ตอนที่แล้วตอนที่ 775 ตามหาคน สมาชิกครอบครัว หญิงวัยกลางคน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 777 สนามทดสอบ?

ตอนที่ 776 โอกาสมาพร้อมกับความเสี่ยง


ดินแดนทุ่งน้ำแข็งร่องรอยเมืองโบราณ

ร่องรอยซากถล่มของเมืองโบราณยาวเป็นแนวเขา  เดิมทีเป็นพื้นที่รกร้างแห้งแล้งแต่ตอนนี้บนพื้นกลายเป็นที่ตั้งค่ายพักแรมมีชีวิตชีวา  ทหารรับจ้างพ่อค้าและนักสู้ปราณฟ้านับหมื่นคนมาจากทั่วสารทิศและสร้างค่ายพักแรมขนาดใหญ่ที่นี่

ไกลออกไปมองเห็นได้จากท้องฟ้าในพื้นหิมะด้านล่างจะมีจุดดำชัดเจนเมื่อเข้าไปใกล้จะพบว่าเป็นค่ายพักแรมเต็มลานหิมะสิ่งที่สะดุดตาที่สุดนี้ทำให้ผู้เดินทางไกลสามารถเห็นเป้าหมายได้จากระยะไกลใจกลางพื้นที่ตั้งค่ายพักแรมของทุ่งหิมะมีเสาเพลิงของเทพอัคคีสูงสามร้อยเมตรลุกโชติช่วงตลอดทั้งวันทั้งคืน

เปลวเพลิงลุกโชติช่วงนำทางผู้ผจญภัยจากทั่วสารทิศ

ราชาหลิงหวินเห็นเช่นนี้รู้สึกอิจฉาในใจ

ในฐานะนักสู้ระดับราชาแดนสวรรค์เขาพยายามสร้างเสาเทพอัคคีในเมืองของเขาเองหลายครั้งคราเพื่อแสดงศักดิ์ศรีอำนาจของเขา

อย่างไรก็ตามเสาเทพอัคคีนอกจากได้รับหลังจากทำข้อตกลงกับตำหนักกลางแดนสวรรค์แล้วยังสามารถสร้างเองได้และราคาก่อสร้างแพงเป็นพันล้านเหรียญทองทำให้ราชาหลิงหวินยกเลิกความคิดเช่นนี้  ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีเงินพันล้าน เขามีแต่เขาไม่คิดว่าควรจะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอย่างไม่ยับยั้งชั่งใจ

“ดูเหมือนว่าตำหนักกลางแดนสวรรค์จะล้ำหน้าเราไปก้าวหนึ่ง”  เจ้าเมืองถูไห่เต็มไปด้วยความกลัว  ความจริงตั้งแต่เมืองเจิ้งฝูนอกจากเย่ว์หยางแล้ว คนอื่นไม่มีขวัญกล้าเทียมฟ้า

คนที่นั่นแค่เพียงคนจรจัดทหารผ่านศึกที่นอนอยู่ริมถนนเมืองเจิ้งฝูก็มีพลังปราณฟ้าระดับห้า เรื่องนี้ทำให้ราชาหลิงหวินที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับห้าขั้นสูงรู้สึกด้อย ไม่ต้องพูดถึงถูไห่ที่มีพลังปราณฟ้าระดับห้า  การแสดงอาการเช่นนั้นของพวกเขาทำให้รู้สึกน่าผิดหวัง  ต่างจากเจ้าอ้วนไห่ เย่คงและคนอื่น  เจ้าอ้วนไห่และเย่คงกับคนอื่นไม่ได้มีพลังระดับผู้นำเลยนอกจากเย่ว์หยางที่มีพลังผิดธรรมดาแตกต่างจากคนอื่นทำให้พวกเขาติดตามด้วยความยากลำบาก

แน่นอนหากเจ้าอ้วนไห่และเย่คงและคนอื่นรู้สึกด้อยพลังเป็นเรื่องของความกลัวแบบหนึ่งพวกเขาก็แค่กลัวและหมอบลง

ราชาหลิงหวินและเจ้าเมืองถูไห่เป็นคนประเภทชอบความก้าวหน้า

ถ้าพวกเขาไม่สามารถออกจากความรู้สึกพ่ายแพ้นี้ได้อย่างนั้นพวกเขาจะไม่มีอนาคตที่ก้าวหน้าอีกต่อไป

ความคิดในขอบเขตของนักสู้ย่อมไม่เท่ากันแน่นอนความคิดของนักสู้อาจไม่ได้กล้าแข็งขึ้นมาในทันที แต่ถ้าไม่มีความคิดของนักสู้ ก็ยากจะกลายเป็นนักสู้เส้นทางของการฝึกฝนก็เหมือนกับการแล่นเรือออกทะเล

ถ้าไปไม่ได้ก็ต้องถอย

“ก็แค่การจัดการระยะยาวขึ้นมาเล็กน้อยใช้เล่ห์เหลี่ยมอิทธิพลให้คนภักดี  ทั้งที่หัวใจยังแฝงด้วยความโลภ”  เย่ว์หยางเย้ยหยัน

แน่นอนว่าเขาจะไม่บอกว่ามีคนระดับเจ้าตำหนักของตำหนักกลางแดนสวรรค์สั่งการให้นักรบแดนทมิฬทำลายโบราณสถานใช้วิธีการกวนน้ำให้ขุ่นและถือโอกาสขยายอำนาจครอบงำแดนสวรรค์ตะวันตก

กลอุบายเล็กน้อยนี้เย่ว์หยางใช้หัวแม่เท้าตรองก็ยังคิดออก

เหตุผลก็คือสามจอมภพแดนสวรรค์หนีออกมาจากผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ได้และกลับมายังแดนสวรรค์ ตำหนักกลางแดนสวรรค์พยายามฉวยโอกาสขยายอิทธิพลเข้าแดนสวรรค์ตะวันตก  ถ้าพวกเขาจะไม่มีวันกลับมาอีกตลอดไปตำหนักกลางแดนสวรรค์จะสนับสนุนให้นักสู้ระดับจักรพรรดิให้เป็นผู้นำ ดูเหมือนว่าตำแหน่งของสามจอมภพแดนสวรรค์ตะวันตกจะทำให้อำนาจในแดนสวรรค์ตะวันตกทั้งหมดมีความสมดุล ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีคุณสมบัติจะต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริง พวกเขาต้องการได้รับการสนับสนุนจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์จากนั้นตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์จะขยายอิทธิพลได้กว้างขวางในแดนสวรรค์ตะวันตก  อย่างไรก็ตามซิวคง จิ่วเซียวและหมิงเยี่ยกวงกลับมาแล้ว ทุกอย่างที่ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ทำไว้ก่อนนั้นถูกปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง  ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องการคว้าน้ำเหลวก่อนที่จิ่วเซียว ซิวคงและหมิงเยี่ยกวงจะฟื้นฟูพลังได้เต็มที่ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวอีกไม่ได้เลย

เหตุผลที่มีนักรบแดนทมิฬปรากฏออกมาย่อมต้องเกี่ยวข้องกับตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากต้องโทษถึงตายจึงทำให้นักรบแดนทมิฬเหล่านี้ทุ่มเทกำลังเต็มที่

เรื่องนี้เย่ว์หยางไม่บอกกล่าวกับพวกแดนสวรรค์

ตรงกันข้าม เขาเก็บไว้เป็นความลับ

เพราะตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์และสามจอมภพแดนสวรรค์ซิวคงจิ่วเซียวและหมิงเยี่ยกวงมีการต่อสู้กันเองลับๆ สำหรับตัวเขาย่อมได้รับประโยชน์อย่างมากเหมือนนั่งบนภูดูเสือกัดกันซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่สุดเย่ว์หยางแค่ต้องเติมเชื้อไฟให้แดนสวรรค์ตะวันตกปั่นป่วนวุ่นวายมากขึ้น  ยิ่งวุ่นวายมาก หอทงเทียนก็ยิ่งได้เปรียบทำให้มีเวลาและโอกาสชนะมากขึ้น

สองฝ่ายไม่ปรองดองกัน มือที่สามย่อมได้ประโยชน์

กล่าวคือสถานการณ์ในปัจจุบันของเย่ว์หยาง เขาเผชิญหน้ากับโอกาสที่เขาจำเป็นต้องฉวยคว้าเอาไว้

นี่ไม่ใช่เพียงเพื่อตัวเขาเองแต่เพื่อโอกาสในอนาคตเมื่อนางพญาเฟ่ยเหวินหลีออกมาจากผนึกหลุมดำเพื่อปณิธานต่อสู้ของจักรพรรดิอวี้ เพื่อความก้าวหน้าของจื้อจุน จักรพรรดินีราตรีและเหล่าจักรพรรดิหอทงเทียนมีมารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกร จักรพรรดิใต้พิภพ ..เสวี่ยอู๋เสีย องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน เจ้าเมืองโล่วฮัว นางเซียนหงส์ฟ้า อี้หนานเย่ว์หวี่ เย่ว์ปิง เย่ว์ซวง ไห่อิงอู่ จุ้ยมาวอี้ (สาวขี้เมา) ราชันย์ปีศาจใต้เจ้าอ้วนไห่ เย่คง เสวี่ยทันหลาง องค์ชายเทียนหลัวและนักรบรุ่นใหม่คนอื่นๆ

หลังจากตกต่ำมานานหกพันปี  อย่าว่าแต่ทำให้ดีกว่าเลยแค่ให้ได้ระดับปราณฟ้าก็ต้องใช้ความพยายามนานนับรุ่นไม่ถ้วน

เย่ว์หยางไม่ต้องการเช่นนั้น

เขารู้สึกว่าเขาควรจะยืนหยัดขึ้นและนำทุกคนไปด้วยกัน

ไล่ตามระดับปราณฟ้าให้ทันและทำให้ได้ดีกว่าบรรพบุรุษก้าวเข้าสู่ระดับนักสู้ของแดนสวรรค์

เป้าหมายสูงสุดในใจเย่ว์หยางไม่ใช่หยุดอยู่แค่แดนสวรรค์  แต่เป็นการเข้าสู่โลกที่ลึกลับเต็มไปด้วยความคลุมเครือเทพเจ้าในตำนาน โลกและชีวิต บางทีอาจเป็นเทพเจ้าบางทีอาจเป็นโลกของเผ่าบูรพาอมตะก็ได้

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตามโลกเหล่านี้คือเป้าหมายของเย่ว์หยาง

ใกล้เข้าไป

ใกล้เข้าไปพื้นที่ตั้งค่ายทุ่งหิมะ

ตอนนี้สามารถมองเห็นลานตั้งค่ายพักแรมมีขนาดใหญ่โตมากแม้จะไม่ได้อยู่ในเมืองก็ตาม

เรือเหาะที่สวยงามโอ่อ่ายังไม่ทันเข้าไปใกล้  ก็มีอัศวินกริฟฟินราวสองร้อยนายแต่ละนายมีพลังระดับเตรียมปราณฟ้า ที่แขนพวกเขาติดตราเครื่องหมายตำหนักกลางผูกสอดเกราะรบที่สง่างามตั้งแถวรอต้อนรับ

หนึ่งในหัวหน้ากองโบกธงต้อนรับตะโกนเสียงดัง  “กองพันที่สามเทพอัคคี ตำหนักกลางเขตสิบเก้ายินดีต้อนรับท่านนักสำรวจผู้กล้าหาญและยินดีด้วยกับการเดินทางเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่สมบูรณ์เราหวังว่าท่านผู้มีเกียรติจะรายงานชื่อและลงทะเบียนเพื่อไม่ให้เกิดการสับสนวุ่นวาย  ที่นี่จะแตกต่างจากสมาคมสำรวจที่ตั้งไว้เพียงชั่วครั้งคราวเราเปิดบริการฟรีทุกอย่าง ขอต้อนรับพวกท่านอีกครั้ง!”

“เรามาจากพื้นที่รกร้างที่แปดของแดนสวรรค์ตะวันตกภูมิภาคง้าวเงิน ทวีปลมคำราม อาณาจักรหลิงหวิน ข้าราชาหลิงหวินพาบริวารและสหายมาเยือน” ราชาหลิงหวินรู้ว่าเย่ว์หยางต้องการปกปิดสถานะพลังเพื่อมาสำรวจและเขาจะไม่ทำตัวโดดเด่นเช่นกัน

ในฐานะราชาแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ในแดนสวรรค์ แต่ก็ยังคงมีอิทธิพลอยู่บ้าง

นายกองกองทัพเทพอัคคีที่สามตกใจรีบนำกลุ่มทหารแสดงความเคารพอีกครั้ง

และจัดทหารให้ดูแลราชาหลิงหวินอีกครั้ง

พวกเขาจัดให้เรือเหาะที่โอ่อ่าหรูหราจอดในที่จัดให้ต่างหากจากคนธรรมดา

สมาคมนักสำรวจและผจญภัยทราบข่าวหลายคนเป็นนักรบปราณฟ้าระดับห้าพากันหัวเราะร่า เข้ามาทักทาย  เพราะพวกเขาเป็นสหายเก่ากันอยู่แล้ว

“ข้าเคยบอกแล้วว่าเฒ่าหลิงหวิน เจ้าเอาแต่รักความสะดวกสบายเกินไป ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้ามีเวลาว่างมาสำรวจที่เสี่ยงอย่างนี้คนร่ำรวยอย่างเจ้า ควรจะกินเหล้าเคล้านารีเสวยสุขอย่างพระราชานั้นไม่ถูกหรือ?  ครั้งสุดท้ายเจ้าบอกว่าเจ้าไม่สนใจอะไร แต่คราวนี้เจ้าใช้เรือเหาะเลิศหรูมาเยือนถึงที่นี่ได้ มามา มาเถอะ  พวกเราสหายเก่าหลายคนไม่ได้ร่วมดื่มสังสรรค์กันมานานแล้ว” บุรุษประหลาดที่เป็นผู้นำเข้ามากอดราชาหลิงหวินก่อน

“เยี่ยมมาก” ราชาหลิงหวินฝืนยิ้มถ้าเขาไม่มากับคุณชายสามตระกูลเย่ว์ เขายังจะยอมมาในที่อันตรายอย่างนี้หรือ?  ในที่นี้ไม่ว่าจะค้นหาสมบัติหรือไม่ก็ตาม มักอดไม่ได้ที่จะมีส่วนร่วมในวังวนการต่อสู้

อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับการกลายเป็นสหายของคุณชายสามตระกูลเย่ว์ราชาหลิงหวินรู้สึกว่าการต่อสู้เป็นเรื่องจำเป็น

ไม่มีเวลาจะสูญเสียต่อไปอีกแล้ว

เขาคาดว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์คือผู้สูงส่งจากเผ่าบูรพาอมตะ ถ้าพลาดไม่ได้เป็นสหายกับเขาคงเป็นเรื่องที่น่าเสียใจไปตลอดชีวิต ได้เป็นพระราชาที่มีชีวิตสงบสุขย่อมเป็นเรื่องดี  แต่ปัญหาก็คือจะเป็นราชาได้สงบสุขนานแค่ไหน?ในแดนสวรรค์ผู้คนมักจะท้าทายต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่ง ถ้าไม่มีพลังมากพอไม่มีอำนาจสนับสนุนเพียงพอ ผลสุดท้ายก็มีแต่เพียงโศกนาฏกรรม

ภายใต้ร่มเงาไม้ใหญ่อุดมสมบูรณ์เขาให้การยอมรับว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์มีศักยภาพเติบโตเป็นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาที่สมบูรณ์

ราชาหลิงหวินจะไม่แนะนำเย่ว์หยางที่มากับเรือเขากับคนเหล่านี้

เขาแค่นำเจ้าเมืองถูไห่เข้ามาร่วมในงานเลี้ยงต้อนรับของเขา

และให้ทีมงานทำงานกันอย่างระมัดระวังกลุ่มปฏิบัติการนำโดยเจ้าอ้วนไห่และเย่คงและคนอื่น เข้าไปในพื้นที่ตั้งค่ายพักแรมและแสวงหาข่าว หลังจากใช้เวลาสองชั่วโมงและเสียทองอีกหลายหมื่นเจ้าอ้วนไห่กับพวกก็กลับมาจากพื้นที่ค่ายพักแรม

แม้ว่าซากสิ่งก่อสร้างโบราณจะถูกค้นพบมาถึงครึ่งปีแล้ว  แต่เพราะกำลังคนและเงื่อนไขจำกัดดังนั้นจึงแทบไม่มีใครเข้าไปสำรวจ

มีการรวมกลุ่มพยายามเข้าไปสำรวจเพียงครั้งเดียว

แต่ถูกทำลายหมดสิ้นเมื่อสามเดือนที่แล้ว

ตอนนี้ลานหิมะสำหรับตั้งค่ายพักแรมมีนักสู้ปราณฟ้าถึงพันคนและระดับเตรียมปราณฟ้าอีกหมื่นคนยกเว้นแต่พวกตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์และอิทธิพลของจักรพรรดิในดินแดนหิมะยังมีกองกำลังสามฝ่าย ก่อนหน้านี้ก็คือกองกำลังเขตรกร้างที่แปดของแดนสวรรค์ที่มาต้อนรับกลุ่มของราชาหลิงหวินยังมีกลุ่มนักสำรวจที่ทรงอิทธิพลอีกสองกลุ่มคือ กลุ่มทุ่งหิมะและกลุ่มเพลงสงคราม

เงื่อนไขการเข้าสำรวจเมืองโบราณจะต้องเป็นระดับปราณฟ้าเท่านั้น

ระดับเตรียมปราณฟ้าไม่สามารถเข้าไปได้ นั่นหมายความว่ากลุ่มแรกที่ถูกทำลายไปนั้นเป็นกรณีศึกษา  ทหารรับจ้างระดับปราณฟ้าเข้าเมืองโบราณถ้าอยู่ได้เกินสิบนาทีจำนวนคนไม่ได้รับผลกระเทือน

ระดับนักสู้ปราณฟ้าที่อ่อนแอที่สุดรอดชีวิตอยู่ได้นานครึ่งวัน

ผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุดมีพลังปราณระดับห้า ก่อนตายของบอกว่าเขาต้องรอดให้ได้ในเมืองโบราณนั้นให้ได้สิบวัน  เพราะไปกระตุ้นการทำงานของกฎสวรรค์ก่อนตายเขาบอกความจริงกับสหายและรีบกลับไปเสี่ยงชีวิต

“มีสมบัติเงินทองมีค่าที่พวกท่านคิดไม่ถึงอยู่ภายในถ้าท่านไม่กลัวตายก็ไปได้เลย ถ้าเจ้ากลับออกมาได้ ในไม่ช้าก็จะถูกทำลายโดยกฎสวรรค์เหมือนข้าจากนั้นเจ้าจะกลายเป็นผู้ส่งสารแดนสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด  มาเถิดนักรบผู้กล้า ความขลาดเขลาไม่มีทางจะทำให้เทพธิดาแห่งโชคอยู่กับเจ้า  ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวกระดูกของเรายังจะเดินหน้าต่อไป” นี่คือคำพูดของนักสู้หัวหน้ากลุ่มสำรวจก่อนตาย

เพราะคำเตือนของเขาทำให้กลุ่มสำรวจที่มาทีหลังไม่กล้าด่วนลงมือทั้งยังเป็นเพราะประสบการณ์ของเขา ทหารรับจ้างผู้กล้าหาญต่างเดินทางเข้ามากระแสของนักรบแดนสวรรค์กล้าแกร่งเป็นพิเศษ

โอกาสการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์มักผูกพันกับความแข็งแกร่งเสมอ

หากต้องการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ครั้งใหญ่ก็ต้องมีพลังเพียงพอ ขณะเดียวกันต้องกล้าเดินหน้าเสี่ยงโดยไม่เสียใจภายหลัง!

“น่าสนใจ ดูเหมือนจะไม่ใช่การหลอกลวงข้าชักจะสนใจบ้างแล้ว” เย่ว์หยางเริ่มคิดว่าร่องรอยเมืองโบราณนี้อาจเป็นแผนของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ข้อมูลในตอนนี้ดูเหมือนว่าเมืองโบราณจะมีอยู่จริง นอกจากนี้โอกาสเสี่ยงมีพอสมควร...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด