ตอนที่ 21-1 จอมเทพแห่งชีวิต
ในท้องฟ้าเหนือทะเลใต้เบรุต บลูไฟร์และบีบีกำลังยืนแยกอยู่ด้านหนึ่งขณะที่ในอากาศมีร่างเลือนรางที่ค่อยๆ ชัดขึ้นตามลำดับ
ชุดสีเขียวผมสีหยกเขียว ดวงตาสีเขียว รอยยิ้มของนางดูเหมือนจะทำให้จักรวาลสั่นสะเทือน
“นี่คือจอมเทพแห่งชีวิต?” ลินลี่ย์จ้องมองสตรีที่ปรากฏตัวขึ้นข้างหน้า สตรีผู้สวมมงกุฎแห่งชีวิตอยู่บนศีรษะของนาง! หัวใจของเขาอดเครียดกระวนกระวายมิได้ ว่าถึงลักษณะ ลินลี่ย์ไม่เคยเห็นใครที่สมบูรณ์พร้อมเหมือนจอมเทพแห่งชีวิตมาก่อน ในแง่ของรัศมีที่สูงส่งเปี่ยมราศีของจอมเทพแห่งชีวิตโดดเด่นและดูบริสุทธิ์
สายตาของจอมเทพแห่งชีวิตมองลงมาที่ลินลี่ย์
“ตั้งแต่สร้างจักรวาลขึ้นมานี่เป็นภารกิจจอมเทพครั้งที่เจ็ด และเป็นการออกภารกิจครั้งที่สองของข้า ขอแสดงความยินดีด้วย, ลินลี่ย์ บาลุคที่เจ้าทำภารกิจได้สำเร็จ” เสียงของจอมเทพแห่งชีวิตอ่อนโยนมาก ไม่เพียงแต่จะได้ยินผ่านโสตประสาทแต่ยังคงสะท้อนก้องอยู่ในใจของเขาด้วยเช่นกัน “ตามกฎของภารกิจ บัดนี้เจ้าขอพรข้าได้หนึ่งข้อ ถ้าข้าสามารถทำให้สำเร็จได้ ข้าจะทำให้เจ้า”
ขณะที่เสียงดังก้องลินลี่ย์สูญเสียความอดทนอย่างสิ้นเชิง
“เจ้าต้องการขอพรอะไร?” จอมเทพแห่งชีวิตกล่าว
“ขอพร?”
ตอนนี้ลินลี่ย์ถึงค่อยรู้สึกตัว
เบรุตและบลูไฟร์ก็ค่อยรู้สึกตัวเช่นกัน พวกเขาตะลึงงันเช่นกัน “บลูไฟร์ แค่ยิ้มเล็กน้อยจอมเทพแห่งชีวิตก็ทำให้เราสูญเสียความเยือกเย็นได้ นี่น่ากลัวมากจริงๆ” เบรุตส่งสำนึกเทพบอก “จอมเทพคือสุดยอดพลังอำนาจอย่างแท้จริง พลังของสมบัติจอมเทพอยู่เหนือกว่าสมบัติมหาเทพทั้งหมด”
“ใช่แล้ว น่าเสียดายที่ลินลี่ย์ไม่เลือกสมบัติจอมเทพ” บลูไฟร์ลอบถอนหายใจ
“จอมเทพแห่งชีวิตผู้ทรงอำนาจ ข้าขอให้ปู่เดลินของข้ากลับมามีชีวิตอีกครั้ง!” ลินลี่ย์เงยหน้ามองจอมเทพแห่งชีวิตขณะกล่าว
“ชุบชีวิต...” จอมเทพแห่งชีวิตเงียบไปครู่หนึ่ง
หัวใจของลินลี่ย์ตึงเครียด “ข้าต้องทำให้สำเร็จ! ปู่เดลินจะต้องกลับมามีชีวิต!” เท่าที่ลินลี่ย์รู้หลังจากวิญญาณคนแตกสลายไปแล้ว มหาเทพจะไม่สามารถช่วยคนผู้นั้นได้ มีเพียงจอมเทพอาจจะมีความสามารถเช่นนั้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจอมเทพแห่งชีวิต นางคือกฎวิถีแห่งชีวิตเองและควบคุมชีวิตนับไม่ถ้วนในพิภพจักรวาลทั้งหมด
“อภัยให้ข้าเถอะ ข้าไม่สามารถอำนวยตามที่เจ้าขอได้” เสียงของจอมเทพแห่งชีวิตสงบเหมือนเคย
“ไม่สามารถทำได้?” บีบีจ้องมองทันที
“ไม่สามารถทำได้?” เบรุตและบลูไฟร์ตกใจเช่นกัน
ใจของลินลี่ย์ว่างเปล่า มีเพียงสิ่งเดียวที่อยู่ในใจก็คือคำพูดของจอมเทพแห่งชีวิตซึ่งก้องอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า “อภัยให้ข้าเถิด ข้าไม่สามารถอำนวยตามที่เจ้าขอได้”
“ไม่สามารถอำนวยตามได้?ไม่สามารถอำนวยตามได้หรือ?” สายตาของลินลี่ย์คมกล้าและเขาจ้องมองจอมเทพแห่งชีวิต เขาพูดอย่างแตกตื่น “ข้าแต่จอมเทพแห่งชีวิต ท่านควบคุมการก่อตัวและสลายไปแห่งชีวิตของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในจักรวาล ทำไมท่านไม่สามารถทำให้คนที่วิญญาณแตกสลายกลับมามีชีวิตได้เล่า?”
เขาเสี่ยงทุกสิ่งทุกอย่างยอมโกหกมหาเทพและต่อสู้เพื่อให้ได้เครื่องรางจอมเทพ เขาทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเพื่อทำให้ปู่เดลินกลับมามีชีวิต
แต่จอมเทพแห่งชีวิตไม่สามารถทำเช่นนั้นได้หรือ?
“อภัยให้ข้าด้วย ข้าไม่อำนวยตามเช่นนี้ได้” จอมเทพแห่งชีวิตส่ายศีรษะนาง
“แต่ท่านคือจอมเทพ!” ลินลี่ย์ลนลานกล่าว หัวใจของเขาไม่ยินยอมพร้อมใจจะรับผลเช่นนี้
จอมเทพแห่งชีวิตพูดอย่างใจเย็น “ลินลี่ย์ บาลุค ตามกฎของภารกิจข้าจะอำนวยให้ตามคำขอที่เจ้าพอใจ อย่างไรก็ตาม คำขอนี้ต้องเป็นสิ่งที่ข้าสามารถทำได้ วิญญาณของคนที่แตกสลายไปแล้วเป็นสัญลักษณ์ว่าตายอย่างแท้จริง นี่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีสัจธรรมที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ข้าคือวิถีแห่งชีวิตย่อมไม่สามารถกระทำการในทางที่ละเมิดวิถีได้”
“การดำรงคงอยู่ของข้าก็เพื่อช่วยให้วิถีสัจธรรมดำเนินไปได้ในพิภพโลกธาตุนับไม่ถ้วน จะนำชีวิตของใครบางคนที่มีวิญญาณแตกสลายไปแล้วกลับมาก็เท่ากับเป็นการทำลายวิถี ถ้าข้าทำลายวิถี อย่างนั้นโลกธาตุทั้งสิ้นในจักรวาลจะไม่ผูกพันกับวิถีอีกต่อไป ถึงตอนนั้นเมื่อไม่มีการปกป้องหรือผูกพันกับวิถีอีกโลกธาตุนับไม่ถ้วนจะพังทลายเอง” จอมเทพแห่งชีวิตพูดอย่างสงบ
ลินลี่ย์หน้าซีดขาว ตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
“พี่ใหญ่..” บีบีมองลินลี่ย์ ตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวลห่วงใย
“เป็นอย่างนี้นี่เอง” เบรุตและบลูไฟร์มองหน้ากัน พวกเขาได้แต่ส่ายศีรษะและถอนหายใจ
จอมเทพเหมือนจะเป็นผู้ทรงพลานุภาพอย่างแท้จริง แต่ในที่สุดแล้วพวกเขาก็คือตัวตนของวิถี
เมื่อวิญญาณผู้คนแตกและสลายไป พวกเขานับว่าตายจริงๆ นี่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีธรรมชาติ
ตัววิถีเองจะทำการต่อต้านวิถีได้อย่างไร? ที่สำคัญความรับผิดชอบของจอมเทพทั้งสี่คือปล่อยให้วิถีดำเนินไปตามครรลองโดยไม่เข้าไปแทรกแซง
“ข้าใช้ความพยายามนานัปประการไม่ถ้วนเพื่อให้ได้เครื่องรางจอมเทพ ทั้งหมดก็เพราะเศษเสี้ยวความหวังน้อยนิดนี้ ใครจะคิดกันเล่าว่า...ในที่สุดแล้วกลับไม่มีอะไร!” ลินลี่ย์ก้มหน้าหลั่งน้ำตาเงียบๆ “ปู่เดลิน...” ภาระหน้าที่ของจอมเทพแห่งชีวิตกำหนดไว้ชัดแล้ว ปู่เดลินจะไม่มีทางกลับมามีชีวิตอีก
อย่างมากเขาจะอยู่ในความทรงจำของลินลี่ย์ตลอดไป
“พี่ใหญ่, อย่าเสียใจไปเลย” บีบีรีบกล่าว
“สวรรค์ประทานความหวังให้ข้า ทำให้ข้าได้ต่อสู้ดิ้นรนพยายามอย่างหนักแต่แล้วในที่สุดหลังจากข้าทำสิ่งที่ต้องการได้สำเร็จ สวรรค์กลับทำลายความหวังที่พวกเขาประทานให้ข้า” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างขมขื่น
เบรุตและบลูไฟร์เดินเข้ามาหาเช่นกัน
“ลินลี่ย์, อย่าเสียใจมากไปเลย เกิด แก่ เจ็บตาย.. เป็นเรื่องธรรมดา เจ้าไม่ได้สมบูรณ์พร้อมไปทุกอย่างเพียงเพราะว่าเจ้าปรารถนาเท่านั้น” เบรุตพูดปลอบใจ
“ที่ใดมีความเป็น ที่นั่นก็มีความตาย! ความเป็นและความตายถูกกำหนดไว้โดยวิถีแห่งจักรวาล” บลูไฟร์ปลอบโยนเช่นกัน “เจ้ากับข้าก็ผ่านพบความเป็นความตายมานับไม่ถ้วน ถ้าเราต้องตาย วิญญาณของเราจะแตกสลายไปด้วย และเราจะไม่สามารถกลับมาได้อีก มีคนมากมายในโลกที่ต้องสูญเสียสิ่งของหรือบุคคลอันเป็นที่รักจงมองโลกอย่างชาญฉลาดเถอะ”
“ข้าเข้าใจหลักธรรมชาตินี้” ลินลี่ย์สูดหายใจลึก พยายามสงบใจ
ถ้าเขารู้มาตลอดว่าไม่มีหวัง นั่นคงจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ลินลี่ย์เก็บความเจ็บปวดฝังไว้ในส่วนลึกของใจ
แต่หลังจากพบความหวังและดิ้นรนต่อสู้ให้ได้มาก็ต้องพบว่าความหวังถูกทำลายไปแล้ว..นี่เหมือนกับเอาน้ำเกลือราดรดบาดแผล เจ็บปวดอย่างแท้จริง
“ความคงอยู่ของจักรวาลจำเป็นว่าต้องมีข้อจำกัดของวิถีเพื่อให้คงอยู่ได้” จอมเทพแห่งชีวิตพูดอย่างสงบ “แม้ว่าเจ้าจะทำภารกิจจอมเทพได้สำเร็จ แต่คำขอของเจ้าจะต้องเป็นไปตามข้อจำกัดของวิถีธรรมชาติ ข้าไม่สามารถสนองคำขอของเจ้าได้ ลินลี่ย์ บาลุคตอนนี้เชิญเจ้าเปลี่ยนคำขอของเจ้าเถอะ”
“เปลี่ยนคำขอของข้า?” ลินลี่ย์ตะลึง
“เมื่อทำภารกิจของจอมเทพได้สำเร็จ ก็หมายความว่าข้าจะต้องให้พรตามตามปรารถนาของเจ้า” จอมเทพแห่งชีวิตพูดอย่างสงบ
คำขอก่อนหน้านี้ที่ลินลี่ย์ขอไปนั้นไม่มีผล เป็นธรรมดาที่เขาจะต้องขอใหม่อีกครั้ง
“พี่ใหญ่, รีบขอพรเถอะ” บีบีพูดอย่างแตกตื่น
“ลินลี่ย์! ไม่มีทางที่เจ้าจะชุบชีวิตปู่เดลินของเจ้าให้กลับคืนมีชีวิตได้อีก ตอนนี้ข้าคิดว่าเจ้าควรเลือกสมบัติจอมเทพ” ตาของเบรุตเป็นประกาย และเขารีบกระตุ้นเตือนลินลี่ย์ “บางทีเจ้าอาจจะมีความฝันอย่างอื่น แต่ในจักรวาลนี้มีหลายอย่างขึ้นอยู่กับพลังของผู้นั้นเอง! ขอเพียงมีพลังอำนาจเพียงพอ ปัญหาหลายอย่างจะได้รับการแก้ไขได้”
บลูไฟร์รีบพูดเช่นกัน “จะดีที่สุดถ้าเจ้าเลือกสมบัติจอมเทพที่เหมาะสมกับตัวเจ้า สมบัติจอมเทพที่จะทำให้เจ้าปลดปล่อยพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดออกมาได้”
“ข้าเข้าใจแล้ว” ลินลี่ย์พยักหน้า
หลังจากมีประสบการณ์มากมายลินลี่ย์รู้ว่ามีแต่เพียงความแข็งแกร่งที่เพียงพอ หลายๆ อย่างก็จะสำเร็จได้ง่าย
“ข้าควรจะขอสมบัติจอมเทพแบบไหนดี?” มีหลายความคิดผุดขึ้นมาในใจของลินลี่ย์ “สมบัติจอมเทพประเภทป้องกันตัว? ไม่, นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย พลังป้องกันส่วนตัวของข้าดีมากพออยู่แล้ว นอกจากนี้ เมื่อข้าใช้มือและเท้าโจมตี ข้าก็ไม่สามารถปล่อยพลังได้เต็มที่” ลินลี่ย์ยังคงเชี่ยวชาญในการใช้ดาบกระบี่มากที่สุด
ไม่ว่าเมื่อใดที่เขาใช้ดาบหนักอดาแมนเทียมกระบี่เลือดม่วง หรือกระบี่เงาลวง...
พลังโจมตีสุดยอดของลินลี่ย์ล้วนอาศัยกระบี่ทั้งนั้น
“ข้าจะขอสมบัติจอมเทพประเภทดาบกระบี่เล่มหนึ่ง” ลินลี่ย์ตัดสินใจ
ลินลี่ย์เงยหน้าขึ้นมองจอมเทพวิถีชีวิตที่ยังยืนนิ่งในอากาศ “ข้าแต่จอมเทพแห่งชีวิตผู้ทรงพลานุภาพ ข้าต้องการสมบัติจอมเทพประเภทอาวุธชนิดหนึ่ง สมบัติจอมเทพรูปดาบกระบี่!”
“ข้า..จะเติมเต็มความปรารถนาของเจ้า” จอมเทพวิถีชีวิตพูดอย่างเยือกเย็น ขณะเดียวกันนางเหยียดมือขวาที่เรียวยาว เงากระบี่สีเขียวค่อยๆเริ่มรวมตัวชัดเจนและเริ่มกลายเป็นพลังแหลมคมควบแน่น มิติพื้นที่รอบๆ แตกร้าว
“สมบัติจอมเทพ!” เบรุต บลูไฟร์และบีบีจ้องมองกันทุกคน
ตามตำนานมีเพียงจอมเทพที่สามารถสร้างสมบัติจอมเทพได้ ในอดีตมีเพียงสี่ประมุขมหาเทพของสี่วิถี และประมุขมหาเทพธาตุแสงที่ครอบครองสมบัติจอมเทพ!
“นี่คือกระบี่จอมเทพ...” ลินลี่ย์มองดูอย่างระมัดระวัง
เป็นกระบี่สีเขียวยาวเกือบ1.5 เมตร โกร่งกระบี่มีรูปคล้ายกลีบดอกไม้และด้ามกระบี่มีรูปสลักอักษรรูนและเป็นลายเกลียวลงตัวพอดีกับด้ามจับขณะที่ตัวกระบี่มีลายเส้นต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ คมกระบี่ทั้งสองด้านมีความคมกล้ามาก กระบี่ยาวไม่เคลื่อนไหว แต่ยังคงลอยนิ่งอยู่กับที่แต่ก็ทำให้มิติรอบตัวมันแทบจะแตกสลาย
“นี่คือกระบี่จอมเทพชีวิต ขอเพียงถึงระดับมหาเทพเจ้าจึงจะสามารถทนต่อพลังงานที่น่ากลัวในกระบี่นี้ได้ พอถึงตอนนั้นเจ้าจึงสามารถผูกสัญญากับมันได้อย่างแท้จริง” จอมเทพชีวิตใช้มือซ้ายของนางลูบกระบี่อย่างแผ่วเบา และทันใดนั้นความมันวาวของกระบี่ยาวหายไปทันที ทำให้ดูเหมือนเป็นกระบี่เรียบง่ายไม่มีเครื่องตกแต่ง
แค่เพียงมองแว่บแรกมันดูเหมือนกับกระบี่ธรรมดา พื้นที่โดยรอบของมันกลับคืนเป็นปกติ
“ลินลี่ย์ บาลุค,ข้าให้พรตามที่เจ้าต้องการแล้ว” ขณะที่นางกล่าว กระบี่จอมเทพแห่งชีวิตลอยออกจากมือนางและเข้าหาลินลี่ย์
และจากนั้นร่างของจอมเทพแห่งชีวิตค่อยๆเลือนหายไป ในพริบตาโลกกลับคืนสู่ความสงบเป็นปกติ เหมือนกับว่าจอมเทพแห่งชีวิตไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน
“กระบี่จอมเทพแห่งชีวิต” ลินลี่ย์ถือกระบี่และรอยเกลียวไม้เถาที่สลักอยู่บนด้ามพอดีมือจับของลินลี่ย์
“ทำไมข้าไม่รู้สึกอะไรเลย?” ลินลี่ย์ควงกระบี่จอมเทพ แต่ไม่สามารถรู้สึกถึงพลังผิดปกติอะไร เขาอดหันไปมองบลูไฟร์และเบรุตที่อยู่ข้างๆมิได้ “ลอร์ดเบรุต, ช่วยบอกข้าที ข้าจะใช้กระบี่จอมเทพที่ข้าได้รับมานี้ยังไง?”
“ฮ่าฮ่า, แน่นอนยังไม่มีความสำคัญพอจะใช้มันได้” เบรุตหัวเราะลั่น
“สมบัติจอมเทพ สมบัติจอมเทพ!” ตาของเบรุตเป็นประกายเช่นกัน
ขณะนั้นเองบีบีส่งสำนึกเทพคุยกับลินลี่ย์ “พี่ใหญ่,ปู่ข้าขอให้ท่านรับสมบัติจอมเทพ แต่ท่านยังไม่สามารถผูกสัญญากับมันได้ ที่สำคัญ มีแต่ใช้พลังมหาเทพจึงจะทำได้ ท่านคิดว่าปู่ทำอย่างนี้..เพราะเขาต้องการมันเพื่อตัวเองหรือเปล่า?”
บีบีกังวลแทนลินลี่ย์
ลินลี่ย์มองดูเบรุตและบลูไฟร์อย่างระมัดระวังจากนั้นส่ายศีรษะและพูด“ข้าไม่คิดอย่างนั้น เนื่องจากพลังของเบรุต ถ้าเขาต้องการมัน เขาคงชิงเอาไปนานแล้วก่อนหน้านี้เมื่อข้าต้องการขอให้ชุบชีวิตปู่เดลินทั้งลอร์ดเบรุตและท่านเลย์ลินไม่ได้พยายามห้ามข้า”
“นั่นก็จริง” บีบีพยักหน้าเล็กน้อย
“ข้ามีกระบี่จอมเทพแห่งชีวิตอยู่ในมือแล้วในตอนนี้ แต่...” ลินลี่ย์ไม่รู้สึกในใจมีความยินดีเท่าใดนัก เพราะเป้าหมายของเขาคือชุบชีวิตปู่เดลิน เรื่องนั้นไม่เกิดขึ้น ถ้าปู่เดลินสามารถกลับมีชีวิตได้และปรากฏตัวต่อหน้าลินลี่ย์และเรียกชื่อลินลี่ย์ได้ ลินลี่ย์ก็คงจะดีใจแทบคลั่ง
น่าเสียดายหลังจากนี้ลินลี่ย์เข้าใจอย่างแท้จริงแล้วว่าไม่มีหวังที่จะทำให้ปู่เดลินกลับมามีชีวิตได้
“ลอร์ดเบรุต ท่านเลย์ลิน” ลินลี่ย์มองดูเบรุตและบลูไฟร์ด้วยความสงสัย “ตอนนี้ ข้าได้รับกระบี่จอมเทพมาแล้ว แต่ข้ายังขาดพลังที่จะทำสัญญากับมันได้ แล้วพวกท่านต้องการให้ข้าทำอะไรกับกระบี่จอมเทพนี้?”
สำหรับเขากระบี่จอมเทพบางทียังไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับกระบี่เงาลวง
“ลินลี่ย์, เจ้าไม่จำเป็นต้องร้อนใจกับเรื่องนี้” บลูไฟร์พูดพลางหัวเราะ
“ลินลี่ย์, ไม่ต้องเป็นห่วง ในเมื่อเจ้าต้องการได้รับกระบี่จอมเทพนี้ อย่างนั้น..ข้ามีวิธีทำให้เจ้าสามารถใช้มันได้” เบรุตยิ้ม
ลินลี่ย์ไม่โง่ เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทันใดนั้นประกายความคิดอย่างหนึ่งผุดขึ้นมา เขาร้องอย่างแตกตื่น “ลอร์ดเบรุต, ท่านกำลังจะบอกว่า...?”
“เจ้ายังจะต้องถามอีกด้วยหรือ? ลินลี่ย์, บอกข้ามา, เจ้าคิดอยากจะกลายเป็นมหาเทพบ้างไหม?” บลูไฟร์หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“ปู่,เป็นไปได้หรือว่าท่านจะทำให้พี่ใหญ่ของข้ากลายเป็นมหาเทพ?” บีบีร้องออกมาอย่างตกใจ
เบรุตหัวเราะ แต่ไม่ปฏิเสธ
เมื่อเห็นสีหน้าของเบรุตแล้ว ตอนนี้บีบีแน่ใจเต็มที่ เขาอดพูดด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อมิได้ “ปู่, จะกลายเป็นมหาเทพได้ท่านจะต้องมีประกายมหาเทพ ปู่กับท่านเลย์ลินเป็นมหาเทพได้ เป็นไปได้ไหมว่ายังมีประกายมหาเทพอื่นอีกเช่นกัน?”
ลินลี่ย์แค่มองดูเบรุตอย่างงงงัน ต่อให้เบรุตมีประกายมหาเทพเขาจะยอมให้ลินลี่ย์ใช้มันหรือ?
“ไม่จำเป็นต้องถามกันมากมาย แค่ตามข้ามา” เบรุตยิ้ม จากนั้นหมุนตัวและบินกลับไปทันที