ตอนที่แล้วตอนที่ 33 พี่ชายที่ออกมาจากห้องประเมิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 35 อนาคตเปลี่ยนแปลงได้!

ตอนที่ 34 สัตว์ประหลาด!


ตอนที่ 34 สัตว์ประหลาด!

ลู่ชิงเหอและทั้งสองรีบทักทายหญิงสาวร่างสูงที่มีแถบคาดผมสีม่วงที่กำลังเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว "พี่หยางเยว่เป็นยังไงบ้าง? ผ่านไหม!? "

ทันทีที่พบกัน ลู่ชิงเหอก็แทบรอไม่ไหวที่จะถาม ใบหน้าเล็กๆ ที่สวยงามของเธอเต็มไปด้วยความคาดหวัง เพราะว่าหยางเยว่เป็นคนที่ลู่ชิงเหอชื่นชมมากที่สุดในโรงเรียน เธอเป็นนักเรียนหัวกระทิของโรงเรียนมัธยมไป๋เหอที่ 1 อัจฉริยะอายุ 18 ปีที่มีค่าปราณโลหิตและพลังยุทธ์ถึงมาตรฐานของจอมยุทธ์ระดับ 1 และยังเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่สุดในชมรมศิลปะการต่อสู้

ใบหน้าของเฟิงฟานฟานและซูนั่วก็เต็มไปด้วยความคาดหวังราวกับว่าการผ่านการประเมินจอมยุทธ์ของหยางเยว่นั้นเป็นเรื่องสําคัญของพวกเธอเอง

สีหน้าของหยางเยว่แปลกไปเล็กน้อยมันซับซ้อนจนอธิบายไม่ได้ "ค่อยพูดถึงมัน ตอนนี้มีบางอย่างเกิดขึ้นทำให้การประเมินถูกยกเลิกกลางคันและฉันคิดว่าจะเริ่มประเมินอีกรอบในช่วงบ่าย" หยางเยว่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

"ฮ่ะ?"

ลู่ชิงเหอและทั้งสองตกใจและถามอย่างรวดเร็ว "เกิดเรื่องอะไรขึ้น!? มันสามารถบังคับให้การประเมินถูกยกเลิกได้เลยหรอ! "

หยางเยว่ยิ้มอย่างขมขื่นและพูด "มันเป็นสัตว์ประหลาด อัจฉริยะระดับสัตว์ประหลาด... เจ้าหน้าที่ประเมินถึงกับทิ้งเราและวิ่งหนีออกไปกลางคันในขณะประเมิน แบบนี้การประเมินจะไม่ถูกยกเลิกหรอ?"

"อัจฉริยะ...สัตว์ประหลาด" ลู่ชิงเหอและทั้งสองพึมพัมอย่างสับสน

หยางเยว่ถอนหายใจและพูดด้วยสายตาที่ซับซ้อน "จริงๆแล้วเป็นเพราะผู้ชายคนหนึ่งซึ่งน่าจะอายุเท่ากันกับฉันหรืออาจจะน้อยกว่าฉันเล็กน้อย ในช่วงประเมินเขาทดสอบค่าปราณโลหิตได้ 15.7 และยังมีพลังยุทธ์มากกว่า 15,700 ...พวกเธอคิดว่ามันน่ากลัวไหม!? ฉันเคยคิดเสมอว่าฉันคืออัจฉริยะ แต่จนกระทั่งฉันได้พบกับผู้ชายคนนั้น..."

หยางเยว่ถอนหายใจ "ฉันก็ได้รับรู้ว่าอัจฉริยะที่แท้จริงเป็นเช่นไร..."

หลังจากฟังคําพูดของหยางเยว่ปากเล็กๆของทั้งสามก็เปิดกว้าง พวกเธอตกใจจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมา

อายุเท่าพี่หยางเยว่ แต่มีค่าปราณโลหิตอยู่ที่ 15.7... แถมพลังยุทธ์มากกว่า 15,700 ...

มีคนเช่นนี้บนโลกนี้ด้วยหรือ?

บุคคลดังกล่าวยังถือว่าเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่? ในที่สุดพวกเธอก็รู้ว่าทําไมการประเมินจอมยุทธ์ถึงถูกยกเลิกกลางคัน

มีสัตว์ประหลาดเช่นนี้ในการประเมินจอมยุทธ์คาดว่าสมาคมจอมยุทธ์ทั้งหมดจะตื่นตระหนกจนเป็นข่าวเช้าวันพรุ่งนี้แน่นอน!

"พี่หยางเยว่..."

ทันใดนั้น เฟิงฟานฟานก็รู้สึกตัวและถามอย่างใคร่รู้ "คนนี้ชื่ออะไร รุ่นพี่รู้จักไหม"

จู่ๆ ลู่ชิงเหอและซูนั่วก็หูผึ่งทันทีและจ้องมองหยางเยว่อย่างสนใจ หยางเยว่พยักหน้าและบอกชื่อ

"ลู่เซิง!"

"ผู้ชายคนนั้นชื่อลู่เซิง ฉันมีโอกาสจะได้รู้จักเขา แต่ฉันกลับตอบสนองช้าเกินไปเพราะตกใจ และพลาดโอกาสที่จะได้รู้จักกับชายคนนี้ คราวหน้าฉันไม่รู้ว่าจะได้พบกันอีกไหม..." หยางเยว่ถอนหายใจยาวด้วยความเสียใจ

ขณะที่พูดเธอก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติและเธอสังเกตเห็นว่าสีหน้าของทั้งสามคนแปลกมาก โดยเฉพาะลู่ชิงเหอที่ยืนนิ่งเหมือนคนโง่

หยางเยว่กะพริบตาและกําลังจะถาม แต่เธอก็ได้ยินประโยคหนึ่งลอยออกมาจากปากของซูนั่วอย่างอ่อนแรง

"ชิงเหอ พี่ชายเธอชื่อลู่เซิงไม่ใช่เหรอ? และเขาเพิ่งเดินออกจากห้องประเมินจอมยุทธ์..."

ในเวลานี้เป็นคราวที่หยางเยว่ต้องตกตะลึง

........

ลู่เซิงเดินกลับบ้านตลอดทางและเขารู้สึกหิวเล็กน้อยจึงแวะซื้อซาลาเปาหมูมาสิบลูกระหว่างทางและเดินกินไปแบบชิวๆ

เมื่อเขากําลังจะถึงประตูของชุมชน ลู่เซิงก็เห็นกลุ่มคนมากมายวิ่งข้ามถนนไปต่อหน้าเขา

ลู่เซิงมองเสื้อผ้าของคนเหล่านี้ที่ดูคุ้นเคยเล็กน้อยและหลังจากคิดสักพัก เขาก็จําได้ว่าเขาเหมือนจะเคยเห็นมันในสำนักยุทธ์หงฉวน

ป้าๆลุงๆหลายคนยืนอยู่ที่ทางเข้าชุมชนและพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น

"อะไรๆ มีเรื่องอะไรกันหรอ?"

"ฉันได้ยินมาว่าสำนักยุทธ์หงฉวนกําลังตามหาใครบางคนและก่อนหน้านี้ฉันจำได้ว่าเห็นพวกเขาเข้าไปชุมชนใกล้เคียงมาหลายแห่ง"

"ใครกันที่ทำให้สำนักยุทธ์หงฉวนวุ่นวายขนาดนี้? ช่างโชคร้ายจริงๆ ฉันกลัวว่าคนๆนั้นจะต้องโดนหักขาหากถูกตามเจอตัว..."

"อย่างว่าจอมยุทธ์พวกนี้มันดุร้าย!"

ลู่เซิงฟังอย่างไม่ใส่ใจ เขาเคยไปสำนักยุทธ์หงฉวนเพียงไม่กี่ครั้ง ดังนั้นไม่สำคัญว่าอีกฝ่ายจะตามหาใครเพราะมันไม่ใช่เรื่องของเขาอยู่แล้ว..

เมื่อกลับถึงบ้าน ซาลาเปาลูกสุดท้ายก็หมดพอดี

ลู่เซิงที่ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนจึงถือโอกาศนี้นอนลงบนโซฟาเพื่องีบสักพัก

"กริ๊ง~" โทรศัพท์ดังขึ้น ลู่เซิงหยิบขึ้นมาพบว่าเป็นสายจากห้องโถงซิงซาน เขาก็ตัดสายทันที

แม้ว่าซุปยาโลหิตเสริมกล้ามเนื้อใกล้จะหมดแล้ว ลู่เซิงก็ไม่ได้ตื่นตระหนก อีกฝ่ายตามหาเขาอย่างลนลานแสดงว่าต้องการตกลงอะไรบางอย่าง

ส่วนอะไรที่ว่านั่น... ลู่เซิงเดาว่ามันเกี่ยวข้องกับซุปยาโลหิตเสริมกล้ามเนื้อ เขาจําได้ว่าเพราะรีบร้อนเกินไปจึงลืมล้างขวดยา

และคงเป็นน้ำที่หลงเหลืออยู่ในขวดที่ทําให้อีกฝ่ายค้นพบบางอย่าง ซึ่งนี้ก็เป็นเหตุผลว่าทําไมอีกฝ่ายถึงตามหาเขา

เมื่อลู่เซิงเอาซุปยาโลหิตเสริมกล้ามเนื้อออกมา เขาก็วางแผนไว้ในใจแล้ว

การฝึกศิลปะการต่อสู้ของเขาต้องใช้เงินจํานวนมากและเมื่อแข็งแกร่งขึ้น เขายิ่งต้องใช้เงินมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนจะหาเงินจำนวนมากมาจากไหน...แน่นอนว่าต้องเป็นสูตรยาในหัวของเขา

หากลู่เซิงขายสูตรยาใดๆในอนาคต เขาสามารถรวยในชั่วข้ามคืนได้อย่างง่ายดาย แต่จะนํามันไปขายให้ใคร... เขายังต้องพิจารณา

ไม่ว่าห้องโถงซิงซานจะมีคุณสมบัตินี้หรือไม่...และจะคู่ควรกับสูตรยาของเขาหรือไม่ ลู่เซิงยังคงต้องคิดอย่างรอบคอบ

สําหรับตอนนี้ ลู่เซิงอยากตรวจสอบความสงสัยที่ฝังอยู่ในหัวของเขามาโดยตลอด

เรื่องนี้มีความสําคัญมาก..มันเกี่ยวข้องกับเส้นทางศิลปะการต่อสู้ที่เขาจะเลือกเดินไปในอนาคต

4.5 2 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด