ตอนที่ 757 ข้าต้องโกรธ
เมื่อเย่ว์หยางกับมาถึงปราสาทสายรุ้งเขาพบว่ามีกลุ่มคนที่ดูเหมือนพวกอพยพหนีความยากไร้นอนระเกะระกะอยู่บนพื้น
ใช้เวลาอยู่ครึ่งค่อนวันเขาถึงสังเกตออกว่าเป็นเย่คงเจ้าอ้วนไห่กับพวกพ้อง
พอเห็นเย่ว์หยางกลับมาแล้ว
เดิมทีเย่คงและคนอื่นๆยังมีความภูมิใจอยู่เล็กน้อย เพราะเย่ว์หยางไม่ได้จัดเตรียมการเอาไว้ก่อน พวกเขาก็ยังสามารถเอาชนะแผนการร้ายของซุ่นเทียนและคนอื่นได้ ในการต่อสู้ที่ดุเดือดนั้น เสวี่ยทันหลางเอาชนะสื่อจินโหวร่างแยกสุดท้ายของราชันย์พันปีศาจได้ เย่คงและองค์ชายเทียนหลัวและคนอื่นๆร่วมมือกันฆ่าองค์ชายดำที่แสดงเจตนาพยายามหลบหนี หลิวเย่ เป่าเอ๋อ พี่น้องตระกูลหลี่ ฟงชิซา เหยียนพั่วจวินเย่ว์ถิงได้รับความช่วยเหลือจากมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ ผู้เฒ่าเต่ามังกรและเซี่ยอีกำจัดประธานผู้อาวุโสทวีปกวงหมิงและบีบบังคับให้ประมุขนิกายพันปีศาจยอมจำนน
“พวกเจ้าไม่ตายหรือนี่?” นางเซียนหงส์ฟ้ามีน้ำเสียงค่อนข้างประหลาดใจทำให้เย่คงและคนอื่นๆ อดลอบภูมิใจมิได้
“ถ้าเราไม่รีบมาช่วยชีวิตไว้คิดว่าป่านนี้พวกเขาคงเข้าไปนอนคุยกับบรรพบุรุษในหลุมไปแล้ว” ราชันย์ปีศาจใต้พูดขึ้นลอยๆอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าพวกสมองหมูปัญญากระบือนี้,ทั้งที่ได้รับคำเตือนก่อนแล้วว่าจะเผชิญกับอันตราย ให้รีบพาพวกไปที่ทางเข้าวิหารจักรพรรดิอวี้ เพราะว่าที่นั่นมีพื้นที่ต้องห้ามที่ศัตรูส่วนใหญ่ไม่ยินดีย่างเท้าเข้าไปพวกเขาเอาแต่โอ้อวดทำตัวเป็นวีรบุรุษคอยอยู่รั้งพวกศัตรูสุดกำลัง ไม่อย่างนั้นยังจะมีการบาดเจ็บอย่างนั้นได้หรือ?”
“ท่านป้า, ข้าผิดไปแล้ว ข้าเป็นพวกสมองหมูจริงๆละเว้นข้าสักคราเถิด” เย่คงรีบขอความเมตตา
ตอนแรกเขายังไม่เข้าใจ
ต่อมาเขาจึงได้พบคำตอบ
ใจของเย่ว์หยางไม่ได้มีความสิ้นหวังแต่เขาปล่อยให้กลุ่มพวกเขาได้เรียนรู้วิธีคิดในการต่อสู้
ถ้าทุกคนคิดจากจุดนี้ได้ตั้งแต่แรกเริ่มก็คงไม่ต้องรอให้ซุ่นเทียนและพวกมาโอบล้อม จะต้องถอนกำลังไปอยู่ข้างผู้เฒ่าเต่ามังกร จะได้ไม่ต้องพบกับความยากลำบาก
แน่นอนว่านี่สายเกินไป เมื่อเซี่ยอีมาถึงพร้อมกับนักสู้ปราณก่อกำเนิดเช่นมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ ราชาฉลามราชาฉงนี่และราชันย์ปีศาจใต้รวมทั้งนักรบเผ่าภูตบูรพา ฝ่ายมารจึงต้องพบจุดจบ และโชคดีที่เสวี่ยทันหลางและเจ้าอ้วนไห่มีพลังชีวิตแข็งแกร่งทั้งคู่ มิฉะนั้นคงตายแน่นอน
เสวี่ยทันหลางและสื่อจินโหวต่างได้รับบาดเจ็บหนักทั้งคู่
ตั้งแต่แรกสื่อจินโหวมีพลังระดับปราณก่อกำเนิดระดับแปดเหนือกว่าเสวี่ยทันหลาง ทั้งพลังและประสบการณ์ เมื่อเสวี่ยทันหลางหมิ่นเหม่ใกล้ตาย เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและตกลงไปในก้นทะเลสาบดำ เขาผสานร่างกับอสูรสายฟ้าและยักษ์พายุ ในที่สุดก็ได้รับประสบการณ์ปาฏิหาริย์ แม้แต่เย่ว์หยางก็คิดเองว่าการหลอมรวมยากจะสำเร็จได้ อสูรประเภทวิญญาณของเขาหลอมรวมกับตัวแปรทำให้อสูรเลื่อนระดับเป็นอสูรพายุสายฟ้าระดับปราณฟ้า
อสูรพายุสายฟ้าอสูรระดับปราณฟ้าช่วยให้เสวี่ยทันหลางได้มีโอกาสตอบโต้อย่างหนัก
ท่าสุดท้ายของเขาทะลวงหัวใจปีศาจของสื่อจินโหว
ตัดสินชัยชนะได้ในช่วงเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย
ถ้าหากบอกว่าเสวี่ยทันหลางกระดูกซี่โครงหักมากกว่าสิบท่อนแขนหัก กระดูกหักทั่วทั้งตัวพันผ้าพันแผลมีไอคุกรุ่นราวกับซาลาเปานึ่งแล้ว ทั้งผสานฝีมือกับอสูรพายุสายฟ้าได้อย่างสมบูรณ์สำเร็จเอาชนะศัตรูได้ในที่สุดแล้ว การที่เจ้าอ้วนไห่เอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างซุ่นเทียนได้ในที่สุดทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเขาเป็นคนจริง
พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเจ้าอ้วนไห่ต่อสู้กับซุ่นเทียนแล้วรอดชีวิตมาได้อย่างไร
ทุกคนรู้แต่เพียงว่าซุ่นเทียนลงมือกับเจ้าอ้วนไห่อย่างบ้าคลั่ง
ในท้ายที่สุดเจ้าอ้วนไห่พูดอะไรถึงทำให้ซุ่นเทียนผู้แข็งแกร่งทั้งกายและจิตใจกลายเป็นบ้าไปได้?
นี่คือปริศนาลึกลับ...เมื่อเย่คงพยายามลากสังขารตนเองที่บอบช้ำเต็มไปได้บาดแผลไปที่ปราสาทสายรุ้งสิ่งแรกที่เขาทำคือตามหาเจ้าอ้วนไห่ก่อนและพบว่าเจ้าอ้วนไห่นอนกองดูไม่ต่างอะไรจากกองขยะ และที่อัศจรรย์มากกว่าก็คือเขายังมีชีวิต อสูรทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นแรดเพชร ฮิปโปน้อย แมมม็อธสายฟ้าฯลฯ อยู่ในสภาพปางตาย มีแต่นางนวลสายลมที่ยืนคุ้มกันอยู่ข้างเขา..”
“นี่คือปาฏิหาริย์” เย่ว์หยางชื่นชมเจ้าอ้วนไห่และคนอื่นทำราวกับเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ที่ชื่นชมบริวารที่ต่อสู้และเอาชีวิตรอดได้สำเร็จ
“เป็นไปได้ว่าไหมว่าเจ้าอ้วนไห่เป็นเหมือนมนุษย์งูทะเลในตำนานต่อให้ถูกแทงฟันยังไงก็ยังรอดชีวิตได้!” ราชันย์ปีศาจใต้สงสัย
“อา..เป็นไปได้หรือนั่น?” เดิมทีเย่คงต้องการปฏิเสธแต่พอดูเจ้าอ้วนไห่ที่นอนอืดเหมือนหมูตายเขาไม่กล้ายืนยันว่าเป็นความช่วยเหลือจากเย่ว์หยาง “เจ้าอ้วนไห่เป็นคุณชายจากตระกูลไห่ไม่ใช่หรือ?”
“ศักยภาพลับของเจ้าอ้วนไห่อาจจะไม่ใช่งูทะเลก็ได้ข้าคงสำคัญผิดไป” คำตอบของเย่ว์หยางทำให้ทุกคนเหงื่อตก
“เจ้าปีศาจอ้วนผู้นี้เคยเป็นเผ่ามนุษย์งูทะเลจริงๆหรือ? หูย..น่ากลัวจริงๆ!” ปกติเป่าเอ๋อมักจะล้อเลียนเจ้าอ้วนไห่ที่กำลังนอนหลับว่าจอมปีศาจอ้วน ซึ่งมีสีสันยิ่งจอมปีศาจอ้วนในหอทงเทียนชั้นหกบางครั้งทุกคนก็เห็นดีด้วยและเรียกว่าปีศาจอ้วนตาม
“จริงเหรอ?”มีแต่คนที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาอย่างหลิวเย่ที่เชื่อว่าเจ้าอ้วนไห่ได้รับอิทธิพลจากมนุษย์งูทะเล
“ไม่สำคัญหรอกว่าพวกเจ้าเชื่อหรือไม่ แค่ข้าเชื่อก็พอแล้ว” เย่ว์หยางทำน้ำเสียงเหมือนกับเง็กเซียนฮ่องเต้อีกครา
จะเป็นลม
การกระทำของเขาแค่ต้องการเอาชนะคนอื่น
แม้แต่เย่ว์หวี่ยังอดตีศีรษะเขาเบาๆมิได้และมองค้อนเขาไม่ได้
มีแต่เพียงเย่ว์หวี่กับแอนนาสองคนที่มีพลังในการรักษามากกว่าคนอื่นและพลังห้าธาตุที่อู๋เหินและเย่ว์หยางช่วยกันสร้างจากเวทอักษรรูนทำให้อาการบาดเจ็บของทุกคนได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและฟื้นตัวเร็วขึ้น
เย่ว์หยางไม่ได้กลับไปที่ปราสาทสายรุ้งเหมือนอย่างปกติแต่อุ้มองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่ยังหลับใหลไปนั่งที่สวนน้อยสนทนากับทุกคน
เสวี่ยอู๋เสียหนุนนอนหนุนตักเขาหลับอย่างเงียบงัน
เวลานางหลับดูอ่อนโยนนุ่มนวลเหมือนเจ้าหญิงที่งดงามที่สุดในโลก
มือน้อยๆที่ขาวผุดผ่องเหมือนหยกของนางยังถือคัมภีร์แห่งสัจจะ...เจ้าเมืองโล่วฮัวโอบแขนจากด้านหลังเย่ว์หยางและนวดให้เขาผ่อนคลาย อี้หนานและเย่ว์ปิงกอดกันโดยไม่พูดอะไรและหลับไปโดยไม่รู้ตัว
นางเซียนหงส์ฟ้าเล่นหมากกระดานกับแม่สี่
ราชันย์ปีศาจใต้ใช้นิ้วที่เรียวงามบรรเลงผีผาหยกของนางขับกล่อมท่วงทำนองไพเราะ
ในขณะที่บรรเลงเพลงขับกล่อมซวงเอ๋อที่ปกติจะซุกซนเหมือนเด็กจะเล่นซ่อนหากับหนูน้อยแพนด้า แต่ตอนนี้เธอนั่งอยู่ข้างๆมารดานั่งกินวุ้นถั่วหวานและแบ่งให้หนูน้อยแพนดาหนิวหนิว หนิวหนิวตอนแรกยังไม่กล้าเธอโบกมือปฏิเสธ แต่ซวงเอ๋อยืนคะยั้นคะยอให้เธอกินด้วย หนิวหนิวมองดูจุ้ยมาวอวี้ (สาวขี้เมา)จากนั้นมองดูเย่ว์หยางพบว่าไม่มีใครเห็น เธอรีบกินวุ้นถั่วโดยเร็ว แต่ไม่กล้าทำหน้าดีใจ ซวงเอ๋อยุให้เธอกินอีก
เมื่อผู้ใหญ่มองดู หนิวหนิวจะทำเป็นเสมองท้องฟ้าบ้างมองดูผีเสื้อบ้าง
แต่ไม่มีใครปิดบังท้องฟ้าด้วยฝ่ามือได้ทุกอย่างล้วนตกอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ทั้งนั้น
ถ้าเปลี่ยนเป็นเวลาปกติแม่สี่และจุ้ยมาวอวี้ (พี่สาวขี้เมา) ก็คงจะดุว่ากล่าว แต่วันนี้ยกเว้นเป็นพิเศษ พวกนางยิ้มแล้วทำเป็นไม่เห็นเด็กน้อยซุกซนทั้งสอง
ในที่ห่างออกไปไม่ไกลลี่เยี่ยนและไห่อิงอู่กำลังดื่มกินกัน
ตามคำบอกเล่าของลี่เยี่ยนการดื่มเป็นวิธีบำบัดอาการบาดเจ็บที่ดีที่สุด...เย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่ที่ได้รับบาดเจ็บหนักกล่าวขออภัยที่ไม่สามารถรับการรักษาแบบนี้ได้ บำบัดด้วยการดื่มแบบนี้มีแต่จะเจ็บหนักและอาจถึงตายได้ ลี่เยี่ยนจึงได้แต่ดื่มกับไห่อิงอู่ราชินีสมุทรที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่ยินดีจะร่วมดื่มเป็นเพื่อนด้วย ไห่อิงอู่มีมุกฝนดาวตกเมามายสามพันปีใส่อยู่ในแก้วไม่อย่างนั้นนางไม่กล้าดื่มกับลี่เยี่ยนเป็นแน่ ที่นอนกองอยู่กับพื้นก็คือสาวเผ่าหัววัวฟ่านหลุนเถี่ยและสี่สาวเผ่ามนุษย์หมูป่า (คิวบัวร์) ต่างเมาพับกันทุกคน
“ถ้าต้องการบาดเจ็บเพิ่ม พวกเจ้าก็ดื่มเลย” ฟงชิซาและคนอื่นๆ ที่บาดเจ็บไม่มากขยาด ด้วยศักดิ์ศรีหมอของแอนนาและเย่ว์หวี่ใครจะกล้าฝ่าฝืน พวกเขาค่อยๆนอนราบอย่างระมัดระวัง
“เราไม่เป็นไร, เราไม่มีอะไรต้องรบกวน” เย่คงและองค์ชายเทียนหลัวปฏิเสธการรักษาจากเย่ว์หวี่
มีคนได้รับบาดเจ็บมากมายเย่ว์หวี่ได้ใช้พลังรักษามากเกินไป
พวกเขาสามารถช่วยสนับสนุนเพียงเท่านี้เพื่อไม่ให้นางเหน็ดเหนื่อยเกินไป
นอกจากนี้นักรบที่มุ่งมั่นรักษาตนเองได้จะมีความก้าวหน้ามากได้มากกว่านักรบที่ต้องการให้คนอื่นรักษา เย่คง องค์ชายเทียนหลัวพี่น้องตระกูลหลี่ตัดสินใจเริ่มต้นทุกอย่างทีละนิด เย่ว์หวี่ไม่คัดค้านความจริงที่ว่ายาเม็ดพลังยุทธของเย่ว์หยางแก้ปัญหานางมุ่งมั่นใช้พลังรักษาอาการกระดูกหักทั้งร่างของเสวี่ยทันหลาง และยังมีเจ้าอ้วนไห่ที่ยังไม่รู้สึกตัว
นอกจากเสียงสนทนาเบาๆแล้วก็ยังมีเสียงสะท้อนดังเป็นระยะๆ
ทั่วทั้งสวนน้อยในเวลานี้เป็นช่วงราตรีที่สงบนิ่งเหมือนกับผิวน้ำดวงจันทร์กระจ่างเต็มดวง
สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์คลี่ผ้าห่มคลุมตัวเย่ว์หยางอย่างนุ่มนวล ในการสู้รบนางไม่สามารถช่วยเย่ว์หยางได้ แต่ในการใช้ชีวิตประจำวันนางจะดูแลเย่ว์หยางเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตนาง
เย่ว์หยางคลี่ผ้าห่มคลุมให้เจ้าเมืองโล่วฮัวอย่างนุ่มนวลเขาเคลื่อนไหวอย่างแผ่วเบาแต่ก็ยังทำให้นางตื่นขึ้นอยู่ดี
นางขยี้ตาตาและมองดูเขาจากนั้นยิ้มหวานให้เขา
นางโน้มตัวไปหาเขาแล้วจูบเขาอย่างแผ่วเบา
ริมฝีปากของนางประทับจูบเขาราวกับกลัวว่าจะมีคนแย่งจูบเขานางรู้สึกมีความสุขท่วมท้นเต็มหัวใจ เสวี่ยอู๋เสียนอนหลับเหมือนกับจะรู้ว่าอยู่ในท่าที่ไม่สบายนางพลิกตัวเปลี่ยนตำแหน่งหาจุดที่สบายบนต้นขาของเย่ว์หยาง เจ้าเมืองโล่วฮัวและเย่ว์หยางต้องหยุดเพราะกลัวนางจะตื่น จากนั้นรออย่างใจเย็นเพื่อจุมพิตอย่างดูดดื่มต่อ
อู๋เหินใช้เวทห้าธาตุตรวจสอบเมื่อนางกลับมาและพบว่าสองคนกำลังแอบจูบกันอย่างดูดดื่ม นางกระแอมเบาๆ
เมื่อทั้งสองคนแยกจากกันก็มองเห็นนางแต่ไม่แสดงอาการเก้อเขินอะไร
เจ้าเมืองโล่วฮัวชวนอู๋เหินมานั่งข้างๆ
นางทำท่าชี้ริมฝีปากแดงของนางและไปทางเย่ว์หยาง
ทำท่าเหมือนบอกใบ้ให้เย่ว์หยางจูบอู๋เหิน นางยิ้มและปฏิเสธจะแสดงความรักกับเย่ว์หยางต่อหน้าทุกคนนางเป็นศรีภรรยาที่นุ่มนวลเอาใจ แต่จะเขินอายถ้าจะให้แสดงความรักต่อหน้าทุกคน
เจ้าเมืองโล่วฮัวแกล้งจูบนางโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้นางรู้สึกเขินอาย
ไม่ใช่เรื่องดีกับการเอ่ยปากวิจารณ์นาง นางได้แต่ปรายตาห้ามเจ้าเมืองโล่วฮัวนางจูบเย่ว์หยางเบาๆ และอดมองค้อนทั้งสองคนไม่ได้ เพราะเสวี่ยอู๋เสียพลิกตัวหนังสือแห่งสัจจะจึงร่วงบนไม้ดอก อู๋เหินเอื้อมมือไปหยิบและค่อยสุ่มเปิดดู และนางชม้ายมองเย่ว์หยางและกระพริบตาล้อเลียนเย่ว์หยางคล้ายจะถามว่านางคล้ายอู๋เสียไหม?
ยกเว้นทรงผมและนิสัยอารมณ์ลักษณะของนางแทบจะคล้ายกับเสวี่ยอู๋เสีย ตอนนี้พอนางถือหนังสือแห่งสัจจะเย่ว์หยางแทบจะแยกไม่ออก
เขามองจนลืมตัว
อู๋เหินไม่กล้าจูบเขาเหมือนกับเจ้าเมืองโล่วฮัวจึงได้แต่ยิ้มให้เขาเล็กน้อย
แม้ว่าเรื่องนี้จะน่าอายเกินกว่าจะให้คนอื่นพบเจอนางได้แต่ก้มหน้า ไม่มีใครสนใจทางด้านนี้ ทุกคนพักผ่อนนอนชมดูดวงดาวและพระจันทร์ยามราตรีอย่างไม่กระตือรือร้นเป่าเอ๋อที่ชอบส่งเสียงดังก็หลับไปก่อนแล้ว หลิวเย่และเซี่ยอีนอนอยู่ข้างนางและพึมพำละเมอเบาๆ ใบหน้าของพวกนางแสดงออกว่ามีความสุขสงบ
เวลาผ่านไปนานเท่าใดไม่ทราบองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็ลืมตา
นางพบว่าตัวนางเองนอนอยู่ในอ้อมอกเย่ว์หยางปล่อยให้เขากอดเหมือนเด็กน้อยนางตะลึงเล็กน้อย หลังจากดึงผ้าห่มมาคลุมตัวและพลิกเปลี่ยนท่าเล็กน้อย นางรอให้เขามองดูแม่เสือสาวพูดอย่างแง่งอนทันที “นี่..คนลามก, เจ้าทำมิดีมิร้ายอะไรหรือเปล่า?”
ถ้าเย่ว์หยางไม่ใช่คนที่มาจากโลกอื่นและไม่ได้ยินคำว่าตัวร้ายมาก่อน คาดว่าเขาคงจะต่อปากต่อคำกลับไปแล้ว
สตรีสาวเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดึงดูดใจอยู่แล้ว ถ้าเย่ว์หยางเป็นจอมลามกและต่อล้อต่อเถียงองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็คงจะโดนว่าเป็นตัวลามกอีกและคงถูกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทุบตีก็ได้ ถ้าเย่ว์หยางทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเกินไปตอบอย่างคนมากมารยาทก็คงไม่ดึงดูดความรู้สึกสนใจขององค์หญิงและคงทำให้นางผิดหวังแน่และอาจทำให้นางขุ่นเคืองไม่พอใจคิดว่าตนเองมีเสน่ห์ไม่พอ
โชคดีที่เย่ว์หยางเป็นคนกรุ้มกริ่มกะล่อนสามารถรับมือสาวๆในช่วงเวลาสำคัญ
พอเขาได้ยินแล้วก็ยิ้มตอบ
เขาหัวเราะอย่างสุภาพและตอบ “เดาได้ไหม?
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหน้าแดงจนถึงหู นางชายตามองเขาและพบว่าเขาไม่ได้อยู่ในผ้าห่มด้วย ในที่สุดนางเผยอริมฝีปากจนเห็นเขี้ยวน้อย “มาให้ข้ากัดเสียดีๆ ไม่อย่างนั้น...” นางไม่ทันได้พูดต่อเย่ว์หยางประกบปากลงที่ปากนาง ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใดองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเริ่มหายใจไม่ออกนางผละออกจากเย่ว์หยาง นางโต้เถียงเย่ว์หยาง “นี่, อย่าเข้ามาใกล้เกินระยะอีกนะ ไม่งั้นโดน”
“รับบัญชาองค์หญิง” เย่ว์หยางกลับทำตรงกันข้ามเขาเข้าอยู่ในผ้าห่มด้วย
“ข้าโกรธแล้วนะ! ข้าโกรธจริงๆ ด้วย!” เวลานี้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่เหมือนแม่เสือสาวแต่กลับดูเหมือนดรุณีที่อ่อนแอแสร้งทำแง่งอนดูมีเสน่ห์
“โอ๊ย..ข้ากลัวแล้ว” เย่ว์หยางแกล้งทำสีหน้ากลัวก็ยิ่งทำให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโกรธจนอยากจะกัดเขา