ตอนที่แล้วตอนที่ 723 แมงป่องดาว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 725 รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฎอีกครั้ง  

ตอนที่ 724 อาคันตุกะผู้มีเกียรติและลึกลับ  


“นายท่าน!  เรามาถึงเมืองลมดำ (เฮยฟง) แล้ว ข้าจะต้องแจ้งชื่อของท่านและให้เจ้าเมืองออกมาพบเราหรือไม่?”  หัวหน้าองครักษ์ขับขี่อสูรฝันร้ายอสูรปราณฟ้าระดับสาม เขารั้งบังเหียนกลับเข้าไปในกลุ่มองครักที่ขับขี่ม้าเพลิงวิเศษอสูรปราณฟ้าระดับหนึ่งและถอยไปที่รถม้าที่เลิศหรูเทียมด้วยม้ามังกรหิมะแปดตัวมีสีเดียวกันไม่มีสีอื่นปนและถามบุรุษหนุ่มสูงศักดิ์ที่โดยสารอยู่ข้างในด้วยความเคารพและภักดีขณะที่หญิงสาวรับใช้รูปงามคอยช่วยยกม่าน

“ไม่, เจ้าไม่ต้องทำเช่นนั้น  กล่าวกันว่ามีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นในเมือง และเจ้าเมืองคนเก่าถูกคนอื่นปลดไปแล้ว เจ้าลองส่งใครไปสักคนเพื่อสอบถามสถานการณ์ในปัจจุบัน  เราจะตรงไปที่เมืองใบไม้เงิน  ถ้าเจ้าเมืองคนใหม่ไม่รู้เรื่องการค้าที่ทำกับแดนสวรรค์ชั้นบนเมื่อก่อนหน้านั้น”  บุรุษสูงศักดิ์ลังเลชั่วขณะแล้วจึงตัดสินใจ

“ขอรับท่าน”  แม้ว่าหัวหน้าองครักษ์ต้องการจะแสดงความคิดเห็นของเขา  แต่เขารู้ว่าให้เงียบเสียงไว้ดีกว่าถ้าเจ้านายไม่ถามเขา

หัวหน้าองครักษ์มีพลังปราณฟ้าระดับห้าส่งองครักษ์คนหนึ่งที่มีพลังปราณฟ้าระดับหนึ่งออกไปทันที

องครักษ์ได้รับคำสั่งก็เข้าไปในเมืองเพื่อพบกับเจ้าเมืองคนใหม่โดยเร็ว

เดิมทีหัวหน้าองครักษ์คิดว่าเจ้าเมืองลมดำคนใหม่จะมาพร้อมกับบริวารในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อคุกเข่าและคารวะเจ้านายที่อยู่เบื้องหลังเขาด้วยความตื่นกลัวและกล่าวคำขออภัยอย่างหวาดหวั่น  เขาเห็นภาพที่เคยชินเช่นนั้นมาหลายครั้งแล้ว แทบจะทุกครั้งที่เจ้านายของเขาไปยังเมืองในแดนมนุษย์  เจ้าเมืองที่นั่นจะออกมาจากเมืองกราบคารวะเขาด้วยความเกรงกลัว แม้ว่าเขาจะมาเยือนแดนมนุษย์ทุกสิบปี

เจ้านายของเขาเป็นคนมีอำนาจวาสนาและสง่างามได้รับการเคารพจากนักรบปราณฟ้าในแดนมนุษย์ทุกคนในอดีตพันปีที่ผ่านมา

มีเจ้าเมืองมากมายที่ต้องคุกเข่านอบน้อมและแสดงความเคารพนับถือเจ้านายเขามาตลอดทาง

ยากนักที่เจ้านายของเขาจะออกจากรถม้ามาพบคนเป็นการส่วนตัว

เจ้าเมืองของเมืองที่แห้งแล้งรกร้างในแคว้นมรกตอย่างเมืองลมดำ ไม่ค่อยมีนักรบปราณฟ้าที่ทรงพลัง  หัวหน้าองครักษ์หวังว่าเจ้าเมืองจะไม่กลัวจนปัสสาวะราดกางเกง

เขาจินตนาการด้วยความรู้สึกผิด

คาดไม่ถึงเลยว่าแทนที่จะออกมาต้อนรับพวกเขาด้วยตัวเอง เจ้าเมืองคนใหม่ส่งบริวารที่เป็นนักสู้ปราณดินระดับสามออกมาพบพวกเขา  เมื่อเห็นคนใช้ผู้ต่ำต้อยหัวหน้าองครักษ์รู้สึกไม่สบายใจ  เขาเชื่อว่าผู้รับใช้ก็ควรเป็นผู้รับใช้ชั้นดี  ผู้รับใช้ที่ต่ำต้อยอย่างนั้นเอามาต้อนรับเราแทนเจ้าเมืองได้ยังไง?  เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่สุดในเมืองลมดำหรือ?  ยังมีทาสปราณดินระดับห้าหรือมากกว่าไม่ใช่หรือ?  เจ้าเมืองที่นี่เป็นแค่ระดับเตรียมปราณฟ้าไม่ใช่หรือ?

เขาคงกลัวเกินกว่าจะเคลื่อนไหวและซ่อนตัวอยู่ในจวนเจ้าเมือง เมื่อเขาเห็นองครักษ์ระดับปราณฟ้าหรือ?

หัวหน้าองครักษ์ลูบหนวดคิดถึงเรื่องร้ายต่างๆ

“เจ้าเมืองของเจ้าอยู่ที่ไหน?”  เขาจ้องมองตัวแทนที่เป็นนักสู้ปราณดินระดับสามของเมืองลมดำราวกับจ้องมองแมลงตัวน้อย

“เมืองลมดำถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเมื่ออู๋เย่แล้วเพื่อเป็นการระลึกถึงปรมาจารย์นักแปรธาตุชื่อจวินอู๋เย่ที่ถูกฆ่าตายอย่างไร้เหตุผลและเป็นการประจักษ์ถึงความเปลี่ยนแปลงใหญ่เมื่อไม่นานมานี้  บัดนี้เมืองอู๋เย่กลายเป็นเมืองอิสระที่ไม่มีเจ้าเมืองปกครองอีกต่อไป  ข้าเป็นคนที่มีกำเนิดต่ำต้อย  แต่ข้าก็ยังได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนทั่วไปด้านกิจการต่างประเทศจากองค์ชายหลงเถิงแห่งแดนสวรรค์ตะวันตก”  หัวกลมเปากู่ผู้ออกมาต้อนรับพวกเขาคำนับต้อนรับพวกเขาอย่างมีมารยาทแต่ไม่ถึงอ่อนน้อมเกินไป

“เมืองอิสระ?  เจ้าหมายความว่าเจ้าเป็นคนรับผิดชอบในตอนนี้ใช่ไหม?”  หัวหน้าองครักษ์พยายามกลั้นหัวเราะ

ผู้รับใช้ปราณดินระดับสามที่ดูเหมือนจะไม่ใช่นักรบ

ทหารรับจ้างยังสามารถฆ่าคนผู้นี้ได้ง่ายๆ และชิงเมืองลมดำได้อย่างง่ายดาย  เรื่องไร้สาระเช่นนี้ควรเกิดขึ้นในแดนสวรรค์หรือ?  เป็นไปได้ยังไงที่มดครอบครองดินแดนราชสีห์  เป็นไปไม่ได้!

หัวหน้าองครักษ์ต้องการบอกหัวกลมเปากู่ว่านักสู้ปราณฟ้าที่เขาส่งออกมาก็ยังสามารถยึดเมืองลมดำได้อย่างสบายๆ

ต่อให้เมืองขาดแคลนผู้คน  แต่เอาคนอ่อนแอปราณดินระดับสามมาเป็นตัวแทนทั่วไปได้ยังไง?

หัวหน้าองครักษ์ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อกลั้นหัวเราะ  เขาถามล้อเลียน  “ข้าอยากรู้ว่าหลังจากเจ้าเป็นผู้แทนทั่วไปแล้วมีใครเคยท้าทายเจ้าสู้บ้างไหม?”

หัวกลมเปากู่ยิ้มอย่างจริงใจ  “ยังไม่เคยเลย  บางทีข้าอาจมีสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านข้า  หลังจากเป็นผู้แทนฝ่ายกิจการต่างประเทศของเมืองอู๋เย่  ทุกคนไม่เพียงแต่สนับสนุนงานของข้า  แต่ยังปฏิบัติกับข้าเป็นอย่างดี  นอกจากนี้หลังจากปฏิรูปแล้ว พลเมืองยังได้ขยายธุรกิจ  พวกเขาส่งเสริมและสนับสนุนงานของข้าในเมืองอู๋เย่เป็นอย่างดี”

คำพูดของเขาทำให้หัวหน้าองครักษ์ตะลึง

นี่ยังน่าอึดอัดยิ่งกว่ากลืนหนูลงไปทั้งตัวเสียอีก!

ถ้าไม่ใช่ว่าเจ้านายของเขาอยู่ในรถม้ากำลังมองดูเขา  เขาคงชักดาบและฆ่าเจ้าแมลงสาบที่กล้าต่อปากต่อคำกับเขาแบบนี้แล้ว

“ปรมาจารย์นักแปรธาตุแห่งแดนสวรรค์ตะวันตก?  องค์ชายหลงเถิง...”  เจ้านายผู้สูงศักดิ์ในรถม้าโดยสารฉลาดพอจะเข้าใจความหมายของคำซ่อนอยู่ในคำพูดนั้น  หลังจากคิดไม่นาน เจ้านายผู้นั้นมีความสนใจเมืองลมดำ ไม่ใช่..ตอนนี้เป็นเมืองอู๋เย่ไปแล้วซึ่งเขาไม่สนใจมาก่อนอยู่แล้ว  นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายร้อยปีที่เขาถามผู้รับใช้ที่ไม่ใช่นักสู้ปราณฟ้า  เขาถามหัวกลมเปากู่ที่คำนับอยู่ข้างนอก  “ขออภัย, องค์ชายหลงเถิงอยู่ข้างในหรือไม่?”

“อาคันตุกะผู้มีเกียรติ องค์ชายออกเดินทางเมื่อไม่วันก่อนและเพิ่งจะกลับมา  ขณะนี้ท่านกำลังอาบน้ำเปลี่ยนชุดอยู่  ดังนั้นท่านจึงไม่สามารถออกมาต้อนรับอาคันตุกะผู้มีเกียรติในตอนนี้ได้”  หัวกลมเปากู่ตอบอย่างสุภาพ

“ในเมื่อเขาอยู่ที่นี่  ข้าจะพบเขาได้ไหม?  ข้าไม่เคยพบกับยอดฝีมือแดนสวรรค์ตะวันตกในถิ่นมนุษย์มานานแล้ว”  เจ้านายที่อยู่ในรถโดยสารถอนหายใจ

“เชิญ”  หัวกลมเปากู่ทำท่าเชื้อเชิญด้วยความนอบน้อม

เมื่อเห็นเช่นนั้นหัวหน้าองครักษ์ขยี้เท้าด้วยความโกรธ

เจ้านายผู้ของเขาสูงศักดิ์เพียงไหน  ขณะที่องค์ชายหลงเถิงไม่เคยมีใครได้ยินชื่อเสียงเขามาก่อนในถิ่นมนุษย์  แต่เจ้านายของเขาจะไปพบเขาด้วยตัวเอง?  องค์ชายนั้นคู่ควรกับเจ้านายของเขาหรือ?  นี่เป็นการดูหมิ่นครั้งใหญ่ที่สุด หัวหน้าองครักษ์เลื่อนมือจับด้ามกระบี่  ตราบใดที่เจ้านายของเขาไม่ชอบใจเขาจะชักกระบี่ออกมาฆ่าคนใช้ผู้นี้  จากนั้นบุกเข้าไปในเมืองและจับองค์ชายนั้นแขวนคอประจานที่หน้าประตูเมือง!

คาดไม่ถึงว่าขณะที่เขาเตรียมจะชักกระบี่จากฝัก  เจ้านายของเขาสั่งเขา “ออกเดินทาง”

หัวหน้าองครักษ์คิดว่าเขาได้ยินผิด...

อย่างไรก็ตามในฐานะเป็นบ่าว เขาไม่มีคุณสมบัติและกล้าพอคลางแคลงคำสั่งของเจ้านายเขาได้

ม้ามังกรหิมะทั้งแปดตัวลากรถเข้าไปในสวนของจวนเจ้าเมือง

ขณะเดียวกันหัวหน้าองครักษ์ก็ยังไม่เห็นองค์ชายออกมาพบกับพวกเขา  แต่เป็นหัวกลมเปากู่ที่แจ้งให้พวกเขาทราบพลางขออภัยว่าองค์ชายกำลังสรงสนานไม่สามารถแต่งตัวมาต้อนรับพวกเขาได้ทันที  ดังนั้นพวกเขาต้องรออีกเล็กน้อย  หัวหน้าองครักษ์สามารถทำลายเมืองอู๋เย่ได้ทั้งหมด  ถ้าเขาระเบิดอารมณ์ด้วยความโกรธ พลังของเขามากยิ่งกว่าภูเขาไพปะทุ

สิบนาทีต่อมา

บุรุษคนหนึ่งเดินออกมาจากคฤหาสน์ช้าๆ  เขาอ้าปากหาวราวกับว่าเพิ่งตื่นนอน

หัวหน้าองครักษ์ถลึงตามองบุรุษผู้ทำให้เขาขายหน้า พยายามมองดูลักษณะที่หยิ่งยโสของเขาให้ชัดเจน

เขารู้สึกหดหู่ผิดหวัง

เพราะเด็กหนุ่มผู้นี้สวมหน้าคนคู่สมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์ซึ่งทำให้เป็นไปไม่ได้ที่หัวหน้าองครักษ์จะมองเห็นได้ชัดเจนว่าเขาเป็นใคร  สิ่งที่ทำให้หัวหน้าองครักษ์แทบเป็นบ้าก็คือองค์ชายผู้นี้มีพลังระดับเตรียมปราณฟ้าเท่านั้นยังไม่แข็งแกร่งเท่ากับบริวารที่อยู่ใต้บัญชาการของเขาด้วยซ้ำ  องค์ชายที่อ่อนแออย่างนี้ ยังกล้าทำหยิ่งอีกหรือ?  แดนสวรรค์ใต้ไม่มีนักสู้ระดับปราณฟ้าแล้วหรือ?  เป็นเรื่องอัปยศอดสูที่สุดที่นักรบระดับปราณฟ้ายอมคล้อยตามองค์ชายผู้หยิ่งยโสนั้น

“ขอโทษจริงๆ ที่ทำให้พวกท่านต้องรอนาน  ตอนนั้นข้าอาบน้ำเพลินจนผลอยหลับไปเลย”  แน่นอนว่าบุรุษผู้เดินออกมาจากคฤหาสน์ก็คือเย่ว์หยางที่เป็นเพียงระดับเตรียมนักสู้ปราณฟ้า แต่กล้าต่อปากต่อคำหน้านักสู้ปราณฟ้า

“อะไรนะ?”  คำอธิบายของเย่ว์หยางทำให้หัวหน้าองครักษ์โกรธจนอยากจะฆ่าเขา  ความจริงเขาควรอธิบายให้ดีกว่านี้

“องค์ชายหลงเถิงหลับได้เป็นเรื่องดีนัก เพราะข้ามัวแต่ยุ่งกับธุรการงานมากมาย ส่วนมากจึงต้องทรมานจากการนอนไม่หลับ  ข้าชื่นชมคนที่หลับได้สนิทจริงๆ”  เจ้านายผู้อยู่ในรถม้ายิ้ม

“อาคันตุกะผู้มีเกียรติ, ท่านใจกว้างมากจริงๆ  ข้าขอถามนามท่านได้ไหม?  ข้าชื่อเสวี่ยอู๋เซียงแห่งสำนักมังกรทะยาน แดนสวรรค์ตะวันตก”  เย่ว์หยางพูดยังไม่ทันจบ แต่มีสตรีงามคนหนึ่งเดินออกมาจากภายใน นางดูมีเสน่ห์น่าลุ่มหลงรูปร่างโค้งเว้าได้สัดส่วน  บุรุษทุกคนอาจจะลืมตัวเมื่อเห็นนางในมุมมองของหัวหน้าองครักษ์ สตรีงามเช่นนี้คู่ควรกับบุรุษผู้ทรงพลังอย่างเขา พวกเขาเหมาะสมราวกับฟ้าประทาน  เขาคาดไม่ถึงเลยว่าสตรีงามผู้เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสามไม่แม้แต่จะมองเขา  นางเอื้อมมือไปกอดบุรุษผู้เป็นเพียงเตรียมนักสู้ปราณฟ้า ราวกับว่านางกลัวองค์ชายจะทอดทิ้งนาง  พวกเขาดูราวกับคางคกกับห่านฟ้า  หัวหน้าองครักษ์แทบกระอักเลือดด้วยความโกรธ

“ตัวร้าย, ทำไมเจ้าไม่แนะนำอาคันตุกะกับข้า?”  หญิงงามพราวเสน่ห์ยิ้มพลางหยอกกับเย่ว์หยาง

“...”  หัวหน้าองครักษ์อยากตีอกชกหัวตัวเองยิ่งนัก  ขอให้ได้ทำอย่างนี้เขาอาจรู้สึกผิดหวังน้อยลงก็ดี

บุรุษหนุ่มรูปงามนักสู้ปราณฟ้าระดับห้า อยู่ต่อหน้านางแล้ว

นางไม่ยอมแม้แต่จะเหลียวแลเขา

แต่นางกลับโถมตัวเข้าอ้อมกอดบุรุษหนุ่มระดับเตรียมปราณฟ้า  นี่ล้อเล่นกันหรือเปล่า?

ถ้านางยิ้มให้เขาเหมือนกับที่นางทำกับองค์ชายนั้น เขาคงยอมคว้าเดือนคว้าดาวมาให้นาง

หัวหน้าองครักษ์มักเชื่ออยู่เสมอว่าเขามีเสน่ห์น่าหลงใหล มักจะมีสตรีมาพัวพันรอบตัวมิได้ขาด ขณะที่ไม่มีใครทำอันตรายเขาได้  ทันทีที่เขาผายมือ สตรีนับไม่ถ้วนจะโผเข้ามาและขออยู่กับเขาตลอดชีวิต  เขาไม่เคยคิดว่าเขาสามารถพบกับสตรีงามพราวเสน่ห์ในเมืองอู๋เย่ นางเหมือนหงส์ขาวที่หยิ่งผยอง แต่นางไม่เคยเหลียวแลเขาเลย นางกลับโปรดปรานเจ้าคางคกตัวนั้นเป็นพิเศษ

นั่นช่างน่าอายนัก!

ทั้งยังทำให้คนอื่นอิจฉา!

“หลีกไปก่อน ข้ายังไม่สนิทสนมกับเจ้า” เย่ว์หยางโบกมือพัลวัล  เขาพยายามสลัดออกจากหญิงงาม ขณะเดียวกันสายตาของหัวหน้าองครักษ์กระตุกด้วยความริษยา

“ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการสนิทสนมกับข้า  ทำไมเจ้าต้องกระโดดลงสระในเมื่อข้ากำลังอาบน้ำ?”  หญิงงามพราวเสน่ห์ไม่ถือสา แต่แกล้งทำเป็นจ้องเขา

“ข้าถูกใส่ร้ายยยย... สุภาพบุรุษผู้ซื่อสัตย์อย่างข้าจะไม่มีทางโดดลงสระถ้าเจ้าไม่เชิญข้าก่อน  ข้าแค่คิดว่าเจ้าอาบน้ำคนเดียวมันเหงาเกินไป  ด้วยความเห็นอกเห็นใจข้าเลยโดดลงสระเป็นเพื่อนเจ้า  ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะทำกับข้าเหมือนอย่างนั้น  น่าผิดหวังจริงๆ”  เย่ว์หยางตบอกรับรองว่าเขาเป็นคนซื่อตรง

หัวหน้าองครักษ์แทบจะตกจากหลังม้าขาดใจตายทันที

โลกนี้ยังจะมีสุภาพบุรุษผู้ซื่อตรงอย่างนี้ได้ยังไง?

ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้านายในรถม้าสั่งเอาไว้ เขาคงชักกระบี่ฟันเย่ว์หยางให้ตายไปแล้ว  เจ้านั่นควรจะถูกสับเป็นชิ้นๆ แล้วโยนให้สุนัขกิน!  ถึงกระนั้นก็ยังไม่เพียงพอจะระบายความโกรธในใจของเขา

เจ้าผู้นี้ไม่เคยสบตาเขาโดยตรงตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงบัดนี้

ทำไมเขาต้องทำกับข้าอย่างนั้นด้วย?

เป็นแค่ระดับเตรียมนักสู้ปราณฟ้าก็หยิ่งยโสได้ขนาดนั้น เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้านายของเขาต้องอดทนกับคนแบบนี้ด้วย

“ข้าเข้าใจเจ้าผิดไป...”  หญิงสาวพราวเสน่ห์ลอบปิดปากยิ้ม  และหยุดหยอกล้อกับเย่ว์หยาง และนางแสดงความเคารพมาที่รถม้าโดยสาร  “ข้าปี่ลู่ขอคารวะผู้อาวุโส  ข้ากับหนุ่มน้อยผู้นี้ยังเป็นผู้เยาว์ไม่ทราบธรรมเนียม ถ้าทำสิ่งใดให้ท่านขัดเคือง โปรดอภัยให้เราด้วย!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด