บทที่ 2: โลกประหลาดและ ‘ซอมบี้’
“ติ๊ง ลิ้ง ๆ ๆ ๆ…!”
ทันใดนั้นเองเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ถังเจิ้นรีบหยิบมันขึ้นมาดูและพบว่าเป็นเพื่อนที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้วโทรมาหา เห็นแบบนั้นก็กดรับสายทั้ง ๆ ที่ยังแปลกใจว่าจู่ ๆ มันโทรมาทำไม?
“ออะ ๆ ปอีฟ้อฟ่ากเดวรรอสาปผอัหฟัดอนฟห้ดรี้ฟเกหฟรีก้ดรฟ้หกดสร้ดหกฟนดฟรีกห้ดแปผแอปเด…!”
เสียงปลายสายกลับไม่ใช่เสียงของไอ้เพื่อนยากที่หายไปนาน แต่เป็นภาษบ้าบออะไรก็ไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่องรัวออกมา
ถึงจะฟังไม่ออกแต่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถังเจิ้นถึงยังยอมยืนฟังมันพูดต่อเนื่องถึงหนึ่งนาทีเต็ม ๆ จากนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนว่าวิญญาณตัวเองกำลังออกจากร่าง และเขาได้พูดใส่มือถือกลับไปว่า “ครับ!”
หลังจากพูดคำนี้แล้วมือถือก็ได้ระเบิดแสงสีขาวห่อหุ้มตัวเขาโดยที่ถังเจิ้นได้หมดสติลงไปแล้ว
และหลังจากที่แสงสีขาวหายไปแล้ว เขา... ก็ได้หายไปจากห้องอย่างไร้ร่องรอย
****************
ติ๋ง ๆ
หลังจากถังเจิ้นฟื้นคืนสติเขาก็ได้ยินเสียงคล้าย ๆ น้ำหยดในห้องเงียบ จากนั้นเขาก็เห็นสมาร์ทโฟนสีดำที่ร่วงลงไปคลุกฝุ่น
ตอนนี้เขานึกออกแล้วว่าไอ้นี่แหละที่ทำให้ตัวเองหมดสติไป
และหลังจากมองสำรวจโดยรอบแล้วก็เป็นต้องตกใจ เพราะว่าที่นี่ไม่ใช่ที่บ้านของเขาเลย แต่เขากำลังนอนอยู่ในซากปรักหักพังแห่งหนึ่งที่มีแต่ขยะเต็มไปหมด
เขารีบลุกขึ้นนั่งด้วยความตื่นตระหนก เมื่อสำรวจตัวเองดูแล้วเห็นว่านอกจากเสื้อผ้าที่เลอะอยู่ตอนนี้ร่างกายส่วนอื่น ๆ ไม่มีอะไรบุบสลายแล้วเขาก็หยิบเจ้ามือถือนั่นขึ้นมาดู
และเมื่อมือถืออยู่ในมือเขาก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ
‘เอ... เหมือนมันจะหนักกว่าเดิมเยอะเลยแฮะ?’
จากนั้นก็เอามันมาเช็กดูใกล้ ๆ เพื่อความแน่ใจโดยใช้แสงสลัว ๆ ที่ส่องลอดเข้ามาและเห็นว่ามันคือมือถือเครื่องเดิมแต่เพิ่มเติมคือพื้นผิวของมันแปรสภาพเป็นโลหะอะไรก็ไม่รู้ไปแล้ว
เมื่อลองแตะมันเบา ๆ หน้าจอมือถือก็สว่างวาบขึ้นมา ทว่าอินเทอร์เฟซเดิม ๆ ที่คุ้นเคยได้หายไปแล้วและแทนที่ด้วยโครงกระดูกที่เลือดไหลและมีเปลวไฟเป็นฉากหลัง ดวงตาของมันดูลึกล้ำมีออร่าน่าขนหัวลุกดูแล้วเหมือนมันกำลังมองหน้าเยาะเย้ยเขาอยู่เลย
เมื่อถังเจิ้นนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและสภาพแวดล้อมที่ตนอยู่ในตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาในใจ
เขารีบเปิดมือถือดูอย่างไม่รอช้าอีกต่อไป
สิ่งที่ทำให้เขาต้องตกใจสุด ๆ คือรายชื่อผู้ติดต่อที่เคยมีบัดนี้หายเกลี้ยงไปหมดแล้ว แต่กลับมีไอคอนอันหนึ่งที่มีชื่อกำกับว่า “ข้อมูลส่วนตัว” อยู่ข้างใต้ และยังมีไอคอนร้านขายแอปพลิเคชันด้วย!
จากนั้นเป็นไอคอนสุดท้ายซึ่งเป็นไอคอนรูปกระแสน้ำวนและมีชื่อกำกับว่า ‘เทเลพอร์ต’ อยู่ข้างใต้
เมื่อเห็นไอคอนอันนี้หัวใจของเขาก็แทบจะเต้นผิดจังหวะ จากนั้นก็ทำหน้าครุ่นคิด
จากนั้นเขาเริ่มด้วยการพยายามโทรออก แต่ก็มีเสียงแจ้งเตือนจากระบบตอบรับอัตโนมัติซึ่งเป็นเสียงผู้หญิงแปลก ๆ บอกให้ถังเจิ้นเติมเหรียญทองโดยเร็วเพื่อใช้บริการ!
‘เหรียญทอง?’
‘นี่เขาใช้เหรียญทองเติมมือถือตั้งกะเมื่อไหร่วะ? หรือบริษัทมือถือมันจะหาเรื่องบ้าบออะไรทำกันอีกแล้ว?’
ทว่าถังเจิ้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากนักในเรื่องนี้ เมื่อกดวางสายแล้วเขาก็ส่ายหัวอย่างแรงเพื่อไล่ความคิดอันวุ่นวายออกจากหัวก่อน จากนั้นจึงกดที่ไอคอนข้อมูลส่วนตัว
ถังเจิ้น
ชาย
อายุ: 23
เลเวล: 0
EXP: 0/10
HP: 100
ยอดเงินในบัญชี: 0 เหรียญทอง
เมื่ออ่านข้อมูลเหล่านี้จบก็ต้องขมวดคิ้ว จากนั้นก็ลองเปิดดูไอคอนร้ายขายแอปพลิเคชัน
เมื่อเปิดแล้วก็ได้เห็นไอคอนแอปพลิเคชันมากมายเต็มหน้าจอ มีการแบ่งหมวดหมู่ออกไปหลายหมวดหมู่เช่น การต่อสู้ ชีวิต และความบันเทิง เป็นต้น
ในบรรดาแอปพลิเคชันต่าง ๆ นั้นมีแอปพลิเคชันสองสามตัวที่มีตัวกำกับแปะไว้ว่า ‘แนะนำสำหรับมือใหม่’ อยู่ด้วย
[รูเล็ตเสี่ยงโชค รับรางวัลก้อนโตด้วยการลงทุนเพียงนิดเดียว ความตื่นเต้นต่อเนื่องไม่รู้จักพอ เดิมพันเพียงเล็กน้อย เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นไม่รู้จบ รางวัลที่ได้ขึ้นอยู่กับดวงล้วน ๆ มีการสุ่มรับรางวัลสุดพิเศษ ราคาดาวน์โหลด: 0 เหรียญทอง]
[ไฟฉาย ส่องสว่างได้ ราคาดาวน์โหลด: 100 เหรียญทอง]
[แผนที่ระดับเริ่มต้น สามารถแสดงภูมิประเทศและมอนสเตอร์ภายในรัศมี 100 เมตร ราคาดาวน์โหลด: 1,000 เหรียญทอง]
[ฉายภาพ สามารถฉายภาพหน้าจอมือถือขึ้นมาตรงหน้า และยังสามารถควบคุมมือถือได้ด้วยความคิด ราคาดาวน์โหลด: 500 เหรียญทอง]
[เครื่องตรวจจับมอนสเตอร์ระดับเริ่มต้น สามารถแสดงข้อมูลมอนสเตอร์ที่ระดับสูงเกินโฮสต์ไม่เกินสามระดับได้ ราคาดาวน์โหลด: 1,000 เหรียญทอง]
[พื้นที่เก็บข้อมูลขนาดเล็ก สามารถเปิดพื้นที่มิติด้วยปริมาตรการจัดเก็บหนึ่งลูกบาศก์เมตรในโทรศัพท์มือถือ (เก็บของได้รวมแล้วไม่เกินหนึ่งลูกบาศก์เมตร) ราคาดาวน์โหลด: 10,000 เหรียญทอง]
[เครื่องตรวจจับสมบัติระดับเริ่มต้น สามารถตรวจจับสิ่งของมีค่าได้ในรัศมี 100 เมตร ราคาดาวน์โหลด: 100,000 เหรียญทอง]
****************
ถังเจิ้นอ่านรายละเอียดอยู่ซักพักแล้วจึงออกจากร้านขายแอปพลิเคชันด้วยความงง ๆ จากนั้นก็เปิดเข้าไปอีกรอบแล้วลองดาวน์โหลดแอปมาลองใช้งาน แต่ก็มีการแจ้งเตือนขึ้นมาตลอดทุกครั้งเลยว่า ‘เหรียญทองไม่เพียงพอ’ ทำให้เขาต้องยอมแพ้ไปก่อน
ดูท่าจะเจอเรื่องประหลาดเข้าแล้วสิเรา!
ถังเจิ้นถอนหายใจก่อนจะลุกยืนขึ้นและเริ่มเดินสำรวจะพื้นที่โดยรอบ
ปรากฏว่าที่นี่ดูเหมือนจะเป็นโรงงานร้าง สภาพมันดูทรุดโทรม โดยสิ่งของเกือบทุกอย่างที่ใช้ได้ถูกรื้อทิ้งไปหมดแล้ว
เมื่อเดินสำรวจเสร็จแล้วก็จะเดินเข้าไปที่ทางออกเพื่อสำรวจข้างนอก แต่จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนดังขึ้นมา
เมื่อลองย่องไปดูเงียบ ๆ ตามทางเดินเขาก็เห็นว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
แต่อายุของเธอเท่าไหร่นั้นดูไม่ออกเพราะอยู่ในแสงสลัว ๆ ที่เห็นมีแค่ผิวพรรณที่ดูหยาบกร้านอย่างมาก
ผู้หญิงคนนั้นหลังค่อม ๆ สวมผ้าห่มที่ขาดรุ่งริ่งและเดินด้วยเท้าเปล่า
การเคลื่อนไหวของเธอดูเชื่องช้าและอ่อนแอ เธอพิงไม้เท้าและดูเหมือนจะคุ้ยหาบางอย่างในถังขยะ
คุ้ยไปคุ้ยมาก็เหมือนจะพบอะไรบางอย่าง เมื่อเอาขึ้นมาก็เห็นเป็นถุงอาหารและดูท่าเธอจะดีใจกับของที่หาเจอน่าดูเลย
และเมื่อเธอเอามันมาดูใกล้ ๆ ตา ทันใดนั้นเองจู่ ๆ ก็มีเงาร่างเหมือนคนสามสายพุ่งออกมาจากมุมมืด!
เงาดำทั้งสามแยกเขี้ยวขู่แถมยังกวัดแกว่งกรงเล็บไปมา ฝ่ามือของพวกมันที่ดูเหี่ยวย่นอย่างกับเถาวัลย์ตะปบลงบนหน้าของเธอคนนั้นอย่างรวดเร็ว
ผู้หญิงคนนั้นทั้งสีหน้าและเสียงกรีดร้องเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เธอพยายามดิ้นรนอยากจะเอาชีวิตรอด
แต่ก็สายเกินไปแล้ว เพราะมีไอ้ตัวหนึ่งกัดเข้าที่คอของเธอได้แล้วกระชากออกอย่างแรง!
แควกกกกกกกก…
ตามมาด้วยเสียงผิวหนังกล้ามเนื้อตามมาด้วยคอที่ถูกฉีกออกจากตัว เลือดของเธอสาดกระเซ็นไปทั่วแล้วเธอก็ล้มลงกับพื้น
ในขณะนี้ถังเจิ้นได้เห็นเงาดำที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์แล้วแต่เขาไม่กล้าที่จะผลีผลามทำอะไร
เมื่อได้เห็นสภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่โดนไอ้ตัวที่ดูเหมือนคนแต่ทั้งเนื้อทั้งตัวเป็นเนื้อเน่า ๆ กลืนเข้าไปอย่างเอร็ดอร่อยอยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยเลือดก็ตกใจมาก เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไปช่วยเหลือ
และไอ้ตัวที่เนื้อตัวเน่าเฟะและกำลังกินเนื้อคนอยู่นั่นก็ดูท่าจะเป็น ‘ซอมบี้’ ในตำนาน!
ผู้หญิงคนนั้นถูกซอมบี้จับฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ลำไส้ของเธอก็ถูกพวกมันดึงลากยาวออกไปไกล
ถังเจิ้นพยายามเก็บอาการอยากอ้วกและค่อย ๆ ย่องถอยห่างออกจากทางเดิน ในขณะนั้นก็พยายามปรับลมหายใจเพื่อสงบสติอารมณ์ไปด้วย
หลังจากลมหายใจของเขาคงที่แล้วก็กลับมานิ่งอีกรอบและสอดส่ายสายตาเพื่อหาอาวุธมาป้องกันตัว
แต่ในโรงงานร้างนี่นอกจากขยะแล้วก็ไม่มีอะไรที่ดูเหมือนจะสามารถใช้เป็นอาวุธได้เลย
ถังเจิ้นสำรวจอยู่นานโขก็เจอแค่ลวดขึ้นสนิมยาวแค่ครึ่งเมตรเส้นหนึ่ง
เขารู้ตัวดีว่าจะอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว ต้องรีบหนี ต้องหาโอกาสหนี ไม่งั้นอีกไม่นานคงต้องโดนไอ้พวกซอมบี้นั่นฆ่าเอาแน่ ๆ!
ถังเจิ้นหมอบอยู่ที่มุมห้องด้วยลมหายใจอันแผ่วเบา เขารู้สึกเหมือนว่าเวลามันเดินช้าเหลือเกิน ความกลัวค่อย ๆ กัดกินหัวใจเหมือนมดทั้งรังมาไต่ตอม แต่ก็ต้องพยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้
หลังจากนั้นไม่นานเมื่อพบว่าไม่มีเสียงใด ๆ แล้วเขาจึงเริ่มย่องไปยังจุดที่ผู้หญิงถูกกิน
ซอมบี้ได้หายไปแล้ว! ที่พื้นเต็มไปด้วยคราบเลือดและเศษกระดูกที่กระจัดกระจาย
ถังเจิ้นหยิบกระดูกขาทั้งสองข้างและซี่โครงขึ้นมาโดยไม่ลังเลจากนั้นก็รีบกลับไปยังที่ซ่อนเดิม
ถ้าอยากจะรอดก็ต้องมีอาวุธ มือเปล่าเอาไม่อยู่แน่นอน
เขาไม่ใช่ชายหนุ่มที่เติบโตมาในเรือนกระจก แต่เป็นคนที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ ดังนั้นจึงมีบุคลิกมุ่งมั่นและจิตใจที่โหดเหี้ยมอยู่พอสมควร
จากนั้นก็เห็นว่ามีตรงหนึ่งมีรูอยู่ เขาเอาท่อนระดูกสอดเข้าไปในรูแล้วถีบอยู่สองสามครั้งให้กระดูกท่อนนั้นมันหักเป็นฟันฉลาม ทำให้เขามีอาวุธเป็นกระดูกแหลม ๆ สองชิ้น
จากนั้นเพื่อความทรงประสิทธิภาพเขาจึงเอาตรงบริเวณที่แตกเป็นปากฉลามนั้นตะไบกับพื้นให้มันแหลม ทำให้เขามีอาวุธมีคมถึงสองชิ้น แต่เขาก็ไม่รู้หรอกว่าไอ้กระดูกแหลม ๆ ทั้งสองชิ้นนี้มันจะมีประโยชน์เวลาเจอกับซอมบี้มั้ย?
แตะ… แตะ… แตะ…
ในขณะนี้ในโรงงานร้างที่ว่างเปล่าได้มีเสียงฝีเท้าลากมากับพื้นเข้ามาแปลก ๆ ถังเจิ้นรู้สึกเสียวซ่านที่ขึ้นมาที่หนังหัวทันทีและรีบหันไปมองทางเดิน
เป็นไอ้ซอมบี้ทั้งสามที่ตอนนี้ท้องมันป่องไปด้วยเนื้อของผู้หญิงคนนั้นที่กลับมา มันกรีดร้องคำรามพร้อมกับกระโจนเข้ามาใส่ถังเจิ้นทันทีที่เห็นเขา
ในขณะนี้ถังเจิ้นไม่มีทางเลือกแล้ว เขากัดฟันฟาดกระดูดแหลม ๆ เผชิญหน้ากับพวกมันทั้งสาม
ขณะที่มันเข้าใกล้กลิ่นเหม็นก็ตีเข้าหน้า แต่ถังเจิ้นไม่มีเวลาสนใจ เขาใช้ความได้เปรียบที่ร่างกายของตนสามารถเคลื่อนไหวได้ว่องไวกว่าฟาดไอ้ตัวหนึ่งลงกับพื้นในหวดเดียว!
เป๊าะ!
กระดูกขาข้างนั้นที่ฟาดไปหักเป๊าะเหลือแค่ครึ่งเดียว แต่เขาก็ไม่ลังเลแทงกระดูกส่วนที่เหลือเข้าเบ้าตาไอ้ตัวที่สองไปเต็ม ๆ
ซอมบี้มันเหมือนไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย แค่ถูกแรงกระแทกผลักให้ถอยออกไป และมันก็สะดุดขาตัวเองอย่างน่าอัศจรรย์
‘ลักกี้!’ ถังเจิ้นคิดกับตัวเองว่าโชคดีแท้ แต่กลับกลายเป็นว่ากรงเล็บของไอ้ตัวที่สามเสียบลงบนไหล่ของเขาแล้วเรียบร้อย ปากเหม็น ๆ ของมันขย้ำเล็งที่คอของเขาสุดแรง
“ไอ้เชี่ยนี่!”
ตอนนี้ถังเจิ้นดิ้นรนสุดตัวจับแขนลีบ ๆ ของไอ้ตัวที่สามกระโดดทุ่มลงกับพื้นสุดแรง! จากนั้นก็รีบเผ่นไปยังทางออกของโรงงานโดยไม่ลังเล
เมื่อวิ่งมาได้ระยะหนึ่งแล้วสุดท้ายเขาก็พบกับทางออก เขาเกร็งขาเหมือนจะชาร์จพลังแล้วพุ่งออกไป
ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือพื้นที่ที่รกร้างและกว้างใหญ่มาก ๆ
ทว่าถังเจิ้นก็ไม่มีเวลามาชื่นชมเพราะหูมันได้ยินเสียงกรีดร้องของไอ้พวกซอมบี้นั่นดังแว่วมาจากในโรงงานทำให้เขาสับขาวิ่งต่ออย่างไม่คิดจะหยุด
แต่เมื่อวิ่ง ๆ ไปได้ซักพักก็รู้สึกว่าแผลที่โดนข่วนตรงไหล่มันเกิดอาการเดี๋ยวเจ็บ เดี๋ยวปวด เดี๋ยวชา เดี๋ยวก็มาครบทุกอย่างพร้อม ๆ กัน
‘สัดเอ๊ย! กูโดนมันข่วนจนได้ แล้วจะเป็นไงต่อวะเนี่ย? จะต้องกลายเป็นซอมบี้มั้ยวะ?’
ถังเจิ้นวิ่งไปเป็นกังวลตลอดทาง จากนั้นขาของเขาก็รู้สึกหนักขึ้น ๆ เรื่อย ๆ สติก็ค่อย ๆ เบลอ แต่ยังพอมองเห็นลาง ๆ ว่าข้างหน้ามีค่ายที่พักตั้งอยู่
ที่นั่นมีคนอยู่หลายคนหลายคน และเมื่อเห็นเขาวิ่งเข้ามาก็ดูจะไม่ได้แปลกใจอะไร
‘ตุบ!’
แล้วถังเจิ้นก็จอดับเป็นลมล้มลงกับพื้นสิ้นสติไป แต่ก่อนที่จะสติจะดับลงโดยสมบูรณ์เขาเหมือนจะได้ยินเสียงหัวเราะและพึมพำว่า “ผู้โชคร้ายอีกคนละ”
“ไม่ต้องไปสนใจหรอก คงเป็นลมเพราะหิวนั่นแหล่ะ”
“ไหนดูซิ อืม... เหมือนจะบาดเจ็บมานะเนี่ย น่าจะโดนมอนส์เตอร์ข่วนเอา แต่ก็แผลเล็กน้อย เมื่อกี๊...”