ตอนที่ 759 ร้านสัตว์อสูรเมืองลี่จ้าว
เมืองลี่จ้าว
เย่ว์หยางกับพวกพ้องโดยสารรถม้าบินโดยสารมาไม่ถึงสามชั่วโมงพวกเขาจะถึงเมืองลี่จ้าวซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร
นี่เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่แตกต่างไปจากเมืองธรรมดามีถนนสายหลักที่ไม่มีใครเหมือนตัดผ่านแยกเมืองออกเป็นสี่ส่วนจากตะวันออกถึงตะวันตกระยะเกือบ 50 กิโลเมตร จากทิศใต้ถึงทิศเหนือเกือบ 20 กิโลเมตร
นอกเมืองมีกำแพงล้อมรอบสูงถึง 20 เมตรยกเว้นประตูเมืองขนาดใหญ่ทั้งสี่
นอกจากประตูใหญ่ทั้งสี่แล้ว
ไม่มีทางออกอื่นอีก
ถ้ามองดูจากในท้องฟ้าจะเห็นทั้งม้ารถเทียมม้าและฝูงชนหลั่งไหลไปตามถนนกว้างอย่างไม่ขาดสายโดยเฉพาะถนนใหญ่จากตะวันออกไปทางตะวันตก ถนนกว้างถึงหนึ่งกิโลเมตร
ถนนสายเหนือไปใต้กว้าง 400 เมตร
เมืองลี่จ้าวคือมหานครยุทธศาสตร์ที่สร้างขึ้นเมื่อหมื่นปีที่แล้วในยุคราชินีผู้พิชิตนางพญาเฟ่ยเหวินหลีและขยายเมืองเมื่อหกพันปีก่อนยุคจักรพรรดิอวี้ อย่างไรก็ตามนางพญาเฟ่ยเหวินหลีผู้พิชิตถูกผนึกไปแล้ว สามจอมภพแดนสวรรค์ในอดีตทำสงครามกับจักรพรรดิอวี้อย่างดุเดือดซึ่งได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เมืองลี่จ้าว ผ่านมาจนบัดนี้ไม่มีฐานทัพทางยุทธศาสตร์อีกต่อไป แต่ห่างไกลออกไปเป็น ‘เมืองซาน’ ที่คึกคัก นั่นเป็นพื้นที่เปิดพัฒนารวบรวมผู้คนได้หลายล้านในปัจจุบัน
ผู้คนที่นี่พึ่งพาทรัพยากรแร่ที่อยู่ในเทือกเขารายรอบซึ่งเป็นแหล่งแร่อุดมสมบูรณ์ นั่นจึงเป็นเหตุให้ใช้ชีวิตอย่างมีความกังวล
เพราะเมื่อหมื่นปีที่แล้ว และหกพันปีที่แล้วมีสงครามแถวๆเมืองลี่จ้าวเกิดขึ้นอยู่หลายครั้ง มีนักรบที่แข็งแกร่งเกิดขึ้นและมีการพัฒนาอสูรพิเศษดึงดูดใจนักผจญภัย ทหารรับจ้างและพ่อค้าให้มาเพื่อล่า
“พวกเจ้าจะไม่ลงไปหรือ?” เจ้าอ้วนไห่เชิญทุกคนให้ลงมาเขาตบอกและกล่าวว่าอาการบาดเจ็บของเขาได้รับการรักษาแล้ว
“ช่างเถอะ,ข้าไม่คิดว่าจะมีปัญญาถอนขนหน้าแข้งคนตระหนี่ได้แน่” เย่คงและเจ้าอ้วนไห่เกิดมาเพื่อทะเลาะกันแท้ๆ
และเขาก็พูดถูกจริงๆ
แม้ว่าเจ้าอ้วนไห่จะให้การรับรองและลงทุนสาบานว่าจะทำตัวดีๆนับแต่เขาตัดสินใจไปเที่ยวแดนสวรรค์ แต่คนที่จ่ายเงินก็คือเย่ว์หยาง เพราะเจ้าอ้วนไห่ยืมเงินเย่ว์หยางหนึ่งล้านก่อนจะออกมา เย่คงไม่คิดว่าเจ้าอ้วนไห่จะใช้คืนได้ และเขาไม่คิดว่าเจ้าอ้วนไห่จะมีปัญญาใช้คืน เขาคิดว่าเป็นไปได้ว่าเจ้าอ้วนไห่คงจะขอให้หักค่าแรงในอนาคตแทน
เอาเงินคนอื่นมาใช้เจ้าอ้วนไห่ใจกว้างเสมอ
ไม่..เขากำลังเชิญทุกคนให้มากินดื่มในเมืองลี่จ้าว
“เจ้าลิงผอม! ข้าขอเตือนเจ้าอย่างคนกันเอง ทำตัวดีๆไว้ ขืนใส่ร้ายข้า ข้าจะฟ้องหมิ่นประมาท ข้าเป็นคนดี และตอนนี้ก็เป็นคนใจดีด้วย...พี่น้องทั้งหลาย ค่าใช้จ่ายในเมืองลี่จ้าวข้ามีเงินเก็บไว้ทุกคนสนุกได้ไม่ต้องเกรงใจ เราจะกินและดื่ม กันอย่างสบายใจ วันนี้ข้าในฐานะเป็นลูกพี่พร้อมทุ่มทุกอย่าง” เจ้าอ้วนไห่พูดราวกับว่ากลัวทุกคนไม่รู้ว่าเขาแอบเก็บเงินเอาไว้
“นี่ไม่ใช่การช่วยประหยัดมากที่สุดแต่เป็นการหาทุนด้วยใช่หรือเปล่า?” เป่าเอ๋อมองดูกระเป๋าแห้งนางมีทองติดตัวอยู่ไม่กี่ชิ้นนั่นเป็นเรื่องที่ทำให้นางเวียนหัว
“ไม่มีทาง เงินที่เก็บไว้ครั้งก่อนถูกเก็บไปแล้ว” เจ้าอ้วนไห่เกาศีรษะอย่างเก้อเขิน
“มิน่าเล่า เจ้าถึงได้ใจดีนัก” เย่คงและคนอื่นรู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
“ถ้าพวกเจ้าต้องการดื่มกินอย่างนั้นก็ลงไปหาประสบการณ์ได้เลย ฮุยไท่หลาง! เจ้าทำหน้าที่คุ้มกัน” เย่ว์หยางนับว่าเป็นเทพเจ้าแห่งสมบัติ แต่เขามอบค่าใช้จ่ายหลิวเย่ 3 พันเหรียญทอง ราคาของในเมืองลี่จ้าวจะแพงมาก สามพันเหรียญทองสามารถทำให้ทั้งกลุ่มใช้ชีวิตอยู่ในเมืองได้”
“โฮ่ง!” ฮุ่ยไท่หลางรับคำสั่งเจ้านายและทำหน้าที่คุ้มกันอย่างแข็งขัน นี่คือโอกาสดีที่จะรับใช้ให้บริการเจ้านาย
“ไปกันเถอะ” เจ้าอ้วนไห่รีบรับถุงเงินมาอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นหลิวเย่ทำท่านจะปฏิเสธ เขาร่าเริงและกระโดดบินลงจากรถม้าบิน ทำให้มองดูเหมือนจ้าวปีศาจอ้วนลงมายังเมืองลี่จ้าว
“เราไม่ไป”
เสวี่ยทันหลางและพี่น้องตระกูลหลี่กำลังทุ่มเทกับการฝึกอย่างคลั่งไคล้ ไม่มีความสนใจการเที่ยวเล่น
ในสายตาของพวกเขา วิธีเที่ยวสนุกในแดนสวรรค์เป็นวิธีเดียวกับที่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีกวาดล้างแดนสวรรค์ในอดีต แค่นั้นก็พอ
แน่นอนว่าด้วยพลังของพวกเขาเป้าหมายอย่างนี้เป็นฝันที่ไม่รู้ว่าจะสำเร็จเมื่อใด
เพื่อไล่ล่าตามหาความฝัน
พวกเขาเพิ่มเวลาฝึกฝนให้นานขึ้นดีกว่าจะเสียเวลาไปแบบนี้ องค์ชายเทียนหลัวก็พลอยติดนิสัยไปด้วยตอนนี้กลายเป็นพวกบ้าฝึกฝนไปแล้ว
บนรถโดยสารบินเลิศหรูมีตู้โดยสารสี่ตอน แต่ละตอนยาวสิบห้าเมตร ต่อให้ทั้งกลุ่มอยู่ในนั้นแต่ก็มีพื้นที่มากพอให้พวกเขาอยู่อย่างเงียบๆ เอลฟ์สองสามีภรรยาไม่ต้องการลงไปเที่ยวสนุกด้วยพวกเขาเทียมม้าเพกาซัสให้ลากรถโดยสาร แต่ในความเป็นจริงรถโดยสารเลิศหรูที่บินได้เองโดยไม่จำเป็นต้องใช้ม้าบินลาก มันไม่ต่างไปจากเทวรถของแดนสวรรค์ มีระบบต้านทานแรงโน้มถ่วงคอยปกป้องผู้โดยสารจะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุ
ม้าเพกาซัสเหล่านี้ทำหน้าที่คอยฉุดลากตู้โดยสารเหมือนกับเครื่องประดับของคนรวยที่คนอื่นๆ ไม่มีปัญญาจ่ายซื้อ
เพกาซัสต้องฉุดลากอยู่ข้างหน้ายานโดยสารที่เลิศหรูอยู่หลายชั่วโมงแสดงอาการเหน็ดเหนื่อยเล็กน้อย โชคดีที่เอลฟ์ทองอย่างลีนให้ความรู้สึกที่ดีและดูแลเพกาซัสเป็นอย่างดี...
ถ้าเปลี่ยนเป็นเจ้าอ้วนไห่เขาคงต้องการควบม้าและบังคับให้มันบินเร็วอย่างลมพัดอย่างเดียว
อย่างไรก็ตามรถม้าเลิศหรูนี้เช่ามาจากอาณาจักรหลิงหวินจะต้องเอากลับไปคืน มิฉะนั้นจะต้องโดนหักค่าใช้จ่ายเพิ่ม
เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังคงติดตามจักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนเพื่อฝึกฝนต่อไป อี้หนานและเย่ว์ปิง ลี่เยี่ยนและจุ้ยมาวอวี้(สาวขี้เมา) ยังคงฝึกฝนอยู่ที่ประตูเป็นตายไม่ได้มาเที่ยวแดนสวรรค์ด้วยในครั้งนี้ มีแต่เย่ว์หวี่ที่เย่ว์หยางรบเร้าฉุดดึงมาด้วยแต่นางยินดีอยู่ในโลกคัมภีร์คอยช่วยเย่ว์หยางจัดสิ่งของต่างๆและนางไม่ปรากฏตัวออกมาภายนอก
เย่ว์หยางนั่งอยู่ในรถม้าโดยสารส่วนที่หนึ่งกำลังเขียนภาพประตูแดนสวรรค์จากความทรงจำ
ถ้าไม่วาดก็คงไม่รู้ เมื่อเย่ว์หยางวาดทำเครื่องหมายเสร็จเกือบทั้งหมดเขาพบว่าสุสานที่ฝังนักรบแดนสวรรค์กลายเป็นภาพสนามรบเลือนลางสะท้อนกับประตูเทเลพอร์ตของชายขอบแดนสวรรค์ ได้ขนาบคลุมประตูแดนสวรรค์ไว้
นอกจากนี้เย่ว์หยางยังคาดว่าภายใต้นั้นจะต้องเป็นวงเวทอักษรรูนขนาดใหญ่
เมื่อนักรบบุกเข้ามามันจะเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว
นอกจากมีเสียงเตือนแล้วยังมีพลังกฎสวรรค์คอยกดหรือผนึกผู้บุกรุก
เย่ว์หยางอยู่ในช่วงสืบค้นประตูแดนสวรรค์อาหงยื่นมือเข้ามาโอบไหล่เขาบีบนวดเบาๆ รอคอยคนรักเหมือนภรรยาที่ดี
เจ้าอ้วนไห่กังวลเกี่ยวกับเย่คงฟ่านหลุนเถี่ย หลิวเย่ เซี่ยอี เป่าเอ๋อและสี่สาวเผ่าคิวบัวร์ที่ด้านข้างมีฮุยไท่หลางและทอเรนเลโอพวกเขาระมัดระวังและลงไปยืนบนพื้นถนนเหนือใต้ของเมืองลี่จ้าว เพราะถนนเป็นเส้นตรงจึงสามารถเห็นเกาะลอยฟ้าสะท้อนแสงขาวอยู่ลิบๆ ซึ่งนั่นก็คือเกาะสุริยันต์เป็นสถานที่ชุมนุมของเหล่านักสู้ และเป็นจวนที่พักของเจ้าเมืองลี่จ้าว
และตามระเบียบจะมีทหารสองกองลาดตระเวนไปตามถนนเส้นเหนือ-ใต้
ค่ายทหารทั้งสองข้างทางถูกเปลี่ยนไปเป็นร้านค้ามีสินค้าอยู่ภายในดูลานตาไปหมด
เนื่องจากการคมนาคมสะดวกและอุดมไปด้วยแหล่งแร่ประชาชนท้องถิ่นจึงมีความเป็นอยู่ที่ดีมีสินค้าฟุ่มเฟือยหมุนเวียนเข้ามาในตลาดผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว พ่อค้านักธุรกิจเมื่อได้ทราบข่าว ต่อให้อยู่ไกลถึงแดนสวรรค์ใต้ก็ต้องมาดูที่นี่ให้ได้
“ดูสิ, มีร้านขายอสูรที่นั่น”
ฟ่านหลุนเถี่ยไม่ได้ให้ความสนใจของจุกจิกข้างทาง งานอดิเรกของนางคือสะสมอาวุธและเดินชมร้านอสูร แน่นอนว่าเบื้องหลังการตัดสินใจเช่นนั้นเพราะเย่ว์หยางตัดสินใจซื้ออสูรปราณฟ้าให้ทุกคนฟ่านหลุนเถี่ยเป็นทอเรนสตรี แม้ว่าในสงครามครั้งก่อนจะทำให้นางมีความก้าวหน้าอย่างมากแต่นางยังมีความรู้สึกว่าพลังของนางยังมีไม่พอและมีส่วนร่วมในกลุ่มน้อย ดังนั้นนางต้องการทำสัญญาดีๆกับอสูรระดับปราณฟ้า
กลุ่มพวกเขาพูดคุยหยอกล้อและเข้าไปในร้านอสูรขนาดใหญ่ชื่อว่าเสริมศักยภาพ
แตกต่างจากร้านอสูรของหอทงเทียน
ร้านเสริมศักยภาพนี้ดัดแปลงมาจากค่ายทหารเก่า นอกจากนี้ยังมีการขยายพื้นที่ มีการเปิดใช้ห้องใต้ดินเพื่อขายอสูรเต็มวัย
การขายอสูรเต็มวัยในหอทงเทียนค่อนข้างหายาก
เพราะอสูรเต็มวัยถึงแม้ว่าจะมีพลังน่ากลัวแต่ศักยภาพที่มันมีไม่ต่างจากเด็กวัยเรียนรู้ นอกจากนี้อสูรเต็มวัยแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีความสัมพันธ์เป็นพิเศษกับเจ้านายใหม่ มันมีความคิดเป็นของตนเอง และถ้ามันยังมีพลังรบที่ด้อยความภักดีซื่อสัตย์ก็ยังเป็นปัญหา
ดังนั้นในหอทงเทียนคนจึงนิยมซื้อลูกอสูร ยิ่งเป็นไข่อสูรก็ยิ่งเป็นที่นิยม
ในทางตรงกันข้ามไข่อสูรกองพะเนินโดยตรง แทบไม่มีบัญชีแยกประเภท
ไข่อสูรในหอทงเทียนผ่านการทดสอบและประเมินในรูปแบบแตกต่างจากคุณลักษณะที่นักรบเห็นด้วย และบันทึกบัญชีแยกขาย ไข่ที่ขายในร้านเสริมศักยภาพนี้ตั้งขายเหมือนกับร้านขายไข่ในตลาด
“ไข่เหล่านี้ขายยังไง?”ฟ่านหลุนเถี่ยยิ้มสดใส ไข่อสูรตั้งมากมายบางทีอาจมีอสูรที่เหมาะสมตราบเท่าที่ฝึกฝนให้ดี อาจจะมีอสูรปราณฟ้าอยู่ด้วย คนอื่นไม่กล้าพูดเช่นนั้น แต่เย่ว์หยางมีทักษะในการดูไข่อสูรว่าเป็นอสูรชนิดใด ต่อให้เย่ว์หยางเองหลับตาเขาก็สามารถเลือกได้ไข่คุณภาพสูง
“โอว, นี่ดูเหมือนว่าไม่เลวนะ” เป่าเอ๋อชี้ไปที่ไข่สีเทาแต่สัญชาตญาณเป็นสิ่งที่ดีแต่ก็ไม่ควรแน่ใจเกินไป
มีเด็กนำโชคอย่างเป่าเอ๋อคาดว่าน่าจะได้ของยอดเยี่ยมมาบ้าง
สายตานางอาจไม่ดี แต่นางมิอาจไม่เสี่ยงโชค
อัตราความสำเร็จในการซื้อไข่อสูรกับนางที่เป็นรองเพียงเย่ว์หยางรับประกันได้ว่าสำเร็จ
พนักงานบริการที่กำลังพูดคุยหัวเราะกับสหายเห็นฟ่านหลุนเถี่ยไม่เดินไปดูสัตว์อสูรโตที่ห้องขังใต้ดินแต่กลับเดินไปดูที่ไข่อสูรที่ไม่มีค่อยมีราคา เขาค่อยๆ ทำหน้าไม่พอใจ
แม้แต่สีหน้าของเขาก็ยังแสดงอาการดูถูก นี่ต้องเป็นปีศาจยากไร้สองตนแน่นอน
ถ้าเป่าเอ๋อชี้ไปที่ไข่มังกรขนาดใหญ่บางทีสีหน้าของเขาอาจจะดีขึ้น แต่ไข่ที่เป่าเอ๋อชี้นั้นแทบจะคล้ายกับกระเรียนหงอนเทาของเมืองลี่จ้าวนี่เป็นอสูรบินระดับต่ำที่แทบไม่มีพลังรบเลยแม้แต่ทหารรับจ้างชั้นสวะก็ยังไม่ชอบอสูรแบบนี้ ร้านเสริมศักยภาพรับไข่นี้ไว้เพราะลูกมังกรสายฟ้าและสุนัขนรกอัสนีบาตชอบกินนกกระเรียนหงอนเทาเป็นอาหาร
นกกระเรียนหงอนเทาโตเร็วและขยายพันธุ์ได้เร็ว ก็คล้ายกับกระต่ายป่า แม้แต่พวกทหารรับจ้างก็ยังให้ชื่อพวกมันว่ากระต่ายบินตามปกติในป่าคนจะล่ามันเอาเนื้อมาเป็นอาหารอยู่แล้ว
อสูรสวะอย่างนั้นอีกฝ่ายหนึ่งยังบอกว่าไม่เลวงั้นหรือ?
นี่แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจอย่างนั้นหรือ