ตอนที่ 21-9 ห้าพันปีต่อมา
“ทดลอง?” ลินลี่ย์จำได้ทันทีว่าประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างได้รับเลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มากกว่าครึ่งหนึ่งจากเบรุต
“แหล่งพลังของอสูรศักดิ์สิทธิ์มาจากเลือดบริสุทธิ์” เบรุตส่ายศีรษะ “อย่างไรก็ตามการใช้ทักษะเทพธรรมชาติไม่เพียงแต่จำเป็นต้องอาศัยการสืบเชื้อสายเท่านั้นแต่รวมถึงพลังวิญญาณด้วย!”
“อย่างไรก็ตามความไม่เหมือนใครของวิญญาณก็เกิดจากสายเลือดเช่นกัน” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว “เป็นเพราะสมาชิกของตระกูลข้ามีเชื้อสายของอสูรศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจึงมีพลังวิญญาณที่พิเศษเช่นกัน นอกจากนี้ข้าเองก็ซึมซับเลือดบริสุทธิ์ไว้หยดหนึ่งเช่นกันนี่ทำให้พลังของทักษะเทพธรรมชาติของข้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก”
“นั่นเป็นเพราะเจ้าเป็นลูกหลานของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์” เบรุตหัวเราะอย่างเยือกเย็น “เอาละ, คุยกันพอสมควรแล้ว เรื่องที่ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างและไม่ว่าเขาจะค้นคว้าสุดยอดไม้ตายของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ได้สำเร็จหรือไม่ นั่นไม่มีอะไรเกี่ยวกับเราทั้งสองคนเท่าใดนัก เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราก็คือประมุขมหาเทพแห่งแสง ออกุสตา!”
“ศัตรูของเราไม่ใช่ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้าง” บลูไฟร์หัวเราะเช่นกัน
“ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้าง? พลังของประมุขมหาเทพของสี่วิถีนั้นยากจะหยั่งถึง” เบรุตถอนหายใจ
“ปู่เบรุต! ท่านคิดว่ามหาเทพคนไหนทรงพลังมากที่สุด?” ลินลี่ย์สงสัยเกี่ยวกับประมุขมหาเทพสี่วิถีเช่นกัน
“นั่นยากจะบอกได้! ในแง่ปณิธาน ควรจะเป็นประมหาเทพวิถีชะตา!” เบรุตพูดพลางขมวดคิ้ว “อย่างไรก็ตามสมบัติจอมเทพที่ประมุขมหาเทพวิถีชะตาใช้เป็นสมบัติจอมเทพประเภทปกป้องวิญญาณไม่ใช่อาวุธ และในแง่พลังโจมตีบางทีเขาอาจอ่อนกว่าประมุขมหาเทพของอีกสามวิถีก็ได้”
ลินลี่ย์ประหลาดใจ
เขาไม่เลือกสมบัติจอมเทพประเภทอาวุธหรือ? ประมุขมหาเทพวิถีชะตาไม่เหมือนใครจริงๆ
“ประมุขมหาเทพวิถีชะตาไม่เคยยุ่งเกี่ยวเรื่องทางโลก และมักจะให้ความสนใจกับการพัฒนาสุดยอดไม้ตาย เป็นไปได้ว่าเขารู้สึกว่าเขาไม่จำเป็นต้องมีอาวุธจอมเทพแค่นั้นเขาก็แข็งแกร่งเพียงพอแล้ว” เบรุตหัวเราะอย่างเยือกเย็น “ตอนนี้ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างกำลังพัฒนาสุดยอดไม้ตายเกี่ยวกับเลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ จริงสิ,ลินลี่ย์..เจ้าเป็นสมาชิกคนหนึ่งของเผ่ามังกรฟ้า บางทีเจ้าอาจสามารถพัฒนาบางอย่างจากเลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ได้”
ขณะที่เขาพูดเบรุตโบกมือและปรากฏขวดสีฟ้าเล็กๆ สี่ใบ
“ทั้งสี่ขวดนี้แต่ละขวดจะบรรจุเลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์81 หยด” เบรุตกล่าว “นี่เป็นประมาณหนึ่งในสี่ของเลือดบริสุทธิ์ที่สี่อสูรศักดิ์สิทธิ์มี
เลือดบริสุทธิ์ก็คือแก่นของโลหิตที่ถูกกลั่นแม้ว่าอสูรศักดิ์สิทธิ์จะมีขนาดมหึมา แต่อย่างมากก็มีราวๆ สามร้อยหยด ซึ่งนับว่าน่าอัศจรรย์แล้วทุกหยดแฝงไว้ด้วยพลังที่น่ากลัว ถ้าไม่อย่างนั้นลินลี่ย์คงไม่มีพลังมากขนาดนั้น หลังจากใช้ไปหยดเดียวจะเสริมพลังร่างกายเขาได้มากจนสามารถต้านรับพลังโจมตีจากอสูรเจ็ดดาวทั่วไปได้
“ปู่เบรุต...” ลินลี่ย์ประหลาดใจเล็กน้อย
“เดิมทีข้าให้ประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างไปครึ่งหนึ่งและข้าใช้บางส่วนเก็บไว้ทดลองเองซึ่งเหลือเพียงราวๆ ร้อยหยด เจ้ารับไปได้แต่ละขวดมีราวๆ 81 หยด ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถพัฒนาสุดยอดไม้ตายของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ ด้วยพลังจิตของเจ้าถ้าเจ้าสามารถใช้พัฒนาได้..เจ้าจะมีโอการท้าทายประมุขมหาเทพของวิถีทั้งสี่ก็ได้” เบรุตยิ้ม
สี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เมื่อผสานพลังของพวกเขาในฐานมหาเทพน้อยยังสามารถรวมพลังพวกเขาหลอมรวมเข้าใจทักษะเทพธรรมชาติสามารถคุกคามได้แม้แต่ประมุขมหาเทพ
พื้นฐานของลินลี่ย์ยิ่งใหญ่เหนือกว่ามาก เมื่อเทียบกับสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์
“ก็ได้ ข้าจะรับไว้ แต่ข้าไม่มั่นใจว่าจะสามารถพัฒนาเป็นสุดยอดไม้ตายได้” ลินลี่ย์กล่าวแต่ในใจของเขาลินลี่ย์คาดหวังอยู่เล็กน้อย
บางทีเขาอาจจะพัฒนาขึ้นมาก็ได้
“ลินลี่ย์! กระบวนการฝึกฝนของเจ้าเป็นยังไงบ้าง?” เบรุตถาม
“ข้า..ในการหลอมรวมเคล็ดลึกลับต่างกฎสายธาตุ ข้าเพิ่งไปได้ก้าวเดียวแต่ความก้าวหน้าครั้งนี้เป็นเรื่องยากจริงๆ” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะและหัวเราะอย่างจนใจ
“เอาอย่างนี้เป็นไง?” เบรุตหัวเราะ จากนั้นพูดให้กำลังใจ “เท่าที่ข้าเห็น ดีที่สุดเจ้าควรรีบไปสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์เป็นของเจ้าเอง ขั้นตอนการสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์จะทำให้เจ้าได้รับการรู้แจ้งหลายอย่าง”
“การสร้างโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์จะต้องใช้เวลานาน เจ้าอาจมีการรู้แจ้งความรู้ใหม่ได้อีกมากมายก็ได้” บลูไฟร์หัวเราะเช่นกัน
ที่สำคัญลินลี่ย์ฝึกมาเพียงสามร้อยปีหลังจากกลายเป็นมหาเทพ
จะต้องใช้เวลามากมายกับการสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์แต่ละแห่ง
“คงจะต้องใช้เวลานานมากเพราะข้าตั้งใจจะสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์สองแห่งพร้อมกัน” ลินลี่ย์ยิ้ม
“พิภพศักดิ์สิทธิ์สองแห่ง?” เบรุตและบลูไฟร์ตกใจทั้งคู่
ประมุขเผ่าตระกูลทั้งสี่ของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์พักอยู่ในปราสาทเลือดมังกรหลายเดือนและจากนั้นหลังจากเมื่อลินลี่ย์รับปากจะแก้แค้นให้ถ้าเขาทำได้อีกครั้งหนึ่งพวกเขาจึงไปจากพิภพยูลานและกลับไปยังแดนนรก ขณะที่ลินลี่ย์เอง เขาพูดกับเดเลียและบีบีสองสามเรื่องจากนั้นจึงไปสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์
เขาปล่อยร่างหลักของเขาให้เน้นอยู่กับการวิเคราะห์เลือดบริสุทธิ์ของสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์
ร่างหลักของลินลี่ย์เป็นร่างที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาร่างทั้งห้า และยังมีเชื้อสายของมังกรฟ้า ดังนั้นจึงค่อนข้างเหมาะสมที่อาศัยร่างหลักของเขาทำการค้นคว้า
ขณะที่ร่างแยกที่ทรงพลังทั้งสี่ของลินลี่ย์ออกจากพิภพยูลานเข้าสู่มิติปั่นป่วน
ภายในมิติปั่นป่วนที่กว้างใหญ่ไพศาลกระแสพลังงานปั่นป่วนทั้งหมุนวนและระเบิดงดงามเหมือนกับพลุไฟ
ลินลี่ย์เองยืนนิ่งกับที่ภายในกระแสปั่นป่วน ห่างจากพิภพยูลานสองสามพันกิโลเมตร
“ลินลี่ย์! การสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์พร้อมกันสองที่เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน” เบรุตหัวเราะ “เราจะต้องคอยดูและเรียนรู้ไปด้วยแน่นอน”
“ข้าเองยังไม่เคยสร้างโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์เลย” บลูไฟร์หัวเราะเช่นกัน
แม้ว่าทั้งสามจะผ่อนคลายกันมากแต่เบรุตและบลูไฟร์จะส่งสำนึกมหาเทพออกไปตรวจดู เพื่อที่ว่ามีศัตรูใดใกล้เข้ามาพวกเขาจะรู้ตัวและสามารถหนีเข้าพิภพยูลานได้ทันที
“ดีละ ข้าพร้อมจะเริ่มแล้ว”
ทันใดนั้นร่างของลินลี่ย์แยกเป็นสอง ลินลี่ย์ชุดเหลืองน้ำตาลและลินลี่ย์ชุดสีฟ้าในตอนนี้ยืนเคียงไหล่กัน ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองของเขาได้แก่ร่างแยกธาตุดินและร่างแยกธาตุน้ำ
เมื่อเห็นเช่นนี้ทั้งเบรุตและบลูเงียบทั้งคู่และมองดูเงียบๆ
“ครืนนน...” กระแสของเหลวธาตุดินเริ่มม้วนตัวอยู่รอบร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ธาตุดินของลินลี่ย์ ขณะเดียวกัน กระแสของเหลวสีฟ้าม้วนโคจรอยู่รอบร่างแยกธาตุน้ำของลินลี่ย์ ขณะที่เวลาผ่านไปกระแสของเหลวทั้งสองเริ่มหนาขึ้นและหนามากขึ้นทุกทีขณะที่ปริมาณของพลังมหาเทพก็เพิ่มมากขึ้นทุกที
พลังสำหรับสร้างโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่สวรรค์ประทานให้กับมหาเทพ
ทุกคนผู้หลอมรวมเข้ากับประกายมหาเทพและกลายเป็นมหาเทพจะรู้ว่าตราบเท่าที่พวกเขากระตุ้นการทำงานของกฎธรรมชาติที่แฝงอยู่ในประกายมหาเทพ พวกเขาจะสามารถสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์ได้ พลังเทพแบบนี้ไม่ใช่สิ่งใครๆจะได้มาโดยผ่านการฝึกฝน แต่เป็นพลังที่ตกทอดผ่านประกายมหาเทพ ต้องบอกว่าเป็นสวรรค์ประทานมาให้
กระบวนการสร้างไม่จำเป็นต้องให้มหาเทพไตร่ตรองอย่างฝืนทนและเหน็ดเหนื่อย มหาเทพแค่ปล่อยให้วิญญาณของเขาพิจารณาถึงกระบวนการสร้าง
การสร้างโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์แห่งเดียวก็เหมือนกับการเข้าสมาธิอาจเกิดผลให้มีการรู้แจ้งได้!
ลักษณะคุณสมบัติประกายมหาเทพจะมีความแตกต่างกันไปเป็นธรรมดา
ลินลี่ย์มีประกายเทพสองรูปแบบ เขาตัดสินใจสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์สองแห่งพร้อมกัน
ขณะนั้นเองร่างมหาเทพทั้งสองของลินลี่ย์แยกห่างจากกันพันกิโลเมตร
“การสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์สร้างความเหน็ดเหนื่อยอย่างแท้จริง กระบวนการรวบรวมพลังมหาเทพให้เพียงพออย่างเดียวก็กินเวลาหลายร้อยปี” ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ ขณะนั้นกระแสของพลังที่หมุนวนรอบร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ของลินลี่ย์ได้กลายเป็นแม่น้ำสองสายที่กว้างใหญ่ เหมือนกับงูน้ำยักษ์สองตัวยาวหมื่นเมตรหมุนรอบกันเอง
ในที่สุดลินลี่ย์ก็เริ่มกระตุ้น
หลังจากผ่านไปหลายร้อยปีในที่สุดเขาก็รวบรวมพลังมหาเทพจากทะเลธาตุได้มากพอ
“ครืนนน..”
งูยักษ์ที่เกิดจากของเหลวสีเหลืองน้ำตาลและสีเขียวหดตัวลงทันทีและเปลี่ยนสภาพเป็นลูกกลมของเหลวยักษ์รายล้อมร่างแยกศักดิ์สิทธิ์แต่ละร่างของลินลี่ย์ไว้ ลูกโลกน้ำยักษ์ทั้งสองสั่นสะเทือน พลังงานที่ทรงพลังซึ่งแฝงอยู่ภายในนั้นทำให้มิติโดยรอบแตกพังทลายเรื่อยๆ
โชคดีที่นี่คือมิติปั่นป่วนไม่มีความเสียหายเท่าใดนัก
“ปัง!!!”
หลังจากบีบอัดจนถึงขีดจำกัดลูกกลมน้ำทั้งสองก็ระเบิดทันที “วิ้วววววว” ทันใดนั้นมิติขนาดใหญ่ฉีกขาดจนยาวเกินล้านกิโลเมตร พลังของแรงระเบิดรุนแรงมากจนน่าตื่นตะลึง แต่แน่นอนว่านี่เป็นเพราะพลังมหาเทพมากเกินไปที่ถูกสร้างขึ้นมา พลังที่แท้จริงของแรงระเบิดนี้ถ้าปล่อยใส่มหาเทพน้อย อาจทำให้พวกเขาบาดเจ็บได้
การระเบิดเกิดขึ้นในพื้นที่ว่างเปล่าและมิติฉีกขาดขยายเปิดออกไปไกลจนสุดสายตา
ลูกโลกสีเหลืองน้ำตาลระเบิดตรงไปที่ด้านขวา ขณะที่พ่นแรงระเบิดออกมา
ลูกโลกสีเขียวระเบิดออกมาทางด้านซ้ายขณะพ่นแรงระเบิดออกมา
“ครืนนน..” แก่นธาตุดินและแก่นธาตุน้ำเริ่มมารวมกันทันที
คลื่นระเบิดของพลังมหาเทพเหมือนกับโดยทั่วไปพลังมหาเทพน้อยนิดสามารถควบคุมพลังถ่วงเป็นล้านๆ ได้ ในพริบตาภายในพื้นที่มากกว่าร้อยล้านกิโลเมตรของแรงระเบิด พลังมหาเทพมหาศาลเริ่มกินพื้นที่ของแก่นธาตุในบริเวณนี้ พลังมหาเทพยืดยาวขยายออกไปเป็นระยะร้อยล้านกิโลเมตรและแก่นธาตุยืดขยายออกไปเป็นพันล้านกิโลเมตร
“นี่คือ..เคล็ดลึกลับพลังธาตุ?และเคล็ดลึกลับสนามพลังโน้มถ่วง?
“อา, หมอกลวงตาและขอบน้ำแข็ง และร่างน้ำสามารถหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์มากและรวมเข้าไปในมิติพื้นที่?ไม่อยากเชื่อเลย”
ขณะที่สร้างโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองนี้กระบวนการเกี่ยวข้องกับเคล็ดความรู้ลึกลับของกฎธาตุดินและกฎธาตุน้ำ มีวิธีใช้อย่างน่าอัศจรรย์ ลินลี่ย์อ้าปากค้างตะลึงมอง วิญญาณของเขาผสานเข้ากับพิภพที่เขากำลังสร้างและประทับอยู่ในวิญญาณของเขา
ตามปกติเขาจะรู้สึกถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน
ความรู้เข้าใจครั้งแล้วครั้งเล่าไหลเข้ามาในตัวของเขาเหมือนกับกระแสน้ำไม่มีที่สิ้นสุด ลินลี่ย์ตกใจจนพูดไม่ออก เขาอดลืมตัวไม่ได้
………… . .
“วืดดดด” เกิดรอยมิติฉีกขาดจากพิภพยูลานและมีร่างสองร่างพุ่งออกมา
เป็นเบรุตและบลูไฟร์
“ลินลี่ย์ใช้เวลาสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์สองแห่งเป็นเวลา1300 ปีแล้ว ทำไมเขายังทำไม่เสร็จอีกหรือ?” เบรุตกล่าวอย่างสงสัย “เขาสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์สองแห่งพร้อมกันตอนนี้ก็คงสำเร็จไปบ้างแล้วไม่มากก็น้อย”
“บางทีอาจมีบางอย่างที่พิเศษเกี่ยวกับพิภพศักดิ์สิทธิ์ที่เขากำลังสร้างก็ได้” บลูไฟร์กล่าว
ทั้งสองคนมองดูพิภพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองที่อยู่ข้าหน้าพวกเขาอย่างระมัดระวัง พิภพศักดิ์สิทธิ์เริ่มต้นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
“อะไรกันนี่!” เบรุตตกใจหนัก
“ลินลี่ย์นี่...” บลูไฟร์ก็ตะลึงเช่นกัน ขณะที่พวกเขามองดูพิภพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง พวกเขาพบเห็นสิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับพิภพนั้น...
พิภพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองบรรจบตัดกัน
“ลินลี่ย์บ้าไปแล้วหรือนี่?” เบรุตพูดอย่างแตกตื่น “ภายในพื้นที่หมื่นกิโลเมตรของพื้นที่ตัดกันของสองพิภพ เขาหลอมรวมพลังมหาเทพทั้งสองแบบ และพลังแก่นธาตุทั้งสองสายธาตุ นี่...!”
ความจริงหลังจากใช้เวลาพันปี ลินลี่ย์ก็สร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองเสร็จแล้ว และจำเป็นต้องทำให้เสร็จเฉพาะบางส่วนเท่านั้น แต่ขณะนี้เองวิญญาณลินลี่ย์ปั่นป่วนและเขาเริ่มใช้พลังมหาเทพหลอมรวมของเขาสร้างพิภพเล็กๆที่มีพื้นที่เพียงหมื่นกิโลเมตร ในพื้นที่ว่างระหว่างพิภพทั้งสอง
พิภพนี้เป็นพิภพของพลังมหาเทพหลอมรวม!
หลังจากรู้สึกได้และเห็นพิภพทั้งสองเกิดขึ้นก่อนนั้น คราวนี้ลินลี่ย์ต้องการอาศัยพลังตัวเองและลองดู
แต่ใครจะคาดคิดกันเล่า...
ก่อนนี้เขาต้องพึ่งพาวิธีการฝังความคิดผ่านประกายเทพทำให้กระบวนการสร้างเป็นไปได้ง่าย อย่างไรก็ตามในตอนนี้เป็นเรื่องยากมากเนื่องจากเขาอาศัยตนเองทั้งหมดสร้างพิภพนี้ซึ่งกินพื้นที่หมื่นกิโลเมตร ในอดีตสามร้อยปีที่แล้ว ลินลี่ย์คลี่คลายปัญหาที่ซับซ้อนครั้งแล้วครั้งเล่าเกี่ยวกับวิธีใช้พลังมหาเทพทั้งสองแบบเพื่อควบคุมแกนธาตุแตกต่างให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น
การกระทำตามพิมพ์เขียวเป็นเรื่องง่าย แต่การสร้างจากเศษเสี้ยวความรู้ที่กระจายเป็นเรื่องที่ยากมาก
ประกายมหาเทพทั้งสองเพียงแต่บรรจุวิธีสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์ของธาตุดินและพิภพศักดิ์สิทธิ์ของธาตุน้ำ ไม่มีข้อมูลการสร้างพิภพหลอมรวม ดังนั้นลินลี่ย์จึงต้องยืมและทดสอบวิธีที่รู้แจ้งขึ้นมาเป็นแนวของตนเองเพื่อสร้างสถานที่นี้
แต่นี่ก็หมายความว่าเขาทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งเขาทำถูก เป็นธรรมดาที่เขาจะได้รับความรู้แจ้งด้วยเช่นกัน แม้ว่าลินลี่ย์จะสร้างพิภพหลอมรวมขึ้นมาก็จริง แต่ในความเป็นจริงแล้วลินลี่ย์กำลังฝึก!
…………
“เป็นเวลาสามพันปีแล้ว! ลินลี่ย์ยังคงสร้างพิภพหลอมรวมนั่นไม่เสร็จ” เบรุตและบลูไฟร์มองหน้ากันเองไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ลินลี่ย์ในตอนนี้หมกมุ่นอยู่ในงานของเขาอย่างสิ้นเชิง
เขาไม่รู้สึกตัวถึงเวลาที่ผ่านไปแม้แต่น้อย เป้าหมายปัจจุบันสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์หลอมรวมขนาดหมื่นกิโลเมตรให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์อย่างดีที่สุด!
………… . .
ภายในพิภพศักดิ์สิทธิ์หลอมรวม
ด้านหนึ่งเต็มไปด้วยน้ำที่ท่วมจนถึงฟ้า ขณที่อีกด้านหนึ่งเต็มไปด้วยภูเขาสูงใหญ่ ลินลี่ย์ลอยตัวอยู่ในอากาศ
“ฮ่าฮ่า..” ลินลี่ย์หัวเราะลั่น ตาของเขาพลันมีประกายเจิดจ้า ในที่สุดเขาถอนหายใจโล่งอก
“ในที่สุดข้าก็ทำได้สำเร็จ!” ลินลี่ย์แผ่สำนึกออกไปเล็กน้อยและเขารับรู้ได้ทันทีว่าเขาใช้เวลาไปมากมายแค่ไหน “ข้าใช้เวลาพันปีสร้างโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง แต่ข้าใช้เวลาสี่พันปีสร้างพิภพศักดิ์สิทธิ์หลอมรวมแห่งนี้”ลินลี่ย์รู้สึกตื่นเต้น เวลานี้...ลินลี่ย์ใช้เวลาไปถึงห้าพันปี!
ด้วยความเร็วในการฝึกฝนของมหาเทพ ห้าพันปีก็ทำให้มีความก้าวหน้าอย่างน่าทึ่ง
แต่ลินลี่ย์กลับทุ่มทำงานที่มีความยากระดับสูงและได้รับความรู้แจ้งที่น่าทึ่งในช่วงเวลาห้าพันปีที่ผ่านมา
“ข้าไม่คิดเลยว่าในระหว่างการสร้างโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์ จะจบลงโดยข้าหลอมรวมเคล็ดลึกลับธาตุดินที่ห้าได้ และยังหลอมรวมเคล็ดลึกลับธาตุน้ำได้สี่เคล็ด” ลินลี่ย์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ความรู้แจ้งใหม่ทั้งหมดนี้ได้มาเพราะเขาต้องการสร้างพิภพหลอมรวมของเขาเอง ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขามีความสำเร็จในการหลอมรวมกฎธาตุดินและกฎธาตุน้ำ
แต่แน่นอนว่า.....
ในช่วงที่ผ่านมาห้าพันปี ความรู้ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ลินลี่ย์ได้รับยังคงเป็นการรู้แจ้งการหลอมรวมเคล็ดลึกลับต่างกฎธาตุ!