ตอนที่แล้วตอนที่ 772 แอบฟัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 774 เมืองเจิ้งฝู ข่าวจากร้านเหล้า

ตอนที่ 773 ความรุ่งเรืองในอดีต


อาณาจักรหลิงหวิน

เมื่อเย่ว์หยางมาถึงเมืองหลวงราชาหลิงหวิน เจ้าเมืองถูไห่และข้าราชการก็ได้ยินเสียงองค์ชายแปดอูไห่และชายาต่างก็รออยู่นานแล้ว เจ้าอ้วนไห่เย่คงและพวกพ้องยังคงอยู่ในอาการสงบ แต่พอไม่มีราชาหลิงหวินอยู่ด้วยพวกเขาตื่นเต้นเมื่อได้เห็นเย่ว์หยาง

พวกเขารู้ว่าเย่ว์หยางจะไม่เกิดปัญหาหรืออุบัติเหตุอย่าว่าแต่ระเบิดครั้งใหญ่เลย  ต่อให้เป็นระเบิดดวงดาวที่จักรพรรดินีฟ้าในช่วงเวลาใกล้ตายเรียกระเบิดดวงดาวออกมาเพื่อทำลายล้างบันไดสวรรค์ชั้นห้าแต่เย่ว์หยางร่วมมือกับจื้อจุนทำลายสิ่งนั้นได้

เพียงแต่ระเบิดดวงดาวต้องห้ามเทียบกับระเบิดดวงดาวของจักรพรรดินีฟ้าถึงแม้จะมีพลังมาก แต่ความเสี่ยงก็ยังต่ำกว่ามาก

เย่คงเจ้าอ้วนไห่และคนอื่นไม่รู้ว่า ความจริงผลกระทบของระเบิดดวงดาวนั้นไม่ส่งผลแค่จื้อจุนและเย่ว์หยาง

แต่เพราะพวกเขาไม่รู้สถานการณ์ชัดเจนพวกเขาจึงมีความคิดเช่นนั้น

“คุณชายสาม! ท่านหนีพ้นจากพลังระเบิดต้องห้ามได้ยังไง?”  แม้ว่านี่จะเป็นคำถามที่อุกอาจเล็กน้อย  แต่ถูไห่อดประหลาดใจไม่ได้

ยังไม่ต้องพูดถึงหัวหน้านักรบแดนทมิฬสิบคนที่มีพลังปราณฟ้าระดับห้าแค่นักรบแดนทมิฬระดับปราณฟ้าเกือบร้อยคนก็ยากจะทนรับได้ พึงรู้ว่านักรบแดนทมิฬระดับปราณฟ้าหลายคนมีพลังมากกว่าปราณฟ้าระดับสามยิ่งพวกเขาผนึกกำลังสู้ พวกเขาสามารถทำลายโลกและสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย  คุณชายสามสามารถหนีออกมาได้อย่างปลอดภัยไร้เรื่องราวไม่ถูกพลังระเบิดที่น่ากลัวทำอันตราย ความแข็งแกร่งระดับนี้ ในแดนสวรรค์จะมีสักกี่คน?

ถูไห่ไม่ได้ฟังคำตอบของเย่ว์หยาง เขาเพียงแต่คิดว่าคุณสามผู้นี้ลึกลับยากหยั่งถึง

เมืองลี่จ้าวพังทลายไปแล้ว

หน้าที่เฝ้าระวังนักรบหอทงเทียนจบลงแล้ว  แต่เขากลับไม่ได้ทำอะไรเลย

พูดตามตรงดูเหมือนว่ามีข้อน่าสงสัยกับภารกิจโดยตรง และผู้เฒ่าหมากรุกตายไม่มีหลักฐานการตายโดยตรง จะอธิบายได้อย่างไรว่ามีนักรบปราณฟ้าแดนทมิฬปรากฏตัว?แม้มีร้อยปากก็ยากอธิบายเรื่องนี้ได้

ดูผิวเผินตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์คงกลบเกลื่อนความจริงเอาไว้

จากนั้นในเวลาต่อมาก็หาข้ออ้างเพื่อลงโทษเขา

ถ้าไม่ลงทุนให้นักสู้คอยปกป้องก็อาจจะตกเป็นเหยื่อถามหาความรับผิดชอบของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ในอนาคตได้แค่อาศัยกำลังตนเองเพื่อปกป้องตนเองย่อมเป็นไปไม่ได้!

ถ้าคุณชายสามยินดีรับเขาเป็นบริวารเขาอาจจะหลีกหนีความรับผิดชอบของตำหนักกลางศักดิ์สิทิ์ได้

ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาไม่รู้ก็คือคุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้สูงศักดิ์นี้ยินดีจะยอมรับเขาไหมแม้จะเป็นการแอบอ้างโดยปริยายก็ตาม

“ความจริงนักรบปราณฟ้าแดนทมิฬเหล่านั้นยังไม่ได้ลงมือโจมตีเต็มที่ก่อนที่ระเบิดต้องห้ามจะทำงาน ทุกคนต่างละทิ้งเผ่นหนีสงครามยังไม่ได้ต่อสู้ตัดสินชี้ขาด แน่” แน่นอนว่าเย่ว์หยางคงจะไม่พูดความจริงแม้ว่าก่อนหน้านั้นพวกตำหนักกลางจะแอบสังเกตดูจะมีความเสียหายแฝงอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ราชาหลิงหวินและเจ้าเมืองถูไห่เป็นนักสู้ในพื้นที่ท้องถิ่น แต่พวกเขาเป็นกุ้งเล็กกุ้งน้อยในแดนสวรรค์เท่านั้น

“คุณชายสาม, ท่านปลอดภัยก็ดีแล้ว”ราชาหลิงหวินมีความรู้สึกตื่นเต้น เมื่อฟังเสียงราบเรียบของคุณชายสามนี้แล้วดูเหมือนว่าเขายังไม่ได้ใช้พลังเต็มที่

ถ้าทุ่มสู้สุดกำลังเกรงว่านักสู้ปราณฟ้าแดนทมิฬคงไม่สามารถรั้งเขาได้แน่

คุณชายสามน่าจะเป็นเช่นนั้น

ถ้าสามารถเป็นสหายกับเขาได้ในอนาคตสถานะในแดนสวรรค์จะเพิ่มสูงขึ้นแน่นอน...และเขาจะแสดงความจริงใจสร้างสัมพันธ์กับคุณชายสามได้ยังไง?  อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ขาดแคลนหญิงงาม ทั้งยังมีสาวงามเอลฟ์ทองอยู่ด้วยพลังอำนาจก็ไม่สามารถยกให้เขาได้ตามต้องการแล้วจะเป็นสหายที่ดีกับคุณชายสามได้หรือไม่? เรื่องนี้ต้องทำให้เสร็จในวันนี้มิฉะนั้นองค์ชายแปดเผ่ากาทองคงจะเชิญเขาเป็นอาคันตุกะจากนั้นท่านคงไม่สามารถทำอะไรได้

ราชาหลิงหวินนึกขึ้นมาได้ทันทีเขาถามเย่ว์หยางอย่างกระตือรือร้น “คุณชายสาม! เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองลี่จ้าวเราหลิงหวินและถูไห่ต้องขออภัยกับท่านด้วย แม้ว่าข้ากับคนอื่นๆ จะควบคุมไม่ได้ก็ตามแต่ที่สำคัญถือว่าเป็นการเสียมารยาทที่เกิดเหตุการณ์คล้ายสงครามอย่างนั้น ทั้งยังต้องรบกวนให้คุณชายสามช่วยปกป้องและคุ้มครองรั้งท้ายทำให้ข้าและบริวารรู้สึกละอายใจ เพื่อเป็นการชดเชยความผิดพลาดข้าหลิงหวินยินดีจะเป็นคนนำทางไปยังดินแดนหิมะประหลาดเพื่อค้นหาตำนานโบราณสถานที่อยู่ไกลโพ้นมิทราบว่าคุณชายสามจะเห็นเป็นเช่นไร?”

“เป็นความคิดที่ไม่เลว”เย่ว์หยางไม่สามารถคัดค้านข้อเสนอของราชาหลิงหวินได้อยู่แล้ว “ข้าเกรงว่าต้องการจะเข้าไปดูดินแดนโบราณอาจไม่ใช่เรื่องง่ายมีราชาหลิงหวินร่วมนำทางย่อมประหยัดเรี่ยวแรงไปมาก

เย่ว์หยางหันไปมององค์ชายแปดอูไห่แห่งเผ่ากาทองและชายา

องค์ชายแปดอูไห่ยินดีที่ได้พบเย่ว์หยางจากใจจริง

เขากล่าวขออภัยและแจ้งเหตุผล“ขออภัยคุณชายสามจริงๆ อูไห่ไม่สามารถร่วมทางกับท่านได้เชียวเอ๋อเพิ่งให้กำเนิดทารกได้ไม่นานข้าตั้งใจจะพานางกลับหุบเขาอาทิตย์อุทัย หลังจากลูกเกิดแล้วหากคุณชายสามมีข่าวใดต่อให้อยู่ไกลพันล้านลี้ไม่ว่ายังไงอูไห่จะต้องมาแน่นอน”

หลังจากผ่านเหตุการณ์ชีวิตครั้งนี้ไปแล้วแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ องค์ชายแปดอูไห่ถือเย่ว์หยางเสมือนเป็นสหายคนหนึ่ง

ถ้าไม่ใช่เพราะรอให้เย่ว์หยางกลับมาก่อนเขาคงพาชายากลับไปยังหุบเขาอาทิตย์อุทัยแล้ว

“องค์ชายแปด!มีเวลาย่อมได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เมื่อใดจึงจะได้พบกับท่านอีก?”  เย่ว์หยางมีความคิดจะเข้าไปดูแวดวงเผ่าภูตบูรพาแต่เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องกังวลเกินไปว่าจะสูญเสียร่องรอยติดตาม

“ยินดี! เราอูไห่ยินน้อมรอพบพานอีกครั้ง”จากนั้นเขากล่าวอำลาราชาหลิงหวินและคนอื่น

เมื่อเผ่าตระกูลกาทองจากไปแล้วความเครียดในใจของราชาหลิงหวินผ่อนคลายเล็กน้อย

เมื่อครู่นี้องค์ชายแปดจะเชิญคุณชายสามไปยังหุบเขาอาทิตย์อุทัยเป็นไปได้ว่าคุณชายสามจะต้องมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่มาก

โชคดีที่ก่อนนี้เขากระตือรือร้นพูดถึงเมืองโบราณในดินแดนหิมะแปลกประหลาดไม่อย่างนั้นคุณชายสามอาจจะอำลาเขาและร่วมทางไปกับเผ่ากาทองก็เป็นได้ ราชาหลิงหวินรีบจัดงานเลี้ยงต้อนรับเย่ว์หยางอย่างยิ่งใหญ่ทั้งยังจัดเตรียมอากาศยานพิเศษสำหรับเดินทางหลังงานเลี้ยงรับรองเสร็จสิ้นและส่งเย่ว์หยางขึ้นเรือเหาะเพื่อแล่นเข้าสู่ดินแดนหิมะและเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาหลายอย่างที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย

ไม่ต้องพูดถึงเย่ว์หยางเท่านั้นแม้แต่เจ้าอ้วนไห่ เย่คง เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวก็ยังได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดีจากในอาณาจักรหลิงหวิน

แม้ว่าเจ้าอ้วนไห่และเย่คงจะปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ราชาหลิงหวินและเจ้าเมืองถูไห่มอบสมบัติระดับทองให้พวกเขา อาวุธสายฟ้าอาวุธสังหารและเกราะ

ภาพของทั้งสองยังไม่ดูดีเหมือนทุกวันนี้

เมื่อใส่เกราะสมบัติระดับทองจะมีระดับที่ต่างออกไป

ภายใต้แสงสว่างเจิดจ้าจะทำให้ร่างนักสู้เลือนราง  แม้ว่าพลังยังจะขาดไปบ้าง แต่นักสู้ปราณฟ้าอื่นแตกต่างไปจากราชาหลิงหวินสิ้นเชิง  เขาเห็นแววเติบโตในอนาคตอย่างไร้ขีดจำกัดความสำเร็จในอนาคตของพวกเขาบางทีไม่ต่ำทรามกว่าราชาหลิงหวิน

เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวเลือกหนังสือและดอกไม้ประหลาดของแดนสวรรค์

พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธความปรารถนาดีของราชาหลิงหวินได้

แน่นอนว่าผู้เยาว์ทั้งสองเลือกของขวัญให้เสวี่ยอู๋เสียและเจ้าเมืองโล่วฮัวเพื่อให้พี่สาวของตนมีความสุขบางทีพวกเขาอาจได้คำแนะนำที่ดีด้วย

สำหรับสมบัติประดิษฐ์เย่ว์หยางเพียงแต่รับไว้เพื่อจัดการ

ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ต้องการอะไรอื่น

พี่น้องตระกูลหลี่ขอรองเท้าเดินทางในแดนสวรรค์สองคู่  ความจริงแล้วรองเท้าและเกราะสมบัติดีๆเย่ว์หยางมีมาก แต่พี่น้องตระกูลหลี่ไม่ค่อยจะใช้อาวุธ เหตุผลเพราะเย่ว์หยางบอกว่า“มนุษย์โหดเหี้ยมโดยตัวเอง เมื่อต่อสู้อย่างยากลำบากมากขึ้นพลังจะเพิ่มขึ้นมาก  ถ้าไม่ใช่แกล้งกระทำอาวุธของพวกเขาจะใช้ไม่ได้ เหมือนกับเจ้าอ้วนไห่ เย่คงและคนอื่นการสู้โดยไม่มีอาวุธเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด

ครึ่งเดือนต่อมาในที่สุดเรือเหาะก็ผ่านประตูเทเลพอร์ตมาถึงดินแดนทุ่งน้ำแข็ง

นี่เป็นอีกโลกหนึ่งที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง

ทุกแห่งหนอากาศเย็นยะเยือก และพื้นเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลนเป็นสีเดียวกัน

ดินแดนหิมะน้ำแข็งหมื่นปีที่แล้วไม่ได้ตั้งชื่อไว้เฉพาะ  แต่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีเคยตั้งค่ายอยู่ในแดนหิมะและตั้งป้อมปราการทำสงครามกับทหารพันธมิตรแดนสวรรค์ ทำให้โลกที่นี่ยากจนไม่ได้รับความนิยม

คล้ายกับเมืองลี่จ้าวถ้าไม่ใช่เพราะจักรพรรดิอวี้ทำสงครามกับแดนสวรรค์ใครจะรู้ว่าแดนสวรรค์มีเมืองลี่จ้าวอยู่ด้วย?

จักรพรรดิอวี้แตกต่างออกไป  ในปีนั้นเมืองเจิ้งฝู (เมืองชัย)สร้างโดยนางพญาเฟ่ยเหวินหลีแดนสวรรค์ได้เก็บรักษาไว้เพื่อเป็นเกียรติที่ระลึก แม้ว่ากองทัพพันธมิตรแดนสวรรค์ได้พ่ายแพ้ที่เมืองเจิ้งฝู พวกผู้ยิ่งใหญ่และตำหนักกลางแดนสวรรค์ต้องยอมรับว่านางพญาเฟ่ยเหวินหลีคือนางพญาผู้พิชิตและต้องเซ็นสัญญาที่แดนสวรรค์รู้จักกันในชื่อว่าสนธิสัญญานางพญาผู้พิชิตแต่นักรบแดนสวรรค์ไม่มีใครยอมรับศึกครั้งนี้ ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์และตำหนักกลางแดนสวรรค์ร่วมรบกันถือเป็นเกียรติอย่างสูงและสงครามนี้เป็นสงครามแรกที่สร้างชื่อเสียงให้กับนางพญาเฟ่ยเหวินหลีนางทุ่มชีวิตสู้กับศัตรูทีละคนโดยไม่ทำให้ศัตรูตาย หรือตกเป็นเชลยศึกเลย

สงครามนี้นอกจากจะกำเนิดนักสู้คนหนึ่งแล้วยังหมายถึงจุดสิ้นสุดของยุค

นางพญาเฟ่ยเหวินหลีพอสร้างชื่อเสียงได้ก็ถูกผนึก หอทงเทียนไม่เคยปรากฏนักสู้อย่างนางที่สามารถกวาดไปทั่วแดนสวรรค์ได้เลย

แม้ว่าจักรพรรดิอวี้จะแข็งแกร่งน่ากลัว แต่ไม่มีทางจะทำได้อย่างนางพญาเฟ่ยเหวินหลี  หลังจากนั้นมาเป็นไปไม่ได้ที่จะกวาดล้างชื่อเสียงความประทับใจที่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีได้สร้างไว้ ตำหนักกลางแดนสวรรค์และผู้ยิ่งใหญ่ยอมรับการมีอยู่และพลังที่ยิ่งใหญ่ของนางและถ้าสามารถเอาชนะนางพญาเฟ่ยเหวินหลีได้ จะต้องมีชื่อเสียงโด่งดังสูงส่ง

นางพญาเฟ่ยเหวินหลีถูกผนึกชาวหอทงเทียนไม่รู้เรื่องนี้

แต่ความจริงก็คือตำหนักกลางแดนสวรรค์และผู้ยิ่งใหญ๋ในแดนสวรรค์ต่อต้านนางพญาผู้พิชิตและต่อสู้นางพญาเฟ่ยเหวินหลีเป็นความภูมิใจ

“เมืองเจิ้งฝู?” เย่ว์หยางเคยได้ยินข่าวมาบ้างแล้วเขาตื่นเต้นเล็กน้อย

“ใช่แล้ว ในเมืองเจิ้งฝูงมีอดีตนานถึงหมื่นปี”จนถึงบัดนี้รูปปั้นยักษ์ของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีสูงตระหง่านในทุกปีผู้เลื่อมใสของนางจะมารวมตัวกัน ซึ่งเป็นทหารผ่านศึกที่เป็นบริวารเก่าของนางในอดีตและร่วมขบวนพาเหรดเพื่อเป็นการระลึกถึงนางพญาผู้พิชิต  ในเมืองเจิ้งฝู ใครๆก็สามารถอ้างตัวเป็นเจ้าเมืองหลีได้ แม้จะถูกสบประมาทจากตำหนักกลาง แต่พวกเขาไม่ยอมให้ใครดูหมิ่นจักรพรรดินีของพวกเขา  ที่น่ากลัวก็คือการพูดเหยียดหยามจะถูกคนในท้องที่ลงโทษอย่างโกรธเกรี้ยวเทียบได้กับการเสนอท้าสู้โดยตรง เมื่อได้ยินว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เมืองเจิ้งฝูมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่ไม่ควรพลาดจริงๆ  แน่นอนว่านั่นเป็นที่รู้จักกันมาก

“นางพญาจงเจริญ!”เจ้าอ้วนไห่กับเย่ว์หยางมองหน้ากันเองและมีสีหน้าร่าเริง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด