ตอนที่แล้วตอนที่ 748 จุดชมวิว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 750 เคียวมัจจุราช

ตอนที่ 749 หุ่นเชิดมัจจุราช


หุ่นเชิดมัจจุราช

สวี่เย่ไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง‘ตาแก่นั่นบ้าไปแล้ว? เหอซินบ้าไปแล้ว? ‘หุ่นเชิดมัจจุราชไม่ใช่สิ่งที่กฎผิวเผินสามารถกระตุ้นใช้ได้  การใช้งานหุ่นเชิดมัจจุราชต้องการเงื่อนไขที่รุนแรงมาก  และจะต้องเป็นคนมีพลังระดับสูง

มันสิ้นเปลืองพลังในระดับที่แตกต่างจากด้ายมรณะและหุ่นเชิดมรณะ หุ่นเชิดมรณะจำเป็นต้องใช้ด้ายมรณะเมื่อพันเข้ากับข้อต่อของร่างกาย และผู้ใช้สามารถควบคุมหุ่นเชิดมรณะมาใช้งานได้อย่างอิสระ  แต่หุ่นเชิดมัจจุราชเป็นการสร้างด้ายมรณะที่แตกต่างกันออกไป

ความจริงก็คือจ้าวหุ่นเชิดที่ควบคุมหุ่นเชิดมรณะเข้าต่อสู้โดยใช้ด้ายมรณะ  สำหรับหุ่นเชิดมัจจุราชสามารถสู้ได้ด้วยตนเองรังสีมรณะที่ทรงพลังและหนาแน่นเปล่งออกมาจากร่างของหุ่นเชิดเปลี่ยนไปเป็นองค์ประกอบของมนุษย์ที่อยู่ภายในหุ่นเชิด

นอกเหนือจากความสามารถในการผลิตปราณมรณะมหาศาลจากการเผาผลาญผิวกฎธรรมชาติก็สามารถสร้างพื้นที่ระหว่างผิวกฎและกฎอวกาศ ทำให้ผู้ใช้ยืมพลังของกฎอวกาศได้

ถ้าจ้าวหุ่นเชิดรู้แจ้งกฎอวกาศ หุ่นเชิดมัจจุราชจะกลายรูปเป็นมัจจุราชเชิดที่ยิ่งใหญ่

(ในแดนบาปมีการใช้กฎธรรมชาติสี่ระดับคือสายใยกฎธรรมชาติเบื้องต้น ผิวกฎธรรมชาติ สนามพลังกฎธรรมชาติและพื้นที่กฎธรรมชาติสูงสุด)

พื้นที่กฎมรณะเรียกว่า‘นรก’ และมัจจุราชก็คือหนึ่งในผู้ที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดในนรก  พลังของจ้าวหุ่นเชิดมรณะไม่เป็นที่น่าสงสัย  แต่มีขอบเขตในการเรียนรู้ที่สูงลิ่วมีความต้องการที่สูงในการรู้แจ้งและปรับเปลี่ยน

ในประวัติศาสตร์ของแดนบาปไม่มีใครเคยรู้แจ้งพลังมัจจุราช แม้ว่าประวัติศาสตร์ของแดนบาปจะสั้นก็ตาม

ความสำเร็จของเหอซินในพลังหุ่นเชิดมรณะอาจกล่าวได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักสู้ผู้ฝึกในแนวทางเดียวกัน  เพราะเพื่อจะหยุดบุรุษหน้ากากผี  เขาเปล่งพลังผิวกฎธรรมชาติของตนโดยไม่เสียเวลาคิดและให้ตัวเองเรียกใช้วิชาหุ่นเชิดมัจจุราช ซึ่งเป็นรองแค่พลังมัจจุราชเท่านั้นมันทรงพลังมากและได้รับยกย่องว่าเป็นวิชาหุ่นเชิดที่ใกล้กับพลังมัจจุราชมากที่สุดแล้ว

เมื่อสวี่เย่เห็นหุ่นเชิดมัจจุราช  เขาตะลึง ‘เหอซินมีความเกลียดต่อนายท่านหรือ?’

แต่เมื่อเขาพิจารณาดู  เขาจึงเข้าใจ บ้านตระกูลฉี เหอซินเป็นส่วนหนึ่งของบ้านตระกูลฉี

สวี่เย่เป็นคนฉลาดและเชื่อมโยงจุดต่อได้ทันที

การสู้รบในตอนนี้ขึ้นถึงระดับสุดยอดแล้ว

ในที่สุดถังเทียนก็หยุด  เงาร่างห้าร่างได้นำเงาร่างอีกนับไม่ถ้วนส่งเสียงหวีดหวิวและล้อมถังเทียนไว้  ความเคลื่อนไหวของพวกเขารวดเร็วมาก ไวกว่าหุ่นเชิดมรณะที่เพิ่มความแข็งแกร่งขึ้น สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือจิตสำนึกของพวกเขาถูกยกระดับขึ้น และเทียบกันแล้วหุ่นเชิดมรณะแต่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนของเล่น

หุ่นเชิดมัจจุราชทั้งห้ารู้วิธีสร้างกระบวนรบดังนั้นจึงสร้างแรงกดดันมากมายกับถังเทียน

แต่ถังเทียนไม่กลัว  เขาผนึกมือในปางมุทราหมัดพิโรธ และร่างของเขาที่กำลังร้อนขึ้นได้สร้างสมดุลที่ประหลาดให้ความรู้สึกที่เย็น โซ่เหล็กที่ถูกเขาดึงตึงให้ความรู้สึกกับเขาว่าไร้น้ำหนัก  และเมื่อเขาดึงโซ่ ทำให้เกิดเสียงทุ้มดังขึ้นราวกับว่ามีสัตว์ร้ายโบราณร้องอยู่แต่ไกล ระลอกพลังนับไม่ถ้วนแผ่ออกไป

ซี่...

เงาร่างที่ลอบเข้ามาปลิวกระเด็นออกไปเพราะโซ่เหล็ก มันคือหุ่นเชิดมัจจุราชที่ตั้งใจจะลอบเข้ามาโจมตีถังเทียน  เสียงกระดูกแตก เสียงถูกโซ่หวดดังนั้นไม่มีใครได้ยินเสียงครวญครางของมัน หุ่นมัจจุราชนี้บินออกไปเหมือนลูกบอล ร่างดำพุ่งเป็นประกายเหมือนกับธนูกระแทกลงที่ลานบ้านอยู่รุนแรง

ปัง!

บนลานกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย

แต่เนื่องจากความสับสนวุ่นวายมากมาย  ประชาชนที่พบเห็นเหตุการณ์นี้ใกล้ๆ  ได้หนีออกไปอยู่ห่างๆ

หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีหุ่นเชิดมัจจุราชร่างสีดำสนิทก็คลานออกมาจากหลุมราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับมัน มันพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าอีกครั้งเตรียมต่อสู้อีกครั้ง

หนึ่งในหุ่นเชิดมัจจุราชฉวยโอกาสเมื่อถังเทียนมัวแต่ยุ่งกับสหายทั้งสามของมัน  และตะลุยผ่านโซ่ขัดขวางของถังเทียน  และเข้ามาในพื้นที่ใกล้มันลอบเข้าหาถังเทียนอย่างเงียบกริบ

ทั้งสองฝ่ายเข้าใกล้กันอย่างรวดเร็วตาสีดำสนิทของมันกระพริบและร่างของมันหายไป ในวินาทีต่อมา มันปรากฏอยู่ด้านหลังของถังเทียน และสิ่งที่ไม่มีใครคาดก็คือเคล็ดการใช้กระพริบร่างผ่านของมันไม่ทำให้เกิดระลอกกระเพื่อมของกฎธรรมชาติเลย

แต่...

ฝ่ามือหนึ่งปรากฏบังสายตาโดยที่มันไม่รู้ตัว

ฝ่ามือตั้งท่าเป็นรูปมีดและฟันลงไม่มีรังสี และอากาศโดยรอบผันผวน

ข้าคือมารพิฆาต!

ดาบนี่ฟันใส่หน้าของหุ่นเชิดมัจจุราช  คลื่นพลังทะลักออกทันที

ซี่....!

หัวของหุ่นเชิดมัจจุราชงอไปด้านหลังทันที  ด้ายมรณะที่พันรอบศีรษะเขาแน่นถูกฟันขาดสะบั้นกระจัดกระจายเผยให้เห็นใบหน้าที่ซีดขาว

“อาเซียง! ไม่นะ!”

บางคนจากกลุ่มผู้คนกรีดร้องทันที สตรีคนหนึ่งเอามือปิดปากหน้าซีดเผือดและร่างนางเริ่มซวนเซ บุรุษคนนี้เป็นน้องชายของนางที่ถูกเปลี่ยนเป็นหุ่นเชิดมัจจุราช  หน้าตาที่คุ้นเคยนั้นไม่มีสีเลือดเหลืออยู่เลยและเขาตายแล้ว

เสียงกรีดร้องดังระงมทั่วทั้งถนน

ฝูงชนตกอยู่ในความโกลาหลมีสองสามคนเข้ามาปลอบโยนนางด้วยสีหน้าโกรธแค้น

“จ้าวหุ่นมรณะ!  หาตัวเขา!  เขาต้องอยู่ใกล้ๆ นี่!”

“ใช่แล้ว เขาต้องอยู่ใกล้ๆ แน่นอน!  เขาเป็นคนเปลี่ยนอาเซียง....”

เหอซินผู้ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดมีเลือดออกจากจมูก,ปากและตา, เป็นภาพที่น่ากลัว  ‘เจ้าพวกมดแมลงเหล่านี้ พวกมันนึกว่าจะหาข้าเจอ ประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว’  ร่างที่น่ากลัววาบผ่านนัยน์ตาเขา

‘ต้องถือว่าเป็นเกียรติแล้วที่กลายเป็นหุ่นเชิดของข้า’

เขาหยีตาและรั้งรัศมีทั้งหมดกลับมาและเหมือนกับต้นไม้ตาย  เขาพรางตัวเองไปรอบๆ  หลายคนต้องตายไปเพราะหุ่นเชิดของเขา  ตั้งแต่เขาได้รู้แจ้งวิชาเมล็ดหัวใจมรณะเขากลายเป็นคนใจกล้าบ้าบิ่น มนุษย์ธรรมดาทั้งหมดถูกเขาใช้ในเวลาและสถานที่ซึ่งเขาชอบ  สำหรับเขาแล้ว ควรเป็นเรื่องภูมิใจที่สุดที่ได้เป็นหุ่นเชิดของเขา

หลายคนเดินผ่านเขาไป  แต่ไม่มีใครรู้สึกถึงความคงอยู่ของเขา  เขาฆ่าคนมามากมายและเขามีฝีมือมากแล้วเขาจะได้รับผลกระทบจากคนธรรมดารอบตัวเขาได้ยังไง?

แต่เขาสามารถรู้สึกได้ว่าสวี่เย่กำลังมองหาเขาอยู่

สำหรับเขาแล้วสวี่เย่ฉลาดแต่อ่อนแอเกินไป และเขาไม่ได้เป็นคนใจกว้างในวิธีที่เขาฝึกกฎเป็นและตาย  ‘ดังนั้น..ฝึกไปเพื่ออะไร?’  ในฐานะมนุษย์ผู้ชุ่มไปด้วยเลือด เขารู้สึกรังเกียจต่อสวี่เย่ผู้มีความคิดโลกสวยเหมือนกับดอกไม้ที่รักษาไว้อย่างดีในเรือนกระจก

เขาเก็บรั้งกลิ่นอายตนเองได้สมบูรณ์แบบ

พลังของบุรุษหน้ากากผีเกินที่เขาคาดไปมาก  และเขาชักเชื่อว่าบุรุษหน้ากากผีเป็นผู้สืบทอดของปรมาจารย์หลี่แล้ว  เมื่อเขาปะทะฝีมือกับบุรุษหน้ากากผีเขาสามารถรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงเบื้องหลังหน้ากาก ก่อนนี้พลังของบุรุษหน้ากากผีก็น่าทึ่งอยู่แล้ว  แต่ตอนนี้กลับแตกต่างออกไปอีกระดับหนึ่ง

‘ทุกอย่างเริ่มจากเมื่อหมัดของเขาเปลี่ยนไป  เมื่อมีแสงสีแดงปรากฏ’

เหอซินระลึกทบทวนหมัดนั้นอย่างระมัดระวัง  ทันใดนั้นหัวใจของเขาแทบกระดอน  ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้  หมัดของบุรุษหน้ากากผีเป็นแค่ภาพลวงตา  หมัดไม่ใช่ของจริง

‘นั่นไม่ใช่หมัด  แต่เป็นมุทรา!’

‘วิชาดรรชนีที่เขาใช้กับข่ายมรณะของข้าดูเหมือนเป็นท่าเด็ดดอกไม้นั่นเป็นปางมือมุทราแน่นอน’

‘หรือว่าเขา...จะเป็น...ผู้สืบทอดของปรมาจารย์หลี่จริงๆ....’

เหอซินถูกความตกใจครอบงำ  เพราะถ้าเป็นเรื่องจริงก็จะเป็นเรื่องที่สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วแดนบาป  ‘ทุกคนรู้จักพลังของปรมาจารย์หลี่และบุญคุณที่มีต่อแดนบาป  และเพราะผู้สืบทอดของเขาทรงพลังมากเช่นกัน  ข้าเกรงว่า...’

เขาไม่กล้าคิดอะไรต่อไป

‘ข้าควรจะคิดถึงเรื่องนี้หลังจากข้าผ่านเรื่องนี้ไปได้’  ตาของเขากลายเป็นดุร้าย  ‘ถ้าบุรุษหน้ากากผีเป็นผู้สืบทอดของปรมาจารย์หลี่จริง  ข้าจะปล่อยให้เขามีชีวิตต่อไปไม่ได้  ถ้าเขายังมีชีวิต  ตระกูลฉีจะถูกทำลายในคืนเดียว’

เหอซินภักดีต่อตระกูลฉีมาก  และขณะนั้น เขาไม่คำนึงถึงชีวิตตนเองทันที

‘ไม่ว่าต้องทุ่มเทยังไงเราต้องฆ่าบุรุษหน้ากากผีให้ได้!’

เมื่อเห็นกฎผิวเผินของเขาเผาผลาญไป30%  เหอซินมีความมั่นใจ  ‘ด้วยชีวิตข้านี้ ข้าต้องฉุดลากบุรุษหน้ากากผีลงนรกไปกับข้าด้วย  เขาอ่อนแออย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน  แสงสีแดงรอบตัวเขาสลัวลงมากแล้ว การต่อสู้ที่รุนแรงจะทำให้เขาเสียชีวิต

หุ่นเชิดมัจจุราชใช้อาเซียงเป็นสื่อกลางอีกครั้ง  ด้ายมรณะพันร่างของเขาและรอบศีรษะเขา

ความเคลื่อนไหวของบุรุษหน้ากากผีช้า  ความเหนื่อยล้าของเขาปรากฏชัดเจน

ขณะนั้นเองหุ่นเชิดมัจจุราชมาถึงที่ด้านหลังถังเทียนอีกครั้ง

เหตุการณ์เดียวกันเกิดขึ้นอีกครั้ง  ‘ข้าคือมารพิฆาต’ นำมาใช้อีกครั้ง เนื่องจากถังเทียนเตรียมตัวไว้แล้ว

ซี่...

ด้ายมรณะปลิวกระจายไปทุกที่  และหน้าตาที่ขาวซีดเผยให้เห็นอีกครั้ง

กลุ่มคนร้องครวญครางออกมา  บุรุษวัยกลางคนคนหนึ่งคุกเข่ากับพื้น  ตลอดทั้งร่างของเขาสั่นอย่างรุนแรง  เขาร้องเสียงดัง

เหอซินแค่นเสียง ถ้าการฟันครั้งแรกทำให้หน้าที่แท้จริงของหุ่นเชิดมัจจุราชถูกเผยเป็นเรื่องบังเอิญ อย่างนั้นนั่นก็ทำให้เขาเข้าใจว่าบุรุษหน้ากากผีพยายามทำอะไร  ‘เจ้าต้องการใช้มดแมลงเหล่านี้มาต่อต้านข้าหรือ?’

‘ไร้เดียงสาจริง!’

เมื่อเข้าใจความคิดของบุรุษหน้ากากผีอย่างชัดเจน เหอซินยังคงควบคุมหุ่นเชิดมัจจุราชให้วิ่งเข้าหาถังเทียน

ปัง  ปัง ปัง!

การโจมตีอย่างต่อเนื่องจากหุ่นเชิดมัจจุราชอื่นสามารถทำร้ายถังเทียนเพิ่ม

เสียงร้องที่บีบคั้นใจชอนไชเข้าไปในหัวใจของทุกคน

ผู้คนโกลาหลส่งเสียงดังขึ้นทุกที นักสู้ที่ชมดูในตอนแรกทุกคนมีความโกรธแค้นอยู่ในสีหน้า ใช้ชีวิตมนุษย์เป็นหุ่นเชิดเป็นเรื่องโหดร้ายเกินไป,อำมหิตเกินไปและนี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขาในเมืองบูรพาอมตะ

“เจ้าบัดซบนั่น!  ถ้ามันจะเอาชีวิตข้าไป  ข้าก็จะหาเจ้าคนชั่วนี้ให้เจอ!”  บุรุษร่างใหญ่คำราม

“ตามหาตัวเขาเดี๋ยวนี้!”

“นี่มันโหดร้ายเกินไป!”

ความโกลาหลของผู้คนยิ่งดังมากขึ้นทุกคน  ทุกคนมีศัตรูร่วมกัน

เมื่อเห็นเช่นนั้นสวี่เย่นัยน์ตาเป็นประกาย  เขาตะโกนดังๆ ให้ทุกคนได้ยิน  “ข้าก็ฝึกกฎเป็นตายมาเหมือนกันจะควบคุมหุ่นเชิดมัจจุราช  เขาต้องอยู่ภายในระยะ300 เมตร”

“300 เมตร ทุกคนแยกย้าย  อย่าให้เกิดฝุ่นคลุ้ง ขุดลงไปในพื้น 1 เมตร,ข้าไม่เชื่อว่าเราจะหาเขาไม่พบ” บุรุษร่างใหญ่คำราม

ขณะนั้นนักสู้ทุกคนแยกย้ายกันค้น  พวกเขาเกลียดจ้าวหุ่นเชิดเข้ากระดูก

หน้าของเหอซินเปลี่ยนไปทันทีไม่ว่าเขาจะซ่อนตัวสมบูรณ์แบบเพียงใด ถ้าพวกเขาค้นหาทุกตารางนิ้วเขาคงไม่สามารถหลบหนีได้

ถ้าตำแหน่งของเขาถูกเปิดเผย  เขาจะตกอยู่ในอันตราย

‘ไม่,ข้าจะไม่ยอมให้พวกเขาหาข้าเจอ!

ความกลัวอธิบายไม่ถูกเพิ่มขึ้นในใจเขา  ‘เจ้าพวกมดแมลงพวกนี้บังอาจต่อต้านข้า  ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด!  พวกเจ้าทุกคน!’

เหอซินเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันปนกับความกลัว  หนึ่งในหุ่นเชิดมัจจุราชถอยและวิ่งเข้าหาฝูงผู้คนทันที

‘ข้าแค่ใช้หุ่นเชิดตัวหนึ่งของข้าฆ่าทุกคนที่นี่  พวกเจ้าต้องการทำตัวเป็นวีรบุรุษใช่ไหม?’

หน้าของเหอซินน่ากลัวและแดง  เขารู้จักด้านที่น่าเกลียดของนิสัยมนุษย์  ตราบใดที่คนตกอยู่ในอันตรายเขารู้สิ่งที่ทุกคนจะทำ

ควั่บ!

เสียงหวีดหวิวจนชากวาดผ่านหัวทุกคนไป

โซ่เหล็กเท่าแขนตกอยู่ในมือของหุ่นเชิดมัจจุราชที่วิ่งเข้าหาฝูงชน  แต่ครั้งนี้มันไม่ถูกขว้างออกไป  แต่กลับติดแน่นกับโซ่

ถังเทียนเคลื่อนมือนึกถึงหุ่นเชิดมัจจุราชที่ถอยหลังมาอยู่ด้านข้างเขา

เมื่อเห็นเช่นนั้นหน้าของเหอซินเปลี่ยน  ‘แย่แล้ว!’

‘แต่เจ้าคิดหรือว่าเจ้าจะสามารถตรึงหุ่นเชิดมัจจุราชของข้าได้?’

หุ่นเชิดมัจจุราชอีกตัวตัวพุ่งเข้าหาถังเทียน  ซู่ ซู่ ซู่ด้ายสีดำนับไม่ถ้วนยิงออกมาจากร่างพวกเขา พุ่งตรงใส่แขน ขาเอวและข่ายมรณะมัดตรึงตัวเขาไว้แน่น

‘ไปตายซะเถอะ!’

หุ่นเชิดมัจจุราชดึงโซ่ออกทำให้เห็นประกายแสงดำในดวงตาของมัน  มันเงื้อมือแปรสภาพเป็นหมอกดำ  ทันใดนั้นมันฟันใส่ถังเทียน

แขนหายไปและเปลี่ยนเป็นรูปเคียวสีดำ  รังสีมรณะเยือกเย็นพุ่งตรงใส่คอถังเทียน

‘เคียวมัจจุราช!’

แสงนัยน์ตาที่หมองภายใต้หน้ากากผีพันเปล่งสีแดงสว่างทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด