ตอนที่แล้วตอนที่ 811 ข่าวของเหวินกัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 813 รบด้วยพลัง

ตอนที่ 812 การสู้รบที่น่าอัศจรรย์


แสงจากพลังระเบิดฉายไปทางซากหักพังของป้อมเป็นครั้งคราว

ทหารต่างขว้างสมบัติดวงดาวไปในการสู้รบ สมบัติดวงที่พวกเขารักและเก็บสะสมไว้ในวันธรรมดา ต่างระเบิดฉายแสงเจิดจ้าทั้งหมดใบหน้าเยาว์วัยที่น่ากลัวและคลั่งของพวกเขาเต็มไปด้วยเหงื่อและน้ำตา  พวกเขาไม่ยินดีเลย

ในอดีต พวกเขาเป็นแค่กองทัพเล็กๆรับหน้าที่รักษาความปลอดภัย สมบัติวิญญาณใดๆ ก็เพียงพอจะซื้อพวกเขาได้ทั้งกองทัพ  และเป็นเวลานานที่พวกเขายังเป็นถุงขยะที่ต่ำต้อย

ใครยังจะจำพวกเขาได้บ้างว่าพวกเขาเป็นถุงขยะ?  ใครยังจะจำนางแอ่นปีกคู่เซี่ยอวี่อันได้

ช่วงเวลาสั้นๆ ที่ถูกซื้อ นายทหารวัยกลางคนที่อายุค่อนข้างน้อยและไม่มีใครรู้จักกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากธุรกิจในครั้งนั้น

พวกเขาไม่กล้าคาดหวังมากเกินไป  พวกเขาไม่กล้าหวังอะไรมากนัก ในอดีตพวกเขาเป็นพวกเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมาย  และเสียเวลาไปหลายปี

หูของเซี่ยอวี่อันไม่สามารถได้ยินเสียงอะไรอื่นนอกจากเสียงระเบิดและการโจมตีขนาดที่เขาแทบจะหูหนวกอยู่แล้ว  แต่เขาทุ่มสุดชีวิตโบกมือคำรามคำพูดที่แม้แต่เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าเป็นการให้กำลังใจทหารหรือให้กำลังใจตนเอง

แม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินเสียงเขาเองแม้ว่าทุกคนจะไม่ได้ยินเสียงของเขาก็ตาม

ภายใต้การระเบิดอย่างต่อเนื่อง และแสงรัศมีฉายในฉากภาพที่เงียบและสั่นสะท้าน เซี่ยอวี่อันที่มองดูเหมือนเป็นบ้ายังคงรู้สึกสงบมาก  กระบวนความคิดของเขาล่องลอยและวันคืนเก่าก่อนผ่านไปอย่างเงียบงัน

‘เป็นเรื่องที่น่าเสียใจเล็กน้อยที่ไม่สามารถกลายเป็นแม่ทัพระดับทองได้’

‘นายท่านซื้อเรามาในราคาถูกขนาดนี้ เขาได้กำไรอย่างแท้จริง ข้าจะไปเทียบกับนายท่านในเรื่องทำธุรกิจได้ยังไง?’

‘แต่, ข้าไม่เสียใจแม้แต่น้อย’

……………

เปลือกตาของเซี่ยอวี่อันสั่นสะท้าน  เขาค่อยๆ ลืมตา แสงอาทิตย์ฉายผ่านมาทางหน้าต่างส่องเต็มหน้าเขาเขารู้สึกอบอุ่น  เหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเมื่อชาติที่แล้วสำหรับช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เขามีความฝันอย่างเดียว และทุกครั้งที่เขาตื่นขึ้นเขาจะมีความเศร้าอยู่เต็มอก

การสู้รบจบไปนานแล้ว  แต่เขารู้ว่าเป็นการสู้รบที่เขาจะไม่มีวันลืมตลอดชีวิตที่เหลืออยู่

เขาลุกขึ้นนั่งและสวมรองเท้ามองดูเตียงสนามรอบๆ  คนที่นอนอยู่ล้วนเป็นทหารทั้งนั้นกองพลนางแอ่นได้รับความสูญเสียหนักยิ่งกว่านั้นการสู้รบทั้งหมดที่เขาเคยเผชิญมาก่อนนั้นทหารที่เหลืออยู่น้อยกว่าหนึ่งในห้าจากที่เคยมีและแม้แต่ผู้รอดชีวิตก็ไม่ได้กลับมาอย่างสมบูรณ์ปลอดอันตราย

เซี่ยอวี่อันเดินสำรวจรอบๆอย่างเงียบงันใบหน้าที่คุ้นเคยนอนหลับอยู่บนเตียงอย่างสงบการเคลื่อนไหวของเขานุ่มนวลมาก

หลังจากตรวจสอบทุกคนจนกระทั่งทหารคนสุดท้ายเขามองดูรอบๆ เนื่องจากมีเตียงว่างเปล่าหลายเตียง และใบหน้าที่คุ้นเคยกันทั้งหมดที่ต้องแยกกันตลอดกาล ปรากฏอยู่ในสายตาของเขา

เขาเดินออกมานอกห้องอย่างเงียบงัน

ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ใต้แสงแดด  เขาร้องไห้

การสู้รบที่ป้อมพิทักษ์สมุทรสั่นสะท้านไปทั้งโลก

เป็นการสู้รบยิ่งใหญ่พอจะทิ้งร่องรอยไว้ในประวัติศาสตร์สงคราม  ระดับความชอกช้ำสั่นสะท้านไปทั่วดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์จนพูดไม่ออก  เรือรบล้อมโจมตีขนาดใหญ่ 22 ลำ นั่นเป็นแนวรบที่น่ากลัวพอจะทำให้แม่ทัพทหารรู้สึกสิ้นหวัง  มากจนพวกเขาวางอาวุธยอมแพ้

ไม่มีป้อมรบใดจะต้านทานพลังโจมตีของเรือรบล้อมโจมตีขนาดใหญ่22 ลำได้

แต่สัมพันธมิตรใต้สร้างเรื่องอัศจรรย์ได้

การป้องกันของเซี่ยอวี่อันในป้อมพิทักษ์สมุทรคงอยู่ได้ตลอดหกชั่วโมงและทำลายเรือรบล้อมโจมตีขนาดใหญ่ไปถึงครึ่งหนึ่งขณะที่โกวเฉิงเวิ่นเต้าคิดว่าชัยชนะอยู่ในกำมือ จู่ๆ อาเฮ่อปรากฏตัวพร้อมกับกองทัพสมบัติดวงดาวของเขาและเข่นฆ่าทำทางเข้ามา

เรือรบล้อมโจมตีขนาดใหญ่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ทันทีและตกเป็นเป้าหมายเมื่อพวกเขาเคลื่อนใกล้เข้ามา

เรือรบล้อมโจมตีขนาดใหญ่ทั้งหมดตกอยู่ในเปลวไฟ  และไม่เพียงเท่านั้น เรือรบล้อมโจมตีขนาดกลางทั้งหมดดูเหมือนจะถูกทำลายไปด้วยเช่นกัน โกวเฉิงเวิ่นเต้าโกรธจัดจนต้องลงมือด้วยตนเอง แต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงคือกองกำลังลึกลับนี้ไม่ยอมถอย  แต่กลับอาศัยซากหักพังของเรือล้อมโจมตีสู้กับพวกเขาอย่างดุเดือด

การสู้รบอย่างเข้มข้นเกิดขึ้นในซากหักพัง

กองเรือรบล้อมโจมตีขนาดใหญ่ก็เป็นเหมือนป้อมรบขนาดใหญ่ ขณะที่เรือรบล้อมโจมตีขนาดกลางก็ยังมีขนาดเท่าเนินเขาซึ่งการสู้รบเกิดขึ้นในซากหักพังขนาดใหญ่  กองเรือของโกวเฉิงเวิ่นเต้าไม่สามารถขยับขยายออกไปได้ในสภาพภูมิประเทศที่ซับซ้อน ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งใช้แนวซากหักพังสำหรับป้องกันและปล่อยคลื่นโจมตีใส่พวกเขา

สิ่งที่ทำให้โกวเฉิงเวิ่นเต้าแทบกระอักเลือดก็คือในกองทัพนี้  ทุกคนมีสมบัติดวงดาวเช่นกัน

ทหารธรรมดาของทวีปกวงหมิงเพียงแต่รู้ว่าทวีปซางโจวมีสมบัติวิญญาณ แต่โกวเฉิงเวิ่นเต้ารู้ว่าสมบัติวิญญาณของทวีปซางโจวเป็นสมบัติดวงดาวของสวรรค์วิถี!

กองเรือรบคืบหน้าได้เพียงเล็กน้อยแต่โกวเฉิงเวิ่นเต้ายังไม่เคลื่อนไหว  แม้ว่าการทำลายล้างเรือรบล้อมตีขนาดใหญ่ทั้ง22 จะทำให้เขาหงุดหงิด เขาก็ยังได้เปรียบที่จำนวน

โกวเฉิงเวิ่นเต้าสั่งทุกคนให้ลงจากเรือเพื่อสู้รบทันที

สถานการณ์การสู้รบกลับทำให้โกวเฉิงเวิ่นเต้าต้องตกใจอีกครั้ง ศัตรูสามารถอยู่ในทะเลพลังงานได้อย่างคล่องแคล่ว  เมื่อทั้งสองฝ่ายปะทะกันทหารของกวงหมิงได้เปรียบที่จำนวนคน แต่ต้องประสบความสูญเสียบาดเจ็บล้มตายไปมาก

โกวเฉิงเวิ่นเต้าขมวดจนคิ้วแทบชนกัน

เขาตระหนักได้ว่าประเมินสัมพันธมิตรใต้ต่ำเกินไป  การสู้รบที่ถูกลากยาว กลายเป็นการปะทะกันกลับเป็นเรื่องลำบากอย่างเหลือเชื่อ และอีกฝ่ายมักจะมีสิ่งที่คาดไม่ถึงทำให้พวกเขาประหลาดใจ  ช่างแตกต่างจากการสู้รบที่เคยมีมาในอดีต  ศัตรูอีกฝ่ายจะมีบางอย่างที่เขากลัว แต่โกวเฉิงเวิ่นเต้าก็ยังมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม  “ข้าตีเจ้าครั้งหนึ่ง  เจ้าตีข้าครั้งหนึ่ง ข้าตีเจ้าสองครั้งเจ้าก็ตีข้าสองครั้ง” เขาไม่เคยกลัว

เขาเป็นเหมือนดาบที่คมกล้าที่รุกโดยไม่ตั้งรับ  เขาไม่สนใจว่าเขาจะโดนศัตรูฟันไปกี่ครั้งแต่ไม่มีใครสามารถหยุดดาบของเขาได้

แต่ครั้งนี้กลับแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง  เขารู้สึกเหมือนว่าเขากำลังสับขวานใส่ปุยนุ่นหรือน้ำมันเฉื่อยชามาก

เขาเป็นคนบ้าระห่ำ  แต่ก็ยังเป็นคนฉลาด

เขาไม่สะทกสะท้านกับการบาดเจ็บล้มตายในสนามรบ  แต่เขาหรี่ตาและสังเกตดูสนามรบอย่างระมัดระวัง

ศัตรูเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสู้ในทะเลพลังงาน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาผ่านการฝึกฝนพิเศษเพื่อการนี้ ทะเลพลังเป็นที่ๆเรือรบเป็นเจ้าปกครอง และไม่มีการปกป้องจากเรือรบ พลังงานกัดกร่อนไม่มีที่สิ้นสุดเพียงพอจะทำลายกองทัพได้ทั้งหมด  แม้แต่โจรสลัดก็ไม่เคยฝึกในทะเลพลังงาน และสู้โดยไม่มีเรือ เทียบความแข็งแกร่งกับเรือรบแล้วไม่จำเป็นต้องพูดเลย

ใครจะรู้กันว่าพันธมิตรใต้จะมีการฝึกฝนในด้านนี้  ‘เป็นไปได้ว่าพวกเขาได้คาดถึงสถานการณ์ดังกล่าวไว้นานแล้วหรือ?’

โกวเฉิงเวิ่นเต้าส่ายศีรษะ  การสู้รบข้างหน้าเขาเป็นแค่อุบัติเหตุ  ถ้าไม่ใช่เพราะซากปรักหักพังเมื่อเผชิญหน้ากับเรือรบที่น่ากลัว กองทัพศัตรูจะต้องตายในพริบตา

ไม่มีที่ให้ปิดบังในทะเลพลังงานส่วนใหญ่ของทะเลพลังงานเป็นแค่กระแสพลังงานที่ไหลกว้างไกลไม่มีที่สิ้นสุด

เรื่องที่ศัตรูมีความเชี่ยวชาญในการใช้สมบัติดวงดาว  โกวเฉิงเวิ่นเต้าไม่เห็นว่าเป็นเรื่องแปลก ประวัติและพื้นฐานของถังเทียนถูกระดับสูงจากทวีปกวงหมิงแจงไว้อย่างละเอียด ความจัดเจนในสมบัติดวงดาวของสัมพันธมิตรใต้เป็นหนึ่งในเรื่องธรรมดาที่สุดอย่างแท้จริง

สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือพลังสมบัติดวงดาวในทะเลพลังงาน

พวกมันสามารถคุกคามเรือรบได้!

โกวเฉิงเวิ่นเต้าเห็นกับตาว่าเรือรบสองสามลำถูกทำลายและเขามีลางสังหรณ์ไม่ดีทันที

เขาไม่รู้ว่ามาถูกเวลาหรือเปล่าและอีกด้านหนึ่งของสนามรบ อาเฮ่อยังคงนึกถึงสิ่งที่ปิงบอก

“เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการสู้รบมากเกินไปและเพราะว่ารูปแบบการสู้รบของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์มีชะตาต้องเปลี่ยนไปเพราะสมบัติดวงดาว  อย่าคิดว่าข้าพูดเกินจริงในเรื่องการใช้สมบัติดวงดาว  ในจุดนี้จงเชื่อว่าแม่ทัพผู้นี้ได้ผ่านสงครามที่โหดร้ายและอำมหิตที่สุดในประวัติศาสตร์มาแล้ว  สถานการณ์ในการสู้รบไม่ใช่สิ่งที่คงทนนิรันดร์แต่กลับจะมีการเปลี่ยน มีตัวแปรที่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ทั้งหมด  และสมบัติดวงดาวก็คือตัวแปรนั้น”

“ในสวรรค์วิถีเพราะความเข้มข้นของพลังงาน  พลังสมบัติดวงดาวจะอ่อนลงมาก  แต่ในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ด้วยพลังงานเข้มข้นไม่มีขีดคั่นเขตแดน พลังของมันจะเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน”

“เจ้ารู้ไหมว่านั่นหมายถึงอะไร? หมายความว่ากองทหารติดอาวุธทรงพลังรูปแบบใหม่ได้ปรากฏตัวขึ้น  การปรากฏตัวขึ้นครั้งนี้มีแนวโน้มเป็นอย่างยิ่งกว่าจะทำลายรูปแบบกองทัพดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ในปัจจุบัน  สิ่งที่ข้าหมายถึงนี้ไม่ใช่ว่ากองทัพจะถูกผลักดันตกเวทีไป แต่หมายความว่ากองทัพในอนาคตจะมีความคล่องตัวมาก แปรเปลี่ยนได้มากและมุ่งเน้นความแข็งแกร่งของแต่ละบุคคล”

“ปัจจุบันนี้ไม่มีใครสังเกตเรื่องนี้ยกเว้นข้า การถ่ายทอดวิทยายุทธและประสบการณ์ที่เจ้ามีจากสวรรค์วิถี  พวกเขาเองก็มีมาตรฐานบางอย่างในกลยุทธสงครามอยู่แล้ว เมื่อพลังส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นพวกเขาจะสร้างความสามารถในการรบของพวกเขาเองได้อย่างรวดเร็ว”

สถานการณ์ในสมรภูมิเป็นไปตามที่ปิงกล่าวไว้

นอกจากกลุ่มดาวแกะอีกสี่ตระกูลของห้าตระกูลใหญ่เกาะใต้อยู่ภายใต้บัญชาการของอาเฮ่อ  อาเฮ่อไม่ได้ปกปิดอะไรไว้  ความรู้ที่ลึกซึ้งของเขามาจากการอ่าน  แม้ว่าเขาจะไม่ได้ฝึกฝนในวิชาเหล่านั้น  แต่เขารู้ทฤษฎีหลายอย่าง  ที่แข็งแกร่งที่สุดยังเป็นกลุ่มดาวคนธนู  เนื่องจากราชินีคือป้าของเขาเอง เขาถูกมองว่าเป็นไปได้มากที่สุดที่จะมาสืบทอดกลุ่มดาวคนธนู

สี่ตระกูลใหญ่เติบโตในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่อายุน้อยและโดดเด่นในการใช้กลยุทธ, กระบวนทัพ, และการร่วมประสานกลายเป็นสัญชาตญาณของพวกเขาและหลังจากพวกเขาเพิ่มพลังความแข็งแกร่งเฉพาะตัว อาเฮ่อประหลาดใจที่พบว่าเขาไม่จำเป็นต้องแนะนำพวกเขาและพวกเขาคิดแนวทางประสานงานได้โดยอัตโนมัติ ทำให้ปลดปล่อยพลังได้ยิ่งใหญ่

กล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ  พวกเขาเริ่มคิดถึงปัญหาเกี่ยวกับกลยุทธของพวกเขาเอง

การฝึกเดินทางระยะไกลในทะเลพลังงานอย่างต่อเนื่องเพิ่มความแข็งแกร่งให้พวกเขาอย่างมากมาย ขณะที่โจรสลัดที่พวกเขาเผชิญในระหว่างทางยังช่วยให้พวกเขาใช้ฝึกฝนอีกด้วย

ดังนั้นเมื่อการสู้รบเริ่มขึ้นสี่ตระกูลใหญ่เกาะใต้ทำให้เขาประหลาดใจอย่างมาก

เมื่อทุกคนติดอาวุธอย่างสมบูรณ์ก็ยิ่งเพิ่มพลังความแข็งแกร่งให้แต่ละคนและมีพลังคุกคามเรือรบได้  และพวกเขายังมีความยืดหยุ่นที่เรือรบไม่มี  และเมื่อทหารร่วมสู้ ในการร่วมประสานงานไม่ใช่สู้เดี่ยว พลังพวกเขาอาจระเบิดออกมาได้ทันที

เรือลำแล้วลำเล่าระเบิดไฟลุกท่วม

เมื่อมองจากระยะไกล  สมรภูมิมองดูเหมือนกับมีกองไฟลอยอยู่รอบๆ  มันดูงามสง่ามาก

พื้นที่บริเวณเต็มไปด้วยซากหักพังและเปลวเพลิงที่ไม่เคยมอด  กลายเป็นแดนมรณะ

การสู้รบรุนแรงและสั้นคงอยู่เพียงครึ่งชั่วโมง แต่ในครึ่งชั่วโมงนี้โกวเฉิงเวิ่นเต้าสูญเสียมากมาย  เขาเสียเรือรบระดับเงินไป 30 ลำเรือรบระดับบรอนซ์ 123 ลำและกำลังพลที่เสียชีวิต หนึ่งหมื่นห้าพันนาย มีบางส่วนที่ถูกเผาทั้งเป็นในเรือรบที่ถูกไฟไหม้

แม้ว่าโกวเฉิงเวิ่นเต้าผู้เห็นชีวิตเหมือนผักปลา  เมื่อเห็นรายงานหางตาของเขากระตุกอย่างช่วยไม่ได้

สิ่งที่ทำให้โกวเฉิงเวิ่นเต้ารู้สึกหม่นหมองก็คือไม่ใช่ว่ากองทัพศัตรูถอยหนี แต่เป็นพวกเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายถอยด้วยความคิดเขาเอง สิ่งที่ทำให้เขาอยากกระอักเลือดก็คือต้องถอยหนีไปที่ป้อมพิทักษ์สมุทร

มันคือซากหักพัง

แต่ป้อมที่พังทลายก็เหมือนกระดูกที่แข็ง  เซี่ยอวี่อันสร้างป้อมพิทักษ์สมุทรใหม่ผ่านการคิดเป็นอย่างดีรวมทั้งภายในมีการบูรณะตกแต่งใหม่ ทุกอย่างเปลี่ยนไปกลายเป็นคงทนกว่าเดิม ยกเว้นความจริงที่ว่าชั้นนอกของป้อมรบถูกทำลาย  และตำแหน่งรบของพวกเขาทั้งหมดถูกทำลาย  แต่ส่วนภายในยังคงสมบูรณ์

ถ้ามีเรือล้อมโจมตีขนาดใหญ่มากกว่านี้อาจจะโค่นพลังป้อมได้ง่าย แต่เรือรบล้อมโจมตีทั้งหมดถูกทำลาย

โกวเฉิงเวิ่นเต้าตระหนักได้ทันทีว่าเขาอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีทางรุกหรือถอยได้เลย

แต่เขาไม่เคยคาดว่าแรงกระเพื่อมจากการสู้รบเพิ่งเริ่มกระจายออกไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด