ตอนที่แล้วตอนที่ 21-4 มหาเทพลินลี่ย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21-6 มอบความไว้วางใจ

ตอนที่ 21-5 มหัศจรรย์หลอมรวมพลังมหาเทพ


ชั้นที่สิบแปดของสุสานเทพเจ้า  ดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นทะเลธาตุบริสุทธิ์สีเหลืองน้ำตาล ขณะที่ลินลี่ย์ลอยนิ่งกับที่หลับตาราศีที่น่ากลัวเปล่งออกมาจากร่างของเขา  เบรุต บลูไฟร์ และบีบีมองดูอยู่ใกล้ๆโดยไม่กระพริบตา

ภายในทะเลจิตสำนึกของลินลี่ย์

ร่างหลักของเขาร่างแยกธาตุลม ไฟและน้ำนั่งขัดสมาธิอยู่บนผิวทะเลจิตสำนึก  ร่างทั้งสี่นั่งเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส  และด้านบนพวกเขามีอัญมณีเหมือนแก้วลอยลอยวนอยู่ กระแสพลังปณิธานที่มองไม่เห็นสัมผัสไม่ได้กำลังหมุนวนอยู่รอบวิญญาณทั้งห้าของลินลี่ย์

วิญญาณของร่างหลักของเขาและร่างแยกทั้งสี่ในความเป็นจริงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและเหมือนกัน

ในขณะนั้นวิญญาณของร่างแยกธาตุดินมีพัฒนาการอย่างรวดเร็วขณะที่วิญญาณของร่างหลักและของร่างแยกอื่นอีกสามร่างมีพัฒนาการที่ช้ากว่า

“ความจริงก็เป็นไปเหมือนกับที่ลอร์ดเบรุตว่า  ปณิธานของมหาเทพใช้ได้ไม่มีหมด  แต่ต้องเพ่งอยู่แต่ภายในประกายมหาเทพเท่านั้น พลังวิญญาณที่แท้จริงของพวกเขามีพลังปณิธานเล็กน้อย” ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ว่าแม้ปริมาณของพลังปณิธานภายในวิญญาณทั้งห้าของเขาจะเพิ่มขึ้นแต่ก็เป็นไปอย่างจำกัด

วิญญาณของร่างแยกธาตุดินของเขาหลังจากกลายเป็นมหาเทพแล้วก็ได้รับพลังปณิธานเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบปณิธานที่เทพพารากอนมี

สำหรับร่างเดิมของเขาและร่างแยกอีกสามร่างได้รับพลังเพียง 80% ของปณิธานที่เทพพารากอนมี

“มิน่าเล่างั้นนี่ก็เป็นเหตุผลที่แม้ว่ามหาเทพจะส่งร่างแยกของเขาเข้าไปในพิภพโลกธาตุเขาก็ยังไม่สามารถฆ่าเทพพารากอนได้” ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ จากนั้นรำพึงในใจ “อย่างไรก็ตามแม้ว่าก่อนจะกลายเป็นมหาเทพ พลังปณิธานของข้าก็เหนือพารากอนไปแล้ว!  ตอนนี้ข้ามีความแข็งแกร่งมากขึ้น!”  ขณะนั้นเอง...

คลื่นสีทองที่น่ากลัวเข้าไปในใจเขาทันที  นี่เป็นกระแสสีทองที่ไร้ลักษณ์ที่ทะลักเข้าไปในทะเลจิตสำนึกของเขาและจมลงสู่จิตวิญญาณของเขา

“นี่คือ...”

ลินลี่ย์รู้สึกเหมือนกับว่าเขามีสภาพใจที่กระจ่างชัดมากขึ้นเป็นสิบเท่าและความสามารถในการวิเคราะห์ของวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นมากมาย

“นี่คือ...พลังงานของศรัทธา!”  ลินลี่ย์ตะลึง

ความจริงลินลี่ย์มักจะดูดซับพลังศรัทธาอยู่เสมอ แต่นั่นเป็นพลังศรัทธาเล็กน้อยที่เขาได้รับจากพิภพยูลานซึ่งสำหรับลินลี่ย์ในปัจจุบันนี้แทบจะไม่มีอะไรเลย  แต่แม้ว่าพลังศรัทธาน้อยนิดแต่ก็ทำให้การฝึกปรือของลินลี่ย์มีความเร็วเพิ่มขึ้นบ้าง

อย่างไรก็ตามเหมือนกับว่าสายพลังศรัทธาสายหนึ่งได้เข้าไปในทะเลจิตสำนึกของเขาปริมาณที่เขาได้รับมาฉับพลันนั้นเทียบได้กับพลังงานศรัทธาที่เขาสร้างขึ้นในช่วงสองสามพันปีที่ผ่านมา

ชั้นที่สิบแปดของสุสานเทพเจ้า  คลื่นแก่นธาตุสีเหลืองน้ำตาลหายไปโลกกลับคืนสู่สภาพสีฟ้าอีกครั้ง

ลินลี่ย์ลืมตาจ้องมองเบรุตและบลูไฟร์อย่างตกใจ  “ลอร์ดเบรุต, พลังศรัทธานี้..”

“ตอนนี้เจ้าเป็นมหาเทพแล้ว  เจ้าไม่อ่อนแอกว่าข้าอีกต่อไปแล้ว  ไม่จำเป็นต้องยกข้าเป็นลอร์ดเบรุตอีกแล้ว  เจ้าเรียกข้าว่าเบรุตได้เลย!”  เบรุตเพียงแต่หัวเราะ

ลินลี่ย์รู้สึกซาบซึ้งขอบคุณต่อเบรุต  เป็นเบรุตที่มอบประกายมหาเทพให้เขา  ในความเป็นจริงมอบให้เขาสองประกายเทพ  เป็นเวลาสองพันปีมากแล้ว เขาดูแลลินลี่ย์มาอย่างต่อเนื่องลินลี่ย์ไม่อาจลืมเรื่องนี้ได้ “ลอร์ดเบรุต ถ้าเราไม่รู้จักกันและกัน ข้าคงใช้การเปรียบเทียบพลังเพื่อกำหนดสถานะของเรา  แต่ลอร์ดเบรุต แม้แต่ตัวข้ายังไม่รู้ว่าจะตอบแทนความกรุณาที่ท่านมีต่อข้าได้ยังไง..”

หลังจากวิญญาณของเขากลายสภาพลินลี่ย์ก็ทรงพลังเท่ากับเทพพารากอนคนหนึ่ง

ถ้าพวกเขาต้องกำหนดสถานะผ่านการเทียบระดับพลังเนื่องจากลินลี่ย์ไม่รู้ว่าเบรุตเป็นมหาเทพพูดโดยทั่วไปลินลี่ย์ก็ควรเริ่มวางตัวเสมอกับเบรุตแล้ว  อย่างไรก็ตามลินลี่ย์ไม่ทำเช่นนั้น

ในใจลินลี่ย์...

เบรุตเป็นเหมือนญาติอาวุโสที่คอยดูแลเขาอยู่เสมอมา

“ฮ่าฮ่า, ในเมื่อเจ้าพูดอย่างนั้น ข้าก็จะทำหน้าหนาขอให้เจ้ากับบีบีเรียกข้าเป็นปู่เบรุตก็แล้วกัน  เจ้าจะว่ายังไง?”  เบรุตหัวเราะเบาๆ  เมื่อเขาพบความคงอยู่ของบีบีเบรุตก็เริ่มให้ความสนใจกับลินลี่ย์เช่นกัน เบรุตมักจับตาดูลินลี่ย์มาตั้งแต่เขาเยาว์วัยแล้ว

โดยไม่ทันรู้ตัวความใส่ใจที่เขามีต่อบีบีจึงเผื่อแผ่ไปถึงลินลี่ย์เป็นธรรมดา

“ปู่เบรุต” ลินลี่ย์รีบกล่าว

“ฮ่าฮ่า...” เมื่อได้ยินเช่นนี้ เบรุตรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้แนวคิดของเบรุตมีความเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ก่อนหน้านี้ความคงอยู่ของบีบีเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างลินลี่ย์และเบรุต  มีความสัมพันธ์ที่คล้ายกับผู้อาวุโสและผู้เยาว์  ความสัมพันธ์นี้ยังคลุมเครืออย่างไรก็ตามยังไม่มีการกำหนดสถานะอย่างเป็นทางการ

แม้ว่าหนึ่งในเหตุผลที่เบรุตเลือกลินลี่ย์เป็นเพราะพลังของลินลี่ย์เพิ่มขึ้นอย่างมากแต่ก็ยังเป็นเพราะเขาต้องการยืมพลังของลินลี่ย์เพื่อสู้ตอบโต้กับประมุขมหาเทพแห่งแสง

แต่ในทันทีนั้น...

เมื่อลินลี่ย์เริ่มกำหนดสถานะให้เบรุตเป็นปู่  เบรุตย่อมมีความรู้สึกแตกต่างไปจากเดิมเป็นธรรมดา  เขาเข้าใจ..ว่าพลังของลินลี่ย์จะล้ำหน้าเขาไปมาก  เพื่อช่วยยกระดับสุดยอดฝีมืออย่างนั้น และยอดฝีมือนั้นก็ยังเป็นผู้เยาว์ในครอบครัวของเขาเอง..เป็นธรรมดาที่เบรุตย่อมรู้สึกยินดีเป็นเกียรติอย่างยิ่ง

“ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม” เบรุตหัวเราะ “เมื่อครู่นี้ เจ้าพูดถึงพลังศรัทธา...”

“ใช่แล้ว ทันทีที่ข้ากลายเป็นมหาเทพข้ารู้สึกได้ถึงกระแสของคลื่นพลังศรัทธาที่หนาแน่นทะลักเข้ามาในทะเลจิตสำนึกของข้า  นี่มันยังไงกัน?”  ลินลี่ย์ตะลึง

บลูไฟร์ที่อยู่ใกล้ๆหัวเราะ  “ลินลี่ย์! ก่อนหน้านี้เจ้าถามว่าทำไมมหาเทพทั้งหมดหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้อย่างน้อยห้าเคล็ดไม่ใช่หรือ?”

“เป็นความจริงที่ว่าไม่ใช่มหาเทพทั้งหมดที่มีพรสวรรค์ธรรมชาติ สำหรับพวกเขาทุกคนการหลอมรวมห้าเคล็ดลึกลับหรือมากกว่าเป็นเรื่องที่นึกไม่ถึงแน่นอน”  ลินลี่ย์รู้สึกตัวทันที “ท่านกำลังบอกว่า...นี่เป็นเพราะพลังศรัทธาอย่างนั้นหรือ?”  ลินลี่ย์ระลึกถึงวัตถุประสงค์ของพลังศรัทธาทำให้ยอดฝีมือสามารถรู้แจ้งได้เร็วและฝึกฝนได้เร็วขึ้น

แต่แน่นอนมีขีดจำกัดที่ว่าพลังศรัทธาจะช่วยได้มากแค่ไหน

ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่มีมหาเทพที่เป็นพารากอนเพียงน้อยนิดเป็นแน่

“พลังศรัทธาจะมีมากแค่ไหน?และน่ากลัวมากแค่ไหน...”  ลินลี่ย์รีบกล่าว

เบรุตอธิบาย  “ลินลี่ย์มีพิภพจักรวาลอยู่นับไม่ถ้วนบางที่ก็บูชาแสง บางที่ก็บูชาความมืด บ้างก็บูชาดิน บ้างก็บูชาสายฟ้าบ้างก็บูชาเทพทำลายล้าง.. มีวิหารแทบทุกรูปแบบอยู่ทั่วไปในพิภพนับไม่ถ้วนพลังศรัทธาปริมาณมากที่พวกเขาสร้างขึ้นนั้นเป็นสิ่งอัศจรรย์มาก”

“ข้าจะยกตัวอย่าง ในพิภพจักรวาลนับไม่ถ้วนมีสิ่งมีชีวิตอยู่มากเพียงไหนที่บูชาแสง? จำนวนนี้ก็นับไม่ถ้วนแล้ว พลังศรัทธาทั้งหมดจะถูกสร้าง  และ 99%ของพลังจะได้รับไปโดยเจ็ดมหาเทพแห่งแสง! พลังศรัทธาที่ได้รับทุกครั้งจะมีปริมาณมากมายน่ากลัว”  เบรุตหัวเราะ “จะว่าไปแล้วเพราะหลอมรวมพลังศรัทธามากมหาเทพจะฝึกได้เร็วมากและรู้สึกได้ง่ายขึ้นมาก นี่คือเหตุผลที่ทำให้มหาเทพแต่คนหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้อย่างน้อยห้าเคล็ด

“สถานการณ์เป็นแบบนั้น”  บีบีพึมพำ “นั่นโกงกันชัดๆ”

“ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนั้น มหาเทพจะยอมให้ศาสนจักรของพวกเขาก่อตั้งในพิภพจักรวาลทำไม?  ทำไมพวกมหาเทพจึงต้องรวบรวมเวททุกประเภทด้วยเล่า?”  เบรุตหัวเราะ

“รวบรวมเวท?” ลินลี่ย์ตกใจ

“อะไรกัน, เป็นเรื่องแปลกนักหรือ?”  เบรุตหัวเราะอย่างใจเย็น  “ลินลี่ย์, คิดดูสิ การร่ายเวทเทียบได้กับอะไร?”

ในการใช้เวทมนตร์ผู้ใช้จะต้องใช้พลังวิญญาณสนับสนุน  การลดขั้นตอนใช้เวทจำเป็นต้องใช้พลังเวทของตนเองเพื่อกระตุ้นการทำงานของแก่นธาตุของโลกและสร้างเป็นเวทมนตร์ขึ้น  จอมเวทผู้ทรงพลังบางคนสามารถใช้พลังวิญญาณที่ทรงพลังของพวกเขาใช้เวทโดยไม่ต้องร่ายเวท! ตัวอย่างเช่นจอมเวทระดับแปดสามารถร่ายใช้เวทระดับแปดได้  แต่ถ้าเขาต้องการใช้เวทในฉับพลันเขาคงได้แต่ดึงเวทระดับที่ต่ำกว่ามาใช้

“การลดขั้นตอนใช้เวทจำเป็นต้องใช้การร่ายเวทช่วย นักเวทผู้อาศัยพลังของตนเองสามารถลดขั้นตอนการใช้เวทระดับต่ำกว่า  แต่เมื่ออาศัยลดขั้นตอนการใช้เวทแล้วเขาจะสามารถปลดปล่อยเวทได้ทรงพลังมากขึ้น!”  ลินลี่ย์เข้าใจได้ทันที  “โดยอาศัยคำบริกรรมพลังโจมตีของนักเวทจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก นี่คล้ายกับวิธีใช้เคล็ดลึกลับของกฎธาตุมาเพิ่มพลังโจมตีของนักเวท!”

“ถูกแล้ว” เบรุตยิ้ม“  เวทคาถาคือเคล็ดลึกลับของกฎธาตุแบบง่ายๆนั่นเอง แม้ว่าเวทมนตร์เหล่านั้นจะไม่ทรงพลังเท่ากฎธาตุ  แต่ก็ยังใช้งานได้ดี”

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว”  ลินลี่ย์เข้าใจได้ทันที  “ฮ่าฮ่า..ตัวอย่างเช่นเวทระดับต้องห้ามธาตุลม ‘คมมีดมิติ’ เป็นพื้นฐานง่ายๆ ของเคล็ดลึกลับ ‘พลังโจมตีมิติของกฎธาตุลม และเวทธาตุลมระดับเก้า”วายุทำลายล้าง“นี่ก็เป็นวิถีในการประยุกต์ ‘ลมมิติ’ ของกฎธรรมชาติธาตุลม!”

บีบีที่อยู่ใกล้เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็พยักหน้าและพูดอย่างดีใจ  “ใช่แล้ว  ‘เวทแรงโน้มถ่วง’ ของเวทธาตุดินก็เป็นสนามพลังโน้มถ่วงระดับง่ายๆ นั่นเอง และเวทธาตุดินธรรมดาหลายอย่างก็เป็นพื้นฐานของเคล็ดลึกลับของแก่นธาตุดิน”

เมื่อพวกเขาเปรียบเทียบกันจริงจังลินลี่ย์และบีบีในตอนนี้ตระหนักรู้ได้ทั้งหมดว่าเวทหลายๆ อย่างเป็นพื้นฐานง่ายๆของเคล็ดลึกลับของกฎธาตุ!

แม้ว่านักเวทจะไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวเคล็ดลึกลับ  แต่โดยการท่องจำและทำซ้ำๆ พวกเขาสามารถเอาเวทมาใช้ได้ทันทีและปล่อยพลังเวทที่ทรงพลังได้! ขณะที่พวกเขาเข้าใจเรื่องเคล็ดลึกลับได้มากขึ้น  พวกเขาจะมีพลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึงขั้นที่นักเวทลดขั้นตอนการร่ายเวทและเข้าสู่หนทางการวิเคราะห์เคล็ดลึกลับได้โดยตรง!

“การลดขั้นตอนร่ายเวทเป็นวิธีง่ายๆในการประยุกต์พลังเคล็ดลึกลับของกฎธาตุมาใช้” ลินลี่ย์ถอนหายใจชื่นชม  “ผู้ใช้จำเป็นต้องมีระดับรู้แจ้งที่ลึกในธรรมชาติของแก่นธาตุและเคล็ดลึกลับของกฎธาตุเพื่อพัฒนาลดขั้นตอนร่ายเวท  ถ้าข้าต้องพัฒนาเวทใหม่บางทีอาจทำให้ข้าต้องใช้เวลาอีกนานมากเช่นกัน”

หลักการที่อยู่เบื้องหลังการใช้เวทได้ฉับพลันเป็นรูปแบบของการสะกดจิตอย่างหนึ่ง  ผู้ใช้จะต้องมีพลังวิญญาณเพื่อหลอมรวมแก่นธาตุให้ดีกว่า  แต่การพัฒนการใช้เวทใหม่ๆ เล่า?  นั่นเป็นเรื่องที่ยากมาก

เบรุตหัวเราะ  “เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าพลังศรัทธาสนับสนุนจะยังคงมีต่อไป นี่ทำให้รู้สึกว่ามหาเทพจะใช้เวลาส่วนใหญ่พัฒนาเวทมนตร์ต่อไป”

“อย่างไรก็ตามมหาเทพในตอนนี้ก็ถึงขีดจำกัดกันเกือบทั้งหมดดังนั้นการควบคุมดินแดนโลกธาตุของพวกเขาจึงหละหลวม”  เบรุตหัวเราะอย่างเยือกเย็น  “ธรรมดาแล้วแดนโลกธาตุบางแห่งที่สร้างศาสนจักรสองสามแห่งบูชาเทิดทูนเทพผู้รับพลังศรัทธาเป็นไว้ส่วนตัวคนเดียวทั้งหมด  นี่คือสิ่งที่รู้จักกันว่า ‘บาป’ ซึ่งจะต้องถูกกำจัดอย่างแน่นอน  มหาเทพจะเดินทางไกลเท่าที่ได้ระยะส่งร่างฉายพลังงานออกไปกำจัดร่องรอยของบาป อย่างไรก็ตามมหาเทพตอนนี้ให้ความสนใจต่อบาปประเภทนี้น้อยลงไม่เหมือนแต่ก่อนที่พวกเขาจะทำลายล้างศาสนจักรนอกรีตทั้งหมด”

ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย

ประชากรของทวีปยูลานมีเบาบางเมื่อเทียบกับพิภพโอคาลุนด์ ซึ่งมีประชากรถึงแปดล้านล้าน  พลังงานศรัทธาจะผลิตออกมาได้มากเพียงไหน?  โลกธาตุในจักรวาลนับไม่ถ้วนถ้าเพิ่มพลังศรัทธาเข้าไปอีกจะมีการพบเจอที่น่ากลัวเพียงไหน

“ถ้า..ยกตัวอย่างเช่นมนุษย์ในพิภพโอคาลุนด์บูชาเทพธิดาเจิดจรัส พลังศรัทธาจะไปรวมกันอยู่ที่ใด?” ลินลี่ย์ถาม

“เทพธิดาเจิดจรัส?”  เบรุตหัวเราะ “ถ้าไม่มีองค์บูชาที่ชัดเจน และเทพธิดาเจิดจรัสก็ยังคลุมเครืออยู่  พลังศรัทธามากกว่า 99% มหาเทพแห่งแสงทั้งเจ็ดก็จะได้ไป มีปริมาณที่น้อยนิดที่เทพสายธาตุแสงของพิภพโอคาลุนด์จะได้รับ

ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ  มหาเทพเหนือกว่าอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ได้ถูกกำหนดโดยมหาเทพ  แต่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีโลก

“มิน่าเล่า มหาเทพถึงได้ทรงพลังมากนักด้วยพลังศรัทธาที่มากมายความเร็วในการฝึกฝนของข้าเองจะทะยานเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนเช่นกัน”  ลินลี่ย์รำพึงในใจตนเอง  และจากนั้นเขามองดูประกายเทพชิ้นที่สองในกล่องศิลา...ประกายมหาเทพธาตุน้ำ

ติ๋ง!

เลือดหยดหนึ่งหยดลงบนประกายมหาเทพธาตุน้ำและอัญมณีนั้นซับเลือดไว้ได้  รัศมีแสงสีฟ้าเขียวแพรวพราวฉายพวยพุ่งทันที

“ครืน...” โลกเต็มไปด้วยแก่นธาตุปริมาณหนาแน่นเต็มพื้นที่อีกครัง  ครั้งนี้เป็นของธาตุน้ำ พลังมหาเทพของเหลวธาตุน้ำโคจรอยู่รอบตัวลินลี่ย์และเริ่มเข้าไปในร่างของเขา  ก็เหมือนเมื่อก่อน  วิญญาณทั้งห้าของลินลี่ย์มีพลังเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

บลูไฟร์และเบรุตมองหน้ากันเอง

“เบรุต!  ลินลี่ย์จะมีพลังได้ถึงระดับไหน?”  บลูไฟร์ถาม

“ไม่แน่ใจ” เบรุตพูดอย่างเคร่งขรึม  “แต่ข้ารู้ว่าเมื่อหลอมรวมประกายมหาเทพสองชิ้นพลังปณิธานของมหาเทพจะต้องยิ่งใหญ่กว่ามหาเทพธรรมดาอย่างพวกเรา  นอกจากนี้ เขาเองเป็นวิญญาณกลายสภาพสี่สายธาตุตั้งแต่แรกและมีปณิธานที่ทรงพลังอยู่แล้ว แม้ว่าเราไม่ต้องคิดเรื่องอื่นเอาแค่พลังปณิธานของเขาอย่างเดียวก็คงเทียบได้กับมหาเทพชั้นกลางแล้ว”

บีบีที่อยู่ใกล้รีบกล่าว “และยังพลังมหาเทพหลอมรวมของเขาอีกด้วย”

“ถูกแล้วไม่เคยมีการหลอมรวมพลังมหาเทพสองสายที่แตกต่างกันมาก่อน  และพลังของเขายังคงขยายมากขึ้นได้”  เบรุตยิ้มและพยักหน้า  “พลังมหาเทพหลอมรวมก็คงจะทรงพลังมากกว่าพลังมหาเทพกลาง   และเมื่อจับคู่กับสมบัติจอมเทพอีก..”

“จับคู่กับสมบัติจอมเทพเขาก็น่าจะเทียบได้กับประมุขมหาเทพผู้ไม่มีสมบัติจอมเทพ”  บลูไฟร์ค่อนข้าตื่นเต้น

“ใช่แล้วแต่แน่นอนว่า...ยากจะกล่าวว่า..บางสิ่งที่พิเศษเกิดขึ้นเพราะพลังมหาเทพหลอมรวม”  เบรุตกล่าว

และขณะนั้นเองลินลี่ย์ที่ลอยตัวอยู่ก็ลืมตาขึ้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด