ตอนที่แล้วตอนที่ 774 มู่จือเสียเดินทัพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 776 ราชาขาหมูกับหน่วยกะโหลก

ตอนที่ 775 การมาถึงของหน่วยสุญญตา


เมื่อเซียวหานกวงยอมแพ้ เขายังคงคิดว่าบุรุษหน้ากากผีจะปฏิบัติต่อเขายังไงไม่ว่าเขาจะถูกสอบปากคำว่าได้รับมรดกเทพอสูรหกมุทรามาจากไหนและคิดถึงว่าเขาจะถูกทรมานยังไง เทพอสูรหกมุทราถือเป็นสถานะที่สำคัญในแดนบาป  และไม่มีมรดกอื่นสามารถเทียบได้  ถ้าเขาตกอยู่ในมือคนอื่น  พวกเขาจะต้องสอบสวนและทรมานเขาอย่างแน่นอน

บุรุษหน้ากากผีไม่สนใจเขา

ถูกแล้วบุรุษหน้ากากผีทำกับเขาเหมือนว่าเป็นอากาศ ไม่ฟังไม่คุยกับเขา

ตั้งแต่แรกเริ่มเซียวหานกวงยังคงคิดว่าบุรุษหน้ากากผีตั้งใจทำอย่างเช่นนั้น  แต่หลังจากผ่านไปสองสามวัน ในที่สุดเขาก็แน่ใจได้ว่าบุรุษหน้ากากผีไม่เคยเห็นเขาในสายตาแม้แต่น้อย

เป็นครั้งแรกที่เซียวหานกวงไม่ได้รับการเอาใจใส่  ตั้งแต่เด็กไม่ว่าเขาอยู่ที่ใดก็ตามเขาจะเฉิดฉายได้รับความสนใจ แม้แต่ฝูเจิ้งจือหลังจากถูกบุรุษหน้ากากผีถามสองสามคำถาม  เขาก็ถูกทำเหมือนเป็นอากาศ

เซียวหานกวงสับสนกับตัวเองความดีใจที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับการทรมานและความโกรธที่ไม่ได้รับความสนใจผสมปนเปกัน

และเป็นเพราะอารมณ์เหล่านี้ที่เขาเก็บไว้ในใจทำให้เซียวหานกวงคอยลอบสังเกตบุรุษหน้ากากผี

เขามั่นใจ 100%ว่าบุรุษหน้ากากผีฝึกเทพอสูรหกมุทรามาแน่นอน แม้ว่าจะแตกต่างกับตัวเขาเอง เขามีความเข้าใจที่ผิดว่าเทพอสูรหกมุทราของบุรุษหน้ากากผีเป็นเทพอสูรหกมุทราของจริงแทนที่จะเป็นของเขา

ความสำคัญผิดที่ไร้เหตุผลนี้ทำให้เซียวหานกวงสับสนมากขึ้น เขาเป็นผู้รับสืบทอดของปรมาจารย์หลี่ที่แท้จริง  และฝึกเทพอสูรหกมุทรามาตั้งแต่อายุน้อย  แต่เขาตระหนักได้ทันทีว่ายังมีคนที่มีพลังเทพอสูรหกมุทราที่ทรงพลังยิ่งกว่าเขาเมื่อเทียบกันแล้ว  นี่สร้างรอยแผลให้กับความมั่นใจของเขา

ทั้งสองมีความแตกต่างกันเล็กน้อย แต่เพราะเรื่องนั้นเซียวหานกวงเริ่มสงสัยว่าเขาอาจจะฝึกมาผิดวิธี

การสงสัยเกี่ยวกับมรดกวิชาที่เขาฝึกมาเกิน 20ปี สร้างความเจ็บปวดกัดกินใจของเขา ความมั่นใจของเขาเกิดจากหกมุทราเทพอสูร และความมั่นใจของเขามีมาเกิน 20 ปีแทบจะเหมือนกับภูผาใหญ่  แต่กลับเริ่มหวั่นไหวเพราะหินก้อนเดียว

แต่ความจริงเป็นเรื่องโหดร้าย หกมุทราเทพอสูรของบุรุษหน้ากากผีแข็งแกร่งกว่าเขาห่างไกล

ไม่มีอะไรน่าเชื่อถือเท่ากับความเป็นจริง

หลังจากเจ็บปวดและสับสนอยู่สองสามวัน  เขาก็อยู่ในเส้นขอบเขตของการพังทลาย เขารู้สึกว่าเขาอาจบ้าได้ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป  และตัดสินใจขอคำแนะนำจากบุรุษหน้ากากผี

‘ไม่มีอะไรน่าอายในการแสวงหาอาจารย์’ เขาปลอบใจตัวเอง และอารมณ์ของเขาผ่อนคลายลงมาก  แต่ในเวลาอันรวดเร็ว  เขาเริ่มคิดอีก  ‘บุรุษหน้ากากผีจะมีปฏิกิริยาอย่างไร?  เขาจะเยาะเย้ยข้า?หรือว่าบอกข้าว่าสิ่งที่ข้าทำนั้นผิด? หรือจะทำเป็นไม่สนใจข้า?’

เซียวหานกวงสับสนอีกครั้งหนึ่ง

แต่เขารวบรวมความกล้าครั้งสุดท้ายที่เขามีเพื่อขอคำแนะนำจากท่านหน้ากากผี

เมื่อเซียวหานกวงขอให้เขาสอนหกมุทราเทพอสูร  ถังเทียนประหลาดใจ  แต่ก็รู้สึกตัวได้โดยเร็ว

เขาคิดอยู่ขณะหนึ่งจากนั้นตัดสินใจบอกความจริง “ข้าไม่แน่ใจว่าหกมุทราเทพอสูรของข้าจะถูกต้องหรือเปล่า?”

ประโยคนนี้ทำให้เซียวหานกวงหน้าเขียวคล้ำ  ‘ตามคาดบุรุษหน้ากากผีคงจะไม่บอกความลับของเขา แต่ถ้าเป็นข้า  ข้าก็คงจะไม่เปิดเผยเหมือนกัน’

ถังเทียนไม่ได้สังเกตความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเซียวหานกวงและพึมพำ“ข้าได้รับการรู้แจ้งหกมุทราเทพอสูรจากดาบมารพิฆาต ข้าไม่รู้อย่างอื่นไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี หกมุทราเทพอสูรควรจะเป็นยังไงมีหลายรูปแบบที่ข้าไม่สามารถอธิบายได้ แต่ข้าคิดว่าถ้าเจ้าฝึกดาบมารพิฆาตบางทีเจ้าอาจจะเรียนรู้ได้สมบูรณ์แบบ”

“ดาบมารพิฆาต?”  เซียวหานกวงตกใจ

“ใช่แล้ววิชาดาบมารพิฆาตคือวิชาที่สมบูรณ์แบบของตระกูลเซวีย มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ปรมาจารย์ตระกูลหลี่ได้พักอยู่กับพวกเขา”  ถังเทียนกล่าว

เซียวหานกวงโพล่งออกมา  “ท่านสอนข้าได้ไหม?”

เขาตื่นเต้น ‘ปรมาจารย์หลี่ทิ้งวิชาที่สมบูรณ์ไว้ในอดีตหรือนี่?’

“ข้าไม่มีเวลา”  ถังเทียนส่ายหัว

ความตื่นเต้นในสีหน้าของเซียวหานกวงจางลงทันที

“แต่เจ้าสามารถติดตามหน่วยสุญญตาและเรียนรู้จากพวกเขา”  ถังเทียนพูดต่อ

‘ติดตามหน่วยสุญญตาและเรียนรู้จากพวกเขา?’ ตาของเซียนหานกวงเป็นประกายอีกครั้ง ไม่สำคัญว่าเรียนจากใคร  ตราบใดที่เขาสามารถเรียนได้  เขาพูดโดยไม่ลังเล  “ข้าจะไปหาพวกเขาเดี๋ยวนี้!”

ทั่วทั้งเมืองพายุยอมแพ้ไปแล้ว  และหน่วยสุญญตาถูกส่งออกมาเป็นธรรมดาและเซียวหานกวงรู้ว่าพวกเขาตั้งค่ายอยู่ที่ไหน

ถังเทียนส่ายหัว  “ไม่ใช่พวกเขา แต่เป็นหน่วยสุญญตาจากเมืองจื่อจวน”

“อย่างนั้นข้าจะไปเมืองจื่อจวน”  เซียวหานกวงยืนขึ้นเตรียมจะออกไป

“พวกเขากำลังจะมาถึงในไม่ช้า”  ถังเทียนหัวเราะ

*****************

อาโมรี่มองดูรอยแยกน่ากลัวที่กำแพงเมืองข้างล่างเขา  และพึมพำ “ถังห้าวแข็งแกร่งมากขึ้นทุกที”

ตาของหานปิงหนิงยังคงถูกดึงดูดอยู่ที่รอยฟันที่กำแพงเมืองและเทียบกับตัวนางเอง  ถ้านางสามารถบรรลุผลทำลายล้างได้ระดับนั้นนางอาจทำได้ แต่สิ้นเปลืองพลังงานมากเกินไปและนางไม่สามารถใช้ได้ถึงสองสามกระบี่  แม้ว่านางจะไล่ตามฝีมือเขา  แต่ระยะห่างระหว่างพวกเขายังคงเพิ่มมากขึ้น

อารมณ์ของหานปิงหนิงหดหู่

“อาโมรี่จะต้องแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น!” ทันใดนั้นอาโมรี่กวัดแกว่งแขนและตะโกน “และเอาชนะถังห้าว!”

สมาชิกหน่วยสุญญตาทุกคนที่อยู่รอบเขาสีหน้าเปลี่ยนทันที  พวกเขาอยากจะเขียนป้ายแขวนคอเขาไว้  “ไร้สาระ”

เมื่อได้ยินคำพูดไร้เดียงสาของอาโมรี่หานปิงหนิงยิ้ม อารมณ์ขุ่นมัวในใจนางหายไป ‘ใช่แล้ว ข้ามักจะเห็นถังเทียนเป็นเป้าหมายของตัวเองเสมอนั่นคือเหตุผลที่ข้าสามารถเติบใหญ่กล้าแข็งจนมีอย่างวันนี้!’

เมื่อนึกย้อนกลับไปตอนอยู่ในเมืองซิงฟงใครจะคิดกันเล่าว่าพวกเขามาถึงได้ระดับนี้?

นางไม่เคยมีความคิดเช่นนั้น อาโมรี่เช่นกันเหลียงชิวและซือหม่าเซียงซานก็เหมือนกันโดยไม่ทันรู้ตัวพวกเขาได้ผ่านมาไกลเหลือเกิน

จากนั้นหานปิงหนิงคิดถึงเหลียงชิวและซือหม่าเซียงซานไม่มีข่าวเกี่ยวกับพวกเขาเลย แต่นางไม่กังวลใจมาก ถังเทียนจะช่วยพวกเขาได้แน่นอน ในช่วงเวลาสั้นๆ ถังเทียนปราบมาทั้งเมืองบูรพาอมตะและเมืองพายุสร้างความตกตะลึงให้กับทุกคน

หลังจากอภิปรายกันอย่างเข้มข้น  พวกเขาได้ข้อสรุปอย่างหนึ่ง  คนไม่ธรรมดาไม่ว่าอยู่ที่ใดก็ไม่ธรรมดาวันยังค่ำ

แน่นอนว่า พูดกันแบบสวยหรูก็คือทองอยู่ที่ใดก็ยังเป็นทองส่องประกายได้

หลังจากได้รับคำสั่งจากถังเทียนหน่วยสุญญตาหมีใหญ่ในเมืองจื่อจวนรีบเร่งมายังเมืองพายุเต็มกำลัง  ไม่มีใครสงสัยคำสั่งถังเทียน  เมืองจื่อจวนถูกศัตรูโจมตี แต่ถังเทียนปราบเมืองบูรพาอมตะและเมืองพายุอย่างต่อเนื่องทำให้ทุกคนตระหนักได้ว่าการฝืนป้องกันเมืองจื่อจวนไม่ถูกต้อง

เร็วๆ นี้ทุกคนฝึกฝนกันอย่างหนัก  ราศีของหน่วยสุญญตาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย

เนี่ยชิววุ่นวายมาก สมาชิกที่ช่วยมาจากเมืองบูรพาอมตะทำลายจังหวะการฝึกของพวกเขา  แต่เขาก็ยังคิดวางแผนฝึกใหม่  เมื่อคิดถึงสมาชิกที่จะมาเพิ่มจากเมืองพายุเนี่ยชิวยิ่งปวดหัวหนัก

แต่สิ่งที่ทำให้เขาตื่นเต้นก็คือสมาชิกของหน่วยสุญญตาจะมีเกินพันคน

คนพันคนเพียงพอจะตั้งกองทัพขนาดเล็กซึ่งก็หมายความว่าเขาใช้งานกลยุทธได้มากขึ้น นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขามี

‘พลังของนายท่านเพิ่มขึ้นอีกแล้ว’

แม้ว่าเนี่ยชิวจะตาบอด  แต่สัมผัสรู้ของเขาแหลมคมกว่าใครๆในฐานะเป็นขุนพลทหาร ความคิดของเขามาจากแง่มุมทั้งหมดและการบรรลุพลังใหม่ของถังเทียนสร้างแรงกระทบขนาดใหญ่

เขาต้องยอมรับว่าในแดนบาปพลังของแต่ละคนส่งผลมากกว่ากองทัพเสียอีก

ข้อพิสูจน์ด้วยตนเองก็คือถังเทียนปราบมาแล้วสองเมือง

“ทุกคนตั้งใจให้ดี อย่าทำให้เจ้านายพวกเจ้าเสียหน้า” เขาพูดอย่างเฉยเมย

เสียงโห่ร้องหายไปทันที  ทุกคนยืดอกและจริงจังทันที

พวกเขาเข้ามาในเมืองพายุโดยเร็ว ที่นี่ชาวเมืองจ้องมองพวกเขาอย่างสงสัย ตอนนี้ทุกคนรู้ว่าบุรุษหน้ากากผีมีกองทัพหนึ่ง  กองทัพ คือสิ่งที่คนแดนบาปไม่คุ้นเคยเลย

แดนบาปไม่เคยมีกองทัพ  ดังนั้นทุกคนสงสัยว่ามันจะดูเหมือนอะไร

เมื่อหน่วยสุญญตามาถึง  ทุกคนจึงได้เห็นอย่างชัดเจน

รูปพยุหะที่สมบูรณ์แบบเคร่งครัดและเข้มงวดมากจนถึงขนาดที่ถ้ามีคนฟันใส่พวกเขาดาบก็ผ่านไปไม่ได้ ความเคลื่อนไหวของพวกเขาทั้งหมดพร้อมเพรียงกัน  ฝีเท้าของพวกเขาแม่นยำจนดูเหมือนเครื่องจักร  ในอากาศ พวกเขาเคลื่อนไหวพร้อมกัน แผ่นสุญญากาศปรากฏอยู่ใต้เท้าทุกคนเสียงระเบิดของแผ่นสุญญากาศดังพร้อมกันทำให้ของพวกเขาหนาวเหน็บ

บึ้ม!

แผ่นสุญญากาศมากกว่า 800แผ่นระเบิดพร้อมกันเป็นเสียงเดียว จากเสียงแหลมในตอนแรกกลายเป็นทุ้มต่ำเหมือนกับว่ามีกลองใหญ่ทุ้มในกลางอากาศทำให้ทุกคนใจเต้นระรัว  ทุกๆ ย่างก้าวของพยุหะจะเกิดขึ้นระเบิดขนาดใหญ่

บึ้ม บึ้ม  บึ้ม!

รอยเท้าแม่นยำมากและสมบูรณ์แบบเป็นฉากภาพที่ตราตรึงอยู่ในใจของทุกคน

ทั่วทั้งเมืองพายุตกใจกับการเคลื่อนไหว  ทุกคนวิ่งออกมาจากบ้านและมองดูกระบวนศึก  พวกเขาตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง

หน้าของฝูเจิ้งจือซีดขาวขณะที่เขาเห็นกองทัพอยู่ในอากาศ  ‘นั่นคือกองทัพหรือ?  แล้วนั่นคือหน่วยสุญญตาหรือ?’  ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าการกระทำของเขาทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นเรื่องโง่เขลามาก  เขาเป็นนักสู้ในรายชื่อทำเนียบนักสู้  แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพลังที่สง่างามซึ่งมาถึง  เขาก็ได้รับความตกใจเหมือนกัน

พลังของพวกเขาไม่ควรเอ่ยอ้าง  แต่เมื่อพวกเขาก่อตั้งกระบวนที่เข้มงวดก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทำเฉยเมยได้

ชาวเมืองพายุต่างพากันสั่นกลัว

บรรยากาศกลายเป็นเงียบ

เมื่อหน่วยสุญญตาลงมายังที่อยู่ของถังเทียนเสียงทุ้มก็หายไป และทั่วทั้งเมืองตื่นจากอาการงุนงงในที่สุด

เนี่ยชิวและทุกคนยืนอยู่หน้าถึงเทียน

ฝูเจิ้งจือและคนอื่นๆนอกจากเห็นความน่ากลัวของบุรุษหน้ากากผีที่เปล่งออกมานั้นพวกเขายังไม่กล้าหายใจดัง

“ข้าให้พวกเจ้าทุกมาที่นี่กันทั้งหมดเพราะสถานการณ์เปลี่ยนไป และเราต้องเดินหน้าให้เร็วขึ้น”  ถังเทียนอธิบายให้ทุกคนฟัง  และจากนั้นเขาหันหน้าไปทางฝูเจิ้งจือ  “ท่านประมุขตระกูล,โปรดอธิบายสถานการณ์ให้พวกเขาฟัง”

ฝูเจิ้งจือสั่น  เขาเดินขึ้นมาพูดด้วยความเคารพทันที  “ถูกแล้ว, เราได้รับข้อมูลมาว่าหลูเซิงเซียงพาคนในตระกูลเขาหลบหนีไปเมืองม้าบิน  เขาน่าจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่และรู้ว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนายท่าน ดังนั้นจึงรีบออกไปโดยเร็วเพื่อรักษาตระกูลหลูไว้”

ฝูเจิ้งจือลอบถอนหายใจ  เขานับถือการแก้ไขของหลูเซิงเซียง  และรู้สึกเห็นใจเขาที่มีความทุกข์คล้ายกัน เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ย่ำแย่ เขาจะยอมทำลายข้อมือเพื่อรักษาตนเอง บางอย่างที่คนธรรมดาทำไม่ได้ แต่การกระทำเช่นนี้ยังทำให้ตระกูลหลูดำดิ่งสู่เหวลึก

เมื่อม้าบินเป็นรากฐานของตระกูลหลูและถ้าพวกเขาเสียไป แม้แต่หลูเซิงเซียง พวกเขาจะกลายเป็นดิ้นรนอยู่ที่ปากประตูแห่งความตาย

ในพริบตา ตระกูลหลูที่มีศักดิ์ศรีและพลันตกต่ำลง  คนอื่นจะไม่สงสารเขาได้ยังไง?

เขายินดีในใจ ‘โชคดี ที่ข้าไม่ได้สร้างความวุ่ยวายใดๆ ให้กับท่านหน้ากากผี’

“เมืองม้าบินยังคงมีคนของเราบางส่วน”  ถังเทียนพูด “เนี่ยชิว ท่านพาทุกคนมุ่งหน้าไปที่นั่น สวี่เย่ไปกับพวกเขาด้วย

“ขอรับ!”  เนี่ยชิวและสวี่เย่รับคำ

“โอวข้าฝากเขาให้พวกเจ้าดูแลด้วย” ถังเทียนชี้ไปที่เซียวหานกวง “เขาต้องการเรียนดาบมารพิฆาต”

เซียวหานกวงรู้สึกแต่เพียงว่าสายตาหลายคนมองดูที่เขาเขารู้สึกสังหรณ์ไม่ดี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด