ตอนที่แล้วตอนที่ 21-15 ความละโมบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21-17 รางวัลผู้ชนะรวดสิบรอบ

ตอนที่ 21-16 คำตัดสิน


“ออกุสตากำลังช่วยข้าหรือ?”  ไม่ว่าลินลี่ย์จะใจเย็นยังไงแต่เขาก็ยังรู้สึกตกใจ

แต่ในทันทีหลังจากนั้นลินลี่ย์ก็เข้าใจเหตุผล เขาลอบหัวเราะเย็นชา “ช่วยข้าหรือ? บางทีเขาคงกังวลว่าข้าจะถูกตัดสินให้มีความผิดและถูกประมุขมหาเทพสี่วิถีฆ่าตาย ตอนนั้นประมุขมหาเทพสี่วิถีจะตัดสินใจยังไงกับสมบัติจอมเทพ  เขาคงไม่มีโอกาส!”

พอหลังจากที่ออกุสตาพูด...

“ท่านประมุขมหาเทพ”  แต่ยังมีอีกคนหนึ่งมหาเทพธาตุไฟผู้มีผมยุ่งเหยิงพูดขึ้น “ในแดนนรก เป็นความจริงที่ว่าเทเรเซียหาเรื่องลำบากใจให้ลินลี่ย์พยายามบังคับให้ลินลี่ย์ส่งมอบมุกวิญญาณทั้งเก้าและโองการจอมเทพ หลังจากนั้นเป็นโบซันมหาเทพบลัดริจที่ปรากฏตัวปกป้องลินลี่ย์ไว้  ข้าเป็นพยานเรื่องนี้ได้เช่นกัน”

ลินลี่ย์ชำเลืองมองดูประมุขมหาเทพแห่งไฟอย่างงงงวย  “เขาเป็นประมุขมหาเทพธาตุไฟข้าไม่มีสัมพันธ์อะไรกับเขา  และเขาไม่มีคุณสมบัติจะพยายามและยึดสมบัติจอมเทพ  ทำไมเขาจึงต้องช่วยข้าด้วยเล่า?”

มหาเทพทั้งสองพูดทำนองเดียวกัน  ประมุขมหาเทพสี่วิถีมองหน้ากันเองและสนทนากันเองผ่านสำนึกเทพ

“ข้าเป็นคนเข้าไปขัดขวางเองดังนั้นข้าจึงเป็นพยานได้ ถือเป็นเรื่องปกติ” มหาเทพบลัดริจโบซันหัวเราะ

“ในเมื่อเป็นแบบนั้น...”  ประมุขมหาเทพวิถีชีวิตเตรียมประกาศคำตัดสิน

แต่ในขณะนั้นเอง...

“ท่านประมุขมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่,ตอนนั้นแม้ว่าเทเรเซียอาจทำอะไรเกินเลยไปบ้าง แต่เขาเป็นมหาเทพ ขณะที่ลินลี่ย์เป็นเพียงเทพชั้นสูง”  ประมุขมหาเทพธาตุลมดิยาพูดอย่างไม่สบายใจด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ต่อให้มหาเทพใช้กำลังกับเทพชั้นสูงไปบ้างนั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย? นอกจากนี้ลินลี่ย์ไม่ได้ตาย เราเหล่ามหาเทพจะต้องสุภาพอ่อนโยนกับพวกเทพด้วยหรือ?  ถ้าเราล่วงเกินพวกเขาไปบ้างเล็กน้อย  พวกเขามีสิทธิ์อะไรมาแก้แค้นเรา?”

“ไม่ว่ามหาเทพจะคุกคามเทพหนักหนามากมายเพียงไหนนั่นเป็นเรื่องปกติและสมควร”  ดิยาพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม

มหาเทพทุกคนเงียบ

พวกเขาต้องยอมรับว่านี่เป็นเหตุผลหนึ่งเช่นกัน  ในสายตาของมหาเทพพวกเทพไม่มีอะไรมากไปกว่ามด ต่อให้พวกเขาลดตัวเองไปฆ่าเทพก็ตามก็เป็นแค่เรื่องที่มหาเทพรู้สึกสูญเสียหน้าเท่านั้น  ไม่มีใครกล้าพูดว่ามหาเทพทำผิด

“หลังจากลินลี่ย์กลายเป็นมหาเทพ  เทเรเซียก็ไม่ได้ล่วงเกินเขาอีกต่อไป”  ประมุขมหาเทพธาตุลมดิยาแค่นเสียงเย็นชา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ลินลี่ย์ย่อมไม่มีข้ออ้างฆ่าเทเรเซีย”

ดิยาเข้าใจว่าโอกาสที่เขาจะได้รับสมบัติจอมเทพนั้นต่ำมาก

ดังนั้นเขาต้องการให้ลินลี่ย์ตายทันที! การตายในเงื้อมมือของประมุขมหาเทพสี่วิถีคงจะเป็นเรื่องดี!

“ฮ่าฮ่า...” ลินลี่ย์ลุกขึ้นยืน จ้องมองดิยา และแค่นเสียงพูด “ดิยา, นี่มันเหตุผลแบบไหนกัน?  มหาเทพฆ่าเทพไม่เคยมีความผิดหรือ? การตัดสินใจของท่านแบบนี้แค่มาจากมุมมองของมหาเทพ  แต่จากจุดยืนของเหล่าเทพเล่า?  ถ้ามหาเทพผู้สูงส่งมาเพื่อฆ่าพวกเขาพวกเขาจะรู้สึกเกลียด รู้สึกไม่พอใจหรือไม่? ไม่ใช่ว่าพวกเทพปฏิเสธจะล้างแค้นให้ตัวเอง เป็นแต่ว่าพวกเขาไม่มีพลังอำนาจมากพอจะแก้แค้นให้ตัวพวกเขาเอง!”

“ฮึ, แม้แต่สัตว์ป่าที่มีสติปัญญาต่ำพอถึงเวลาใกล้ตาย พวกมันยังแว้งกัดได้ พวกเทพก็ไม่ต่างอะไรกัน!”

ลินลี่ย์พูดอย่างเคร่งขรึม  “พวกเทพไม่มีพลังพอจะแก้แค้น ดังนั้นพวกเขาย่อมตายไปด้วยใจที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจเป็นธรรมดา  แต่ถ้าพวกเขามีพลังจะแก้แค้น  พวกเขาจะต้องทำแน่นอน!”

“นอกจากนี้, ข้อตกลงของประมุขมหาเทพสี่วิถีได้พูดถึงปัญหาความเป็นปรปักษ์ที่มีในระหว่างสองฝ่าย  ข้าขอถามพวกท่านความเป็นปรปักษ์ระหว่างข้าเองกับเทเรเซียยังมีอยู่หรือไม่?”  ลินลี่ย์ถาม

ดิยาได้แต่นิ่ง

“พอได้แล้ว” เสียงชราแต่เป็นกันเองดังขึ้น  คนพูดคือประมุขมหาเทพวิถีชะตา  “เหตุผลแนวคิดของดิยามีข้อบกพร่อง  ศัตรูก็คือศัตรู ความเป็นศัตรูจะแบ่งแยกเวลาและระดับพลังได้อย่างไร?  เมื่อฝ่ายหนึ่งต้องทนทุกข์ทรมานเมื่อฝ่ายหนึ่งเป็นผู้อ่อนด้อย เป็นไปได้ว่าหลังจากที่พวกเขามีพลังแข็งแกร่งมากขึ้น พวกเขาจะไม่สามารถล้างแค้นได้หรือ?  เรื่องนี้ได้ข้อสรุปเสร็จสิ้นตรงนี้แล้ว  สถานการณ์สำหรับข้าถือว่าชัดเจนพอแล้ว  ข้ามองว่าลินลี่ย์ไม่ได้ละเมิดข้อตกลงมหาเทพถือว่าไม่มีความผิด!”

คำพูดของประมุขมหาเทพวิถีชะตาทำให้มหาเทพอื่นไม่กล้าโต้เถียงอีกต่อไป

“ข้าก็เหมือนกัน เห็นว่าเขาไม่มีความผิด  ทุกคนว่ายังไง?”  ประมุขมหาเทพแห่งชีวิตยิ้ม ขณะที่นางมองดูรอบๆ

“ไม่มีความผิด!”  ประมุขมหาเทพแห่งแสงออกุสตาหัวเราะ

“ไม่มีความผิด!”  บุรุษชุดดำผมดำพูดขึ้น

“ไม่มีความผิด!”

……… . .

บรรดาประมุขมหาเทพทั้งสิบเอ็ดนอกจากดิยาแล้วอีกสิบคนมองว่าลินลี่ย์ไม่มีความผิด!  ความจริงโดยทั่วไปตราบเท่าที่ประมุขมหาเทพสี่วิถีประกาศว่าลินลี่ย์ไม่มีความผิด แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว  อย่างไรก็ตามเมื่ออยู่พร้อมหน้าประมุขมหาเทพสี่วิถียังจะให้โอกาสประมุขมหาเทพอื่นได้พูดบ้าง

เสียงหัวเราะดังขึ้น เป็นเสียงของประมุขมหาเทพวิถีมรณะในชุดสีม่วง นางกวาดตามองดูทั่วพื้นที่จากนั้นหัวเราะเบาๆ  “ในเมื่อทุกท่านเห็นด้วย อย่างนั้นเราก็ได้ข้อสรุปเรื่องที่ลินลี่ย์ฆ่าเทเรเซีย  ลินลี่ย์ไม่ได้ละเมิดข้อตกลงมหาเทพ  ไม่มีความผิด!  เรื่องนี้เป็นอันจบ บัดนี้เชิญทุกท่านแยกย้ายกลับไปได้แล้ว”

ขณะนั้น,ลินลี่ย์ถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ลินลี่ย์,เรื่องนี้จบไวกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก วันนี้ประมุขมหาเทพสี่วิถีไม่ได้สร้างความลำบากใจให้เจ้า  และนอกจากดิยาประมุขมหาเทพอื่นคงไม่สร้างความลำบากให้เจ้าเช่นกัน  แทบไม่มีเสียงคัดค้านเลย”  เบรุตส่งสำนึกเทพบอก“เจ้าคงต้องขอบคุณประมุขมหาเทพสี่วิถีที่ช่วยให้เรื่องได้ข้อสรุปได้ง่ายเพียงไหน”

“ข้าเข้าใจ” ลินลี่ย์พยักหน้า

ความจริงในเรื่องอย่างนี้ไม่ว่าจะพบว่าใครผิดหรือไม่ผิดก็ขึ้นอยู่กับประมุขมหาเทพสี่วิถี วันนี้เป็นเรื่องชัดเจนมากว่าประมุขมหาเทพสี่วิถีบางครั้งก็ใช้น้ำเสียงที่จริงจังดุดันแต่ในความเป็นจริงพวกเขาเข้าข้างลินลี่ย์

เรื่องนี้จบแล้วมหาเทพหกสิบกว่าคนต่างอำลากันจากนั้นแยกย้ายกันไปเป็นกลุ่มบ้าง ส่วนตัวบ้าง  อย่างไรก็ตามมีเรื่องที่แปลกก็คือไม่มีประมุขมหาเทพแม้แต่คนเดียวที่รีบร้อนจากไป

ดิยาเป็นประมุขมหาเทพธาตุลม สำหรับเขาการรั้งอยู่ในพิภพลมศักดิ์สิทธิ์นับว่าสมเหตุผล

แต่ทำไมประมุขมหาเทพอื่นจึงไม่จากไป?

“ข้าสงสัยว่าลินลี่ย์จะไปที่ไหน? ข้าต้องตามเขาไปดูว่าเขาผ่านเข้าประตูเทเลพอร์ตไหน  นั่นจะทำให้ง่ายต่อการติดตามเขา”  ออกุสตาวางแผนนี้  แต่ในใจของเขา เขายังรู้สึกว่าไม่มั่นใจ “อย่างไรก็ตามประมุขมหาเทพอื่นรวมทั้งประมุขมหาเทพสี่วิถียังคงรั้งอยู่ที่นี่จริงๆ  ไม่มีใครในพวกเขารีบเร่งจากไป เป็นไปได้ไหมว่าประมุขมหาเทพสี่วิถีก็ให้ความสนใจสมบัติจอมเทพ?”

บรรดาประมุขมหาเทพสี่วิถี  ประมุขมหาเทพวิถีชีวิต วิถีมรณะและวิถีทำลายล้างมีอาวุธสมบัติจอมเทพที่เหมาะสม  มีเพียงแต่ประมุขมหาเทพวิถีชะตาที่ครอบครองสมบัติจอมเทพสำหรับปกป้องวิญญาณ

ที่เหนือดาดฟ้าเรือมหาเทพเรดบุดบินเข้ามาหาจากนั้นพูดผ่านสำนึกเทพเงียบๆ  “ลินลี่ย์!  โบซันกับข้าจะเดินทางกลับแล้วเรารั้งอยู่ที่นี่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่ดูจากท่าทีแล้ว..ประมุขมหาเทพยังคงรั้งอยู่  เป็นไปได้ว่าส่วนใหญ่แล้วพวกเขามีความโลภในสมบัติจอมเทพของเจ้า  ดังนั้นเจ้าต้องระมัดระวังให้ดี”

“ข้าเข้าใจ ขอบคุณ”  ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพบอก

“จะขอบคุณเพื่ออะไร?ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าได้ ประมุขมหาเทพเหล่านี้.. เนื่องจากพลังของเจ้า  เจ้าสามารถจัดการรับมือพวกเขาได้หมดหรือ คนที่เจ้าจำเป็นต้องระมัดระวังมากที่สุดก็คือประมุขมหาเทพแห่งแสงและประมุขมหาเทพวิถีชะตา! ประมุขมหาเทพอีกสามวิถีมีอาวุธจอมเทพอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อให้ได้เพิ่ม  อย่างไรก็ตามประมุขมหาเทพวิถีชะตาไม่ค่อยต่อสู้และไม่ค่อยรุกรานคนอื่น เขาอาจจะไม่ร่วมด้วย  ดังนั้นเจ้าจำเป็นต้องกังวลอีกสองคนให้มากขึ้น”

“เข้าใจแล้ว” ลินลี่ย์จำข้อเท็จจริงเรื่องนี้ไว้

“เบรุต บลูไฟร์ ลินลี่ย์ เราจะไปกันก่อน” มหาเทพเรดบุดและมหาเทพบลัดริจอำลากลุ่มของลินลี่ย์จากนั้นกลับไป

ลินลี่ย์และอีกสองคนมองหน้ากันเอง

“ลินลี่ย์!  เจ้าจะทำยังไงต่อไป?”  เบรุตส่งสำนึกเทพถาม

“เป็นไปได้ยังไงที่ข้าจะมาขลาดเขลาเอาตอนนี้?”  ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพตอบ  “ปู่เบรุต, ท่านบลูไฟร์ เราไปที่วงเวทเทเลพอร์ตในตอนนี้ก่อน  ท่านทั้งสองจะต้องกลับพิภพยูลานก่อน  ขอให้ปลอดภัยไว้ก่อน  หลังจากฆ่าออกุสตา ข้าจะแจ้งให้พวกท่านทราบ”

เบรุตและบลูไฟร์มองหน้ากันเองจากนั้นพยักหน้าเห็นด้วย พวกเขาเข้าใจว่าการรั้งอยู่ที่นี่พวกเขามีแต่จะสร้างผลกระทบให้ลินลี่ย์

“นั่นคงดีที่สุดแล้ว  อย่างไรก็ตามลินลี่ย์,พลังที่แท้จริงของเจ้ายังเหนือว่าประมุขมหาเทพเจ็ดสายธาตุ  แต่เจ้าก็ต้องระมัดระวังเอาไว้  ประมุขมหาเทพสี่วิถีทรงพลังมากมายจริง  พวกเขายังอยู่ที่นี่เช่นกัน และข้าห่วงใยว่าจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น  ดังนั้นแม้ว่าเจ้าต้องการโจมตีและฆ่าออกุสตา  เจ้าต้องระมัดระวังและตื่นตัวอยู่เสมอ”  เบรุตส่งสำนึกเทพบอก

เบรุตและบลูไฟร์ไม่ต้องการเห็นลินลี่ย์ถูกประมุขมหาเทพสี่วิถีฆ่าตาย

ที่สำคัญลินลี่ย์เป็นเสาหลักของสามมหาเทพยูลาน

“ไม่ต้องห่วง” ลินลี่ย์หัวเราะ  “มาเถอะไปที่วงเวทเทเลพอร์ตกัน”

กลุ่มของลินลี่ย์สามคนบินไปที่ประตูวงเวทเทเลพอร์ตทันที

“ลินลี่ย์ไปแล้ว”  ประมุขมหาเทพที่รั้งอยู่ที่นี่ลังเลเล็กน้อยจากนั้นมีสองคนเริ่มตามกลุ่มลินลี่ย์สามคนไปทันที

ออกุสตาจงใจลังเลอยู่ชั่วขณะจากนั้นบินไปที่วงเวทเทเลพอร์ตด้วยเช่นกัน “ด้วยความเร็วในการบินของกลุ่มลินลี่ย์ทั้งสามคน...พวกเขาเคลื่อนไหวได้เร็วเพียงหนึ่งในสิบของความเร็วข้า”  ออกุสตา แม้ว่าจะมั่นใจแต่ไม่กล้าประมาทประมุขมหาเทพกฎธาตุอื่น ประมุขมหาเทพเหล่านั้นทุกคนล้วนมีสุดยอดวิชาเป็นของตนเอง

“ในบรรดาประมุขมหาเทพเจ็ดสายธาตุทั้งหมดในแง่ความเร็ว  ข้าเร็วที่สุด! ข้าจะมีความได้เปรียบในการชิงสมบัติจอมเทพ” ประมุขมหาเทพสายฟ้าหันไปมองสี่ประมุขมหาเทพวิถี  “บรรดาสี่คน มีสามคนที่มีอาวุธจอมเทพแล้วคงไม่เข้ามาแทรกแซง ขณะที่ประมุขมหาเทพวิถีชะตาเนื่องจากนิสัยของเขา บางทีเขาคงไม่ยอมต่อสู้เพื่อชิงสมบัติชิ้นนั้นแน่”

ประมุขมหาเทพสายฟ้าบินตามหลังกลุ่มของลินลี่ย์ไปด้วย

ประมุขมหาเทพทุกคนเริ่มบินจากไปและแม้แต่ประมุขมหาเทพธาตุลมดิยาก็เริ่มบินกลับไปที่ของตน

มีแต่สี่ประมุขมหาเทพสี่วิถีที่ยังคงรั้งอยู่!

แต่ทั้งสี่คนยังไม่จากไป ขณะนั้นประมุขมหาเทพสี่วิถีกำลังคุยกันส่วนตัวผ่านสำนึกเทพ

วอร์เรดเจ้ามั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือ?”  ประมุขมหาเทพวิถีมรณะยิ้มให้ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้าง

“โอล็อฟ!เจ้าเห็นด้วยหรือเปล่า?” ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างมองดูบุรุษผมขาวชุดขาวประมุขมหาเทพวิถีชะตาและจากนั้นประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างหัวเราะอย่างเยือกเย็น  “ถ้าเจ้าเกรงว่าไม่เห็นด้วย อย่างนั้นก็ลืมเสียเถอะ”

“ฮ่าฮ่า, ถ้าพวกเจ้าจะพูดอย่างนี้, และด้วยเงื่อนไขดีๆที่เราตกลงกันไว้ ข้าจะไม่ยอมรับได้ยังไง?” ประมุขมหาเทพวิถีชะตายังคงมีรอยยิ้ม

“ยอดเยี่ยม” ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างพยักหน้าเล็กน้อย

“พี่หญิง!  ดูเหมือนว่าเรามีเรื่องสนุกให้ดูกันแล้ว” ประมุขมหาเทพวิถีชีวิตมีรอยยิ้มปรากฏที่ใบหน้าของนางเช่นกัน

ขณะที่ประมุขมหาเทพสี่วิถีพูดคุยกันอยู่นั่นเอง กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสามคนบินออกไปไกลมากแล้วและเข้าใกล้วงเวทเทเลพอร์ตที่ภูเขาวินด์โฟลว์

“ภูเขาวินด์โฟลว์อยู่ข้างหน้า  ปู่เบรุต ท่านบลูไฟร์ เราแยกทางกันตรงนี้”  ลินลี่ย์ลอยตัวในกลางอากาศ

“ระวังตัวด้วย” เบรุตและบลูไฟร์รู้สึกกังวลห่วงใยลินลี่ย์ทั้งคู่

และจากนั้นเบรุตและบลูไฟร์บินตรงไปที่ภูเขาวินด์โฟลว์และเทเลพอร์ตกลับไปพิภพยูลานทั้งคู่  แม้ว่าการต่อสู้กำลังจะเกิดขึ้น  แต่ทั้งสองคนไม่มีคุณสมบัติเข้าแทรกแซง  เพราะพวกเดียวที่สามารถแทรกแซงได้ก็คือ...คนระดับประมุขมหาเทพ

“ฮึ่ม ทั้งหกคนกำลังติดตามข้า” ลินลี่ย์มองเห็นผ่านสำนึกเทพได้อย่างง่ายดายและรู้สึกว่ามีประมุขมหาเทพหกคนกำลังติดตามเขา  “โชคดีที่ประมุขมหาเทพสี่วิถีไม่ตามมา”  ลินลี่ย์ถอนหายใจโล่งอก มีแต่เพียงพวกเดียวที่เขากลัวก็คือกลุ่มประมุขมหาเทพสี่วิถี

ขณะต่อมา

คนแรกที่มาถึงก็คือประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้า

“ลินลี่ย์!”  ประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้ายิ้มขณะที่เขาบินเข้ามาทักทายลินลี่ย์อย่างเป็นกันเอง

“โอว,เป็นท่านเองท่านประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้า ความเร็วของท่านเร็วมากจริงๆ ข้ากำลังยุ่งพอดี ดังนั้นตอนนี้ข้าคงไม่รบกวนท่าน” ลินลี่ย์ยิ้มขณะที่เขาเคลื่อนตัวห่างบินผ่านประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้า  หน้าของประมุขมหาเทพแห่งสายฟ้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ลินลี่ย์เฉียดห่างจากเขาออกไปและบินไปหาคนที่สองที่กำลังบินมาสมทบก็คือประมุขมหาเทพแห่งแสง

“ลินลี่ย์” ออกุสตาขมวดคิ้ว เพราะลินลี่ย์จงใจเข้ามาหาเขากระตุ้นความสงสัยของเขา  แต่จากนั้นเขาก็เข้าใจ  “ฮึ่ม, ใครจะสนใจเล่าว่าเขาต้องการอะไร  พลังของลินลี่ย์ก็แค่ทั่วไป  ต่อให้เขาทรงพลังมากกว่าที่ข้าคาดเล็กน้อย  เขาก็ยังคุกคามข้าไม่ได้”

“ท่านออกุสตา” ลินลี่ย์หัวเราะขณะที่เขายิ้มรับเขา

“เจ้าต้องการอะไร ลินลี่ย์?”ออกุสตายังคงตอบอย่างเป็นมิตร

“ต้องการขอบคุณท่านออกุสตาที่เพิ่งช่วยข้าไว้”  ลินลี่ย์ยิ้ม

“ข้าทำสิ่งที่สมควร”  ออกุสตาหัวเราะ

“ท่านออกุสตา! ข้ามีเรื่องสำคัญจะต้องทำในพิภพแสงศักดิ์สิทธิ์ ถึงตอนนั้นข้าคงต้องการความช่วยเหลือจากท่าน  ไม่ทราบว่าท่านพอจะช่วยข้าได้ไหม ท่านออกุสตา?”  ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ

ออกุสตารู้สึกใจกระตุกวูบ

“เขากำลังจะไปพิภพแสงศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับข้าหรือ?”  ออกุสตาตอนนี้รู้สึกมึนงงไปหมด “เป็นไปได้ยังไงที่ลินลี่ย์คิดว่าเขาที่มีพลังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจะมีมากพอคุกคามข้า?  ฮึ่ม มีเหตุผลแล้ว ในการต่อสู้กับดิยาของเขา เขาไม่ยังไม่ได้ใช้ทักษะเทพธรรมชาติด้วยซ้ำ  ในเมื่อลินลี่ย์หาที่ตาย ข้าคงไม่ว่าอะไร”

ออกุสตาหัวเราะทันที  “ฮ่าฮ่า แน่นอน ย่อมได้”

“อย่างนั้นเราไปด้วยกันเถอะ”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด