ตอนที่แล้วบทที่ 64 สุสานคนเป็น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปประกาศ

บทที่ 65 เส้นทางสู่สวรรค์


สุสานคนเป็น!

ลู่อวิ๋นไม่เคยได้พบสุสานแบบนี้มาก่อน และเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าสุสานประเภทสุสานคนเป็นนี้เป็นแบบไหน

แต่ในบันทึกโบราณของสำนักอาจารย์มีการบันทึกเรื่องสุสานคนเป็นที่ลึกลับอย่างยิ่งนี้ไว้

ข้างนอกสุสานคนเป็น มีหนึ่งหน่วย สองลักษณ์ สามผู้รู้(1) สามรูปแบบคอยปกป้อง

แน่นอน ไม่มีรูปแบบใดรูปแบบเดียวของ หนึ่งหน่วย หรือ สองลักษณ์ ในโลกนี้

หนึ่งหน่วย สองลักษณ์ สามผู้รู้ สี่รูป(2) ห้าธาตุ(3) หกทิศ(4) เจ็ดดาว แปดไตรแกรม(5) เก้าวัง(6) สิบแดน(7) พลังสิบประการเหล่านี้ แต่ละประการสามารถวิวัฒนาการรูปแบบฮวงจุ้ยได้หลายพันชนิด นอกจากนี้ยังสามารถหลอมรวมซึ่งกันและกันได้อีกด้วย ยิ่งทำให้เกิดรูปแบบใหม่มากยิ่งขึ้น

ทั้งหมดเหล่านี้ คือพลังของทุกสรรพสิ่งในฟ้าดิน

รูปแบบที่พิทักษ์สุสานคนเป็นนี้ เริ่มต้นด้วยการซ้อนทับกันของสามรูปแบบ หนึ่งหน่วย สองลักษณ์ สามผู้รู้

ตอนนี้ ลู่อวิ๋นได้เห็นหนึ่งหน่วย สองลักษณ์… สำหรับสามผู้รู้นั้นก็คือ ฟ้า ดิน มนุษย์

ค่ายกลสองลักษณ์นี้คาดเดาไม่ได้ ค่ายกลมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับฟ้าดิน… สามผู้รู้ นั่นก็คือฟ้าดิน ฟ้าดินปรากฏขึ้นแล้ว แต่คน… ถ้าลู่อวิ๋นทายถูก นั่นก็ควรเป็นร่างที่เขามองเห็นได้ก่อนหน้านี้

บันทึกที่เกี่ยวกับสุสานคนเป็น ในบันทึกโบราณของสำนักอาจารย์ มีการกล่าวถึงด้วยคำสองคำ ห้ามเข้า

ห้ามเข้า ศิษย์ของหลักสูตรโมจินห้ามเข้าสุสานคนเป็นโดยเด็ดขาด

เห็นได้อย่างชัดเจนว่า นี่เป็นข้อห้าม มีข้อห้ามมากกว่าตัวตนของศพเลือด

สัมผัสชีพจรทอง ปล้นสุสานเพื่อเลี้ยงชีพ แม้แต่สุสานใหญ่ที่น่ากลัวที่สุด โจรปล้นสุสานก็ยังกล้าที่จะขโมย… แต่ในตอนท้ายของบันทึก คำว่า 'ห้ามเข้า' กลับปรากฏขึ้นกับสุสานคนเป็น

แน่นอน ลักษณะของสุสานคนเป็น ไม่ใช่มีแค่รูปแบบหนึ่งหน่วย สองลักษณ์ สามผู้รู้อย่างแน่นอน ยังมีลักษณะอื่นๆ อีก แต่จนถึงตอนนี้ ทุกสิ่งที่ลู่อวิ๋นเห็น ทั้งหมดตรงกับลักษณะของสุสานคนเป็น

ลู่อวิ๋นตัดสินแล้วว่า เกาะกลางแม่น้ำฉวนเหอ นั่นคือที่ตั้งของสุสานคนเป็น

สุสานคนเป็นมีโลกแห่งค่ายกลอีกหนึ่งอยู่ในนั้นจริงๆ งั้นหรือ?

ไม่ได้มีโลกแห่งค่ายกลเพียงชิ้นเดียว?

ลู่อวิ๋นได้ถามเฟยเนี่ยภายในประตูนรก เฟยเนี่ยมองไปที่โลกแห่งค่ายกลในมือของนาง แล้วก็ส่ายหน้าอย่างว่างเปล่า

"สุสานคนเป็นงั้นหรือ? เจ้าบอกว่ามีสุสานเซียนโบราณอยู่ที่นี่"

ฉีเชิ่งฮุยได้ยินลู่อวิ๋น ถามด้วยใบหน้าที่สงบ

ในตอนนี้ จิตสังหารได้ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ในฐานะขันที ฉีเชิ่งฮุยไม่ใช่คนใจกว้างอย่างแน่นอน ลู่อวิ๋นกล้าเรียกเขาว่าขยะ ถ้าเช่นนั้นเขาก็จะสังหารลู่อวิ๋น

เมื่อได้ยินลู่อวิ๋นกล่าวออกมาว่ามีสุสานคนเป็นอยู่ที่นี่ แม้ฉีเชิ่งฮุยจะประหลาดใจ แต่ก็ยอมรับ

ในโลกเซียนตอนนี้ มีสุสานเซียนมากมาย อาจจะมีสุสานเซียนโบราณลึกลับปรากฏในที่ไหนสักแห่งก็ได้

สุสานเซียนเหล่านี้ ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้สร้างมันให้กับเซียนที่เสียชีวิตในสนามรบ

"ถ้าเป็นสุสานเซียนโบราณจริงๆ นั่นยิ่งทำง่ายขึ้น"

ฉีเชิ่งฮุยครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง

ณ เวลานี้ ดวงตาของลู่อวิ๋นนั้นจ้องเขม็งไปที่เกาะ

เปิดเนตรพันลี้ เขาเห็นร่างในชุดขาวบนเกาะอีกครั้ง

ชุดขาว ผมยาว รูปร่างสะโอดสะอง… เห็นได้อย่างชัดเจน ว่าเป็นผู้หญิง เพียงแค่เห็นหน้านางได้ไม่ชัดเจน

ลู่อวิ๋นมั่นใจได้ว่า นี่คือคนที่มีชีวิต

มือของนาง ดูเหมือนว่าจะถืออะไรบางอย่าง ยืนนิ่งสงบอยู่ในใจกลางเกาะ ดูเหมือนว่านางจะมองมาที่คนทั้งหกที่อยู่บนฝั่งเช่นกัน

"มันเป็นสุสานเซียนจริงๆ !"

ชายชราชุดแดงพูดด้วยเสียงเข้ม "เกาะนั่น มันเป็นสุสานเซียน"

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าชายชราคนนี้ก็ทรงพลังมากเช่นกัน สามารถที่จะตัดสินว่าเกาะนี้เป็นที่ตั้งของสุสานเซียน

แต่เขาไม่เห็นคนชุดขาวบนเกาะนั้น

"ไม่น่าแปลกใจ…ที่โลกแห่งค่ายกลจะปรากฏอยู่ที่นี่"

ฉีเชิ่งฮุยสูดลมหายใจเข้าลึก "เจ้า ไปตามถนนนี้เข้าสู่เกาะ!"

ฉีเชิ่งฮุยมองไปที่โม่อีอีกครั้ง

ใบหน้าของโม่อีไร้ที่เปรียบ มากพอที่จะทำให้ผู้หญิงอิจฉา ทำให้ผู้ชายหลงใหล… แต่ฉีเชิ่งฮุยเป็นขันที ขันทีที่บกพร่อง เมื่อเขาเห็นสาวงามอย่างโม่อี สิ่งแรกที่นึกถึงในใจก็มีเพียงแค่การทำลายนาง!

"ไม่จำเป็น!"

ลู่อวิ๋นอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและกล่าวออกมา

ต่อจากนั้น เขาก็สะบัดนิ้ว ถั่วเหลืองสีทองก็เปล่งแสงสีทองเจิดจ้าออกมาต่อหน้าเขา

จากนั้น เทพเกราะทองคำที่สูงประมาณห้าหรือหกจั้งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของพวกเขา

"เจ้าไปทางนั้นแล้วดูให้หน่อย"

ลู่อวิ๋นตะโกนบอกเทพเกราะทองคำ

"ตกลง"

ในตอนนี้ ในดวงตาของลู่อวิ๋นมีเปลวไฟสีดำริบหรี่จางๆ นี่ทำให้เทพเกราะทองคำไม่กล้าพูดจาไร้สาระแม้แต่น้อย เดินไปตามถนนสีขาวใต้ฝ่าเท้าเข้าสู่แม่น้ำฉวนเหอ

"ช่างเป็นเคล็ดวิชาเชิดหุ่นที่ละเอียดอ่อนมาก"

ชายชราเสื้อคลุมแดงมองไปที่เทพเกราะทองคำ ความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

เทพเกราะทองคำที่ได้อัญเชิญมาจากลู่อวิ๋น มันเกือบจะเหมือนกับสิ่งมีชีวิตจริงๆ แต่มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่แท้จริง

ว้าว!

ถนนสีขาวที่ตรงไปยังแม่น้ำฉวนเหอ มันกลายเป็นสิ่งที่เหมือนสะพานโป๊ะ ขณะที่เทพเกราะทองคำกำลังขึ้นไปบนโป๊ะ แม่น้ำฉวนเหอก็ปั่นป่วน ศพเหล่านั้นในแม่น้ำก็เคลื่อนตัวในทันใด ตะเกียกตะกายคว้าไปทางเทพเกราะทองคำ

สายเกินไปที่เทพเกราะทองคำจะทันต้านทาน เขาโดนศพคว้าตรงข้อเท้า ลากลงแม่น้ำ ทันใดนั้น เขาก็ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ โดยศพเหล่านั้น

"แว้ แว้!"

จากนั้น ในแม่น้ำฉวนเหอก็มีเสียงเหมือนเด็กร้องอย่างน่าขนลุก

"ความคับข้องใจของเด็กชายและเด็กหญิงที่เป็นเครื่องสังเวยนับพันปียังคงอยู่ ทั้งหมดรวมอยู่ในแม่น้ำฉวนเหอ เพิ่มพลังของรูปแบบหนึ่งหน่วยนี้อย่างไร้ที่สุด"

ใบหน้าของลู่อวิ๋นซีดเผือด

ภายใต้การสังเวยเด็กชายและเด็กหญิงเหล่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่วิญญาณของพวกเขาจะหนีไปและกลายเป็นผี

แต่เงื่อนไขที่นี่มีความพิเศษ พวกมันสามารถดูดซับความขุ่นเคืองของพวกเขา

"จะทำอย่างไรดี?"

ในตอนนี้ ฉีเชิ่งฮุยก็ไม่มีความคิดเห็น เขามองไปที่ชายชราในชุดสีแดงโดยไม่รู้ตัว

ชายชราชุดแดงคนนี้เป็นปรมาจารย์ค่ายกลตัวจริง ไม่ใช่คนประเภทเดียวกับ 'เจิ้นสือซาน' ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

"ค่ายกล! ด้วยพลังของค่ายกล จะทำให้ค่ายกลขนาดใหญ่ในแม่น้ำอ่อนแอลง และฉวยโอกาสข้ามแม่น้ำ!"

ชายชราเสื้อคลุมแดงดูเคร่งขรึม เป็นเรื่องปกติที่เขาจะสามารถบอกได้เช่นกันว่ามีค่ายกลอยู่ในแม่น้ำ

แม้ว่าเทพเกราะทองคำเขตแดนปราณจะอ่อนแอ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ค่ายกลในแม่น้ำผันผวน หรือได้รับการกระตุ้น เขาเพียงแต่โดนฉีกเป็นชิ้นๆ โดยศพเหล่านั้น

แม้ว่าจะเปลี่ยนเป็น ‘ผู้ว่าการเขตแดนแก่นต้นกำเนิด' ให้เป็นตัวทดลอง ก็จะไม่มีผลลัพธ์อื่น

สำหรับเซียนสูงส่งทั้งสาม ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับชีวิต เป็นเรื่องปกติที่จะไม่เสี่ยงด้วยตนเอง

"รอสักครู่!"

เมื่อถึงตอนนี้ ลู่อวิ๋นก็ตะโกนด้วยเสียงอันลึกล้ำว่า "ค่ายกลที่นี่ซับซ้อน สอดประสานกัน สามารถเปลี่ยนแปลงได้ไม่มีที่สิ้นสุด… ข้าไม่รู้ว่าสุภาพบุรุษผู้นี้ รู้ไหมว่ามันคือค่ายกลอะไร”

ลู่อวิ๋นสามารถมองทะลุผ่านอิทธิฮวงจุ้ยในแม่น้ำได้ ซึ่งเกิดจากพลังของหนึ่งหน่วย แต่เขาไม่เห็นค่ายกลในอีกด้านหนึ่งของรูปแบบ

ชายชราเสื้อคลุมแดงตกตะลึง เขาส่ายหน้าเล็กน้อย "ค่ายกลนี้แปลกเกินไป ดูเหมือนจะฝังอยู่ระหว่างฟ้าดิน ข้ารู้แค่ว่ามีค่ายกล แต่ข้าไม่เห็นหน้าตาที่แท้จริงของค่ายกลนี้”

"ผู้เฒ่า เจ้าจะใช้พลังของค่ายกลแบบไหน เพื่อทำให้ค่ายกลในแม่น้ำนี้อ่อนแอลง"

ลู่อวิ๋นสอบถามอีกครั้ง

"นี่… "

ชายชราชุดแดงหน้าแดง พูดไม่ออก

"แล้วเจ้าจะทำอย่างไร"

ชายชราชุดแดงคนนี้ไม่ได้โกรธเพราะความอับอาย แต่ใบหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง

ก่อนหน้านี้เขาฟังคำพูดที่ลู่อวิ๋นพูดกับตนเอง เขาก็ตระหนักว่า 'ผู้ว่าราชการขยะ' ในตำนานนี้อาจไม่ง่ายเหมือนที่มีข่าวลือ อย่างน้อยก็ในแง่ของค่ายกล เขานำหน้าคนหลายคนไปแล้ว

แม้ว่าจะมีบางพูดคำที่ชายชราชุดแดงไม่เข้าใจก็ตาม แต่หลายคำก็ชี้ให้เห็นประเด็นสำคัญที่นี่

"ข้าก็มองไม่ทะลุค่ายกลที่นี่เหมือนกัน "

ลู่อวิ๋นตอบกลับ “แต่… พวกเจ้ามีบางอย่างที่สามารถสะกดข่มค่ายกลนี้ได้ หากพลังของสิ่งนั้นเพิ่มขึ้นสิบเท่า หรือร้อยเท่า ก็จะเป็นไปได้ที่จะสามารถสร้างถนนโดยตรงที่นำไปยังเกาะกลางแม่น้ำ และทำให้ศพเหล่านั้นไม่กล้าเข้าใกล้”

"ใช่!"

ชายชราชุดแดงก็ตอบสนอง เขามองไปที่ฉีเชิ่งฮุย

"ไม่! 'เส้นทางสู่สวรรค์' มีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นอาวุธหนักของแดนสวรรค์หลางเสี๋ย ห้ามนำออกไปเด็ดขาด!"

ฉีเชิ่งฮุยปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

"เส้นทางสู่สวรรค์!!!"

ชิงหานเบิกตากว้าง "จ้าวฉางกงไอ้บัดซบนั่น ถึงกับกล้าแตะต้องเส้นทางสู่สวรรค์!"

เส้นทางสู่สวรรค์คืออาวุธหนักของแดนสวรรค์หลางเสี๋ย สามารถเดินทางทะลุผ่านค่ายกลทุกประเภทในโลกได้ แดนสวรรค์หลางเสี๋ยใช้สำรวจสุสานเซียนโบราณ ขุดมรดกวิถีเซียนของโลกเซียนโบราณจากสุสานเซียนโบราณ ล้วนพึ่งพาเส้นทางสู่สวรรค์

แน่นอน เส้นทางสู่สวรรค์ไม่ได้มีอำนาจทุกอย่าง นอกจากนี้ก็ยังมีค่ายกลที่ไม่สามารถเจาะเข้าไปได้ มิฉะนั้นแดนสวรรค์หลางเสี๋ยคงจะขุดสุสานเซียนโบราณของโลกเซียนไปจนหมด รับมรดกของโลกเซียนโบราณ รวบรวมเข้าด้วยกันนานแล้ว

ค่ายกลสุสานเซียนโบราณเหนือระดับจักรพรรดิในสี่มณฑล เส้นทางสู่สวรรค์ไม่สามารถเจาะทะลวงได้

"หุบปาก!!"

ได้ยินเสียงชิงหานตะโกน ฉีเชิ่งฮุยรีบตะโกนออกมา "เส้นทางสู่สวรรค์ที่ข้านำมา มันเป็นเพียงของเลียนแบบ เส้นทางสู่สวรรค์ที่แท้จริงต้องการความร่วมมือจากผู้เป็นเซียนประสบผลหลายคนในการเปิดใช้งาน เป็นไปได้อย่างไรที่เซียนสูงส่งตัวน้อยอย่างข้าจะขยับมันได้"

“ถึงแม้ว่าจะเป็นของเลียนแบบ แต่ก็ใช้ไม่ได้ง่ายๆ เช่นกัน”

ชิงหานแค่นเสียงเย็นชา "ถ้าเซียนคนอื่นได้รับมันไป เปิดเผยความลับของเส้นทางสู่สวรรค์ ข้อได้เปรียบของแดนสวรรค์หลางเสี๋ย ก็จะหายไป! เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นเซียนสูงส่งตัวน้อย เจ้ารักษาเส้นทางสู่สวรรค์ได้หรือไม่"

ฉีเชิ่งฮุยหน้าเปลี่ยนไป แต่ไร้วาจา

"เป็นแค่ของเลียนแบบงั้นหรือ"

ลู่อวิ๋นถอนหายใจในใจ "ถ้าของเลียนแบบ สามารถทำให้เราไม่ถูกจำกัดในรูปแบบสองลักษณ์นี้ ถ้าตัวจริงของมันมา ข้าเกรงว่ารูปแบบหนึ่งหน่วยนี้คงจะถูกทำลายได้โดยง่ายเช่นกัน”

รูปแบบหนึ่งหน่วย สองลักษณ์ สามผู้รู้ของที่แห่งนี้นั้น เป็นเพียงอิทธิฮวงจุ้ย ถ้าเป็นมหิทธิฟ้าดิน ของเลียนแบบเส้นทางสู่สวรรค์นี้จะไม่สามารถมีบทบาทอะไรได้

"ถ้าได้รับโลกแห่งค่ายกลในสุสานแล้ว ก็ให้ทำลายของเลียนแบบเส้นทางสู่สวรรค์ในทันที โลกแห่งค่ายกลเป็นอาวุธเซียนโดยกำเนิด มันสามารถทำลายและสร้างค่ายกล หากได้รับโลกแห่งค่ายกล แดนสวรรค์หลางเสี๋ยจะมีอาวุธหนักอีกชิ้นที่ไม่อ่อนด้อยไปกว่าเส้นทางสู่สวรรค์ นี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่!"

ชายชราชุดแดงคนนั้นพูดอย่างไร้ความรู้สึก "ตอนนี้ข้าได้วางค่ายกลเพิ่มพลังให้กับเส้นทางสู่สวรรค์เป็นสิบเท่า เราจะผ่านแม่น้ำฉวนเหอได้อย่างแน่นอน"

"ดี!"

ฉีเชิ่งฮุยกัดฟัน แสงสีขาวบนร่างกายของเขาสว่างขึ้นเรื่อยๆ

แสงสีขาวอ่อนจางที่ไหลวนไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา

บรรยากาศโดยรอบทั้งหมดสว่างไสวด้วยแสงสีขาวนี้

นี่คือของเลียนแบบเส้นทางสู่สวรรค์

"ซือถูอวิ๋น ระมัดระวังเต็มที่ นับจากตอนนี้ ถ้าหากมีคนที่เจ็ดอยู่ที่นี่อีก ไม่ว่าใครก็ตาม จงสังหารเสีย!"

เสียงของฉีเชิ่งฮุยนุ่มและอ่อนแอ แต่มีจิตสังหารอันเย็นเยียบอยู่ในนั้น

"ข้าให้สัญญา!"

ชายในชุดเกราะ ซือถูอวิ๋น ก็มีท่าทางจริงจังขึ้นเช่นกัน กระบี่เซียนพิเศษปรากฏขึ้นในมือของเขา

"ไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนอื่นอยู่ที่นี่"

ลู่อวิ๋นถอนหายใจเบาๆ "ทำลายศพพวกนี้ก่อน มิเช่นนั้นพวกเราจะตายกันหมด"

ในช่วงเวลานี้ ศพที่ลอยกระเพื่อมในแม่น้ำฉวนเหอ ไม่รู้ว่าได้ขึ้นฝั่งเงียบๆ มาหกตนแล้วในตอนนี้

ไม่ใช่ผีดิบ ไม่ใช่แม้กระทั่งศพอัปยศ… แค่เป็นซากศพเท่านั้น

ไร้ชีวิต ศพที่ไร้ชีวิต

เส้นทางสู่สวรรค์ดึงดูดทุกสายตา หากลู่อวิ๋นไม่ได้คอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงในแม่น้ำฉวนเหอ เกรงว่าอีกห้าคนที่เหลือจะไม่รู้ว่าศพเหล่านี้มาถึงตั้งแต่ตอนไหน

—-------------------------------------------------------

(1) 三才 สามผู้รู้ ประกอบด้วยสามผู้รู้ คือ ฟ้า ดิน มนุษย์

(2) 四相 สี่รูป ประกอบด้วยรูปของ Ātman(อาตมัน) Pudgala Sattva Jīva อีกทางบอกว่า สี่รูปคือ การเพิ่มส่วนย่อยของไท่จี๋ จากสองเป็นสี่ กลายเป็น สี่ฤดู สี่ทิศ สี่สัตว์เทพ

(3) 五行 ห้าธาตุ ไม้ ไฟ ดิน เหล็ก น้ำ

(4) 六合 หกทิศ เหนือ ใต้ ออก ตก บน ล่าง หรืออาจแปลว่าจักรวาล

(5) 七星 เจ็ดดาว หมายถึง ดาวกระบวย ดาวจระเข้

(6) 八卦 แปดไตรแกรม ไตรแกรมคือเส้นขีดสามเส้นแปดรูปแบบ มักจะเห็นล้อมรอบเครื่องหมายหยินหยางบนยันต์จีน

(7) 九宫 เก้าวัง เป็นตารางตัวเลขขนาด 3x3 ด้วยการใช้หลักห้าธาตุทำให้เกิดเป็นวัฏจักรของตัวเลข ใช้ในวิชาการทำนาย

(8) 十方 สิบแดน ประกอบด่วย สวรรค์ โลก ตะวันออก ตะวันตก เหนือ ใต้ ประตูเกิด ประตูตาย อดีต อนาคต

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด