ตอนที่แล้วตอนที่ 804 เมืองม้าบินที่รุ่งเรืองและสงบสุข
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 806 ตู้เค่อเยี่ยมเยียน

ตอนที่ 805 ดาบพิศวงโฉมใหม่


การยันกันระหว่างเมืองม้าบินและโจรป่าทำให้ระดับสูงของสี่เมืองใหญ่หงุดหงิดและโกรธ  แต่พวกเขาจนใจทำอะไรไม่ได้

พวกกองโจรพอใจกับสถานการณ์มากเป็นธรรมดา  พวกเขาไม่ทรยศต่อข้อตกลงที่ทำกับสี่เมืองใหญ่และสามารถป้องกันกำลังของตนเองไม่ให้ลดน้อยลงมากไป  และถ้าพวกเขาล่าช้าออกไป  พวกเขาก็สามารถรับเงินแล้วจากไปได้   ไม่ว่าสี่เมืองใหญ่จะพอใจหรือไม่พวกเขาคงไม่สนใจ เนื่องจากสี่เมืองใหญ่ได้รวมกองโจรของแดนบาปเกือบ 90% มาเพื่อการนี้ แม้จะเป็นสี่เมืองใหญ่เอง พวกเขาก็ต้องพิจารณาถึงผลที่จะตามมาจากการล่วงเกินทุกคน

แต่ไม่ใช่ว่าโจรทั้งหมดจะพอใจ  ตัวอย่างเช่นจงหลีไป๋  เขาไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย

อย่าเข้าใจผิดกับความสำเร็จของจงหลีไป๋  ในโลกของพวกโจร  เขายังเป็นแค่มือสมัครเล่น และเมื่อเทียบกับโจรมือเก๋าที่ผ่านศึกมามากมาย  เขานับว่าดูธรรมดามาก และพร้อมกับความแข็งแกร่งส่วนตัวที่น่ากลัวของเขา  หลายคนดูแคลนเขา  ในสายตาพวกเขา เขาเป็นโจรไม่คุ้มกับการคบหาด้วย

ก่อนนี้ทุกคนคิดว่าเมืองม้าบินเป็นแค่วัวเงินตรา และมุ่งมั่นต่อสู้พวกแรกและกลัวว่าจงหลีไป๋จะหาโอกาส  และหลังจากทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจกลยุทธพวกโจรก็ต้องตกใจเมื่อตระหนักว่าเป็นโอกาสดีเพื่อการเรียนรู้  ทำให้จงหลีไป๋หาโอกาสได้น้อยมาก

เทียบกับพวกกองโจรแล้ว ความเข้าใจของจงหลีไป๋เรื่องกองทัพลึกซึ้งมากกว่า

ความก้าวหน้าอย่างมีความสุขของพวกโจรไม่ได้ให้อะไรเขา  แต่สิ่งที่ทำให้เขากังวลแท้จริงก็คือความก้าวหน้าของหน่วยสุญญตา เมื่อเห็นหน่วยสุญญตากับตาตัวเองจากกองทัพที่ไม่สมบูรณ์ไปเป็นกองทัพที่เก่งกาจ เมื่อเห็นว่าหน่วยสุญญตาเติบโตกล้าแข็งในเงื้อมมือของเนี่ยชิวมากเพียงไหน  เขารู้สึกย่ำแย่

เนี่ยชิวเป็นคู่แข่งโดยตรงของเขาทั้งสองมาจากพื้นฐานที่คล้ายกันมาก หน่วยสุญญตากำลังก่อร่างสร้างตัวอย่างช้าๆ แต่เขาไม่มีความสำเร็จอะไรเลย

ไม่มีอะไรที่ทำให้เขารู้สึกแย่ได้อย่างนั้น

เมื่อจงหลีไป๋เห็นซือหม่าเซี่ยว  หน้าของเขาเขียวคล้ำ  “นี่เป็นแผนของเจ้าใช่ไหม?”

ครั้งล่าสุดคนที่มาคุยธุระกับเขาก็คือซือหม่าเซี่ยว ตอนแรกแผนที่วางไว้เป็นไปด้วยดี จงหลีไป๋ร่วมกับพวกโจร และทำหน้าที่เหมือนเป็นโจรที่อยู่วงใน แต่ใครจะรู้ว่าเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดอย่างนั้น

ซือหม่าเซี่ยวโบกมืออย่างเฉยเมย “ใครจะคาดกันเล่าว่าตู้เค่อผู้นั้นจะสนใจกองทัพ? อำนาจครึ่งหนึ่งของสี่เมืองใหญ่อยู่กับตู้เค่อ  ถ้าเขาไม่พูดอะไร คนเหล่านี้จะปั่นป่วนเหมือนกับพายุในทะเลได้ยังไง?  พวกเขาได้แต่ส่งเสียงให้ดังขึ้นเท่านั้น”

เมื่อพูดถึงแล้วซือหม่าเซี่ยวอารมณ์เปลี่ยนแปรทันที

เขากับซือหม่าเซียงซานพาตัวเองเข้าสู่ตำแหน่งที่ดีด้วยความยากลำบาก  แต่ก็ได้รับรางวัลด้วยการต้องรับผิดชอบหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภารกิจซื้อโจรเพื่อให้จัดการกับบุรุษหน้ากากผีตกเป็นหน้าที่ของซือหม่าเซี่ยว  ทั้งสองคิดว่าโอกาสมาถึงแล้ว

ส่วนของแผนงานตอนแรกเริ่มไหลลื่นเป็นไปด้วยดี  แต่เกิดเรื่องที่คาดไม่ถึง ตู้เค่อที่ไม่เคลื่อนไหวกลับเคลื่อนไหวด้วยตนเอง คนปกครองระดับสูงของสี่เมืองใหญ่แบ่งแยกกันซึ่งเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ พวกเขาประเมินความคืบหน้าในการรวบรวมกองกำลังสุญญตา และสี่นักสู้ในทำเนียบยอดฝีมือล้มเหลวในการล้อมโจมตีเมืองม้าบินขู่ขวัญพวกโจรไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง

กองโจรในตอนแรกโอ้อวดว่าเตรียมฆ่าเบิกทางไปจนถึงเมืองม้าบินให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้ แต่ในที่สุดพวกเขาก็ต้องทำงานอย่างระมัดระวังทุกคนกลายเป็นเกียจคร้าน

แผนเดิมกลับกลายเป็นแตกต่างออกไปสิ้นเชิง

“อย่างนั้นข้าต้องเสียเวลาของข้าอยู่ที่นี่หรือ?”  จงหลีไป๋แค่นเสียง

“อย่าเพิ่งทำอะไรชั่วคราว”  ซือหม่าเซี่ยวคิดชั่วขณะและตอบ  “ตู้เค่อเริ่มสร้างกองทัพของเขาแล้ว  และด้วยความหยิ่งยโสของเขา  เขาจะทนให้กองทัพของเขาเองอ่อนแอกว่าคนอื่นได้ยังไง?  เขาจะต้องส่งกองทัพของเขาเองไปเอาชนะหน่วยสุญญตาแน่  ไม่ว่าแผนที่เขามีในตอนนั้นจะเป็นยังไง  เมื่อเขาเหนือกว่าหน่วยสุญญตา  สี่เมืองใหญ่จะต้องลงมืออย่างแน่นอน เจ้าเป็นม้ามืดและค่อยเปิดเผยพลังของเจ้าในตอนนั้น”

จงหลีไป๋ผิดหวัง  แต่เขาไม่พูดอะไร

ความจริง นอกจากอยู่ในที่ๆ เขาอยู่เขาไม่มีที่อื่นให้ไป  เวลาอย่างนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะหนีหรือไม่ มีกองโจรมารวมตัวมากเกินไป ถ้าเขาต้องการแยกและจากไป อาจจะทำให้โจรกลุ่มอื่นโจมตีเขาก็ได้

พวกโจรล้วนเป็นพวกนอกกฎหมายอยู่แล้ว

เขามีคนใต้บังคับเขานับไม่ถ้วน  แต่เขาไม่มียอดฝีมือมากนัก  และเนื่องจากระเบียบวินัยค่อนข้างแย่  ไม่ว่าเขาจะฝึกพวกเขาหนักเพียงไหน เขาก็ยังล้าหลังสมาชิกหน่วยสุญญตาผู้ละเอียดและเคร่งครัดวินัย  การฝึกวินัยของเขาหย่อนยาน  พลังของเขาก็ยังคงอ่อนด้อยหน่วยสุญญตาสามารถอาละวาดและขับไล่พวกโจรได้อย่างมั่นใจเพราะพวกเขามีพลังที่จะทำเช่นนั้นได้  จงหลีไป๋ไม่มีพลังขนาดนั้น  และไม่กล้าบุ่มบ่ามต่อต้านพวกโจรเป็นธรรมดา

“แม้ว่าตู้เค่อกำลังสร้างกองทัพในตอนนี้  บอกข้าที, เจ้าคิดว่าคนอื่นๆ จะทำไม่ได้เชียวหรือ?”  ซือหม่าเซี่ยวสลายรอยยิ้มและพูดด้วยท่าทางเคร่งเครียด “นี่คือการต่อสู้สุดท้ายของเราในแดนบาป ถ้าเราชนะ อย่างนั้นเราสามารถต่อสู้หาทางกลับไปยังดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้  และไม่มีใครในแดนบาปจะเป็นคู่ต่อสู้ของเรา  แต่ถ้าเราล้มเหลว  อย่างนั้นเราก็แค่ตายโดยไร้ที่กลบฝัง  ไม่ว่าหน่วยสุญญตาจะแข็งแกร่งมากเพียงไหน  พวกเขาจะต่อต้านกับทั่วแดนบาปได้อย่างไร  นอกจากนี้แดนบาปก็กำลังพัฒนากองทัพไม่ใช่หรือ?”

หน้าของจงหลีไป๋กลายเป็นจริงจังเช่นกัน  คำพูดของซือหม่าเซี่ยวไม่เพียงแต่พูดให้เขากลัว  ถ้าแดนบาปพบวิธีสร้างกองทัพได้จริง อย่างนั้นความได้เปรียบประการเดียวของพวกเขาก็จะหายไป  ผู้ทรงอิทธิพลจะรวมตัวเข้าด้วยกัน และกำลังนี้ไม่ใช่สิ่งที่หน่วยสุญญตาจะรับมือได้ตามลำพัง

‘ดูเหมือนว่าเข้าต้องฝึกฝนให้หนัก’

จงหลีไป๋ตัดสินใจในใจอย่างมั่นคง โชคดีสำหรับเขาที่โจรกลุ่มต่างๆหาทางเลียนแบบหน่วยสุญญตา ดังนั้นการฝึกกองทัพไม่ใช่สิ่งพิเศษอีกต่อไป

***************

เมื่อจี๋เจ๋อรับดาบพิศวงกลับคืนมา  เขาตะลึง

ดาบสีแดงเข้มสว่างเหมือนกับดวงอาทิตย์รัศมีพิศวงของมันหายไปแล้ว มันสงบอบอุ่นไม่มีลักษณะเย็นยะเยียบใดเลย

‘ความรู้สึกนี้...ไม่ถูกต้อง!’

‘ดาบพิศวงนี้จะเหมาะกับชื่อของมันได้ยังไง?  ไม่เห็นจะพิศวงตรงไหนเลย’

เมื่อถังเทียนเห็นสีหน้าสงสัยของจี๋เจ๋อ  เขาแค่นเสียง แต่เขาไม่พูดอะไรต่อไป เนื่องจากเขารู้สึกว่าปล่อยให้จี๋เจ๋อได้ทดสอบดาบของเขาด้วยตนเองดีกว่า ถังเทียนได้อะไรมากมายจากการปรับแต่งดาบพิศวง  ยังมากกว่ากระบี่พญาเขียวเสียอีก

ทุกคนมารวมตัวรุมล้อมกันแล้ว

“ท่านจี๋เจ๋อทดสอบดาบของท่านเถอะ!”

“ใช่แล้วใช่แล้ว ให้เราเห็นเป็นขวัญตาหน่อย!”

“ตื่นเต้นจริงๆอยากเห็นจริงว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

…..

จี๋เจ๋อรู้สึกอารมณ์กระวนกระวาย  ดาบพิศวงเป็นสมบัติชั้นสุดยอด ไม่ง่ายที่จะหาอะไรมาแทนหากแตกหักไป  เขาจับด้ามดาบพิศวงและสะบัดทดสอบสองครั้ง  และรู้สึกว่าน้ำหนักของมันดูเหมือนจะลดลง  แต่มันเหมาะสมมากสำหรับเขา  “นี่มัน...”

จุดแสงสีแดงสว่างแพรวพราวบนคมดาบสว่างวาบโดยไม่มีการเตือน

จุดแสงสีแดงสดโตขึ้นเหมือนกับลูกโป่งขยายขนาดอย่างรวดเร็ว

แสงสีแดงเข้มผุดขึ้นมากวาดผ่านร่างทุกคนเปลี่ยนเป็นม่านสีแดงคลุมตัวทุกคนไว้ภายใน ทุกคนรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขาอยู่ในเลือดทันที  ทัศนวิสัยการมองของพวกเขาเป็นสีแดง  และกลิ่นคาวเลือดรุนแรงอย่างน่าประหลาดแผ่เต็มไปทุกซอกทุกมุม  ในม่านเลือดพลังเลือนรางแปลกประหลาดแต่สังเกตไม่ออก  แต่เมื่อพวกเขาพยายามตรวจสอบกลับหาร่องรอยไม่ได้

ทุกคนตะลึงกับฉากภาพเช่นนั้น และรอบๆตัวจี๋เจ๋อเงียบจนพวกเขาได้ยินกระทั่งเสียงเข็มตก

“สะ..สนามพลัง!”

ใครบางคนตะโกนเสียงสั่นสะท้าน ทุกคนที่มีการคาดเดาของตนเองถึงพลังใหม่ตกใจหวาดกลัวทันที  มันคือสนามพลังกฎธรรมชาติ  สนามพลังกฎธรรมชาติในตำนาน นั่นมีแต่ตู้เค่อในปัจจุบันเท่านั้นที่ได้รับ

สนามพลังกฎธรรมชาติดูเหมือนจะสูงที่สุดในระดับพลังกฎธรรมชาติพลังที่เด็ดขาดสามารถทำลายได้ทั้งสวรรค์และโลก

สมาชิกทุกคนไม่ใช่คนอ่อนแอแม้ว่าจะไม่ใช่ยอดฝีมือที่มีชื่อเสียง แต่สำหรับพวกเขาสนามพลังกฎธรรมชาติคือตำนานที่อาจเอื้อมไม่ถึง  พวกเขาจ้องมองม่านแสงสีเลือดอย่างตกใจความคิดว่างเปล่า

“นี่ไม่ใช่สนามพลังกฎธรรมชาติหรือจะพูดให้ถูก ไม่ใช่สนามพลังกฎธรรมชาติแท้ๆ”

เสียงของถังเทียนทำลายความเงียบ  แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทุกคนถอนหายใจโล่งอกความกลัวที่อธิบายไม่ถูกหายไป พวกเขาค่อยๆ เรียกความรู้สึกกลับมา  และสีหน้าที่ซีดขาวค่อยมีสีเลือดอีกครั้ง

‘ถ้าสมบัติอย่างนั้นสามารถปล่อยสนามพลังกฎธรรมชาติได้นั่นจะน่ากลัวเพียงไหน’

ไม่มีใครคาดคิดเรื่องนั้นได้

แม้แต่จี๋เจ๋อไม่สามารถจะคาดคิดถึงระดับนั้นได้เขาถอนหายใจโล่งอก แต่ใจของเขามีวี่แววผิดหวังเลือนราง ‘สนามพลังกฎธรรมชาติ พลังที่ทุกคนปรารถนาจะมี  ‘แต่เขารีบสำรวมอารมณ์โดยเร็ว พลังใจของเขามั่นคงมากกว่านักสู้ธรรมดา และเขารีบฟื้นความรู้สึกจากความผิดหวังนั้น

‘ถ้าพลังของอาวุธข้าเหนือกว่าตัวข้าเอง อย่างนั้นข้าจะกลายเป็นทาสของมัน’

‘สมบัติทุกอย่างเป็นเหมือนอสูรร้าย ถ้าข้าไม่มีพลังมากพอจะข่มมัน ข้านั่นแหละจะถูกมันทำลาย’

‘เดี๋ยวก่อน.. นี่ไม่ใช่สนามพลังกฎธรรมชาติแท้!’

ทันใดนั้นจี๋เจ๋อตระหนักถึงคำพูดที่เหมือนไม่ตั้งใจของท่านหน้ากากผี

“นี่คือสนามพลังกฎธรรมชาติเทียมหรือถ้าจะพูดให้ถูกเจ้าจะเรียกว่าสนามพลังที่ยังไม่สมบูรณ์ก็ได้ ฉากโลหิตนี้สร้างมาจากกฎธรรมชาติเลือด ทั้งหมดที่เรารู้ว่าขอบเขตของกฎธรรมชาติจำแนกเป็นสายใยกฎธรรมชาติ,ผิวกฎธรรมชาติและสนามพลังกฎธรรมชาติ แต่จะพัฒนาพวกมันยังไง? ขณะที่ศึกษาดาบพิศวง ข้าตระหนักว่ามีบางอย่างที่แปลกประหลาด ผิวกฎธรรมชาติแท้จริงแล้วสร้างขึ้นจากสายใยกฎธรรมชาติ  ดังนั้นเส้นใยที่เบาบางจะกลายเป็นผิวราบได้ยังไง?  โดยการถักทอ!  ทุกคนคงเคยเห็นเสื่อถักทอมาก่อนใช่ไหมเส้นสายทั้งหลายจะกลายเป็นพื้นที่ได้ยังไง? และกลายเป็นตระกร้าหญ้าสานดาบพิศวงนี้ก็ใช้หลักการขั้นตอนนี้ จึงเลียนแบบพื้นที่ที่คล้ายคลึงกันออกมา”

ถังเทียนพูดด้วยความดีใจ  แต่หน้าของเขาสวมหน้ากากผีทับไว้  ดังนั้นสมาชิกจึงไม่เห็นรอยยิ้มมีความสุขของเขา

กลับทำให้เสียงที่ผ่านหน้ากากเป็นเสียงโทนต่ำ

ตาของทุกคนกลมโตพวกเขาส่วนใหญ่แทบจะไม่เข้าใจเขา  แต่พวกที่มีสติปัญญาอยู่บ้างแสดงท่าทีไตร่ตรอง แต่ทุกคนเป็นเหมือนนักเรียนที่เชื่อฟังตั้งใจฟังเขาเป็นอย่างดี โดยไม่ต้องปกปิดอารมณ์เคารพชื่นชม

แม้แต่จี๋เจ๋อผู้พลังสูงส่งก็ยังมีสีหน้าตกใจ

‘นี่เจ้ากำลังล้อเล่นหรือเปล่า ต่อให้นี่ไม่ใช่สนามพลังธรรมชาติที่แท้จริง  แต่หลังจากเรียนรู้ไปชั่วขณะ  ท่านจะต้องเข้าใจว่าสนามพลังกฎธรรมชาติเป็นเช่นไร  นั่นหมายความว่ายังไง?  หมายความว่าท่าน เจ้านายของข้า ความเข้าใจกฎธรรมชาติของท่านอยู่ในระดับสุดยอดไปแล้ว!’

เมื่อถือดาบพิศวง ม่านเลือดที่อยู่ต่อหน้าเขาเป็นฉากภาพที่แตกต่างออกไปสิ้นเชิง

สมาชิกทุกคนในสายตาเขาเป็นเหมือนกลุ่มก้อนเลือด เขาสามารถรู้สึกได้ถึงเส้นเลือดเห็นเลือดที่หมุนเวียนแม้แต่จะเป็นเส้นเลือดเล็กน้อยละเอียดเขาก็รู้สึกได้ชัด  ในสายตาเขาไม่มีความลับซ่อนอยู่  เขากล้ายืนยันได้ว่า ตราบใดที่เขาต้องการ  เขาสามารถทำให้เลือดย้อนกลับได้

‘นี่คือสิ่งที่เรียกว่าสนามพลังกฎธรรมชาติหรือ?’

ทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของเขาความรู้สึกมึนเมาที่เขาไม่สามารถอธิบายได้เกิดขึ้นในใจของเขา

แต่เมื่อเขามองดูท่านหน้ากากผี  เขาถึงกับตะลึงทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด