนั้นเป็นเวลานาน “เราทำแบบนี้แล้วจะชนะได้งั้นหรือ?”

“ข้าไม่รู้” อูหม่าเทียนพึมพำ, ริ้วรอยความสูญเสียและความเจ็บปวดผุดขึ้นบนในหน้าเขา  แต่สายตาของเขาคมกล้าอีกครั้ง  น้ำเสียงของเขาหนักแน่นและเยือกเย็น  “มันเป็นวิธีเดียวที่ข้าคิดได้ตอนนี้”

อายะยังคงเงียบนางคิดทันทีถึงวันที่บิดานางส่งมอบกองทัพให้นาง หลังจากนั้นชีวิตของพวกเขาก็ขมขื่นมาก อดมื้อกินมื้อ พวกเขาขาดแคลนอาวุธขาดแคลนเกราะ และบางครั้งบางคราว เพื่อให้ได้เงินสักสองสามพันคลาวด์พวกเขาถึงกับยอมเสี่ยงชีวิต

อายะสงบใจได้แล้ว

‘จริงสิ, ยังมีอะไรไม่พึงพอใจอีกยังมีอะไรต้องบ่นต้องเรียกร้องอีก?  ชีวิตที่น่าสมเพชและต่ำต้อยของเราได้เพลิดเพลินกับการใช้จ่ายและได้รับเกียรติที่เราเคยใฝ่ฝันเราจะไม่ใช่วิญญาณอดอยากอีกต่อไปและได้รับปฏิบัติเหมือนกับเป็นกองทัพที่ดีที่สุด เราเป็นกลุ่มที่นายท่านให้เกียรติได้รับความนับถือ’

‘ทุกอย่างก็เพื่อวันนี้’

‘ทุกสิ่งทุกอย่างนำเรามาตายในวันนี้’

‘นี่เป็นวันที่ทุกคนรอคอยไม่ใช่หรือ?นี่คือสิ่งที่ทุกคนสาบานเอาไว้ว่าจะทำไม่ใช่หรือ?

“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  เราจะทำมัน”

อายะยืนขึ้นอย่างสงบ  นางชูดาบใหญ่ในมือนางขึ้นสายลมพัดผมสีแดงเพลิงของนางจนดูเหมือนเปลวเพลิงกำลังลุกโชติช่วงต่อหน้าอูหม่าเทียน

“ข้ามีข้อขอร้องประการเดียว”

อูหม่าเทียนที่สูญเสียสมาธิถามโดยไม่รู้ตัว  “คำขออะไร?”

“ขอให้เจ้าเอาชนะให้ได้!”

อายะหันหน้าไปทันทีและหัวเราะ  “เมื่อเจ้าเอาชนะได้ เจ้าต้องบอกข้า”

สายตาของอูหม่าเทียนพลันพร่าเลือน

**************************

พันธมิตรใต้ในปัจจุบันนี้กำลังรุ่งเรือง  ทวีปต่างๆในภูมิภาคใต้ทั้งหมดส่งเรือรบมุ่งสู่สัมพันธมิตรใต้ และไม่มีการโดดเดี่ยวโดยไม่ช่วยเหลืออีกต่อไป  สินค้าดีๆและกำลังพลทั้งหมดจากทั่วทุกมุมภูมิภาคใต้ทะลักเข้าสัมพันธมิตรใต้

การก่อตั้งพันธมิตรใต้เร็วๆนี้กลายเป็นความหวังเดียวของภูมิภาคใต้ มีเพียงพันธมิตรใต้ที่สามารถต่อต้านการแทรกแซงของทวีปกวงหมิงได้ คำพูดนี้กลายเป็นคำขวัญที่ทุกคนพูดกันไปทั่วท้องถนน  ตระกูลระดับสูงต่างๆ และสมาคมการค้าใหญ่ของภูมิภาคใต้ทั้งหมดรวมตัวกันและสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์และยุทธภัณฑ์เข้ามายังสัมพันธมิตรใต้ไม่หยุดหย่อน

แต่ที่สำคัญที่สุดพวกคนหนุ่มวัยเยาว์ทั้งหมดล้วนกระหายความสำเร็จต่อเป้าหมายของพวกเขา

ถึงขนาดที่ค่ายรับสมัครทหารของพันธมิตรใต้แน่นขนัดไปหมด

ชิวหย่งและไต้ซานเร่งรีบมาจากทวีปหินใต้อันห่างไกล ถ้าไม่ใช่เพราะการเดินทางเข้าพันธมิตรใต้ไม่มีค่าใช้จ่าย  คงไม่มีใครสามารถทนแบกค่าธรรมเนียมภาษีในการเดินทางไกลได้แน่

เมื่อพวกเขาลงจากยานโดยสารก็ต้องตื่นตกใจกับฝูงคนทันที

“โอว, พระเจ้า มีผู้คนมากมายยิ่งนัก!”

ตาของชิวหย่งหมอง,เขาเอามือทั้งสองกุมศีรษะทำสีหน้าตะลึง ไต้ซานที่อยู่ข้างๆเขากลับตื่นเต้นฉากภาพที่ร้อนแรงต่อหน้าทำให้เขาเลือดลมพลุกพล่านด้วยความตื่นเต้น  เพื่อปกป้องบ้านเขา เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย  นั่นคือสิ่งที่ลูกผู้ชายพึงกระทำ!

ไต้ซานผู้ด้วยความมั่นใจ  “เราต้องได้รับเลือกแน่นอน!”

ชิวหย่งไม่แน่ใจ  “แต่มีคนมากมายนัก...”

แม้แต่สถาบันรับสมัครทหารที่ดีที่สุดก็ยังไม่เคยเต็มไปด้วยฉากภาพผู้คนมากมายหนาแน่น  ผู้คนหลั่งไหลมาอย่างน้อยก็สองสามหมื่นคน  และชิวหย่งเห็นประกาศรับสมัคร  สำหรับการรับสมัครในปัจจุบัน  พวกเขารับคนเพียง 200 คน

“เราควรเปลี่ยนไปสมัครค่ายอื่นดีไหม?”  ชิวหย่งถามอย่างลังเลใจ

เมื่อได้ยินคำพูดของเขาเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ข้างเขาอดพูดขึ้นไม่ได้ “อย่าแม้แต่จะคิด!  ค่ายอื่นทุกค่ายก็เหมือนกัน  อาจจะมีความแตกต่างกันบ้าง  แต่คนไม่น้อยลงแน่

ไต้ซานตบไหล่ของชิวหย่งและให้กำลังใจดังลั่น  “เราจะต้องได้รับเลือกแน่!  อาหย่ง, เจ้าต้องมีความมั่นใจ!”

ขณะนั้นเสียงดังกึกก้องหายไปทันที

ทั้งสองคนตกใจและมองดูที่เวที

บุรุษที่หน้าซีดสวมชุดยาวสบายๆปรากฏตัวบนเวทีของค่ายรับสมัคร

“เซี่ย...เซี่ยอวี่อัน!”

ไต้ซานตะลึง,ตาของเขาเป็นประกายเหลือเชื่อ ไม่ใช่แต่เพียงเขาเท่านั้น, ชิวหย่งก็พลอยตกตะลึงไปด้วย

พอเข้าพื้นที่แล้วจู่ๆในพื้นที่กลายเป็นเงียบสงัด พวกเขาสำรวมตัวอยู่ในความเงียบ

เซี่ยอวี่อันมาถึงอย่างไม่คาดคิด  เขาตัดสินใจมาด้วยตนเอง

เซี่ยอวี่อันรู้สึกว่าอาการบาดเจ็บของเขาไม่ได้ร้ายแรงเกินไปและเขาออกจากโรงพยาบาลได้เร็ว  สงครามอยู่ในที่ไกล  กองพลนางแอ่นอ่อนกำลังลงมาก  และเขาตั้งใจจะหาตำแหน่งทดแทนและรีบกลับเข้าสมรภูมิโดยเร็ว

เขาไม่เคยคาดเลยว่าการปรากฏตัวของเขาจะทำให้เกิดเสียงฮือฮา

“โอวสวรรค์โปรด!  เป็นเซี่ยอวี่อันจริงๆ!”

“เทพสงครามเซี่ยอวี่อัน!”

ในภูมิภาคใต้ใครบ้างไม่รู้จักเซี่ยอวี่อัน? พลเมืองทุกคนที่ก้าวเข้ามาเพื่อร่วมสงครามทุกคนได้เห็นวีรกรรมจากบันทึกการรบหกชั่วโมงมาแล้ว  และเมื่อมาเผชิญกับวีรบุรุษผู้เป็นแบบอย่างด้วยตัวเอง  พวกเขาตื่นเต้นตัวตรง

ทั่วทั้งพื้นที่กลับกลายเป็นมีชีวิตชีวา ข่าวที่ร้อนแรงที่สุดแพร่กระจายไปทั่วภูมิภาคใต้

เซี่ยอวี่อันยังคงรู้สึกมั่นใจ ทหารที่เขาคัดเลือกเฉพาะค่อนข้างมีพลังและความสำเร็จโดดเด่นทุกคน แต่สิ่งที่เขาไม่เคยคิดมาก่อนก็คือดูเหมือนการกระทำโดยไม่ตั้งใจของเขาเตะตาคนเจ้าเล่ห์คนหนึ่งทันที

ในตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่ปิงโบกมือให้เขา “อา..เสี่ยวเซี่ยยังไม่ฟื้นฟูร่างกายเต็มที่เลย  เขากำลังฝืนตัวเองมากเกินไป เราฉวยโอกาสนี้เลยดีกว่า”

เป็นวันที่เซี่ยอวี่อันได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตผู้จัดสรรคัดหาบุคลากรให้พันธมิตรใต้  และให้ทำหน้าที่คัดสรรด้วย

จำนวนเรือรบและขบวนสินค้ามุ่งเข้าสู่พันธมิตรใต้มากมายมหาศาลในวันนั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด