ตอนที่ 747 จ้าวหุ่นเชิดมรณะ

มุทราเด็ดบุปผาเป็นท่าปางมือที่ถังเทียนรู้จักคุ้นเคยมากที่สุดในบรรดาเทพอสูรหกมุทรา

ท่าปางมือคล้ายกับว่าเขากำลังจะเด็ดดอกไม้

ทันใดนั้นรัศมีของถังเทียนเปลี่ยนไปทันที  ถ้าจะให้เปรียบเทียบกับก่อนหน้านั้น  ถังเทียนเป็นเหมือนขวานหนักที่ทรงพลัง  แต่ตอนนี้ เขากลายเป็นคนสงบเย็น  และยังเหมือนกับเขากำลังเก็บดอกไม้ด้วยรอยยิ้มที่นุ่มนวลนิ้วของเขาชี้ตรงมาที่ใบหน้าที่น่ากลัวที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขา

ชี่...

เหมือนกับลูกโป่งที่ถูกหนามทิ่มหน้านั้นเริ่มแตกและหายไป

เสียงครางดังออกมาจากระยะไกล

ถังเทียนรู้สึกได้ว่าด้ายมรณะที่พันมือขวาของเขาหลวมและเขาไม่ลังเลยใจเขาสะบัดมันเป็นเหตุให้พลังที่รุนแรงปล่อยออกมาทันที  และด้ายมรณะสลายออกไปหมด

ด้ายมรณะยากมากที่จะทำลายหลุดพ้นเป็นอิสระได้  เมื่อถูกมันจับรัด ด้ายเหล่านั้นเป็นเหมือนงูที่รัดรอบตัวถังเทียนอย่างดุดัน

แต่ในพริบตาถังเทียนก็ตั้งท่าปางมืออีกท่าสำเร็จ

มุทรากระบี่กำสรวล

รังสีที่แฝงด้วยความเศร้าโศกจนสุดจะพรรณนาท่วมทะลักออกจากร่างของถังเทียน  ท่าปางมือเป็นเหมือนกับกระบี่  ในใจของถังเทียนมีภาพเทพอสูรปรากฏชัด หมอกเสียงรายรอบฝ่ามือที่ตั้งท่ามุทรากระบี่กำสรวล และความโศกเศร้าเสียใจในโลกทั้งหมดดูเหมือนจะซึมซับเข้าไปในกระดูกเขา

มนุษย์มีสภาพอารมณ์เจ็ดอย่างมีหกความปรารถนาซึ่งสามารถสร้างจิตมารได้

มุทราในฝ่ามือขวาของถังเทียนปล่อยหมอกประหลาด ภายในหมอกจะมีเสียงโศกเศร้านับไม่ถ้วนซึ่งขดล้อมข่ายมรณะบนตัวถังเทียนมันแตกสลายเข้าไปในด้ายมรณะ

ถังเทียนรั้งมือขวาของเขากับทันที

ข่ายมรณะถอยออกไปเหมือนหมึกและหายไปในความมืด

มีความสับสนวุ่นวายมากเกินไป  บริเวณโรงเตี๊ยมตึงเครียดไปทั่วทันที

ถังเทียนและพวกไม่ได้พักอยู่ในโรงเตี๊ยมธรรมดา  ตระกูลฉีเป็นตระกูลใหญ่และให้ความสนใจต่อคุณภาพชีวิตเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงไม่มีที่พักแบบธรรมดาราคาถูกในเมือง  นอกจากนี้สวี่เย่คาดการณ์ถึงเรื่องดังกล่าวไว้นานแล้ว เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถป้องกันการลอบสังหารใดๆ ได้  ทำไมไม่สู้กันอย่างเปิดเผยเสียเลย

แต่สิ่งที่สวี่เย่คาดไม่ถึงก็คือพวกเขาจะได้พบกับจ้าวหุ่นเชิดมรณะเหอซินจริงๆ

สวี่เย่ฝึกกฎธรรมชาติเป็นตายดังนั้นเขารู้จักกฎเป็นตายประเภทต่างๆ ที่ลึกซึ้งและเข้าใจได้ยาก   เป็นมาจากตายและในทางกลับกันกลิ่นอายมรณะที่หนาแน่น ก็มีความต้องการเนื้อหามากขึ้นผิวกฎธรรมชาติของเหอซินมีกลิ่นอายความตายหนาแน่นใครจะรู้ว่าร่างของเขาถูกกินไปมากเพียงไหน

สวี่เย่สั่นเมื่อคิดเช่นนั้น

นักสู้ผู้ฝึกกฎตายล้วนๆจะไม่เป็นที่ต้อนรับโดยทั่วไป และพวกเขาส่วนใหญ่จะเป็นพวกคนโฉด ไม่มีความสมดุลกับกฎเป็นไม่เพียงแต่กฎตายจะกัดกร่อนร่างของนักสู้เท่านั้น แต่มันจะกัดกร่อนสภาพจิตใจทำให้พวกเขากลายเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิต

เสียงตวาดสามารถได้ยินถึงด้านนอกไฟถูกจุดสว่าง เห็นได้ชัดว่าผู้คุ้มกันโรงเตี๊ยมได้ยินเสียงสับสนวุ่นวายและกำลังวิ่งเข้ามา

สวี่เย่ตรวจสอบสถานที่อย่างระมัดระวัง  และสงบใจได้ในที่สุด  เขาไม่รู้สึกถึงความคงอยู่ของเหอซิน

“เขาไปแล้ว”

หัวใจของสวี่เย่กำลังเต้นแรง

ถังเทียนไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อยไม่ผ่อนคลายตนเองสักนิด

เมื่อเห็นว่าสวี่เย่ตรวจสอบรอบๆอย่างระมัดระวังอีกครั้ง จากนั้นเขาลืมตาและยืนยัน  “เขาไปแล้ว”

เขาฝึกฝนในกฎเป็นตายและไวต่อความรู้สึกต่อรังสีกฎเป็นตาย ถ้าเหอซินยังคงอยู่ใกล้ๆ เขาจะรู้สึกได้อย่างแน่นอน เหมือนที่เขาตรวจพบเหอซินได้ตั้งแต่แรก

ถังเทียนไม่พูดสายตาของเขาค่อยๆ กวาดไปทั่วทุกมุมในลานว่าง ความเคลื่อนไหวนี้ช้ายิ่งนัก

กลุ่มหน่วยรักษาความปลอดภัยพรวดพราดเข้ามาทันที

หัวหน้าหน่วยมองดูช่องโหว่ใหญ่บนผนังและถาม  “เกิดอะไรขึ้น?”

สวี่เย่แค่นเสียง “ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าศาลาบูรพาอมตะจะไม่ปลอดภัยเสียได้  แต่ยังดีข้าสงสัยว่าเจ้าสามารถป้องกันจ้าวหุ่นเชิดมรณะเหอซินหรือไม่”

เสียงของหัวหน่วยรักษาความปลอดภัยเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น“อะไรนะ, จ้าวหุ่นเชิดมรณะเหอซิน!”

สวี่เย่ไม่ใส่ใจเขา พวกยามรักษาความปลอดภัยมีพลังแค่พอจัดการกับยอดฝีมือธรรมดาเท่านั้น  แต่กับคนอย่างเหอซิน  พวกเขาเป็นเหมือนมดแมลง

ผู้เป็นหัวหน้าคำนับ  “ท่านจะว่าอะไรไหมถ้าข้าขอตรวจดูสถานที่?”

“ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น”  สวี่เย่พูดอย่างไม่สบอารมณ์

หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยคำนับ  “เรามีหน้าที่รับผิดชอบ  หวังว่าลูกค้าคงจะเข้าใจ”

สวี่เย่มองดูถังเทียนเมื่อเห็นถังเทียนพยักหน้าเล็กน้อย เขากล่าว  “ก็ได้ งั้นเชิญดูได้เลย”

หัวหน้ายามตอบทันที  “ขอบคุณ!”

เพียงแค่นั้นเขาก้มหน้าและเดินตรงไปที่ช่องโหว่บนผนังซึ่งอยู่ด้านหลังของถังเทียน  หัวหน้ากลุ่มรักษาความปลอดภัยคำนับและต้องการเดินผ่านถังเทียน  ขณะนั้นเองสายตาของถังเทียนมีประกายเจิดจ้าทันทีและมือดาบของเขาฟันออกทันที

ชี่!

มือของเขาโจมตีใส่ร่างของหัวหน้ากลุ่มรักษาความปลอดภัยเหมือนกับว่าต้องการฆ่าเขา ปัง.. ร่างของบุรุษผู้นั้นปลิวออกไปเหมือนกับกระสอบทรายและกระทบกับผนังโดยตรงเกิดเป็นรอยร้าวนับไม่ถ้วน

สวี่เย่และยามรักษาความปลอดภัยคนอื่นตกใจและยามรักษาความปลอดภัยทุกคนมีท่าทางโกรธทันที

แต่ขณะนั้นเองเรื่องแปลกก็อุบัติขึ้น

รังสีมรณะสีดำเปล่งออกมาจากหัวหน้ารักษาความปลอดภัยทันที  รังสีมรณะดำเปลี่ยนเป็นเส้นมรณะทันที  ในพริบตานั้น ด้ายมรณะทั้งหมดสานตัวเป็นข่ายขนาดใหญ่ขดรอบมนุษย์

ด้ายมรณะสานกันไปมาจนตาของหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยกลายเป็นสีดำสนิท

“เจ้าค้นพบได้ยังไง?”

เสียงต่ำแหบแห้งดังออกมาจากร่างของมนุษย์

มือซ้ายของถังเทียนลอบตั้งมุทราวิญญาณไร้ลักษณ์  แต่เขาไม่ปลดปล่อยรังสีเปลี่ยนแปลงทำให้เขารับทราบสถานการณ์รอบตัวอย่างกระจ่าง สัญชาตญาณของเขาแหลมคม นอกจากเนี่ยชิวที่มีประสาทรับรู้คมกล้า ถังเทียนไม่พบว่าจะมีใครเหนือกว่าเขาในด้านนี้

มุทราวิญญาณไร้ลักษณ์เพิ่มสัญชาตญาณให้เขาจนสูงล้ำ  และเขาสามารถรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในคนผู้หนึ่ง

ดาบมารเปลี่ยนแปลงของถังเทียนทรงพลังมากพอจะทำลายกระดูกในร่างกายคนและทำลายกระดูกอกทั้งหมดได้  แต่ขณะนั้น อกของคนผู้เป็นปกติกระดูกทั้งหมดของเขาเป็นเหมือนเมื่อก่อน มีแต่เพียงหนังของเขามีสีเทาเหมือนคนตาย

หน้าของสวี่เย่ซีดขาว  เขาถูกความตกใจครอบงำ  ในขณะนั้นพลังของหน่วยรักษาความปลอดภัยผู้ฟื้นคืนอย่างรวดเร็ว  และรังสีมรณะที่หนาแน่นทะลักออกมาจากร่างของเขา

‘นี่คือ...’

สวี่เย่พึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว  “เมล็ดหัวใจมรณะ...”

ผิวกฎธรรมชาติตายคือความสามารถที่ชั่วร้ายและน่ากลัวที่สุด  เมื่อถึงระดับความรู้แจ่มแจ้งในกฎตาย  ผู้ฝึกจะเริ่มสร้างกฎเป็นจากกฎตายและจึงจะสามารถสร้างเมล็ดสีขาวแปลกประหลาดซึ่งก็คือเมล็ดหัวใจมรณะ

เมล็ดหัวใจมรณะสร้างมาจากรังสีมรณะที่หนาแน่นที่สุดแต่ไม่ใช่มีแต่รังสีมรณะเท่านั้นหลายคนที่ติดเชื้อเมล็ดพันธุ์หัวใจมรณะจะไม่มีทางรู้ตัว ส่วนที่น่ากลัวที่สุดเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์หัวใจมรณะก็คือเมื่อได้รับการปลูกเข้าไปแล้วตราบใดที่สภาพใจของเป้าหมายหย่อนยาน มันจะฝังตัวเงียบอยู่ในใจของผู้เคราะห์ร้ายและฝังรากลงในผู้เคราะห์ร้ายโดยไม่รู้ตัว

เมื่อเมล็ดพันธุ์หัวใจมรณะเริ่มงอกขึ้นมันจะเริ่มดูดความแข็งแรงของผู้เคราะห์ร้ายและเปลี่ยนเป็นรังสีมรณะ   มันจะใช้พลังชีวิตพื้นฐานที่สุดเพื่อเปลี่ยนไปเป็นรังสีมรณะที่เข้มข้น ขณะที่มันหยั่งรากในตัวคนโดยไม่รู้ตัวนั้น มันจะไม่มีทางให้ผู้เคราะห์ร้ายมีโอกาสตั้งตัว

“หึหึหึหึ ข้ารู้ว่าข้าไม่สามารถหลบพ้นไปจากสายตาที่คมกล้าของประมุขตระกูลสวี่ได้”

เสียงแหบแห้งดังออกมา   หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยเป็นเหมือนหุ่นเชิด  ทุกความเคลื่อนไหวที่เขาสร้างแข็งมากจนทำให้คนที่เหลือสั่นสะท้าน

หน้าของพนักงานรักษาความปลอดภัยทุกคนซีดขาว พวกเขาไม่ทันตระหนักเลยว่าหัวหน้าของพวกเขาแปลกไป  ทุกคนมองหน้ากันเอง  เห็นความกลัวในดวงตาของพวกเขา  พวกเขาวิ่งหนีไปกันหมด

รังสีมรณะยิงออกไปที่ร่างของพวกเขาทุกคน

ในพริบตาพวกเขากลายเป็นหุ่นเชิดมรณะเหมือนกับหัวหน้าของเขา

ถังเทียนจ้องมองพวกเขาโดยไม่รู้สึกกังวล ไม่ว่าจะเป็นสวรรค์วิถีหรือดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  พวกเขาทุกคนปฏิบัติตามบรรทัดฐาน  แต่ในแดนบาปที่ซึ่งมีกฎธรรมชาติเฉพาะ  ทุกสิ่งทุกอย่างแปลกและยากจะหยั่งถึง

แขนของหัวหน้าเริ่มเหวี่ยงและพุ่งใส่ถังเทียนเหมือนลูกธนู

ถังเทียนแค่เสียง  เขาไม่กลัวแม้แต่น้อย และปล่อยท่าดาบพิฆาตฟ้า!

ปัง!

มือของถังเทียนชาหมัดของอีกฝ่ายหนึ่งแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาด และในไม่กี่วินาที เงาร่างสองสามเงาก็พุ่งเข้ามาเหมือนสายฟ้า

ปังปัง ปัง

ทุกการโจมตีทำให้แขนของถังเทียนรู้สึกชา พวกยามรักษาความปลอดภัยที่ดูเหมือนธรรมดาเหล่านี้ปลดปล่อยรังสีมรณะทำให้พวกเขาทนเหมือนเหล็กกล้า  หุ่นเชิดมรณะทั้งหมดจะไม่หยุดและยังคงพุ่งใส่ถังเทียนอย่างบ้าคลั่ง

การโจมตีแบบต่อเนื่องบังคับให้ถังเทียนต้องถอยหลังและเขาไม่มีเวลาได้พักหายใจ

ทุกคนมองดูเหมือนเครื่องจักร  แต่การเคลื่อนไหวกลับรวดเร็วมากเหมือนกับว่าพวกเขาไม่มีขีดจำกัดของมนุษย์ ข้อต่อทั้งหมดเคลื่อนไหวได้ทุกแบบทุกมุม

ความโกรธในอกของถังทียนเพิ่มสะสมมากขึ้นทุกคน  วิธีการของศัตรูแปลกประหลาดมากทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังสู้กับกองนุ่นซึ่งทำให้เขาโมโหมากขึ้น

เขากำลังโมโหมากขึ้นเช่นกัน  ‘รังสีมรณะของเจ้าไม่สามารถถูกฟันได้ใช่ไหม? หุ่นเชิดงี่เง่าของเจ้าแข็งแกร่งเหมือนเหล็กใช่ไหม? เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถเอาชนะข้าได้เพราะใช้คนมากใช่ไหม?’

‘เจ้ากำลังเล่นตลกอะไรอยู่!’

‘ถ้ารังสีมรณะของเจ้าไม่สามารถถูกตัดได้  ข้าจะทำลายหุ่นเชิดของเจ้าซะ! หุ่นเชิดของเจ้าแข็งแกร่งเหมือนเหล็กใช่ไหม ข้าจะขยี้มันให้เป็นผุยผง!’

ถังเทียคำรามลั่นและหยุดถอย  เขาเริ่มตอบโต้และพุ่งเข้าหาหนึ่งในหุ่นเชิด

ฝ่ามือซ้ายรวบเป็นหมัดควั่บ อุณหภูมิรอบตัวเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หมัดของถังเทียนดูเหมือนจะมีชั้นแสงสีแดงราวกับว่าหมัดของเขามีไฟลุก

มุทราหมัดพิโรธ!

ด้วยมุทราที่เป็นหมัด  ประจวบกับสภาพใจของถังเทียนในปัจจุบันความสาแก่ใจที่บอกไม่ถูกทะลักออกมาเหมือนกับสายน้ำบ่า เหมือนกับว่าเลือดของเขากำลังเดือดพร้อมกับความโกรธไม่มีที่สิ้นสุด

ฮ่าาาาาห์!

กระแสพลังแล่นไปตามหมัดความโกรธทำให้ร่างของถังเทียนเลือนรางเล็กน้อยเหมือนกับมีคลื่นความร้อนทำให้อากาศบิดเบือน

หมัดทั้งสองชนกัน

พลังที่รุนแรงปะทุออกมาจากหมัดของถังเทียน  หุ่นเชิดถูกกระแทกกลับไปปะทะผนัง

ปังปัง ปัง!

ผนังทั้งหมดพังครืนทันที

ในท่ามกลางซากปรักพัง  ร่างของหุ่นเชิดยังคงบิดไปมา  แต่มันไม่สามารถยืนขึ้นได้อีกต่อไป

การเติมเต็มในร่างกายที่ไม่สามารถอธิบายได้  ตาแดงของถังเทียนกลับคืนสู่ความคมชัด  แต่ร่างดำสองสามร่างกระโจนเข้าหาเขาอีกครั้ง  เขาคำรามทันทีและปล่อยหมัดของเขาอีกหลายครั้ง มุทราหมัดพิโรธสามารถเพิ่มพลังให้เขาได้ถึงสองสามเท่าซึ่งตอนแรกก็มีพลังเพียงพอ และมันกลายเป็นพลังที่น่ากลัว

หมัดดีที่รู้สึกเหมือนสิบไม่มีเคล็ดอะไรแฝงอยู่ในหมัดของเขา เนื่องจากไม่มีความจำเป็น ทุกหมัดอาศัยความหนักหน่วง

หุ่นเชิดทุกตัวล้วนแต่ถูกหมัดทั้งนั้น

ภายใต้พลังโจมตีที่ดุร้าย  ปราณมรณะที่หนาแน่นยังคงพังทลายต่อเนื่อง  ร่างของเขาหุ่นเชิดถูกทำลายอย่างเด็ดขาดและเนื่องจากปราณมรณะที่มากเกินไปแตกสลายไปหมดหุ่นเชิดไม่สามารถเคลื่อนไหวต่อไปได้

ในเงามืดเหอซินกระอักโลหิต  ตาของเขามีอาการตกใจ

สวีเย่จ้องมองถังเทียนที่ยืนอยู่คนเดียวอย่างว่างเปล่า  ตาของเขายังคงสีแดง แต่สีหน้าของเขาเย็นชา ทั่วทั้งตัวเขากำลังปล่อยอุณหภูมิที่สูงมาก  เหมือนกับว่าเขาเป็นปีศาจที่เดินออกมาจากนรก

ขณะนั้นเองถังเทียนทำบางอย่างที่สวี่เย่ไม่เคยคิดมาก่อน