ตอนที่แล้วตอนที่ 754 สาวมังกรกับดาบวิเศษติดปีก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 756 มีบุรุษให้พึ่งพิงก็ดีเหมือนกัน

ตอนที่ 755 กลับบ้านเถอะ!


ขณะที่จอมพลซื่อไห่เสียชีวิต  ราชาเก้าแสงก็พบจุดจบที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ต่อให้มารสัมฤทธิ์ฟ้าจักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพไม่ได้มาสมทบจ้าวปีศาจโบราณผู้คลั่งแค้นก็คงไม่ยอมไว้ชีวิตชาวเผ่าเก้าแสงแน่นอน  เพื่อฮุบเอาสมบัติและผลประโยชน์อื่นๆถึงกับทรยศหักหลังพันธมิตรเพื่อปกปิดความจริงปิดปากพยานรู้เห็นกรรมชั่วที่ตนก่อไว้ในอดีต  เผ่าเก้าแสงทรยศต่อมังกรปีศาจทรยศต่อเฟ่ยเหวินหลี และในที่สุดก็ทรยศต่อจ้าวปีศาจโบราณ..นี่ไม่ใช่เพราะจ้าวปีศาจโบราณน่ากลัวกว่าสองคนแรก แต่โอกาสเวลาและฝ่ายตรงข้ามไม่แข็งแกร่งเหมือนสองคนก่อน ครั้งนี้เผ่าเก้าแสงเผชิญคู่ต่อสู้ที่ฝ่ายพวกเขามีฝีมือเหนือกว่าห่างไกลทั้งยังประมาทเย่ว์หยางอย่างร้ายแรง...

จักรพรรดินีฟ้าตายทันที ราชาเก้าแสงกำลังจะเดินตามรอยนางพบจุดจบอย่างน่าอนาถ

ถ้าผู้เฒ่าซื่อไห่เสาหลักของเผ่าเก้าแสงล้มลงเผ่าเก้าแสงจะไม่มีทางกลับมายังจุดนี้ได้อีก

“จงตายซะเถอะ”

จ้าวปีศาจโบราณโบกมือเรียกนาวามรณะที่ได้รับความเสียหายและมีพลแจวเรือเผ่ากระดูกที่ได้รับบาดเจ็บหนักพาโยวจินที่ได้รับบาดเจ็บหนักไปยังหลุมดำ

โยวจินพยายามดิ้นรนเพื่อหลบหนีจากหลุมดำอย่างสิ้นหวัง

ร่างของเขาถูกตรึงอยู่ในโลงศพที่ตอนนี้อยู่ใกล้หลุมดำและเขาปฏิเสธจะเข้าไป

นาวามรณะอับปางก่อนและสูญเสียพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมัน ชั่วขณะหนึ่งไม่มีการรับประกันว่าโยวจินจะถูกส่งไปยังมิติหลุมดำมรณะหรือไม่

หลุมดำเริ่มหดขนาดเล็กลงๆและจ้าวปีศาจโบราณเอื้อมมือไปฉีกเพื่อขยายหลุมดำด้วยความโกรธและกระชากโลงศพและพยายามยัดเข้าไปในหลุมดำโยวจินจะแนบร่างกับโลงศพประหลาดและดีดหนีออกห่างจากหลุมดำไปหมื่นเมตร อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเวลาหลุดเป็นอิสระจากอสูรกรงเล็บกระดูกมรณะหมัดของมารสัมฤทธิ์ฟ้าก็พุ่งมาถึง  เขาต่อยกระแทกโลงประหลาดอย่างหนักหน่วงด้วยพลังของมารสัมฤทธิ์ฟ้าทำให้โลงเปิดออก

จักรพรรดิมังกรใช้เท้าย่ำใส่โลงพิศวงของโยวจินจนโยวจินกระเด็นออกมาจากโลง

จักรพรรดิใต้พิภพใช้มือที่ใช้งานได้ข้างเดียวระดมโจมตีหนักหน่วง

โยวจินถูกไล่โจมตีหลบหนีจนเหนื่อยล้า

ในท้องฟ้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรวมพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่อยู่นานและบรรจุเข้าในดาบเทพจักรพรรดิอวี้และฟันลงในดาบเดียว

อีกด้านหนึ่งการต่อสู้ระหว่างหลี่ผานกับลี่เยี่ยนใกล้จะจบลงเต็มที

พลังนักรบในตอนแรกเมื่อเทียบกับเผ่าเก้าแสงหลี่ผานจะเหนือกว่าลี่เยี่ยนเล็กน้อย แต่ภายใต้สนามพลังศักดิ์สิทธิ์ของเสวี่ยอู๋เสียได้จำกัดขีดความสามารถของเขาไว้  เขาไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งใดจริงสิ่งใดเท็จไม่สามารถใช้พลังของเขาบุกฝ่าออกมาจากสนามพลังศักดิ์สิทธิ์ได้ อย่าว่าแต่ยังมีละอองผงหลอนปราสาทของผีเสื้อเมามายและเสน่ห์กร่อนวิญญาณของนางพญาซัคคิวบัส

ยังไม่ต้องพูดถึงพลังกฎฟ้าของนางเซียนหงส์ฟ้าไม่ต้องพูดถึงทานตะวันอมฤตของเจ้าเมืองโล่วฮัว แค่พลังของอาหมันและพลังอสูรเทพของอาหงก็เพียงพอจัดการหลี่ผานได้

ฮุยไท่หลาง แมงป่องดาวและดาบเทาเถี้ย(ดาบที่แปลงร่างเป็นอสูรได้) ทั้งสามลอบโจมตีอย่างจับทางไม่ได้

รูปแบบการรบ นึกจะหยุดก็หยุด

ไม่มีพฤติกรรมที่จับทางได้

ในสายตาของพวกมันศัตรูที่ดีที่สุดก็คือศัตรูที่ตายแล้ว

ละอองมอมประสาทของผีเสื้อปีศาจของอี้หนาน,ทักษะเสน่ห์กร่อนวิญญาณของนางพญาซัคคิวบัส และทักษะธรรมชาติพิษของเย่ว์ปิงพิษของแมงป่องดาว พลังแสงฉายของทานตะวันอมฤต พลังกฎฟ้าของนางเซียนหงส์ฟ้าหลี่ผานนักรบยอดฝีมือของเผ่าเก้าแสงไม่สามารถทนรับได้ เขาซมซานหนีเข้าไปในสนามพลังศักดิ์สิทธิ์ของเสวี่ยอู๋เสียแต่เขาไม่สามารถหนีออกมาจากสนามพลังนั้นได้อีกต่อไป  ภูตเพลิงฟ้า ตั๊กแตนมัจจุราชราชสีห์เพลิงทองซิมบ้าผลัดกันเข้าโจมตี ในที่สุดหลี่ผานบาดเจ็บจนไม่อาจตอบโต้ได้  ร่างเขาถึงขีดจำกัดจนไม่อาจทนต่อไปได้

“อะฮู้ววววว!”

ฮุยไท่หลางเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าปีศาจล้างโลกขนาดยักษ์ตวัดกรงเล็บใส่หลี่ผานอย่างรุนแรงจนหลี่ผานไม่สามารถทรงตัวอยู่

เมื่อหลี่ผานล้มลงมันก้มลงและงับเขาไว้ในปากยักษ์เตรียมจะกลืนเขาทั้งเป็น

หลี่ผานรู้สึกว่าความตายกรายมาถึงเขาดิ้นรนด้วยพลังอึดสุดท้าย

ง้างปากฮุยไท่หลาง

ความเจ็บปวดค่อยหายไปจากภายในร่าง

เย่ว์หยางที่อยู่ด้านข้างไม่สามารถคงสภาพร่างแปลงของฮุยไท่หลางได้นานมันใช้หางเคียวปีศาจตวัดฟันใส่หลี่ผานอย่างดุดัน อาหมันที่อยู่ห่างออกไปใช้ค้อนสายฟ้าทลายเมฆอาวุธชั้นศักดิ์สิทธิ์ร่วมประสานโจมตีหวดร่างหลี่ผานร่วงลงพื้น

หลี่ผานกระเด็นห่างออกไปหลายร้อยเมตร

เมื่อเขาไม่สามารถดิ้นรนต่อสู้ได้ทานตะวันอมฤตปั่นหมุนและฟันร่างหลีผาน

หลี่ผานนักรบฝีมือดีของเผ่าเก้าแสงร่างขาดกลางตั้งแต่ศีรษะจนถึงเท้า

หลี่ผานตายเขาเป็นนักรบคนสุดท้ายของเผ่าเก้าแสง

เพราะก่อนที่เขาจะตายโยวจินที่ดูเหมือนจะรอดถูกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตัดศีรษะไปก่อน  หลี่ผานจึงเป็นคนสุดท้าย

ฮุยไท่หลาง เทาเถี้ย ซิมบ้าแมงป่องดาวฟ้า ภูตเพลิงฟ้า ตั๊กแตนมัจจุราชและอสูรอื่นรุมแยกสังขารของหลี่ผานอย่างโกรธเกรี้ยว  ใช้เวลากินนาทีเดียวหลี่ผานก็แทบไม่เหลืออะไรมีแต่แขนทองที่ดาบเทพจักรพรรดิอวี้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตัดไว้

“แขนทั้งสองนี้ไม่เลวเอาไว้ให้ปีศาจดอกหนามคลุ้มคลั่ง และปีศาจดอกหนามควันบริวารของตั่วตั่วไว้หลอมรวมทั้งสองถ้าได้รับพลังจากแขนทั้งสองนี้พวกเขาคงไม่ยอมให้ศัตรูฉีกกระชากพวกเขาเป็นชิ้นได้ง่ายๆ แน่ เสวี่ยอู๋เสียรู้สึกว่าปีศาจดอกหนามทั้งสองบริวารของตั่วตั่วยังขาดพลังต่อสู้ไปบ้าง ในการต่อสู้ก็ไม่สามารถช่วยบดบังป้องกันได้  ตอนแรกเริ่มต่อสู้ศัตรูรวมพลังเล่นงานพวกมันก่อนจนแตกหัก โชคดีที่พวกมันเป็นส่วนขยายมาจากร่างอสูรพิทักษ์  ตราบเท่าที่มีเวลาฟื้นฟูตัวเอง  มันสามารถฟื้นฟูตัวเองจนมีสภาพเหมือนตอนเริ่มสู้ได้

“เมี้ยววว!” ฮุยไท่หลางถือว่าตัวเองเป็นลูกพี่ใหญ่ มันยกนิ้ว (กรงเล็บเท้า) สนับสนุนเห็นพ้องด้วย

มันไม่ขอรับหน้าที่ใช้ตัวเป็นโล่บังแน่แม้ว่าการกลืนกินหลอมรวมกับแขนทั้งสองจะมีประโยชน์ก็ตาม แต่มันชอบวิธีสู้แบบฉาบฉวย

ก่อนหน้านี้เหมือนว่ามันชอบเคียงบ่าไหล่ออกไปสู้ต่อหน้าทุกคนคอยต้านทานเป็นโล่เนื้อที่น่าสงสารให้กับทุกคน ดาบเทาเถี้ยไม่มีเงื่อนไขความคิดอะไรทั้งนั้นเจ้านายตัดสินยังไงมันก็ทำตามนั้น แมงป่องดาวฟ้ามันรู้สึกเสียดายแขนทั้งสองอยู่บ้าง แขนนั้นสามารถต้านรับดาบเทพที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟันใส่ได้  แม้ว่าจะเป็นพลังปราณกระบี่ก็ตาม  แต่แขนนั้นก็สามารถบอกได้ว่าเป็นสมบัติที่เหลือเชื่อจริงๆ

แมงป่องดาวฟ้าเพิ่งเข้าร่วมเป็นสมาชิก  มันยังไม่มีสถานะสำคัญ

เมื่อฮุยไท่หลางลูกพี่ใหญ่เห็นด้วย  มันก็คงไม่มีอะไรจะคัดค้านได้

นอกจากนี้แมงป่องดาวฟ้าไม่ต้องการเปลี่ยนไปทำหน้าที่คอยเอาตัวบังเป็นโล่มันไม่มีความสามารถด้านนี้ มันไม่ยอมทำหน้าที่เจ็บตัวแทนคนอื่นแน่ มันไม่ใช่ปีศาจดอกหนามที่ไม่มีวันตาย..

ภูตเพลิงฟ้าไม่มีความสนใจในแขนทองสำหรับนางแล้วแขนเหล่านี้ยังไม่บริสุทธิ์เท่าหินผลึกเพลิง  ตั๊กแตนมัจจุราชไม่สนใจของที่ฟันของมันกัดแทะไม่เข้า  ทั้งสองไม่เคยแม้แต่จะแลแขนทอง หน้าที่ส่งแขนทองเป็นหน้าที่ของซิมบ้าน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมกลุ่ม

ซิมบ้าพานางราชสีห์ทองเมียของมันมาช่วยขนย้ายแขนกลับไป

นอกจากนี้มันยังให้เด็กหญิงแพนดาขี่หลังขณะบินผ่านไปปรากฏในที่ไกล

เย่ว์หยางคือผู้ชนะอย่างแท้จริง

จ้าวปีศาจโบราณลอบถอนหายใจเบาๆ และทุบผลึกเทเลพอร์ตจากไปอย่างหงอยเหงา เหมือนผู้กล้าที่กลับบ้านมือเปล่าเมื่อราชาของพวกเขาตาย เสวี่ยอู๋เสียไม่ได้ขัดขวางจ้าวปีศาจโบราณไม่ให้จากไป  แม้แต่มารฟ้าสัมฤทธิ์ จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพจับตามองนักสู้หอทงเทียนเมื่อหลายหมื่นปีแล้วผู้จากออกไปเงียบๆ

บางทีจ้าวปีศาจโบราณคงจะถอนตัว และจะตื่นขึ้นมาในเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคตข้างหน้า

ไล่ตามหาร่างของเขา หรือร่างเทพไล่ตามหาพลังที่ยิ่งหญ่ต่อไป

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แน่นอนก็คือ

ในยุคของเย่ว์หยาง  เขาจะไม่มีวันปรากฏตัวอีก

เหมือนเมื่อตอนที่เขาหลับลึกเพื่อหลีกเลี่ยงจักรพรรดิไร้เทียนทานจิ๋วซื่อเหมือนตอนที่เขาหลีกเลี่ยงนางพญาผู้พิชิต นางพญาเฟ่ยเหวินหลี เหมือนกับที่หนีจักรพรรดิอวี้.. จ้าวปีศาจโบราณจะหลับอีกครั้งหนึ่ง เพราะนี่คือยุคของเย่ว์หยาง!

เทียบกับในอดีต ครั้งนี้จ้าวปีศาจโบราณถอนตัวและเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างเดียวดายตามลำพัง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นหลังอย่างเย่ว์หยางอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ในประวัติศาสตร์ และมีแนวโน้มว่าจะเปิดแดนล่มสลายอแห่งทวยเทพได้สำเร็จ  แต่ยังคงพังสลายความหวังในใจของจ้าวปีศาจโบราณด้วยเช่นกัน

จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อถูกผนึกไว้  ขณะที่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีก็เหมือนกันและจักรพรรดิอวี้ตายในการต่อสู้

อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นกับเย่ว์หยาง

มีสัญญาณบ่งบอกว่าเขาคือเมล็ดพันธุ์ที่เผ่าอมตะบูรพาหว่านเอาไว้ในหอทงเทียนเมล็ดพันธุ์ที่ไม่มีอะไรสามารถหยุดได้หลังจากงอกแล้ว  และจะต้องเติบโตขึ้นเป็นต้นไม้ใหญ่!  ไม่มีใครพูดอย่างนี้ แต่จ้าวปีศาจโบราณรู้ว่ายุคสมัยของเขาผ่านไปแล้ว  เทียบกับจักรพรรดินีฟ้าและราชาเก้าแสงสิ่งที่โชคดีก็คือบนเส้นทางต่อสู้กับเย่ว์หยาง เขาไม่ถึงจุดจบและไม่ต้องตายในที่สุด ก่อนที่เย่ว์หยางจะเติบโตเป็นไม้ใหญ่ เขายังมีโอกาสถอนตัวแทนที่จะอยู่เป็นหินหยั่งเท้าให้เย่ว์หยางก้าวหน้าเหมือนอย่างจักรพรรดินีฟ้าและราชาเก้าแสง

ไปดีกว่า

ไปจากหอทงเทียน

บางทีนี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้มองย้อนกลับ  เพราะเวลาของเขาผ่านไปแล้ว...

ก่อนจะเข้าประตูมิติเทเลพอร์ต จ้าวปีศาจโบราณหันกลับมามองกลุ่มคนที่สวมกอดกันหัวเราะร่าเริงดีใจเขาลากเท้าจากไปอย่างเดียวดาย

เมื่อเขาจากไป  มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพและคนอื่นลอบถอนหายใจ  เจ้าปีศาจโบราณแม้ตัวเขาจะบาดเจ็บหนักแต่เขาก็ยังเป็นนักสู้รุ่นอาวุโส เพียงแต่ไม่น่านับถือ  ถ้าไม่มีเย่ว์หยาง แม้แต่จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีก็คงยากจะเอาชนะนักสู้รุ่นอาวุโสผู้มีชื่อเสียงและความอดทนนี้ได้

เมื่อถึงตอนนี้การต่อสู้จบลงอย่างแท้จริง

คัมภีร์อัญเชิญของแต่ละคนลอยขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

แสงเลื่อนระดับพลังและความก้าวหน้าฉายรวมกันนับสิบๆสายพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า

เสวี่ยอู๋เสียถือคัมภีร์แห่งสัจธรรมยืนอยู่ในกลางสนามรบ  จนถึงตอนนี้นางค่อยๆ หลับตาผ่อนคลายได้ปล่อยให้พลังตนเองพุ่งขึ้นเกินขีดจำกัดและลดลงมา

ตุ้บ

คัมภีร์แห่งสัจจะร่วงลงบนพื้นมีเพียงเปล่งพลังงานมันมีพลังแค่ด้อยกว่าสมบัติชั้นเทพเท่านั้น

และเสวี่ยอู๋เสียถูกคนผู้หนึ่งกอดประคองไว้

เป็นเย่ว์หยางนั่นเอง

เขามองดูเสวี่ยอู๋เสียผู้มีสายตาอ่อนล้าฝืนยิ้มให้เย่ว์หยางก่อนที่นางจะหมดสติไป

“นี่, ขอยืมไหล่เจ้าอิงหน่อยได้ไหม”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็อ่อนล้าเช่นกัน นางอาศัยดาบเทพจักรพรรดิอวี้ช่วยพยุงตัวก่อนจะเดินมาถึงที่ข้างตัวเย่ว์หยางและโอบไหล่เย่ว์หยาง ไม่รอให้เย่ว์หยางได้พูดนางก็ล้มหมดสติต่อหน้าเขา เย่ว์หยางรีบยื่นมือประคองร่างที่อ่อนนุ่มของนาง อดฉวยโอกาสไม่ได้ที่จะใช้มือลูบบั้นท้ายนางใบหน้านางแม้จะหมดสติไปแล้วแต่คงไม่ได้ยินคำพูดที่เด็ดเดี่ยวและแฝงไปด้วยความรัก  “แม่เสือสาว! ดูเจ้าเหนื่อยไม่น้อยเลย,  งั้นกลับบ้านกันเถอะ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด