ตอนที่ 37-38 เอกเนตรแห่งสวรรค์/นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย!
[ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่เขียนบันทึกปะจำวันสำเร็จ
[อารมณ์ +2 (14/100)
[มูลค่ารูปลักษณ์+2 (14/100)
[รางวัล: เอกเนตรแห่งสวรรค์ (วิชาวิญญาณ)
[แนะนำรางวัล: ข้าเห็นสิ่งที่สวรรค์เห็น สามารถสอดแนมได้ทุกที่ในโลกชางหลิง
[หมายเหตุ: เอกเนตรแห่งสวรรค์ต้องใช้พลังจิตใจ และพลังวิญญาณจำนวนมาก ดังนั้นจึงสามารถใช้ได้วันละครั้งเท่านั้น และระยะเวลาขึ้นอยู่กับพลังจิตใจ จิตตานุภาพ และพลังวิญญาณ 】
? ? ?
“ข้าแค่บ่นเรื่องแย่ๆออกไปไม่ได้เขียนโครงเรื่องของวันนี้ด้วยซ้ำ”
“ทำไมถึงมีรางวัลให้ล่ะ”
"ไม่ใช่ว่ารางวัลจะได้เมื่อเขียนบันทึกประจำวันที่เกี่ยวข้องกับโครงเรื่องทุกวันเหรอ?"
"หรือว่าระบบสุนัขเห็นว่าข้าอารมณ์ไม่ดีเลยให้รางวัลปลอบใจ"
“หรือเห็นว่าสองวันต่อจากนี้ข้าไม่มีอะไรให้ทำ มันเลยส่งสิ่งนี้มาให้ข้าโดยเฉพาะ”
เจียงมู่รู้สึกประหลาดใจ
เขาได้รางวัลเพียงแค่เขียนเรื่องแย่ๆของนางเอกและตัวประกอบโดยไม่ได้เขียนเรื่องโครงเรื่องด้วยซ้ำ
"สอดแนมได้ทุกที่ในโลก โลกชางหลิง...?"
“บ้าเอ้ย ทำไมมันไม่โผล่มาเร็วกว่านี้”
เจียงมู่โกรธมาก
ถ้ารางวัลนี้มาเร็วกว่านี้ล่ะก็
เขาไม่ต้องวิ่งไปดูเองว่าเฮยสุยชาบิดเบี้ยวไปแล้วไหม และยังไม่ต้องถูก "สลักวิญญาณวารีทมิฬ"ของนาง
แม้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะไม่ได้ผลก็ตาม
แต่สะพานเชื่อมระหว่างพวกเขาทั้งสองได้ก่อตัวขึ้นแล้ว
เขาโยนนางลงไปเหวลึก 100 เมตร และนางคนนี้เป็นึนเจ้าคิดเจ้าแค้นเป็นอย่างมาก
สิ่งนี้จะส่งผลต่อโครงเรื่องภายหลังที่ตามมาไม่มากก็น้อย!
"เอ่อ...แต่ดูเหมือนว่าการที่ข้าพบเจอเฮยสุยชาด้วยตัวเองอาจจะดีกว่า"
"ท้ายที่สุด ถ้าข้าไม่วิ่งไปด้วยตัวเอง ข้าคงไม่ได้ดูดซับพิษวารีทมิฬของนาง คงไม่ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับยาระเบิดพิษ คงไม่ได้ใช้ยาระเบิดพิษเพื่อแอบโจมตีชาหวู่เหวิน และท้ายที่สุดก็คงไม่สามารถทำให้หลิงอ่าวเทียนสู้ชาหวู่เหวินกลับได้ จนอาจทำให้โครงเรื่องเละเทะ"
“อืม เอกเนตรแห่งสวรรค์นี่มีผลยังไง?”
"ลองดู!"
เนื่องจากการใช้เอกเนตรแห่งสวรรค์ มันต้องใช้พลังจิต จิตตานุภาพ และพลังวิญญาณจำนวนมาก
เจียงมู่จึงนอนลงบนเตียงและหลับตา
คิดในใจ:
"เอกเนตรแห่งสวรรค์!"
ทันที
เจียงมู่รู้สึกถึงความว่างเปล่า
ราวกับอยู่ในความมืด วิญญาณของเขาล่องลอยออกไป
ภาพที่เขามองเห็นคือการมองลงไปยังโลกเบื้องล่าง
เมื่อภาพนั้นค่อย ๆ ปรากฏขึ้น.
โครงร่างของโลกด้านล่างค่อยๆ โผล่ออกมาจากความมืด
ในที่สุด แผนที่ของ โลกชางหลิง ก็ปรากฏขึ้นในสายตาของ เจียงมู่
"ว้าว!"
"ที่จริงแล้วเทือกเขาสัตว์ปีศาจเป็นอย่างนี้เอง มันยิ่งใหญ่จริงๆ!"
ด้านล่างการมองเห็นของเขาคือเทือกเขาสัตว์ปีศาจ
มันเหมือนกับมังกรยักษ์โบราณหลายสิบตัวนอนเคียงข้างกัน มีหุบเขาลึก แอ่งน้ำ มียอดเขาที่สูงจนทะลุเมฆจำนวนนับไม่ถ้วนและมีพื้นที่กว้างขวางจนยากที่จะมองเห็นทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว
ทางตอนเหนือของเทือกเขาสัตว์ปีศาจคือดินแดนทางใต้ ดินแดนทางใต้ตั้งอยู่ในหลี่โจว[1.1]ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปเก้าแคว้น[1.2]ทั้งหมด
ทางตอนใต้ของเทือกเขาสัตว์ปีศาจคืออาณาจักรปีศาจชายแดนใต้[2] ซึ่งเป็นสวรรค์สำหรับเผ่าปีศาจ
เมื่อวานนี้ ชาหวูเหวินหนีกลับไปที่ชายแดนใต้พร้อมกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก
อาจกล่าวได้ว่าเทือกเขาสัตว์ปีศาจซึ่งทอดยาวหลายหมื่นลี้เป็นเส้นแบ่งเล็ก ๆ ระหว่างทวีปเก้าแคว้นและอาณาจักรปีศาจชายแดนใต้
และเมื่อสามปีก่อน ในเทือกเขาสัตว์ปีศาจแห่งนี้ นิกายหวู่โหยวได้ต่อต้านการรุกรานของปีศาจจากชายแดนใต้
เจียงมู่ลดการมองเห็นลง
ภาพด้านล่างถูกขยายออก
ภูเขาและป่าไม้สีเขียวขจี น้ำตก ลำธารและทะเลสาบ นกและสัตว์ต่าง ๆ เขาสามารถมองเห็นพวกมันได้อย่างชัดเจน
"เป็นทักษะสอดแนมที่สะดวกจริงๆ!"
เจียง มู่เพียงลองปรับเปลี่ยนการมองเห็นของเขา ขยับไปข้างขวาที ขยับไปปทางซ้ายที
ในขณะที่เพลิดเพลินกับทิวทัศน์
นอกจากนี้ เขายังมองเห็นการต่อสู้ระหว่างผู้ฝึกตนมนุษย์กับสัตว์ปีศาจ
ในสายตาของเขา
บนพื้นที่รกร้างแห่งหนึ่ง ผู้ฝึกตนชายและหญิงหลายตนกำลังปิดล้อมและสังหารราชาหมาป่า และการต่อสู้ก็ดุเดือดมาก
ที่ริมฝั่งแม่น้ำสายหนึ่ง ผู้ฝึกตนชายและหญิงหลายคนกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดเพื่อบังคับหมูแปดขาให้ขึ้นฝั่งอย่างดุเดือด
บนภูเขาแห่งหนึ่ง ผู้ฝึกตนชายและหญิงสองสามคนกำลังใช้คาถาระยะไกลเพื่อโจมตีฝูงสิงโต และการต่อสู้ก็เป็นไปอย่างดุเดือด
ในป่าแห่งหนึ่ง มีผู้ฝึกตนชายหญิง2คน เสื้อผ้าหลุดรุ่ยนอนทับกันอยู่...การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด
"ไอ้ตัวดี ขาวจัง... เฮ้ ระวัง! มีหมาในสี่ตาอยู่ในพงหญ้า... อย่านะ!”
ร่างกายส่วนล่างของเจียงมู่แน่นขึ้น
ฉากนองเลือดนี้แทบจะทำให้เขาต้องปีดการใช้งานเนตรสวรรค์
เขารีบเลื่อนสายตาออกไปดูอย่างอื่น
“หือ? เสวี่ยเมิ่งหาน ยังไม่กลับไปที่เรือเหาะของนางอีกเหรอ?”
เจียงมู่ตกตะลึงและเห็นว่า เสวี่ยเมิ่งหานซึ่งสวมชุดยาวสีเขียวมรกตกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ แขนของเขาโบกไปมาในอากาศ
“มือนางกระตุกเหรอ?”
ฉากนี้ทำให้เจียงมู่รู้สึกตลกเล็กน้อย
ในเวลานี้เอง มีกลุ่มคนเดินเข้ามาสายตาของเขาและมาหยุดอยู่ด้านหน้าเสวี่ยเมิ่งหานอย่างเรียบร้อย
[1.1] หลี่โจว หมายถึง แคว้นหลี่
[1.2] เปลี่ยนจาก ทวีปเก้ารัฐ เป็น ทวีปเก้าแคว้น
[2] เปลี่ยนจาก ชายแดนปีศาจใต้ เป็น อาณาจักรปีศาจชายแดนใต้
-------------------------------------
38
เมื่อมองไปที่เครื่องแต่งกายของพวกเขา เขาก็รู้ได้ทันทีว่ามันคือผู้คุ้มกันของคฤหาสน์เจ้าเมือง
"ไม่มีเสียงเหรอ?"
“ข้าไม่รู้ว่าข้าจะได้ยินเสียงที่พวกนั้นพูดกันไหม...”
เพียงแค่นึก เสียงของคนที่เขามองเห็นก็ดังเข้าสู่ในความคิด
"โอ้! แม้แต่เสียงก็ได้ยิน"
เจียงมู่ รู้สึกประทับใจกับเอกเนตรสวรรค์นี้มาก
เขาฟังอย่างอยากรู้อยากเห็น สงสัยว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไรกัน
..
"คุณหนู ความจริงที่ท่านแอบไปหาประมุขเจียง เจ้าเมืองรู้แล้ว"
“เจ้าเมืองเป็นห่วงท่านมากและสั่งให้พวกเรามารับท่านกลับ”
หนึ่งในนั้นซึ่งดูเหมือนหัวหน้าหน่วยคุ้มกั้นกุมหมัดรอการตอบกลับของเสวี่ยเมิ่งหาน
“อือ ขอบใจที่ทำงานหนัก ไปกันเถอะ”
เสวี่ยเมิ่งหานยืนขึ้นนำกลุ่มผู้คุ้มกัน
เดินไปที่เรือเหาะของคฤหาสน์เจ้าเมือง
..
"ปรากฎว่านางแอบออกมาและถูกพ่อจับได้"
จากนั้น เจียงมู่ก็เลื่อนสายตาเพื่อค้นหาว่า หลิงอ่าวเทียน อยู่ที่ไหน
"วันที่สี่ของฤดูล่าสัตว์"
"ในโครงเรื่องเดิม หลิงอ่าวเทียนควรพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บในถ้ำหน้าผา"
ขณะหน้าจอหมุน หน้าผาสูงชันปรากฏขึ้นในสายตาของเขา
เจียงมู่เพ่งสมาธิและพยายามดูว่าเขาสามารถมองเห็นผ่านดินได้หรือไม่
มันทำได้
ภายในภาพ
โลลิตัวน้อยในชุดสีดำ กำลังทุบตีชายหนุ่มในชุดดำที่นอนบนพื้นอย่างดุเดือด
การกระทำของโลลิต้าน้อยนั้นโหดร้ายเป็นอย่างยิ่ง
และชายหนุ่มในชุดดำกำลังนอนขดตัวกุมหัวอยู่ที่พื้น กระอักเลือดออกจากปาก
ดูเหมือนว่าเขากำลังจะตาย
"นี้??"
“บ้าอะไรกัน!!”
"เฮยสุยชากำลังทุบตีลูกศิษย์ตัวเองเหรอ?"
“เจ้าสองคนไม่ได้มีความเกลียดชังต่อกันไม่ใช่เหรอ!!”
“นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย?!!!”
หนังศีรษะของ เจียงมู่รู้สึกเสียวซ่าทันที
..
"อาจารย์...อาจารย์...ท่านเป็นอะไรไป!"
หลิงอ่าวเทียนร้องอู้อี้ด้วยความเจ็บปวด
ขณะที่เขานั่งสมาธิและดูดซับยาโอสถเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ
ทันใดนั้น เฮยสุยชา อาจารย์ของเขาก็ปรากฏตัวขึ้น
นางไม่พูดอะไรและทุบตีเขาทันที
ดวงตาของนางสื่อ.. ราวกับว่าเขาเป็นหนี้ชีวิตของนาง!
นางทุบตีเขาจนเกือบตาย
“ไม่มีอะไร เทพองค์นี้เห็นว่าเจ้าขี้เกียจ เลยสั่งสอนซักหน่อย”
เฮยสุยชากล่าวอย่างเย็นชา
จากนั้นรูปร่างของนางก็เปลี่ยนไป ร่างกายของนางกลายเป็นเมฆหมอกสีดำ และเข้าไปในแหวนของหลิงอ่าวเทียนดั่งเดิม
คำเตือน:
“อย่ามายุ่งกับข้าจนกว่าจะจบฤดูล่าลัตว์”
..
"เชี่ย!"
“เกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับศิษย์!”
เจียงมู่ตกใจมากจนหายใจไม่ออก
ตามการออกแบบตัวละครความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ถ้าไม่คลุมเครือก็ยังกลมกลืนกันมาก!
ทำไมตอนเฮยสุยชากำลังทุบตีหลิงอ่าวเทียน.. ราวกับว่านางต้องการที่จะฆ่าเขา?
"มัน...เชี่ย...โคตร!"
“งง..งง..งงไปหมดแล้ว”
“อย่างงั้น แล้วนางโรคจิตนั่นล่ะ”
จู่ๆ เจียงมู่ก็นึกถึงฮั่นอวี้ฉิง
ด้วยเหตุผลบางอย่างเขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอยู่ในใจ
“ตอนนี้นางกำลังทำอะไรอยู่?”
"ด้วยขอบเขตทะเลปราณขั้นที่เก้า นางเกือบจะสามารถวิ่งเล่นบริเวณรอบนอกของเทือกเขาสัตว์ปีศาจได้"
“แต่รู้สึกเหมือนว่านางไม่ได้มาที่นี่เพื่อล่าสัตว์ปีศาจ อาจจะเป็นการล่าแกนปีศาจหรือเปล่า”
"แต่หลังจากที่นางแต่งงานกับข้า ครึ่งหนึ่งของนิกายหวู่โหยวจะเป็นของนาง"
“แล้วนางจะทำไปทำไม?”
“ไม่ ข้าต้องดูนาง!”
ดังนั้น เจียงมู่จึงเปลี่ยนภาพ
เขาพบถ้ำที่เขาและฮั่นอวี้ฉิง ใช้เวลาเมื่อคืนก่อนอย่างรวดเร็ว
เมื่อมองผ่านชั้นดินเข้าไปจะเห็นว่าในถ้ำไม่มีใครอยู่
ภายในมีเพียงกระดูกขาหลังขนาดใหญ่สองอันของสัตว์ปีศาจและอุปกรณ์ย่างเหล็ก
“ดูเหมือนนางจะออกไปแล้วนะ”
“แล้วนางจะไปไหน”
“กำลังตามหาเสวี่ยเมิ่งหานอยู่หรือเปล่า?”
อย่างกะทันหัน
เจียงมู่รู้สึกไม่สบายและเวียนหัว
“บ้าเอ้ย ทำไมระยะเวลาของเอกเนตรสวรรค์ถึงสั้นนัก?”
เห็นได้ชัดว่านี่คือสาเหตุของใช้พลังจิตมากเกินไป
และพลังวิญญาณก็ถูกใช้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
เขาอดทนต่ออาการเวียนหัว เขาเปลี่ยนการมองไปยังทิศทางของเรือเหาะของคฤหาสน์เจ้าเมือง
ในที่สุด
ภายในสายตาของเขาก็ปรากฏ หญิงสาวผู้งดงามในชุดทะเลสีน้ำเงินปรากฏขึ้น
ผู้หญิงคนนี้คือฮั่นอวี้ฉิง
นางถือกริชไว้ในมือมีท่าทางเคร่งขรึม กำลังระมัดระวังผู้หญิงที่ดูหยิ่งผยองต่อหน้านาง
สว่นหญิงสาวข้างหน้านางสวมกระโปรงสั้นรัดรูป ถือกระบี่บงกช ใบหน้าที่สวยงามของนางถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็ง
"นี่ไม่ใชติงหนานหรงเหรอ!"
"ไอ้เวร!"
"ติงหนานหลง แม่บ้านชรา นางจะยืนตรงข้ามกับฮั่นอวี้ฉิงได้อย่างไร!"
“ใบหน้าของนางดูเย็นชา นางกำลังพยายามจะทำอะไร!”
“นางกำลังจะฆ่าฮั่นอวี้ฉิงเหรอ!”
เจียง มู่ รู้สึกเย็นวาบตั้งแต่ปลายเท้าไปจนถึงหัว ราวกับตกลงไปในหุบเขาน้ำแข็ง
เขารู้ว่าติงหนานหรงกำลังทำอะไร
ถ้าดูจากบริบทแล้ว
นางกำลังจะ...ฆ่า ฮั่นอวี้ฉิงใช่ไหม? !
ทำไม! !
“ให้ตายเถอะ ข้าต้องรีบหยุดพวกนาง!”
เจียงมู่ปิดการใช้งานเอกเนตรสวรรค์และรีบกระโดดลงจากเตียง
หลังจากเปิดประตู
ตรงดิ่งยังที่ที่หญิงสองนางนั้นอยู่