ตอนที่แล้วตอนที่ 763 คนแคระพลอยน้ำเงิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 765 เราจะพักอย่างสงบได้อย่างไร?

ตอนที่ 764 ไม่ต้องปกป้อง พักอย่างสงบ


ถังเทียนต่อสู้จนตาของเขาแดงก่ำ  เขาไม่จำต้องแยกแยะว่าใครล้อมรอบเขาเนื่องจากทุกคนล้อมเขาคือศัตรู เขาแค่ต้องการฆ่าพวกเขาต่อไป เขาดึงกระดูกปลาออกมาอีก และฟันสุดกำลัง

เมื่อกระดูกปลาแตก  เขาจะดึงกระดูกปลาอีกท่อนมาฆ่าต่อไป

ถึงตอนนี้กลยุทธและเคล็ดวิชาไม่สำคัญอีกต่อไป  คลื่นคนแคระพลอยน้ำเงินไม่ยอมให้เขาได้มีเวลาคิดและได้แต่ฟันออกไปตามสัญชาตญาณเท่านั้น

นอกจากสัญชาตญาณฆ่าแล้ว ยังคงมีความคิดเดียว

ความคิดบุกตะลุยไปข้างหน้า

เขาร่ายรำพร้อมกับกระดูกปลาเหมือนกับเครื่องจักรฆ่าเหมือนเครื่องจักร ฟันใส่คนแคระพลอยน้ำเงินจนตาย

ปัง!  กระดูกปลาในมือของเขาแตกอีกครั้ง ถังเทียนเคลื่อนไหวมือไปที่กองกระดูกปลาโดยไม่รู้ตัว  แต่ไม่สัมผัสถึงอะไร

เขาตกใจอยู่ชั่วขณะ  แต่ระลึกได้ทันทีว่ากองกระดูกปลาที่สูงกว่าตัวเขาถูกใช้ไปหมดแล้ว

ถังเทียนรู้สึกตัวก็ตระหนักได้ว่าเขามีอาการบาดเจ็บทั่วตัวเหมือนกับมนุษย์โลหิต ขาของเขาหนักเหมือนกับตะกั่ว แขนของเขาก็หนักเกินกว่าจะยก ทั่วทั้งร่างของเขาเจ็บปวด เขาเซไปทางขวาทีซ้ายที แต่ไม่ยอมทรุดนั่ง คนแคระพลอยน้ำเงินที่รายล้อมอยู่มีสีหน้าเฉยเมยและไร้ชีวิต  และพวกมันไม่ก้าวหน้าเข้าหาถังเทียน  ถังเทียนหันศีรษะกลับมาด้วยความยากลำบาก ด้านหลังเขาคือศพของคนแคระน้ำเงินเต็มเหมือนกับทุ่งข้าวสาลีไกลจนสุดสายตาของเขา

หือ...

ถังเทียนต้องการหัวเราะ  แต่เขาไม่มีกำลังเหลือจะขยับปาก

ระลอกพลังที่คุ้นเคยมาจากเบื้องบนเขา  ถังเทียนไม่เงยหน้าขึ้นมอง  แต่เขารู้ว่าเป็นเสี่ยวหลาน

เขาไม่สามารถเห็นเสี่ยวหลานได้  แต่ถ้าเขาเห็น เขาจะต้องประหลาดใจแน่นอน  ร่างของเสี่ยวหลานกลายเป็นผลึกสีน้ำเงินและปลดปล่อยพลังที่น่ากลัว แต่ละระลอกเหมือนหินร่อนไปบนผิวน้ำมองเห็นชั้นของความเคลื่อนไหวเป็นชั้นๆ

คนแคระพลอยน้ำเงินระเบิดเสียงโห่ร้องความกลัวบนใบหน้าของพวกมันเพิ่มมาก

ที่ใดก็ตามที่ระลอกผ่านไปสายใยเพลิงน้ำเงินจะถูกดึงออกมาจากศพของคนแคระพลอยน้ำเงิน

ถังเทียนตกใจ เขามองดูไกลเท่าที่เขาเห็นได้เปลวเพลิงน้ำเงินค่อยๆ ลอยขึ้นเหมือนกับหิ่งห้อยน้ำเงินที่ไม่มีที่สิ้นสุดมองดูงดงาม

เพลิงน้ำเงินที่ขนาดเท่าหัวแม่มือถูกเรียกออกมาและค่อยๆ ลอยเข้าหาเสี่ยวหลาน

ฉากภาพต่อหน้าเขาเป็นเหตุมหัศจรรย์มากทำให้ถังเทียนลืมความอ่อนล้าของเขาไปชั่วขณะ  เพลิงน้ำเงินเข้าไปในร่างของเสี่ยวหลาน ทำให้เสี่ยวหลานเปล่งรัศมีน้ำเงินเปล่งปลั่งคนแคระพลอยน้ำเงินจำนวนมากมายต้องถอยกลับไปเหมือนกับว่าพวกมันกลัวแสงสีน้ำเงิน

แสงน้ำเงินสว่างเจิดจ้าขึ้น  ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่ามีดวงอาทิตย์สีน้ำเงินอยู่เหนือศีรษะเขา  แสงสีน้ำเงินเจิดจ้าจนเขาลืมตาไม่ขึ้น

เขาหลับตา และจมอยู่ในแสงน้ำเงินที่สว่าแพรวพราว

ร่างที่เหนื่อยล้าของเขาเริ่มฟื้นตัว  แสงสีน้ำเงินไม่อบอุ่น  แต่ก็ทำให้ถังเทียนรู้สึกสบายใจ

เขาตกอยู่ในสภาพฝันโดยไม่รู้ตัว

ฝันของเขาแปลกประหลาดมาก ลึกลงไปในทะเลน้ำเงินมีต้นไม้ใหญ่ที่เติบโตแล้วต้นหนึ่งมีใบไม้เป็นล้าน และใบไม้เป็นล้านนั้นทุกๆใบจะมีขนาดเท่าเนินเขา ในกลางใบไม้ทุกใบจะมีวังวน และวังวนนั้นจะปล่อยพลังน้ำเงินออกมาอย่างไม่มีที่สุด   พลังงานน้ำเงินออกมาราวกับสายน้ำ

หลังจากผ่านไปทุกช่วงเวลาหนึ่งต้นไม้สีน้ำเงินมหึมาจะปล่อยเมล็ดนับไม่ถ้วนเหมือนดอกแดนดิไลออน  เมล็ดทั้งหมดเหล่านี้จะไหลไปตามกระแสพลังงานและลอยไปทั่วทุกมุมในทะเลน้ำเงิน  แต่ในเวลาอันรวดเร็วเมล็ดเหล่านี้จะถูกกินโดยสิ่งมีชีวิตในทะเลน้ำเงินนับไม่ถ้วน

พวกมันจะปล่อยกลิ่นอายที่หอมหวานและไม่สามารถหลบหลีกสิ่งมีชีวิตจำนวนมหาศาลได้

ในที่สุดก็มีเมล็ดหนึ่งที่พบโดยบุรุษวัยกลางคนในทะเลน้ำเงิน บุรุษวัยกลางคนพบว่ามันมีความเฉพาะตัวมีรัศมีน้ำเงินไม่เหมือนใคร  หลังจากบุรุษวัยกลางคนตายเขามอบมันให้ลูกชายเขา ต่อมาลูกชายเขาบังเอิญพบสตรีผู้หมดสติและถังเทียนจำสตรีนั้นได้ทันที นางคือกู้เสวี่ย

จากนั้นรังสีน้ำเงินถูกฝังเข้าไปในร่างของกู้เสวี่ย

จากนั้นถังเทียนจำได้ทันทีว่าเมล็ดพันธุ์นั้นก็คือเสี่ยวหลานนั่นเอง

เมล็ดพันธุ์นี้ดูดเพลิงน้ำเงินไว้เป็นปริมาณมหาศาลและเหมือนกับเมล็ดพันธุ์ มันเริ่มงอกขึ้นในแสงสีน้ำเงินแพรวพราวและในพริบตาก็เป็นต้นไม้น้อยๆ ต้นไม้น้ำเงินออกดอกตูมซึ่งยังคงเติบโตต่อไปจนกระทั่งร่องรอยแสงสุดท้ายหายไป เมื่อดอกไม้ตูมบาน

จากนั้นถังเทียนตื่นขึ้น และตระหนักโดยไม่รู้ตัวมือของเขาตั้งอยู่ในท่ามุทราหัตถ์เด็ดบุปผา และในท่าปางมือนั้นมีดอกไม้น้ำเงินจริงๆ อยู่หนึ่งดอก

ดอกไม้น้ำเงินสวยงดงามมากเหมือนกับว่ามันเพิ่งถูกเด็ดออกมา มันนุ่มนวลและเต็มไปด้วยชีวิต

‘นี่คือ...เสี่ยวหลาน!’

ถังเทียนตะลึงทันที  ‘ฝันนั้น...’

เขาลืมตากว้าง และตระหนักได้ว่า คนแคระพลอยน้ำเงินที่ล้อมรอบตัวเขาหายไปไม่เหลือร่องรอย

ทันใดนั้นดอกไม้ในฝ่ามือของเขาลอยขึ้นบินไปในทิศทางหนึ่ง

ถังเทียนรู้สึกถึงอะไรบางอย่างและไล่ตามไปทันที

ดอกน้ำเงินบินเป็นเส้นตรงเห็นได้ชัดว่ามันกำลังนำทาง และถังเทียนก็ไล่ตามมัน

ถังเทียนพยายามสื่อสารกับดอกไม้ในระหว่างทาง  แต่ก็ล้มเหลว ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าดอกไม้น้ำเงินนั้นก่อตัวมาจากเสี่ยวหลาน  เขาคงคิดว่ามันเป็นสิ่งที่น่าลุ่มหลง  มันน่าลุ่มหลงมากจริงๆ  และถังเทียนไม่ได้เผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตใดๆระหว่างเดินทาง สิ่งที่ถังเทียนรู้สึกแทบจะเป็นความหลงใหลก็คือการที่เขาเชี่ยวชาญในการใช้มุทราหัตถ์เด็ดบุปผา  ใจที่ใสเหมือนแก้วไม่ได้แตกสลาย  แต่ภายในสภาพใจที่โปร่งใสทำไมถึงมีต้นไม้ที่นั่น?

สภาพใจของเขามีต้นไม้เล็กๆ  และถ้านี่ไม่ใช่ความลุ่มหลง  ถังเทียนคงไม่รู้ว่าสิ่งนี้น่าหลงใหลอีกต่อไป

ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าต้นไม้น้อยก็คือสิ่งที่เหมือนกับสิ่งที่เขาเห็นในความฝันของเขา  ถ้าไม่ใช่เพราะสภาพใจของเขาแข็งแกร่งไม่พอ  เขาอาจจะบ้าไปแล้ว  เขาพยายามลองหลายวิธี  แต่ก็ไม่สามารถแม้แต่เขย่าต้นไม้ในใจเขา

หลังจากลองดูถึงสองครั้ง  เขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับมันและได้แต่ไม่สนใจมันต่อไป

เทพอสูรหกกรในตัวเขาไม่มีปฏิกิริยาอะไรกับต้นไม้น้อยที่อยู่ข้างๆ แต่ต้นไม้น้อยจะวิ่งขึ้นไปบนฝ่ามือของเทพอสูรที่ตั้งท่ามุทราหัตถ์เด็ดบุปผา  เทพอสูรยังคงเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยมือที่ตั้งมุทราหมัดพิโรธและหัตถ์เก็บบุปผามีความลึกลับกว่าเดิม

แขนอีกสี่ข้างยังคงเลือนราง

ถังเทียนสามารถเห็นได้ว่าเทพอสูรแข็งแกร่งมากขึ้นซึ่งเป็นเรื่องดีสำหรับเขา แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหดหู่ก็คือก่อนหน้านั้นเขายังมีปฏิสัมพันธ์กับเสี่ยวหลานอยู่เลย  แม้ว่ามันจะยังคลุมเครือแต่อย่างน้อยมันก็ยังมีปฏิสัมพันธ์ตอบ แต่หลังจากที่กลายเป็นดอกไม้แล้ว ความเชื่อมโยงก็หายไป

ไม่มีใครพูดในภายในทะเลกระจกครามที่เงียบสงบเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากและมีเรื่องที่จะต้องทำตามลำพัง

ถังเทียนเพ่งสมาธิจิตใจกับการฝึก  และทิ้งความคิดของเขาเกี่ยวการตามดอกไม้น้ำเงิน

นอกจากนี้เทพอสูรหกมุทราเขาเรียนสำเร็จไปสองมุทรา ยังเหลืออีกสี่มุทรา

ถังเทียนได้รับประโยชน์จากใจที่สงบดุจกระจกอย่างรวดเร็ว  ก่อนนี้หลังจากบินมาเป็นเวลานาน  แม้ว่าร่างกายยังสามารถทนได้  แต่สภาพใจของเขาจะยังรู้สึกเหนื่อย  แต่ปัจจุบันนี้เขาขมวดคิ้วเป็นเวลานาน สภาพใจของเขาไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้าอะไร

นอกจากนั้นความผันผวนทั้งหมดรอบตัวเขานั้นรับรู้ได้อย่างชัดเจนและสะท้อนใจของเขา  ทันใดนั้นเขาได้รับรู้ทันที ในอดีตเขาต้องสังเกตมุทราของเทพอสูรหกกรนับไม่ถ้วน  แต่ครั้งนี้แค่สังเกตครั้งเดียวเขาก็ได้รับความรู้ใหม่จากมุทรา รายละเอียดหลายอย่างที่เขาไม่เคยเข้าใจมาก่อนกลับสะท้อนในใจของเขาอย่างแจ่มชัด

แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเข้าใจอีกสี่มุทราที่เหลือในทันที  แต่ก็ยังช่วยเขาได้มาก  เขาเริ่มก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

หลังจากบินไปโดยไม่รู้เวลา  เสี่ยวหลานหยุดทันที

ถังเทียนก็หยุดเช่นกัน และมองไปข้างหน้า

มีแนวเส้นสองเส้นตัดกันเป็นรูปกางเขนขนาดใหญ่ซึ่งขยายไกลออกไปทำให้พื้นที่แบ่งแยกออกเป็นสี่พื้นที่ และทะเลทั้งสี่แตกต่างกันอยู่ภูมิภาคที่แตกต่างกัน

ทะเลเนรเทศที่กราดเกรี้ยวไม่มีที่สิ้นสุด  และกระจกครามที่ราบเรียบและเหมือนกระจก  ทะเลทุ่งเพลิงและทะเลสันติภาพที่มีแต่ความเงียบสงบ

ทั้งหมดนั้นเป็นสี่ทะเลของกองทัพดาวกางเขนใต้

ถังเทียนตกตะลึง

เขาไม่เคยคิดว่าสี่ทะเลจะถูกสร้างมาเป็นแบบนั้น ม่านพลังที่มองไม่เห็นกั้นแยกสี่ทะเลจากกัน  มันไม่ใช่สิ่งที่เป็นธรรมชาติแน่นอนแต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากมนุษย์

‘หรือว่าลุงปิงและพวกเขาจะทรงพลังมากขนาดนั้น?’

ถังเทียนเอียงศีรษะคิด,  เป็นไปไม่ได้ กองทัพดาวกางเขนใต้เป็นกองทัพจักรกล  พวกเขาเชี่ยวชาญในวิชาจักรกลและการรบ ถังเทียนนึกไม่ออกว่าคนแบบไหนจึงสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์แบบนั้นได้!

ใช่แล้ว,ถังเทียนรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่อยู่เหนือขีดจำกัดของมนุษย์

ทันใดนั้น,เสี่ยวหลานลอยขึ้นมาจ้องหน้าถังเทียน มันบินตรงไปที่ทะเลสันติภาพ

‘ทะเลสันติภาพ....’

ถังเทียนลังเลเล็กน้อยเขากัดฟันและตามเสี่ยวหลานและก้าวข้ามพรมแดนเข้าไป สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือเขาไม่ได้รู้สึกถึงแรงต่อต้านใดๆ  เมื่อเขาทำเช่นนั้น  แนวแบ่งแยกโลกทั้งสี่ไม่มีผลต้านอะไร เพียงแค่แบ่งแยกทะเลออกจากกันและไม่รบกวนอะไรเลย  ถังเทียนอดยิ้มด้วยความประหลาดใจไม่ได้

เมื่อก้าวเข้ามาในทะเลสันติภาพ  ฉากภาพรอบตัวถังเทียนเปลี่ยนไป

ทะเลสันติภาพสีดำไม่ได้เงียบสนิทอย่างที่ถังเทียนคิด  น้ำทะเลดำกลับมีความอบอุ่นและเป็นสถานที่เหมาะกับการกำเนิดวิญญาณ

เมื่อเข้าไปในทะเลสันติภาพ เสี่ยวหลานเข้ามาในร่างของถังเทียนอย่างเงียบงัน

‘นี่หมายความว่ายังไง?’

ถังเทียนไม่เข้าใจสถานการณ์ แต่เขาพบว่าเสี่ยวหลานมีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนั้น  เขาเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง  ทะเลสันติภาพเงียบสงัด มีความอบอุ่นลางๆ  ดังนั้นจึงไม่น่ากลัว น้ำสีดำลอยตัวอยู่ง่ายและถังเทียนไม่ต้องใช้กำลังบังคับให้ลอยตัวแต่อย่างใด

หลังจากเดินเป็นเวลานาน ถังเทียนก็ตระหนักว่าบางอย่างกำลังลอยอยู่ในระยะไกล

หัวใจของเขาตื่นเต้น   เพียงกระโดดไม่กี่ครั้งเขาก็คว้ามันไว้ได้

เป็นป้ายบรอนซ์และบนป้ายมีสัญลักษณ์ของกองทัพดาวกางเขนใต้ ขณะที่ด้านหลังมีคำอยู่แถวหนึ่ง

“จูหย่งทหารชั้นหนึ่งของกองทัพดาวกางเขนใต้ตายอย่างกล้าหาญในการสู้รบที่ภูเขาชิงไม่ต้องปกป้องต่อไปแล้ว จงพักอย่างสงบเถิด”

ถังเทียนจ้องมองป้ายบรอนซ์อยู่เป็นเวลานานอารมณ์ที่เหลือเชื่อผุดขึ้นในใจของเขา

สำหรับคนที่ตาย คนมีชีวิตจะสวดภาวนาให้คนตายพักผ่อนอย่างสงบและจะแสวงหาพรให้พวกเขาเอง  แต่บนป้ายบรอนซ์นี้กลับเขียนว่า  “ไม่จำเป็นต้องปกป้องต่อไป  พักผ่อนอย่างสงบเถิด”

จากนั้นดูเหมือนเขาจะเห็นลุงปิงวางป้ายบรอนซ์ไว้ในน้ำดำและผลักมันอย่างนุ่มนวลและมองมันลอยออกไป และเขาพึมพำกับตนเอง

“เราไม่จำเป็นต้องให้พวกเจ้าปกป้อง  เราจะต้องทำงานกันอย่างหนัก  เจ้าไม่จำเป็นต้องมากังวลห่วงใยเรา  พักผ่อนเถิด สงครามทั้งหมดที่นี่ ไม่ว่าจะยังไงก็ตามปล่อยให้เป็นหน้าที่เรา ผู้ยังมีชีวิตอยู่

“เราจะชนะแน่นอน”

“พักอย่างสงบเถิด”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด