ตอนที่แล้วตอนที่ 757 โจมตีครั้งสุดท้าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 759 แผนการของจงหลีไป๋

ตอนที่ 758 ความโกรธของจงหลีไป๋


ถังเทียนลืมตา ดวงตาแดงที่มุ่งมั่นค่อยๆจางลงและกลับคืนสู่สภาพปกติ เทพอสูรหกกรภายในเร้นอยู่ในตัวเขาทันที เปลวเพลิงจากมุทราหมัดพิโรธยังคงลุกโชนเหมือนเพลิงพิโรธ

ฮ่า.....

เขาผ่อนลมหายใจระบายความร้อนออกมาบางส่วน พลังต้นกำเนิดมากมายมหาศาลสะสมอยู่ภายในร่างกายของเขาทำให้เขารู้สึกเหมือนมีระเบิดเวลาอยู่ในตัว  เขามีความรู้สึกว่าถ้าเขาเคลื่อนไหวผิด  ก็คงทำลายตัวเอง

แสงสีแดงของมุทราหมัดพิโรธท่วมตัวของเขาทั้งหมดทำให้พลังต้นกำเนิดของเขากลายเป็นเช่นนั้นด้วย

หลังจากตรวจสอบเป็นเวลาสองสามวันเขายืนยันว่าเทพอสูรหกมุทราไม่ใช่วิชาสำหรับสู้รบ  แต่เป็นวิชาลับที่ใช้ปรับเปลี่ยนภายในกาย  แต่ทำความเข้าใจก็ส่วนทำความเข้าใจ  จากเวลาที่เขาได้รับรู้  เขาเพียงแต่รู้แจ้งในมุทราหมัดพิโรธเท่านั้น

ก่อนและหลังจากที่การต่อสู้จบลง  เขาไม่มีความรู้สึกจากพลังของมุทรามากนัก  ระหว่างต่อสู้พลังต้นกำเนิดในช่วงเวลาที่เขาโกรธจัดมีขีดสามารถในการทำลายล้างได้  หลังจากการต่อสู้จบลง  พลังต้นกำเนิดในร่างของเขาหมดเกลี้ยงทำให้เขาเหนื่อยล้า

แต่เมื่อพลังต้นกำเนิดในร่างของเขาเริ่มฟื้นคืน  เขาตระหนักได้ว่าทะเลที่ไร้ขอบเขตของพลังต้นกำเนิดไม่เสถียรเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมาก  เขาใช้เวลาสองสามวันค่อยๆคุ้นชินกับพลังต้นกำเนิดในร่างกาย และจัดการพลังอย่างราบรื่น

แต่เขาต้องระมัดระวังมากและให้ความสำคัญต่อการข่มพลังต้นกำเนิดที่กระสับกระส่าย

แต่ด้วยพลังต้นกำเนิดที่แข็งแกร่งมากขึ้น ทำให้หมัดเทพเจ้าของถังเทียนพลอยก้าวหน้าไปด้วย

ถังเทียนมองหมัดเทพเจ้าข้างหน้าอย่างตื่นเต้น เขามั่นใจว่าเมื่อหมัดเทพเจ้าสำเร็จได้จริงๆ  พลังของมันคงทำให้โลกตะลึงแน่นอน  แต่ในขั้นตอนสุดท้ายทุกย่างก้าวเล็กๆเขาจำเป็นต้องทำให้ทะเลพลังต้นกำเนิดที่ไร้ขอบเขตต้องหมดไป

มีหลายครั้งที่ถังเทียนฝืนหัวเราะ เขาต้องทุ่มเทใช้พลังงานไปมากเพื่อสร้างไม้ตายที่ทรงพลังอย่างนั้น  แต่ในที่สุดความต้องการพลังของมันกลับมากกว่าที่เขามี

เขาส่ายศีรษะและทิ้งความคิดที่ซับซ้อนและเดินออกมาจากห้อง

ภายในลานที่พักซึ่งมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา  สมาชิกหน่วยสุญญตาที่ได้รับการช่วยเหลือได้เริ่มตั้งการคุ้มกัน  กลุ่มสมาชิกของหน่วยสุญญตาฉุดลากเขาชมวิว  และก่อนที่พวกเขาจะไปถึงบ้านตระกูลฉี  ทางตระกูลฉีก็ส่งนักโทษสุญญตาออกมาแล้ว

นักโทษหน่วยสุญญตาทุกคนในเมืองบูรพาอมตะยืนอยู่เคียงข้างถังเทียนรวมทั้งจงหลีไป๋

ถังเทียนมองดูสวี่เย่และถามด้วยความห่วงใย  “เจ้าเป็นไงบ้าง?  รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม?”

หน้าของสวี่เย่ซีดขาว ราวกับว่าป่วยไข้บางครั้งหน้าของเขาจะเปลี่ยนเป็นสีเทา การต่อสู้ระหว่างถังเทียนกับเหอซินส่งผลกระทบต่อเขาอย่างรุนแรง  เขาฝึกมาทางกฎธรรมชาติเป็นตาย แต่เขายังขาดความเฉียบคมของการต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย  เขาเป็นเหมือนดอกไม้ในเรือนกระจก  ดูเหมือนแข็งแกร่ง  แต่สภาพใจของเขาอ่อนแอมาก หลังจากเห็นการต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายที่ขมขื่น  แสดงให้เขาเห็นการอุทิศตัวเพื่อชัยชนะ  ไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่าง  เพื่อความเชื่อมั่นในตัวเองของพวกเขา  พวกเขายินดีจะทุ่มเททุกอย่างที่พวกเขามี

‘เทียบกับพวกเขาแล้ว  ข้าเป็นแค่คนขี้ขลาดและลวงโลก’

สภาพจิตใจของเขาติดอยู่ภายในกฎเป็นและตาย  และผิวกฎของของเขาได้รับผลอย่างมาก  เขาไม่มีการควบคุมรังสีกฎเป็นและตายในร่างเขาทำให้ร่างของเขาเคลื่อนไหวอย่างไม่ระมัดระวัง ดังนั้นสวี่เย่ไม่สามารถแยกแยะรัศมีเป็นตายจากกันได้ทำให้ร่างของเขาหมิ่นเหม่ต่อความตายและอาจตายได้ทุกเมื่อ

ถังเทียนไม่อาจช่วยเขาได้  กฎเป็นและตายเป็นหนึ่งในสามกฎใหญ่   มันลึกลับและลึกซึ้งเกินไป  เขาไม่สามารถทำอะไรได้

มีเพียงคนที่ช่วยสวี่เย่ได้ก็คือสวี่เย่เอง

สวี่เย่คำนับด้วยความเคารพ  “ขอบคุณนายท่านที่กังวลห่วงใย  ไม่ใช่เรื่องสำคัญ”

สีหน้าของเขาสงบ รัศมีพลังเป็นตายที่รุนแรงในร่างของเขาทำให้เขาอยู่ในสภาพเลวร้ายและแม้แต่เสียงของเขาก็อ่อนล้า เมื่อพูดมาก เขาจะรู้สึกเพลียและไอไม่หยุด

เมื่อเห็นเช่นนั้นถังเทียนแนะนำเขาทันที  “เจ้าควรจะพัก ไม่ต้องกังวลที่นี่มากก็ได้!”

สวี่เย่ไม่ตอบรับคำแนะนำนั้น  แต่พูดต่อ “สองวันที่แล้ว เมืองจื่อจวนส่งข้อมูลมา มีคนแทรกซึมเข้าเมืองจื่อจวน  แต่ท่านเนี่ยชิวตรวจจับพบเขาและใช้หน่วยสุญญตาทำลายเขาตามที่ตรวจสอบข้อมูลมา น่าจะเป็นฉีเซี่ยงตง”

“ฉีเซี่ยงตงตายแล้ว?  เขาทำได้ง่ายจริง!”  จงหลีไป๋ที่อยู่ด้านข้างอดพูดไม่ได้  หน้าของเขาเขียวคล้ำ กำหมัดแน่นความเกลียดเต็มอยู่ในดวงตา พวกเขาลำบากทุกข์ทนอยู่ในตระกูลฉี และจงหลีไป๋ถูกทรมานหนักที่สุด ฉีเซี่ยงตงและคนในตระกูลเห็นว่าจงหลีไป๋เป็นหัวหน้า  และต้องการให้เขายอมรับพวกเขาก่อน  ดังนั้นจึงใช้วีการมากมายกับเขา  กฎมรณะและพิษของเหอซินก็รวมอยู่ในนั้นด้วย

จงหลีไป๋หยิ่งและไม่ยอมคนง่ายๆและความเกลียดที่เขามีจะต้องชดใช้  คนเคยได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในกลุ่มดาวราชสีห์เขาเคยต้องมีชีวิตทุกข์ทนแบบนี้เมื่อไหร่กัน? เขาเกลียดฉีเซี่ยงตง และเหอซินมาก แต่ไม่เคยคาดเลยว่าจะได้รับการช่วยเหลือ และเหอซินก็ถูกถังเทียนฆ่าไปแล้ว เขาต้องการตามหาฉีเซี่ยงตงมาล้างแค้น แต่ฉีเซี่ยงตงก็มาถูกฆ่าอีก  และเขาไม่สามารถระบายความโกรธเกลียดในใจเขาได้

สิ่งที่เขาไม่สามารถยอมรับได้มากที่สุดก็คือศัตรูของเขาถูกคนตาบอดฆ่าตาย  ทั้งสองคนมีสัมพันธ์กันในฐานะคู่แข่งและนี่คือสิ่งที่จงหลีไป๋ทำใจรับไม่ได้

“ตระกูลของฉีเซี่ยงตงยังมีชีวิต...”  สวี่เย่เตือนจงหลีไป๋ ในแดนบาปการล้างแค้นเช่นนั้นโดยการล้างตระกูลเป็นเรื่องปกติ

จงหลีไป๋คลายหมัดและแค่นเสียงเชิดหน้าขึ้นฟ้า “ข้าไม่ยอมลดตัวทำเรื่องเสื่อมเสียแบบนั้นแน่!”

ถังเทียนไม่รู้ว่าฉีเซี่ยงตงแข็งแกร่งขนาดไหนเช่นกัน  เมื่อเรื่องที่จำนวนคนในเมืองจื่อจวนทั้งยังมีกู้เสวี่ย เนี่ยชิว อาโมรี่และหานปิงหนิงเขาไม่รู้สึกแปลกที่ฉีเซี่ยงตงถูกฆ่า

เขาไม่ได้กังวลกับคำถามนี้และหันไปถามสวี่เย่ “เราจะไปเมืองพายุกันได้ยังไง?”

การสู้รบในเมืองบูรพาอมตะได้ผลเป็นที่น่าพอใจ  แต่ก็ยังเป็นเหตุให้ความมั่นใจของเขาเพิ่มมากขึ้นด้วยการช่วยสมาชิกหน่วยสุญญตา เป้าหมายของเขาจะต้องถูกพบ  และเขาเองก็จะแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ความจริงที่ว่าเขาสามารถร่วมสู้ศึกเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายและก้าวหน้าได้เร็วทำให้ถังเทียนมีความสุขมาก

เขารู้สึกว่าการเอาชนะไปทีละเมืองไม่ใช่แผนที่เลว

สีหน้าของสวี่เย่เปลี่ยนไป “มีการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์บางอย่างที่คาดไม่ถึง”

“เปลี่ยนแปลง?”  ถังเทียนตกใจ และเขาถาม “เปลี่ยนอะไร?”

“ตระกูลฝูแห่งเมืองพายุบอกว่าพวกเขาพบผู้สืบทอดของปรมาจารย์หลี่แล้ว”

มีผู้สืบทอดของปรมาจารย์หลี่ในช่วงเวลาแบบนี้  เป็นเรื่องบังเอิญเกินไป  นั่นคือสาเหตุที่สวี่เย่ทำหน้าแปลกประหลาด  แม้แต่จงหลีไป๋ที่มีหน้าดื้อรั้นก็ยังตกใจ

ถังเทียนสับสน  “ผู้สืบทอดปรมาจารย์หลี่?”

“ถูกแล้ว กล่าวกันว่าตระกูลฝูได้รับพระคุณจากปรมาจารย์หลี่ในอดีต  และพวกเขาเพิ่งพบผู้สืบทอดของเขา  ดังนั้นจึงทำการฉลองกันใหญ่  พวกเขาเชิญนักสู้มีฝีมือหลายคนมาร่วมงานเลี้ยงอีกด้วย”  สวี่เย่ลูบจมูก

จงหลีไป๋แค่นเสียง  “เลวมาก พวกมันแค่ต้องการจะต่อต้านเรา”

สวี่เย่ชำเลืองมองบุรุษหนุ่มผู้มีกลิ่นอายอันตรายสำหรับเขาผมยาวของเขามัดรวบเป็นหางม้าและมักจะหรี่ตาเสมอ ‘บริวารของนายท่านนับว่าโดดเด่นอย่างแท้จริง’  ในช่วงผ่านมาไม่กี่วัน  เขาเห็นการทำงานของจงหลีไป๋แล้ว  เขาตะโกนดังราวฟ้าผ่า เรียกผู้นำตระกูลสองสามคนและไม่ให้พวกเขาได้มีโอกาสพบ เขาพบกับพวกผู้นำตระกูลเหล่านั้นแยกกัน ทั้งขู่ทั้งหลอกล่อทำให้หัวหน้าตระกูลทั้งหลายเต็มไปด้วยความกลัว หลังจากนั้นเขาชี้ให้จุดอ่อนของกันและกัน ใครก็ตามที่กล้าโกหกจะต้องเจ็บตัว ดังนั้นตระกูลต่างๆ ในเมืองบูรพาตะวันออกจึงส่งมอบมือดีทั้งหมดออกมา

และเมื่อสวี่เย่ได้ยินว่าจงหลีไป๋บอกว่าเขาจะไม่หาเด็กและภรรยาของตระกูลฉี  เขาแปลกใจ

เขาได้รับทุกข์ทรมานจากมือพวกเขาอยู่มาก  และได้ยินวิธีที่ฉีเซี่ยงตงและเหอซินทรมานเขา เขาตกใจที่ได้ยินว่าเขาจะไม่ล้างแค้นกับเด็กและภรรยา  แต่เพื่อการสร้างอำนาจ  เขาจะไม่ลังเลที่จะล้างตระกูลทำให้แม่น้ำโลหิตไหลนอง

‘เขาคือลูกผู้ชายที่ทำอะไรก็ได้เพื่อชัยชนะ’

ผู้มีฝีมือดีต่างๆ ของเมืองบูรพาอมตะถูกควบคุมโดยจงหลีไป๋และก่อตั้งหน่วยชื่อว่าหน่วยบูรพาอมตะ หน่วยบูรพาอมตะอยู่ภายใต้กฎนักสู้ที่เด็ดขาด  ความแตกต่างระหว่างตระกูลต่างๆในช่วงเวลาไม่กี่วัน บรรยากาศของหน่วยบูรพาอมตะก็แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง

สวี่เย่แนะนำวิธีการให้จงหลีไป๋มากกว่าเนี่ยชิว  เนื่องจากเขาอำมหิตและเจ้าเล่ห์

“ข้าก็คิดยอย่างนั้นเหมือนกัน”  สวี่เย่ยังคงพูดต่อ  “พลังของนายท่าน คนอื่นๆ รู้จักมานานแล้วถ้าเราพูดว่าทุกคนปฏิบัติต่อนายท่านเหมือนเป็นเรื่องตลก  ตอนนี้หลายคนเชื่อไปแล้วครึ่งหนึ่ง ข้าได้ยินว่าประมุขตระกูลฝูได้ยินชื่อของนายท่านในฐานะทายาทปรมาจารย์หลี่  และหาว่านายท่านเป็นนักต้มตุ๋น  และกล่าวว่าเขาจะฆ่านายท่าน...”

“หรือว่าผู้สืบทอดของปรมาจารย์หลี่จะเป็นเรื่องจริง?”ถังเทียนชักจะอาย จึงพูดขึ้น  ถังเทียนเองไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้สืบทอดจริงๆ

เป็นเรื่องน่าอาย  เขาไม่เคยพบกับเรื่องแบบนั้นมาก่อน

เมื่อเห็นท่าทีไร้เดียงสาของนายท่าน  สวี่เย่จ้องมองดูเขา  ‘นี่คือนายท่านผู้มีฝีมือฆ่าเฉียบขาดหรือนี่?’

จงหลีไป๋จ้องมองถังเทียนอย่างประหลาดใจ  เขาติดตามถังเทียนมาในช่วงเวลาสั้นๆ และความเข้าใจของเขาที่มีต่อถังเทียนหยุดอยู่ที่กลุ่มดาวราชสีห์ได้ค้นคว้าเรื่องของเขา  สำหรับสายตาขุนพลทหารของกลุ่มดาวราชสีห์  พญาหมีมีบุคลิกทะเยอทะยานและอำมหิตผู้วางแผนมองการณ์ไกล เมื่อพวกเขาได้ข้อสรุประบบการสู้รบของถังเทียน  พวกเขาพบลักษณะเฉพาะของเขา

มหาอำนาจใดก็ตามที่ขัดแย้งกับถังเทียนมักจะส่งคนกลุ่มเล็กออกมาตรวจสอบเสมอ แต่ในที่สุดพวกเขามักจะเปิดเผยตัวเองอยู่เสมอ

พวกเขาอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่ใครจะรู้กันว่านั่นเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามใหญ่  พวกเขาอาจคิดว่าเป็นแค่เดิมพันเล็กน้อย  แต่ใครจะรู้ว่าในที่สุดแล้ว  ถังเทียนจะใช้ทุกสิ่งทุกอย่างของพวกเขา

กลุ่มดาวหมาป่า  กลุ่มดาวหมีใหญ่  กลุ่มดาวมังกร กลุ่มดาววาฬ...

กลุ่มดาวทั้งหมดนี้ตกอยู่ในเงื้อมมือเขาเป็นข้อพิสูจน์ในบทสรุปนี้

ถ้าคนน่ากลัวอย่างนั้นไม่ทะเยอทะยานและอำมหิต  อย่างนั้นต้องทำยังไงถึงจะนับว่าทะเยอทะยานและอำมหิต?

แต่จงหลีไป๋ตระหนักได้โดยเร็วถึงสีหน้าของนายท่านว่าเป็นผู้ที่บ่งบอกถึงปัญหา

‘ใครก็ตามที่เห็นสีหน้าของเขาจะต้องคิดว่านายท่านบริสุทธิ์และไร้เดียงสา  แต่พวกเขาไม่รู้ว่านายท่านประพฤติตัวเป็นหมูกินเสือ!  ฉลาด, ฉลาดล้ำจริงๆ!’

สวี่เย่กระแอม  “ไม่ว่านายท่านจะมีสถานจริงหรือปลอมก็ตาม  หน่วยสุญญตาก็ยังคงอยู่ในเงื้อมมือพวกเขา”

หลังจากพบกับหานปิงหนิง อาโมรี่และเนี่ยชิว  จากนั้นพบกับจงหลีไป๋  ทัศนคติที่สวี่เย่มีต่อหน่วยสุญญตาก็ไม่ดูเบาอีกต่อไป  พลังของหน่วยสุญญตาแข็งแกร่งมากกว่าสิ่งที่เขาคิด

“นั่นก็จริง”  ความอึดอัดของถังเทียนหายไป

“พวกเขาส่งข้อความและจดหมายให้นายท่าน”  สวี่เย่ล้วงจดหมายออก  และลังเลเล็กน้อยก่อนจะเสริม  “เป็นเรื่องที่ไม่ดีเสียเลย”

ถังเทียนรับจดหมายและไม่เปิดดู  เขาฉีกทิ้ง และหันไปมองจงหลีไป๋ “เจ้ารบได้ไหม?”

จงหลีไป๋ตาคมและเลิกคิ้วขั้น  เขาขัดเคืองใจกับคำถามถังเทียน  “นายท่านท่านสงสัยพลังของผู้น้อยอย่างนั้นหรือ?”

ถังเทียนอธิบายทันที  “ข้าแค่กลัวว่าเจ้าจะยังไม่คุ้นกับแดนบาป  เนี่ยชิวยังต้องใช้เวลาก่อนที่...”

จงหลีไป๋โกรธจากความจริงที่ว่าฉีเซี่ยงตงถูกเนี่ยชิวฆ่า  เมื่อได้ยินถังเทียนเอ่ยชื่อเขา เหมือนกับว่าถังเทียนย้อนเกล็ดเขา  “นายท่าน ท่านหมายความว่ายังไง?  นายท่านคิดว่าข้าด้อยกว่าคนตาบอดนั่นหรือ?”

เมื่อเห็นเช่นนั้น ถังเทียนแนะนำทันที  “อย่าเพิ่งวู่วามข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น  แต่ว่า..”

“นายท่าน,  ท่านไม่ต้องพูดต่อไปแล้ว!  คอยดูฝีมือของหลีไป๋!” จงหลีไป๋โกรธหมุนตัวเดินออกมาโดยไม่พูดอะไรต่อ

ถังเทียนและสวี่เย่มองหน้ากันเอง  ‘เป็นแบบนี้ได้ยังไง...’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด