ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 174 เกมยิงปืน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 176 ฆ่าจ้าวจื่อป๋อ (1)

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 175 ข้าจับเจ้าได้แล้ว


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 175 ข้าจับเจ้าได้แล้ว

แปลโดย iPAT  

เมื่อเรือจอดสนิท ถ้ำด้านหน้าก็ไม่ได้มีเส้นทางเพียงสายเดียวอีกต่อไป มันแบ่งออกเป็นสามสาย เส้นทางทุกสายมืดมิดไม่ต่างกัน ผู้ใดจะรู้ว่ายังมีอีกกี่เส้นทางอยู่ลึกเข้าไป มันต้องเกินจำนวนคนที่พวกเขามีอย่างแน่นอน

“พวกเราจะทำอย่างไร?” หลี่ฉิงซานเข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้วว่าเหตุใดผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์จึงปล่อยให้นักพรตผีดิบอยู่รอดมาถึงตอนนี้ เขายังสงสัยว่าตนเองจะทำสำเร็จหรือไม่ ส่วนที่ยากที่สุดไม่ใช่การต่อสู้แต่เป็นการค้นหา

ห่าวปิงหยางเผยรอยยิ้มพึงพอใจ “ข้าจะมาที่นี่โดยไม่เตรียมตัวได้อย่างไร ข้ารู้ว่าข้าไม่สามารถพึ่งพาเจ้าได้มากนัก ดังนั้นข้าจึงเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดไว้แล้ว” ขณะที่เขากล่าว เขาก็หยิบสิ่งที่ดูเหมือนรูบิคไม้ทรงกลมออกมา ด้วยการหมุนด้านบนสลับกันหลายครั้ง รูเล็กๆหลายรูก็ปรากฏขึ้นบนรูบิคไม้และทำให้มันดูเหมือนรังผึ้ง

จากนั้นฝูงแมลงขนาดเล็กก็บินออกมาจากรัง พวกมันไม่ใช่ผึ้งแต่เป็นแมลงวันตัวเล็กที่เรืองแสงเหมือนหิ่งห้อย

ดวงตาของเสี่ยวอันส่องประกายขึ้น นางยื่นมือออกไปจับแมลงตัวหนึ่งและค้นพบว่ามันไม่ใช่แมลงที่แท้จริงแต่เป็นแมลงจักรกล ท้องของพวกมันมีผลึกคริสตัลสีเขียวฝังอยู่ แมลงทุกตัวต่างเป็นชิ้นงานที่ประณีต

หลี่ฉิงซานถาม “มันคือสิ่งใด?”

ห่าวปิงหยางกล่าว “เพียงดูแล้วเจ้าก็จะรู้” ภายใต้การควบคุมของเขา ฝูงแมลงแบ่งออกเป็นสามกลุ่มและบินเข้าไปในถ้ำทั้งสาม

ห่าวปิงหยางบิดรูบิคไม้อีกครั้ง ทันใดนั้นแสงสีเขียวก็พุ่งออกมาและก่อตัวเป็นกลุ่มก้อนแสงสีเขียวทรงกลมลอยอยู่กลางอากาศเหมือนจอภาพ

มีจุดแสงขนาดใหญ่และจุดแสงขนาดเล็กจำนวนมากปรากฏขึ้น จุดแสงขนาดเล็กแบ่งออกเป็นสามกลุ่มและสร้างเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวสามสายแยกออกไปจากจุดแสงขนาดใหญ่ มันกลายเป็นแผนที่สามมิติขึ้นมาบนจอภาพสีเขียว

หลี่ฉิงซานเข้าใจจุดประสงค์ของมันทันที เขาต้องยกย่องความสามารถของนิกายม่อจื้ออีกครั้ง หลังจากนั้นเขาก็เห็นจุดแสงแยกออกจากกันและสร้างเส้นทางมากมายขึ้นบนแผนที่สามมิติ

ห่าวปิงหยางกล่าว “ข้าพบมันในห้องเก็บของ มันเป็นหุ่นเชิดที่ใช้ค้นหาและสร้างแผนที่ ตอนนี้ทุกคนสามารถพักผ่อนครั้งคราว เมื่อข้าพบที่ซ่อนของนักพรตผีดิบ เราจะออกเดินทางทันที”

“พี่ใหญ่เตรียมตัวมาดีจริงๆ!” จินเป่ายกย่อง จากนั้นพวกเขาก็นั่งลงและกินเม็ดยารวบรวมพลังปราณ

ห่าวปิงหยางตั้งสมาธิอยู่กับการควบคุมหุ่นเชิดแมลง ไม่นานนัก หนึ่งในนั้นก็ค้นพบถ้ำที่มีร่องรอยการขุดของมนุษย์ ต่อมา หุ่นเชิดแมลงก็ถูกทำลายโดยบางสิ่งและสูญเสียการเชื่อมต่อ

“แมลงสาบโสโครก!” มือที่เหี่ยวย่นของนักพรตผีดิบบดขยี้หุ่นเชิดแมลง จากนั้นเขาก็ถูโลงศพหินที่อยู่ข้างๆเหมือนเขากำลังลูบไล้ใบหน้าของคนรัก “อย่ากังวล อีกไม่นานจะมีเลือดสดๆ และมันยังเป็นเลือดของจอมยุทธ์อีกด้วย”

หลี่ฉิงซานชี้นิ้วไปที่จอภาพทรงกลม “ดูเหมือนจะมีบางสิ่งอยู่ที่นั่น!”

จางหลานฉิงและทุกคนมีความสุขมาก เป้าหมายอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว

ห่าวปิงหยางกล่าว “เมื่อหุ่นเชิดแมลงทั้งหมดกลับมา เราจะออกเดินทาง!” เมื่อหุ่นเชิดแมลงตัวสุดท้ายบินกลับมา ห่าวปิงหยางก็ยืนขึ้นและออกคำสั่งให้ออกเดินทาง อย่างไรก็ตามเขากลับขมวดคิ้วและมองกลับไปด้านหลัง

หลี่ฉิงซานกล่าว “ดูเหมือนข้าจะมากับพวกเจ้าได้เพียงเท่านี้!” ท้ายที่สุดเขาก็ยังต้องการจัดการเรื่องของตนเองด้วยตัวเขาเอง จ้าวจื่อป๋อรอดชีวิตจากการต่อสู้กับเขามาสองครั้งแล้ว แต่เขาไม่สามารถปล่อยให้มันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สาม ถึงเวลาต้องยุติปัญหาแล้ว

จางหลานฉิงอุทาน “อันใด!?” หลังจากนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ทรงพลังและเจตนาสังหารที่แหลมคมซึ่งทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง เหออี้ซื่อและพี่น้องจินทั้งสองรู้สึกถึงความมุ่งมั่นที่อยู่เบื้องหลังเจตนาสังหาร ดังนั้นการแสดงออกของพวกเขาจึงเปลี่ยนแปลงไป พวกเขาต้องมองไปทางหลี่ฉิงซานอย่างช่วยไม่ได้

พวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่กับการสร้างสิ่งประดิษฐ์ต่างๆในสำนักศึกษาร้อยจอมยุทธ์แต่พวกเขาไม่ได้ไร้เดียงสา พวกเขาเข้าใจทฤษฎีรับประกันความเสียหาย หากผู้บัญชาการหมาป่าทมิฬต้องการฆ่าหลี่ฉิงซาน พวกเขาก็จะถูกฆ่าปิดปากเช่นกัน

ห่าวปิงหยางเร่งกล่าว “เราจะออกเดินทางเดี๋ยวนี้! หลานฉิง บังคับเรือ!”

หลี่ฉิงซานส่ายศีรษะ “ไม่ เรือไม่เร็วพอที่จะสลัดพวกเขา เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้าตั้งแต่แรก พวกเจ้าควรไปก่อน ข้าจะตามไปรวมกลุ่มในไม่ช้าหลังจากข้าสลัดพวกเขาออกไปแล้ว”

“ฉิงซานพูดถูก มันจะยากขึ้นสำหรับพวกเขาหากพวกเราแยกย้ายกันไป ถ้ำแห่งนี้ซับซ้อนเหมือนเขาวงกต พวกเขาจะไม่พบพวกเราอย่างง่ายดาย หากเราหนีไปด้วยกัน เราจะถูกปิดล้อมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พี่ใหญ่ โปรดตัดสินใจ!” เหออี้ซื่อกล่าว เขาไม่ต้องการต่อสู้กับผู้บัญชาการหมาป่าอินทรีย์เพราะเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวที่เขาพึ่งพบเมื่อไม่นานนี้ มันไม่มีประโยชน์ใดๆเลยและยังจะนำอันตรายถึงชีวิตมาให้เขา

นักพรตผีดิบสูญเสียดาบเงาสังหาร กับดับของเขาก็ถูกทำลายเช่นกัน เขาเป็นศัตรูที่อ่อนแอที่สุด แม้หลี่ฉิงซานจะไม่อยู่ เหออี้ซื่อก็มั่นใจว่ากลุ่มของเขาสามารถโค้นฝ่ายตรงข้าม เขาคิดกระทั่งว่าไม่จำเป็นต้องแบ่งปันผลประโยชน์ให้หลี่ฉิงซานหากเด็กหนุ่มไม่ได้อยู่กับพวกเขาอีกต่อไป

ห่าวปิงหยางกล่าว “มาสู้กับพวกเขากันเถอะ!” อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากจางหลานฉิงที่ยืนขึ้น คนอื่นกลับนิ่งเฉย

กลิ่นอายทรงพลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จินเป่ากล่าว “ฉิงซาน เจ้าสามารถฝากเสี่ยวอันไว้กับพวกเรา เราจะดูแลนางอย่างดี” ด้วยหน้าไม้พันศรสองอันที่อยู่กับเสี่ยวอัน ตอนนี้นางทรงพลังและมีประโยชน์มาก แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่มีความคิดที่จะแบ่งปันผลประโยชน์ให้กับเสี่ยวอัน

“เจ้ากล่าวเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร? เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว หากไม่ใช่เพราะฉิงซาน พวกเราคงตายอยู่ในห้องเก็บศพไปแล้ว!” จางหลานฉิงกล่าวด้วยความฉุนเฉียว หลี่ฉิงซานเป็นผู้ช่วยชีวิตเขา เขาจะหันหลังให้กับผู้มีพระคุณได้อย่างไร

เหออี้ซื่อบ่น “ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ช่วยชีวิตข้า!” เขามีอนาคตที่สดใสรออยู่ เหตุใดเขาต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงกับเรื่องนี้

“เจ้า!” จางหลานฉิงพูดไม่ออกขณะที่เขาชี้นิ้วไปที่เหออี้ซื่อ ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร สุดท้ายทุกคนก็ตายกันหมดหลังจากผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์สังหารหลี่ฉิงซาน

จินหยวนก้มศีรษะและพึมพำ “พี่จาง ท่านเป็นจอมยุทธ์ขั้นห้า เราไม่ได้แข็งแกร่งเช่นท่าน หากเราอยู่ที่นี่ เราก็เป็นได้เพียงตัวถ่วง เราจะสร้างปัญหามากกว่า” เขาคิด ‘เจ้าแข็งแกร่ง แน่นอนว่าเจ้าย่อมมั่นใจ เราอ่อนแอ เราจะถูกฆ่าอย่างง่ายดาย!’

“พวกโง่ทั้งสาม!” ห่าวปิงหยางรู้สึกผิดหวังอย่างมากกับศิษย์น้องทั้งสามของเขา มันไม่เพียงเป็นการทรยศแต่ยังเป็นความโง่เขลาอีกด้วย พวกเขาโง่เขลาที่ไม่พยายามรวมพลังกันต่อต้านศัตรูและห่วงความปลอดภัยของตนเอง เมื่อหลี่ฉิงซานถูกสังหาร พวกเขาก็จะถูกไล่ล่าและฆ่าปิดปากเช่นกัน

เขายกมือขึ้น มันเป็นมือที่หนักอึ้งซึ่งแบกรับความโกรธและความผิดหวังที่มีต่อศิษย์น้องของเขาเอาไว้ เขาต้องการตบสั่งสอนพวกเขาแต่มือข้างนั้นกลับถูกหลี่ฉิงซานคว้าไว้

ใจคนไม่ได้มืดมนไปซะทั้งหมด แต่มันก็ไม่ได้สว่างไสวไร้จุดด่างพร้อย แง่มุมของผลประโยชน์มีอยู่ในใจของทุกคน แต่ตัวเลือกของแต่ละคนแตกต่างกัน เมื่อเผชิญหน้ากับอันตรายที่สามารถคุกคามชีวิต ผู้ใดจะกล้าสู้เพื่อผู้อื่น

ในความเป็นจริงหลี่ฉิงซานต้องการหัวเราะเย้ยหยันแต่เขาเลือกที่จะเผยรอยยิ้มต่อไป “พวกเขาพูดถูก พวกเจ้าไม่สามารถช่วยเหลือข้า พวกเจ้าเคยเห็นความสามารถของข้าในฐานะผู้บ่มเพาะร่างกายมาแล้ว มันจะง่ายกว่าหากข้าหนีไปคนเดียว อย่างไรก็ตามเสี่ยวอันจะอยู่กับข้า”

หลังกล่าวจบคำหลี่ฉิงซานก็กระโจนลงจากท้ายเรือพร้อมกับเสี่ยวอันก่อนที่ห่าวปิงหยางจะทันเกลี้ยกล่อมเขา เขากล่าว “ดูแลตัวเองให้ดี! แล้วพบกันใหม่!”

จางหลานฉิงยังตกตะลึง เหออี้ซื่อรีบวิ่งไปควบคุมเรือและบังคับมันเข้าไปในถ้ำ

แท้จริงแล้วหลี่ฉิงซานไม่เคยคาดหวังกับคนกลุ่มนี้ แม้เขาจะไม่เคยพบนักพรตผีดิบ แต่เขาสามารถบอกได้ว่าตาแก่ผู้นี้มากเล่ห์เพียงใดจากการปะทะกันก่อนหน้านี้ หากนักพรตผีดิบไม่มั่นใจในชัยชนะ เขาจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หากเขาเลือกอยู่ต่อ นั่นจะเป็นสถานการณ์ที่อันตรายมาก

มีเพียงคนที่ซ่อนความแข็งแกร่งเช่นหลี่ฉิงซานเท่านั้นที่สามารถเพิกเฉยต่ออันตรายดังกล่าว สำหรับศิษย์นิกายม่อจื้อ พวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาทำสิ่งใดได้บ้างระหว่างเดินทางมาที่นี่

แน่นอนว่าเขาไม่ยินดีกับเคราะห์ร้ายของพวกเขาและไม่ต้องการเห็นพวกเขาถูกสังหารหมู่ เขาไม่ใช่คนใจแคบ นอกจากนี้ห่าวปิงหยางและจางหลานฉิงก็แสดงความจริงใจออกมาแล้ว เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะปลอดภัย

อย่างไรก็ตามเขาไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กและไม่ใช่นักบุญ ตราบเท่าที่เขายังรักษามโนธรรมและทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว เขาก็จะปล่อยส่วนที่เหลือให้เป็นไปตามโชคชะตาของแต่ละคน

จ้าวจื่อป๋อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายสองสายที่แยกออกมาจากกลุ่ม แน่นอนว่าหลี่ฉิงซานไม่ได้พยายามซ่อนตัว

เก้อเจี้ยนถาม “ผู้บัญชาการ เราจะทำอย่างไร?”

จ้าวจื่อป๋อกล่าว “ฆ่าหลี่ฉิงซานก่อน เราจะจัดการคนอื่นภายหลัง” นี่คือเป้าหมายหลักของเขาในเวลานี้

เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ หลี่ฉิงซานก็เผยรอยยิ้ม เขาใช้ความสามารถในการควบคุมน้ำจากแก่นปีศาจของเขาเพื่อเดินบนผิวน้ำ

เขาเคลื่อนที่เข้าไปในถ้ำก่อนจะบรรลุถึงพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ มันมีขนาดประมาณหนึ่งสนามฟุตบอลและเพียงพอที่ร่างปีศาจของเขาจะเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่มันเป็นสนามรบที่เขาตั้งใจเลือกเมื่อหุ่นเชิดแมลงตรวจสอบถ้ำ เขาคิดว่ามันเหมาะที่จะเป็นหลุมฝังศพของผู้พิทักษ์หมาป่าอินทรีย์ มันสมบูรณ์แบบมาก เขาสูดหายใจลึกและมองเสี่ยวอัน

โดยไม่ต้องรอนานเกินไป จิตสังหารที่รุนแรงก็พุ่งใกล้เข้ามา หลี่ฉิงซานเงยหน้าขึ้นและเห็นจ้าวจื่อป่อกับคนอื่นๆทะยานร่างเข้ามาตรงหน้าเขา พวกเขาแยกย้ายกันออกไปปิดล้อมเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว

จ้าวจื่อป๋อกล่าวเสียงเย็น “ในที่สุดข้าก็จับเจ้าได้แล้ว!”

หลี่ฉิงซานยิ้ม “ไม่ เป็นข้าที่จับเจ้าได้!”