ตอนที่แล้วตอนที่ 780 ตัวประหลาดหนุ่ม ตัวประหลาดเฒ่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 782 แม่เสือสาวผู้น่ารัก

ตอนที่ 781 การคำนวณ สะเทือนใจที่สุดในชีวิต


“ท่านช่างน่าสงสัยมากจริงๆ”

เย่ว์หยางวางมาดสอบสวนเหมือนกับเชอร์ล็อค โฮล์ม  เขาพูดถึงจุดที่น่าสงสัย “ท่านบอกว่าท่านอยู่ที่นี่มาเกือบสองหมื่นปี ยังไม่ต้องพูดถึงว่าจริงหรือไม่จริงก่อนท่านอ้างว่าอยู่ที่มาถึงสองหมื่นปี แล้วรู้จักจักรพรรดิอวี้และนางพญาเฟ่ยเหวินหลีได้ยังไง?”

ชายชราตอบอย่างใจเย็น“ทั้งจักรพรรดิอวี้และนางพญาเฟ่ยเหวินหลี ก็เข้ารับการทดสอบฝึกฝนที่นี่เจ้ายังจะกล่าวหาว่าข้าไม่รู้จักพวกเขาอีกหรือ? สองสามพันปีที่ผ่านมาช่างเงียบเหงาน่าเบื่อก่อนหน้านี้ที่นี่คึกคัก เจ้าว่ายังไงนะ?  ทดสอบน่ะหรือ?ไม่, คนที่เข้ามาฝึกฝนทดสอบไม่มีใครผ่านด่านทดสอบได้อย่างสมบูรณ์ไม่มีแม้แต่จักรพรรดิอวี้ และเฟ่ยเหวินหลีที่เจ้าเทิดทูนบูชาก็ยังทดสอบผ่านด่านไม่สำเร็จ  ใช่แล้วพวกเขาผ่านไปถึงสิบด่านจักรพรรดิอวี้ไม่ผ่านด่านที่แปด แม่หนูเฟ่ยเหวินหลี ผ่านด่านที่เก้า และพอมาถึงด่านที่สิบ เพราะเงื่อนไขบางอย่างไม่ครบนางจึงถอยกลับในที่สุด  ตัวประหลาดน้อย บอกความลับกับเจ้าก็ได้ด่านฝึกฝนที่นี่ยากกว่าประตูเป็นตายของหอทงเทียนชั้นสิบ เงื่อนไขในการผ่านได้ทั้งหมดไม่ใช่แค่พลังและความกล้าหาญ!”

เย่ว์หยางแค่นเสียงเย็นชาและตอบกลับ “แดนสวรรค์กว้างใหญ่ไพศาลยอดฝีมือมากมายเหมือนกับขนโค ไม่ใช่ว่าพวกเขามีแค่ความแข็งแกร่งและกล้าหาญก็พอแล้วหรอกหรือ?”

ชายชรามีความสุข “เด็กน้อยอย่างเจ้าไม่เชื่อเช่นนั้นแต่เรื่องของมนุษย์ บางครั้งมีพลัง ไม่จำเป็นต้องมีความกล้า  บางครั้งมีความกล้าไม่จำเป็นต้องมีพลังมีทั้งสองอย่างไม่จำเป็นต้องมีโชคได้หรือ นี่เป็นเงื่อนไขสำคัญ!”

โชค

เย่ว์หยางยังคงเงียบ

ถ้าชายชราพูดเรื่องอื่น เย่ว์หยางต้องปฏิเสธแน่นอน

แต่พอเขาบอกว่าโชค นี่ไม่สามารถสงสัยได้  เพราะโชคมีอยู่จริง แต่ไม่สามารถเห็นได้  และไม่ใช่ว่าไม่มี ต่อให้เป็นคนๆเดียวกันก็อาจจะให้ผลแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนผู้หนึ่งไม่มีพลังความแข็งแกร่ง ไม่มีความกล้าหาญ แต่ย่อมมีโชคได้  ชายชราเมื่อเห็นเย่ว์หยางเงียบก็อดพูดล้อเลียนเขาไม่ได้  “ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้ตัวว่าไม่มีโชค เด็กน้อยและเจ้าคงรู้ว่าโชคคืออะไร ฮ่าฮ่า!”

เย่ว์หยางฟังแล้วหน้าแดงด้วยความอยาย  ถ้านี่เป็นคนอื่นพูด นั่นอาจจะมีเหตุผลบ้าง

แต่เมื่อพูดเตือนตนเองย่อมทำให้คนรู้สึกละอาย

ความจริงแม้แต่เย่ว์หยางเองก็ต้องยอมรับว่าถ้าเขาโชคดีทั่วทั้งหอทงเทียนหรือทั่วโลกคงไม่มีใครโชคดีไปกว่าเขาแล้ว

ชายชราคิดว่าเย่ว์หยางเป็นผู้เยาว์ที่มีความแข็งแกร่งน่าเกรงขามเพราะได้อาจารย์ช่วยกวดขันให้ฝึกฝนทั้งวันและคืนเก็บกดความทุกข์ทรมานไว้มาก  ใครกันที่ช่วยให้เย่ว์หยางฝึกฝนอย่างนี้?  เด็กคนนี้ไม่มีใครเหมือนแม้แต่น้อย  แม้ว่าเขาจะมีกระบวนการฝึกฝน แต่ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับแรงบันดาลใจและความรู้สึกรับรู้ที่รวดเร็ว ความเร็วในการฝึกฝนของเย่ว์หยางนั้นมากมายกว่าคนทั่วไปหลายเท่าที่น่าทึ่งก็คือนอกจากความฉลาดของของเขาแล้ว เขายังมีความรับรู้เป็นเลิศและเป็นเพราะเทพธิดากระบี่ฟ้าและความรู้ของพี่สาวแม่สี่และนางพญาเฟ่ยเหวินหลี

กล่าวคือชายชรามองเย่ว์หยางอย่างเข้าใจผิดประเมินเย่ว์หยางด้วยสายตาของคนธรรมดา

เย่ว์หยางยิ้ม

เขาคงไม่กระโดดโลดเต้นหัวเราะร่าและประกาศความเป็นเด็กน้อยผู้โชคดีแน่  การแสดงออกอย่างนั้นเป็นเรื่องโง่ๆมีแต่เจ้าอ้วนไห่เท่านั้นที่ทำ!

“เข้าไปทดสอบได้เลยและดูว่าเจ้าจะทำได้แค่ไหน หุบเขาพิรุณของข้าเป็นระดับที่ง่ายที่สุดแล้ว  ทุกครั้งที่เจ้าเข้าไปสู่ระดับหนึ่งความยากจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า หลังจากผ่านระดับหกความยากจะผิดไปจากธรรมดาเจ้าจะต้องผ่านระดับหกได้ เจ้าสามารถมีชื่อเสียงในโลกขึ้นบ้าง” ชายชราแสดงสีหน้าเป็นจริงจังครั้งแรกการทดสอบสามระดับแรกแม้ว่าจะเป็นมาตรฐานระดับธรรมดาหลังจากนั้นจนถึงระดับหกเป็นระดับที่ยากอย่างแท้จริง หลังจากผ่านระดับหกไปนั่นคือการทดสอบนักสู้ที่แท้จริง

“จะได้รางวัลอะไรบ้างหลังจากผ่านได้แล้ว?”  เย่ว์หยางคิดว่าถ้ามีสมบัติเทพเป็นรางวัลแม้ว่าจะต้องใช้เวลาทดสอบบ้างก็นับว่าไม่เลว

“อย่าฝันหวานดีกว่า แม้แต่แม่หนูเฟ่ยเหวินหลีก็ยังไม่กล้าท้าทายด่านที่สิบ”  ชายชราส่ายศีรษะและโบกมือ  “เด็กน้อย, เจ้ายังไม่แข็งแกร่งพอ เจ้ารู้ไหม?ข้าผ่านได้ถึงระดับไหน? ระดับหก และติดอยู่ที่ด่านที่เจ็ดยังไม่สามารถผ่านไปได้!

“ผู้อาวุโส!  ข้ามีสิ่งที่ท่านไม่มี”  เย่ว์หยางยิ้ม เขายิ้มด้วยความภาคภูมิใจ“ท่านไม่ผ่านระดับที่เจ็ด ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะผ่านไม่ได้!”

“เจ้าว่ายังไงนะ?  เจ้าหมายความว่าเจ้าฉลาดกว่าข้าอย่างนั้นหรือ?”  ชายชราแค่นเสียง “เด็กน้อย!  อย่านึกว่าฉลาดขึ้นนิดหน่อยแล้วจะทำโอหังได้!”

“ลองดูไหมเล่า?”เย่ว์หยางผายมือและท้าทายผู้อาวุโส

“ถึงเวลาให้เจ้าได้เรียนรู้วิธีให้เกียรติรุ่นบรรพบุรุษเสียแล้ว”  ชายชรารู้สึกไม่ยินยอม

“ถ้าแพ้แล้วอย่ามาโอดครวญว่าข้ารังแกคนแก่อ่อนแอเจ็บป่วยก็แล้วกัน...”  คำพูดของเย่ว์หยางทำให้ชายชราแทบคลั่ง  เขาเคยเห็นเด็กผยองมามากมาย  แต่ไม่เคยพบเจอพวกหน้าหนาอย่างเย่ว์หยางมาก่อน

“เราผู้เฒ่าถนัดในเรื่องนี้  อย่าหาว่าผู้ใหญ่รังแกเด็กเลย! ช่างเถอะ ข้าจะยกตัวอย่างง่ายๆ” ชายชรายกตัวอย่างทันที “1 คูณ 9 บวก 2 เท่ากับ 11, 12 คูณ 9 บวก 3 เท่ากับ111 ... และไปเรื่อย 123456789 คูณ 9 บวกเท่าไหร่จึงจะเท่ากับ  1111111111? เป็นไงบ้างเด็กน้อยข้าให้เวลาเจ้าสิบนาที คำนวณออกมาให้ได้!”

“หมูมาก”เย่ว์หยางมองตาไม่กระพริบ แล้วตอบทันที “บวก 10”

“อะไรนะ?” ชายชราตะลึง

“ข้าคงลำบากแย่ ถ้าท่านเอาปัญหาระดับนักเรียนชั้นประถมมาถามปัญหานี่ข้าเห็นมาตั้งแต่ชั้นอนุบาลแล้ว ถ้ายังตั้งปัญหาตื้นเขินแบบนี้อีก ข้าจะถุยละนะ”คำตอบของเย่ว์หยางทำให้ชายชราสั่น

“เจ้าพบคำตอบนี้ได้ยังไง?” ชายชราไม่เข้าใจ คำถามยากขนาดนั้นเจ้าเด็กนี่คำนวณคำตอบออกได้ยังไง?

“ไม่มีคำอธิบาย” เย่ว์หยางทำเป็นแหงนหน้า 45องศามองดูดวงดาว

“เฮอะ..ก็แค่แมวตาบอดวิ่งชนหนูตาย (ฟลุ้ค)  ขนาดคนมีปัญญายังไม่มีทางคิดคำตอบได้ในหนึ่งวินาที”ในใจของชายชราเชื่ออย่างมั่นใจว่า ถ้าไม่รู้คำตอบล่วงหน้าเขาคงไม่สามารถตอบได้ทันที เขาตั้งใจจะตั้งคำถามอีกสองสามข้อและค่อยทุบเจ้าเด็กปากเหม็นนี่พอคิดในใจแล้วเขาพูดขึ้นทันที “1 คูณ 1 เท่ากับ 1, 11 คูณ 11 เท่ากับ 121,111111111 คูณด้วย 111111111 ตอบมาเดี๋ยว ไม่ต้องเสียเวลาคิด..”

“เท่ากับ 12345678987456321” เย่ว์หยางพูดตอบทันทีโดยไม่จำเป็นต้องคิดแม้แต่วินาทีเดียว

“ไม่มีทาง!!” ชายชราสั่น

“123456789ต้องคูณด้วยเท่าไหร่ถึงจะได้ค่า 987456321?” ชายชราถามคำถามที่ยากขึ้น

“คูณด้วย 8 บวกด้วย 9” เย่ว์หยางยักไหล่กล่าว “ปัญหานี้มันง่ายเกินไป เอาปัญหายากกว่านี้ปัญหาสำหรับผู้ใหญ่มีไหม ท่านผู้อาวุโส?”

“เจ้ารู้คำตอบได้ยังไง? แม่หนูเฟ่ยเหวินหลีทดสอบแล้วยังไม่ใช่ระดับเดียวกับข้านี่คือโจทย์ของข้า เจ้ารู้คำตอบได้ยังไง?” ชายชราแทบจะคลั่ง ถ้าเย่ว์หยางพบคำตอบได้เร็วก็ยังไม่เป็นไร  แต่เขากลับตอบได้โดยไม่ต้องยั้งคิดเรื่องนี้ไม่อาจยอมรับได้จริงๆ

แน่นอนว่าชายชราไม่รู้ว่าเย่ว์หยางเคยอ่านหนังสือคณิตคิดสนุกมาก่อนแล้ว

มีทั้งการจัดเรียงเลขอนุกรม และการคำนวณรูปแบบต่างๆ

เลขอนุกรมทั้งหมดที่ชายชราใช้ทดสอบเย่ว์หยางเป็นแค่ความสัมพันธ์กันอย่างง่ายๆไม่ซับซ้อนอาจกล่าวได้ว่าแม้ว่าเย่ว์หยางจะไม่เคยเห็นชุดเลขอนุกรมดังกล่าวแต่ก็ยังคำนวณได้ไม่ยากด้วยสติปัญญาของเขาและความรู้เรื่องจินตคณิต จึงไม่ยากที่จะคิดออก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเงื่อนไขชี้นำอยู่ก่อนหากไม่สามารถคำนวณออกมาได้ คงเป็นเรื่องอายเด็กน้อยจากอีกโลกหนึ่งแน่

ชายชราไม่รู้ความจริงนี้ และรู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจอย่างหนักในชีวิตของเขา เขายังไม่เคยพบเรื่องกระทบกระเทือนใจมาก่อน

พลังไม่แข็งแกร่งเท่าคนอื่น นั่นไม่มีปัญหา  แต่สติปัญญาไม่ดีเท่าคนอื่นนั่นเป็นเรื่องจนใจจริงๆ

เขารำพึงกับเย่ว์หยาง “เด็กน้อย เจ้าเป็นตัวประหลาดน้อยจริงๆ!  ช่างเถอะไม่มีความหมายอะไรต่อเจ้า.. เจ้าเข้าไปเถอะ!”

เย่ว์หยางมองดูและรู้สึกเสียใจเล็กน้อยเขายื่นมือจับไหล่ชายชรา “อย่าเศร้าใจไปเลย คนฉลาดอย่างข้า หาได้เพียงคนเดียวในหอทงเทียนและมีเพียงคนเดียวในแดนสวรรค์  และคาดว่าคงไม่มีคนที่สองในที่ไหนๆ อีกแน่”

ชายชราแทบลมจับอีกครั้งหลังจากฟังคำของเขา“นี่คำปลอบโยนของเจ้าหรือ? หรือว่าจะซ้ำเติมกันแน่?”

ถ้ามีกำแพงอยู่ข้างหน้า

เขาคงต้องเอาศีรษะโขกพังทลายแน่

เขาไม่มีหน้าไปพบบรรพบุรุษของเขา

เขาเปิดประตูเทเลพอร์ตของศาลาหลบฝนและรีบไล่เจ้าเด็กประหลาดออกไปจากหุบเขาพิรุณอย่างรวดเร็วยิ่งไปเร็วก็ยิ่งดี ขืนให้เขาอยู่ที่นี่ต่อไปมีแต่จะทำให้เขาต้องแสดงความนอบน้อมมากขึ้น

หัวข้อเหล่านี้ถ้ายังไม่เอาชนะอุปสรรคที่เป็นเงื่อนไขในหัวข้อได้ก็ไม่ถึงกับยากเกินไป!  ท่านรู้ไหมทำไมถึงมีสองเงื่อนไขอยู่ข้างหน้าคำถาม? ถ้าท่านสามารถค้นพบปมนี้ได้ ท่านจะไม่ติดอยู่ที่ระดับเจ็ด!” เย่ว์หยางพยายามรับมือชายชราด้วยสีหน้าเหมือนเป็นคนดี ปล่อยให้เด็กสั่งสอนแม้ว่าเขาจะไม่ตั้งใจ แต่เป็นการแสดงจิตใจดีงาม แต่เขายากจะพูดออกมาได้จริงๆ

“ข้าเป็นเฒ่ากระดูกผุกร่อนแล้ว  จะทำอะไรอื่นได้อีก  เจ้าผู้เยาว์ไปเสียเถอะ!” ชายชราเห็นเย่ว์หยางจากไปในที่สุดและทิ้งเหล้าฉีหลานไว้เขารู้สึกเป็นเรื่องน่าอาย เด็กคนนี้เมื่อมองดูแล้ว ไม่น่าพอใจจริงๆ  แต่บางครั้งก็ทำให้คนรู้สึกตื่นเต้น

“ศาลาหลบฝนแห่งนี้ผูกพันกับท่านอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นประตูเทเลพอร์ต พื้นที่ต้องห้ามท่านคิดยังไงถึงให้เว่ยซู่ไปไล่จับนางแอ่นพายุสายฟ้า?”  เย่ว์หยางถามด้วยความประหลาดใจก่อนจากไป

“อะแฮ่ม, ความน่าเบื่อสองหมื่นปีพอไม่รู้จะหาอะไรทำก็ยิ่งน่าเบื่อใหญ่!มีเพียงเจ้าเด็กนี่ที่รู้ว่านางแอ่นพายุสายฟ้าไม่ใช่เงื่อนไข  ในอดีตที่ผ่านมาหมื่นปีมีเพียงเจ้าเด็กนี่ที่ถูกถาม แม้แต่จักรพรรดิอวี้ก็จับนางแอ่นพายุสายฟ้ามาทั้งฝูงอย่างพาซื่อ  ขณะที่แม่หนูเฟ่ยเหวินหลี สตรีดุร้ายนางไม่ยอมฟังเงื่อนไขข้าแม้แต่น้อย นางชักดาบคู่ออกมาพาดคอขู่ข้า ข้าจะไม่ยอมปล่อยไปได้ยังไง”

“ข้าเข้าใจแล้วผู้อาวุโส  ท่านยิ่งแก่ก็ยิ่งไม่ธรรมดาจริงๆ”  ยิ่งกว่านั้นเย่ว์หยางยังได้บทสรุป

“เจ้ามันเป็นเด็กผิดปกติ ไม่มีใครผิดปกติเหมือนเจ้า”  ชายชราทั้งโกรธทั้งอาย จึงอดสบถด่ามิได้

“ก็ได้, ก่อนข้าจะจากไป ข้าอยากทราบชื่อท่าน  ดูซิว่าจะผิดปกติสมชื่อท่านหรือไม่?”  คำพูดเย่ว์หยางทำให้คนตายแทบลุกออกมาจากโลงได้

“เจ้า.... ก็ได้ ข้าไม่ลดตัวไปเถียงกับเด็กอย่างเจ้า  ข้าชื่ออวี่ปัว”  เมื่อชายชราบอกชื่อเย่ว์หยางแล้วดูเหมือนเขาต้องการเห็นสีหน้าตกใจของเย่ว์หยาง

“ไม่เคยได้ยินมาก่อน” ใครจะคิดกันเล่าว่าคำตอบของเย่ว์หยางจะเป็นเช่นนี้

“เฮอะ!”  ตอนนี้ชายชราโกรธจริงๆ ความจริงเขาสังหรณ์ใจแล้วว่าคำตอบต้องเป็นเช่นนี้

“ไม่ว่าใครที่ผ่านระดับทั้งสิบไปได้ท่านสามารถปลดปล่อยจากการจองจำได้หรือ” แต่ก่อนที่ชายชราจะตอบ เขาผ่านเข้าประตูมิติและหายไปจากหุบเขาพิรุณ

“อย่างเจ้าน่ะหรือ” ชายชราตะโกนอย่างไม่พอใจ

แต่เขาเปลี่ยนใจเปลี่ยนความคิดทันทีบางทีอาจมีความเป็นไปได้ เจ้าเด็กนี่เป็นเด็กผิดธรรมดา โดดเด่นขึ้นมาจากหลายคนคงเป็นศิษย์ของเฟ่ยเหวินหลี บางทีอาจจะผ่านได้ทุกด่านทดสอบก็ได้... ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็คงจบกัน  ข้าโชคร้ายเสียแล้ว!  ชายชราคิดเรื่องนี้จนปวดหัวรู้สึกอยากจะเอาหัวโขกเต้าหู้ตายยิ่งนัก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด