ตอนที่แล้วตอนที่ 20-11 เจ้าแคว้นสกายเมาท์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20-13 ความลับของมุกทั้งเก้า  

ตอนที่ 20-12 ไม่ตาย  


“ฮ่าฮ่า, ตาแก่เอ๋ย!  คิดว่าเจ้าทำหยิ่งได้นักหรือ?”  บีบีงอตัวกุมท้องหัวเราะ

ขณะที่บริวารทั้งสามของโมลด์ พวกเขาหันหน้าจ้องมองตะลึงดูรูรูปมนุษย์ที่อยู่ในภูเขาห่างออกไป  เจ้าแคว้นของพวกเขาถูกตอบโต้ในทันทีหรือ?

“ครืนน...” ภูเขากำลังสั่นสะเทือนและก้อนหินร่วงลงมาจากทุกแห่ง  ร่างมนุษย์พุ่งออกมาจากภายในภูเขาจากนั้นลงมายืนบนพื้นหุบเขา

ร่างของโมลด์ไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย  สายตาของเขามองดูลินลี่ย์ และเขาพูดเสียงทุ้ม  “ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเจ้า แต่เจ้าก็ยังลอบโจมตีข้าหรือ?  ฮึ...ความเร็วของเจ้าไม่เลว  แต่พลังของเจ้าอ่อนด้อยไปนิด”

พลังอ่อนด้อย?

ลินลี่ย์รู้ว่าโมลด์กำลังคุยข่ม เพราะสมบัติมหาเทพที่โมลด์มีเป็นเกราะมหาเทพ  เป็นธรรมดาที่ลินลี่ย์ไม่สามารถเตะเขาจนตายในเท้าเดียว

โมลด์รู้ดีว่าพลังเตะของลินลี่ย์นั้นทรงพลังมาก  แต่เขาเชื่อว่าลินลี่ย์ลอบโจมตีเขาเพราะลินลี่ย์ไม่ได้แข็งแกร่งมากกว่าเขา  ต่อให้ลินลี่ย์แข็งแกร่งเล็กน้อย ก็ยังดี เพราะเขามีกำไลวิเศษ กำไลนี้เต็มไปด้วยความมั่นใจไร้ขีดจำกัด

“ไม่ต้องเสียเวลาต่อไปอีกแล้ว โจมตีเข้ามาเลย”  ลินลี่ย์ยังคงยิ้มอย่างสงบ ไม่ได้รู้สึกกังวลหรือกระวนกระวายแม้แต่เล็กน้อย

โมลด์หงุดหงิดเลิกคิ้วชี้ชัน  เขาหัวเราะเย็นชา  “ในเมื่อเจ้าต้องการ  ข้าก็จะให้เจ้าได้สมปรารถนา”

“ปัง!” แสงสีดำระเบิดพุ่งออกมาจากร่างของโมลด์  เป็นพลังมหาเทพวิถีทำลายล้าง!  หลังจากใช้พลังมหาเทพ  โมลด์สามารถรู้สึกได้ถึงพลังที่ขยายอยู่ในตัวเขา ทำให้เขารู้สึกมั่นใจขึ้น  โมลด์หัวเราะเย็นชาด้วยความมั่นใจ จากนั้นเคลื่อนไหวทันที

เขาเหมือนกับสายฟ้าสีดำ...

“ฮ่าหหห์!”  ขาข้างขวาของโมลด์เตะใส่ลินลี่ย์ราวกับขวาน

“วืดดดด”  มิติถูกพลังเตะตัดเป็นริ้ว  และจุดที่ขาของโมลด์เตะผ่าน มิติจะฉีกขาดอย่างน่ากลัว  โมลด์มีสมบัติมหาเทพประเภทป้องกันพลังโจมตีวัตถุ สามารถใช้ทั้งร่างเป็นอาวุธได้

ลินลี่ย์เพียงแต่ยิ้มจากนั้นพุ่งเข้าหาบ้าง  ร่างของเขาเคลื่อนไหวเหมือนภาพลวงตา

“ตาย!”  พลังเตะของโมลด์ตัดเข้าร่างของลินลี่ย์โดยตรง  แต่ในทันทีที่ทำอย่างนั้น สีหน้าของโมลด์เปลี่ยนไปทันที  “เดี๋ยวนั่นไม่ใช่ร่างของเขา!”  การคาดเดาของโมลด์ถูกต้อง  นั่นเป็นแค่เงาตกค้างที่ลินลี่ย์ปล่อยเอาไว้หลังจากเคลื่อนไหว

ร่างของลินลี่ย์มาอยู่ที่ด้านหลังโมลด์

ลินลี่ย์เหยียดมือกางเป็นรูปกรงเล็บขณะที่เขาตะปบขาซ้ายของโมลด์

“ไม่!”  โมลด์รู้สึกถึงพลังน่ากลัวที่รวมอยู่ที่ข้อต่อขาซ้ายของเขา  หน้าของเขาอดเปลี่ยนไปไม่ได้

“ความเร็วของเจ้าช้ามาก!”  เสียงของลินลี่ย์ดังก้องไปทั้งหุบเขา  และขณะที่เขาพูด  ลินลี่ย์คว้าขาซ้ายของเขา จากนั้นฟาดร่างของโมลด์กับพื้น!  เขาหวดร่างโมลด์กับพื้นครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างรุนแรง

“ปัง  ปัง  ปัง  ปัง!”

พื้นของหุบเขาสั่นสะเทือนรุนแรงขณะที่ปรากฏหลุมลึกขึ้นบนพื้นหลุมแล้วหลุมเล่า  แรงปะทะทรงพลังมากจนทำให้พื้นหินป่นเป็นธุลี ยุบลึกลงไปราวๆ สิบเมตร  รอยแยกปรากฏบนพื้นมากมายประกอบกับเกิดหลุมที่น่ากลัว

“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง...”  พลังของลินลี่ย์ไม่ลดลงแม้แต่น้อย  หลังจากหวดรวดเร็วราวกับสายฟ้าแล้ว โมลด์ถึงกับเริ่มมึนงง

ในทันใดนั้น ลินลี่ย์ฟาดโมลด์กับพื้นมากกว่าร้อยครั้ง และจากนั้นเหวี่ยงไปข้างๆ เต็มแรง  เขาโยนโมลด์จนกระเด็นราวกับยิงด้วยหนังสติ๊ก โมลด์ฝังลึกเข้าไปในภูเขาเป็นรูรูปมนุษย์อีกรูหนึ่ง

บุรุษคิ้วขาวและอีกสองคนยืนมองตะลึง

“ท่านอาลินลี่ย์ทรงพลังมากเหลือเกิน”  ตาของเดยาเป็นประกาย

“เขาแข็งแกร่งน่ากลัวจริงๆ”  ตาของโอลิเวอร์แวววาว เขาเป็นคนที่แสวงหาความสมบูรณ์แบบเช่นกัน”  เมื่อเห็นพลังที่ลินลี่ย์แสดงออกมา เขารู้สึกตะลึงเช่นกัน

“นั่นน่ะเหรอโมลด์? ข้าสงสัยจริงๆ เขานึกยังไงกันแน่? ถึงได้กล้ามาสู้กับพี่ใหญ่ของข้า?  แม้ว่าพี่ใหญ่ข้ายังไม่ได้แสดงพลังของเขาออกมามากเท่าใด แต่ความเร็วที่เขาแสดงออกมาก่อนนั้นก็ควรจะทำให้โมลด์ผู้นั้นรู้ตัวและถอยกลับไป”  บีบีพึมพำ  “เขาแค่มีสมบัติมหาเทพสำหรับป้องกันการโจมตีทางวัตถุ  อะไรทำให้เขามั่นใจขนาดนั้น?”

บีบีสงสัยความจริงที่ว่าทำไมโมลด์ไม่ยอมถอย

“บัดซบ!” เสียงตะโกนโกรธกราดเกรี้ยวดังขึ้นจากข้างในภูเขา  “ปัง!” โมลด์บุกเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง  หลังจากถูกโยนไปก่อนหน้านั้น ความโกรธของโมลด์เพิ่มขึ้นจนถึงจุดแตกหัก  ตาของเขาแดงฉาน และเขาจ้องมองลินลี่ย์ด้วยความโกรธขณะตะคอก  “เด็กน้อย!  เจ้าเอาแต่พึ่งพาความเร็วอย่างเดียวหรือไง? ฮึ.. พลังโจมตีน้อยนิดของเจ้าไม่สามารถทำร้ายข้าได้แม้แต่น้อย!”

โมลด์คำรามอย่างบ้าคลั่ง  แต่จนถึงเดี๋ยวนี้..เขาก็ยังเชื่อว่าลินลี่ย์แค่อาศัยความเร็วของเขาอย่างเดียว

พลังโจมตีของลินลี่ย์ไม่ได้แข็งแกร่งมากกว่าเขา

“เหรอ?” ลินลี่ย์หน้าตึง  “ในเมื่อเจ้าอยากตาย ก็อย่ามาตำหนิข้าก็แล้วกัน”

หลังจากถึงระดับพลังในปัจจุบัน ลินลี่ย์ไม่ค่อยอยากจะฆ่าผู้บัญชาการระดับสามัญ  นี่เป็นเพราะ สำหรับลินลี่ย์แล้ว การลงมือกับผู้บัญชาการก็เหมือนกับการฆ่าฝ่ายเดียว!  จะเป็นการผิดธรรมเนียม  ลินลี่ย์ต้องการสั่งสอนโมลด์และไล่ให้เขากลับไปเท่านั้น  แต่โมลด์ดูเหมือนมั่นใจในพลังของเขา  ลินลี่ย์อดนึกโมโหมิได้

“ฮ่าฮ่า...ถ้าเจ้าสามารถฆ่าข้าได้  อย่างนั้นก็ทำได้เลย!”  โมลด์หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง  และจากนั้นกระโดดลงมาที่พื้นและบุกเข้าหาลินลี่ย์ด้วยพลังปานทลายภูผา

มือขวาของโมลด์เป็นเหมือนกระบี่แทงตัดมิติพุ่งเข้าหาลินลี่ย์

“ปัง!”  ลินลี่ย์ตอบโต้ไวราวกับสายฟ้า

หมัดปะทะหมัด!

โมลด์ถูกกระแทกกระเด็นถอยหลัง  หลังจากลงยืนที่พื้น เขาจ้องมองลินลี่ย์ด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ  “เจ้า..ทำได้ยังไง ทั้งที่เจ้าไม่ได้ใช้พลังมหาเทพเจ้าป้องกันหมัดของข้าได้ยังไง?  โมลด์มั่นใจมากในพลังความแข็งแกร่งของเขา  และเขาใช้หยดพลังมหาเทพด้วย แต่เขาก็ยังถูกลินลี่ย์ซัดจนปลิวกลับไปได้จริงๆ

“หมัดของเจ้าหรือ? เทียบกับแฮมเมอร์แล้วเจ้ายังอ่อนกว่ามาก”  ลินลี่ย์พูดอย่างเยือกเย็น

“แฮมเมอร์?”  โมลด์ขมวดคิ้ว แต่จากนั้นดูเหมือนเขาคิดอะไรบางอย่างได้ ขณะที่เขาหัวเราะอย่างเย็นชา  “พลังของเจ้าไม่เลว  อย่างนั้นลองเจอกับพลังโจมตีวิญญาณของข้าบ้าง”

หน้าของโมลด์เคร่งขรึมแต่จากนั้นเขาอ้าปาก

“ควั่บ!”  ระลอกพลังใสรูปเหมือนดาบสายลมพุ่งเข้าหาลินลี่ย์ด้วยความเร็วสูง

“อย่างนั้นก็ตายเสียเถอะ”  ลินลี่ย์ไม่ปราณีอีกต่อไป เขาคำรามขณะโจมตี

ระลอกกระบี่คลื่นสลายยิงออกมาจากร่างของลินลี่ย์มีขนาดเท่ากระบี่ยาวตามปกติ  และกระแทกกับดาบสายลมใส มีเสียงดังปัง มันฉีกผ่านไม้ที่ดูเหมือนเน่าเปื่อย  ดาบสายลมใสหายไปทันที ขณะที่ระลอกกระบี่คลื่นสลายของลินลี่ย์มีขนาดลดลงเล็กน้อย

หน้าของโมลเปลี่ยนไปทันที  ดูเหมือนเขาต้องการพูดบางอย่าง  แต่สายเกินไปเสียแล้ว

ระลอกกระบี่คลื่นสลายเข้าไปในร่างของโมลด์อย่างไร้เสียง  พลังโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของลินลี่ย์ก็คือพลังโจมตีวิญญาณของเขา  เทียบได้กับเทพพารากอนวิถีชะตา  เขาสามารถบอกได้เลยว่าเป็นระดับเดียวกัน  แล้วเจ้าแคว้นธรรมดาจะสามารถป้องกันพลังโจมตีวิญญาณของลินลี่ย์ได้ยังไง?

ร่างของโมลด์สั่นสะท้านและจากนั้นตาของเขาหมองลงขณะที่เขาค่อยๆ ทรุดตัวล้มลง

“ท่านเจ้าแคว้น...”  บุรุษคิ้วขาวและบริวารอีกสองคนตกใจ  เจ้าแคว้นของพวกเขาตายด้วยอาการอย่างนั้นหรือ?”

“โมลด์ผู้นี้ไม่รู้จักเจียมตนเอง  เขาหาที่ตายจริงๆ”  บีบีแค่นเสียง

ลินลี่ย์หันและเดินตรงไปที่โอลิเวอร์และคนอื่น  เขาหัวเราะอย่างใจเย็นและพูด “ไปกันเถอะ!”

“ลินลี่ย์!”  หน้าของโอลิเวอร์เปลี่ยน ขณะที่เขาร้องเตือน และจ้องมองด้านหลังลินลี่ย์อย่างตะลึง

“หืม?”  ลินลี่ย์หันไปมองอย่างงงงวย

เจ้าแคว้นโมลด์ผู้ควรจะตายไปแล้วกลับลุกขึ้นยืนอยู่ข้างหน้าเขาอีก  ตาของเขาเป็นประกายขณะตะลึงมองลินลี่ย์  “เจ้า...เจ้าเป็นใคร?”

ลินลี่ย์มองดูเขาและตะลึงเช่นกัน  “ท่านไม่ตายหรือ?”  เมื่อครู่นี้ เขาเห็นอย่างชัดเจนว่าโมลด์โดนพลังโจมตีของเขาและล้มลง  ตาของเขาไร้ชีวิต  แล้วเขากลับมามีชีวิตได้ยังไง?

“พี่ใหญ่  ตาแก่นั่นไม่ตาย  แปลกจริงๆ”  บีบีร้องขึ้น

เป็นเรื่องแปลกมาก  ถ้าโมลด์มีสมบัติมหาเทพสำหรับปกป้องวิญญาณ  อย่างนั้นเขาไม่ควรมีปฏิกิริยากับพลังโจมตีวิญญาณของลินลี่ย์  แต่เมื่อครู่นี้เห็นได้ชัดว่าโมลด์ล้มลงไปแล้ว  แต่ครู่ต่อมา เขากลับฟื้นคืนสภาพได้ นี่เป็นเรื่องแปลกจริงๆ

“พลังโจมตีวิญญาณของเขาทรงพลังขนาดนี้.. และพลังโจมตีวัตถุของเขาก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน และเขายังรวดเร็วมาก.. เขาไม่มีจุดอ่อนแม้แต่น้อย”  โมลด์ตกตะลึง

“เจ้าเป็นเทพพารากอนหรือ?  พารากอนคนไหนของแดนนรก..”  โมลด์กล่าว  นอกจากเทพพารากอนแล้ว  โมลด์ไม่สามารถคิดได้ว่าจะมีความเป็นไปได้อื่น  “เจ้าคือลินลี่ย์ใช่ไหม?”  โมลด์คาดเดาได้ถูก

ความจริงแล้ว นั่นไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ  มีคนเพียงสามคนในแดนนรกที่ถูกสงสัยว่าเป็นเทพพารากอน

โมลด์ได้รับข้อมูลอีกสองคนเมื่อนานมาแล้ว  สำหรับลินลี่ย์ เขาเพิ่งจะโดดเด่นขึ้นมาสองร้อยปีที่แล้วหลังจากสงครามมหาพิภพ  แดนนรกกว้างใหญ่ไพศาลมาก ดังนั้นในช่วงเวลาสองร้อยปีที่ผ่านมา ข่าวเกี่ยวกับเขายังไม่แพร่หลายไปยังทุกที่  แม้ว่าโมลด์ก็ได้พบเจอสหายเก่าที่บอกเล่าเรื่องลินลี่ย์  ทั้งหมดที่โมลด์รู้ก็คือชื่อของลินลี่ย์  และความจริงที่ว่าเขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของเผ่ามังกรฟ้าที่สามารถแปลงร่างมังกรได้

เพราะลักษณะของลินลี่ย์ เขาจึงไม่รู้

“ใช่แล้ว ข้าชื่อลินลี่ย์”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็น

“เทพพารากอนลินลี่ย์?”  บริวารทั้งสามของโมลด์หวาดผวาสุดขีดเช่นกัน  เจ้าแคว้นของพวกเขาพยายามจะล้างแค้นกับเทพพารากอน นี่เป็นการฆ่าตัวตายไม่ใช่หรือ?  พวกเขาตะลึงแต่โมลด์ทั้งตะลึงและทั้งโมโห

“เจ้าโบนินเป็นแค่อสูรหกดาว ไม่ว่าเขาจะสร้างความยุ่งยากมากมายแค่ไหน แต่เขาเข้าไปยุ่งกับเทพพารากอนได้ยังไง?”  โมลด์ทั้งโกรธและตกใจอย่างไม่มีใดเทียบ  เขารู้ว่าศัตรูทรงพลังอย่างมาก  แต่ที่สำคัญโบนินเป็นแค่อสูรหกดาว  โมลด์เชื่อว่า.. อย่างมากศัตรูก็เป็นแค่ยอดฝีมือระดับเจ้าแคว้น  เทพพารากอน? ใช้เทพพารากอนจัดการกับลูกของเขาเป็นการเปลืองกำลังอย่างไร้ประโยชน์

ทั่วทั้งแดนนรกมีพารากอนอยู่น้อยนิดเพียงไหน?  แค่สามเท่านั้น และนั่นรวมทั้งลินลี่ย์  ช่างเป็นเรื่องบังเอิญขนาดนั้นได้ยังไง?

ถ้าเป็นดันนิงตันหรืออีกคนหนึ่ง โมลด์คงจำเขาได้ทันทีและคงล้มเลิกความคิด  น่าเสียดายเรื่องนี้เกิดขึ้นกับลินลี่ย์  ลินลี่ย์เป็นเทพพารากอนที่เพิ่งจะโดดเด่นขึ้นมาได้ไม่นาน  และเขาไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับลินลี่ย์แม้แต่น้อย

ลูกชายของเขาล่วงเกินเทพพารากอนจริงๆ  ถือว่าโมลด์มีโชคร้ายจริงๆ

“นี่..ท่านลินลี่ย์.. ข้าต้องขออภัย”  โมลด์ฝืนยิ้ม  “ในเมื่อเป็นท่านลินลี่ย์  อย่างนั้นข้าขอตัวไปเดี๋ยวนี้แหละ”

“ไปเดี๋ยวนี้?  ถ้าพี่ใหญ่ของข้าอ่อนแอ  เขาคงถูกเจ้าฆ่าไปแล้ว และพวกเราที่เหลือทุกคนก็คงโดนฆ่าไปด้วยใช่ไหม?”  บีบีตะคอก  “สายเกินไปแล้วที่เจ้าจะจากไปในตอนนี้!”

“ข้าสงสัยมากจริงๆ ท่านโดนพลังโจมตีของข้าแต่ไม่ตายได้ยังไง?” ลินลี่ย์มองดูเจ้าแคว้นโมลด์

หน้าของโมลด์เปลี่ยนไปทันที  เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย พอมีเสียงดังควั่บก็เหาะขึ้นไปในท้องฟ้าตั้งใจหนีทันที! กับเทพพารากอนอย่างลินลี่ย์  ต่อให้ลินลี่ย์ไม่สามารถฆ่าเขาได้  เขาก็ยังสามารถควบคุมให้มิติฉีกขาดและขับโมลด์เข้าไปในมิตินั้นได้  โมลด์ไม่เชื่อว่ามหาเทพของเขาจะยอมเสียเวลาเข้าไปในมิติปั่นป่วนเพื่อช่วยเหลือเขา

ลินลี่ย์กระพริบตาและระลอกกระบี่คลื่นสายยิงออกไปที่โมลด์ซึ่งอยู่ในกลางอากาศ

ไม่ว่าเขาจะเคลื่อนที่ได้ไวเพียงไหน  แต่เขาจะเคลื่อนไหวได้ไวกว่าพลังโจมตีวิญญาณได้อย่างไร?

ระลอกกระบี่คลื่นสลายเข้าไปในร่างของโมลด์ และทันใดนั้นโมลด์ที่กำลังบินอยู่กลับหมดแรงและเขาร่วงลงจากท้องฟ้ากระแทกกับพื้น  แต่ขณะต่อมาโมลด์พลิกตัวลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

“ประหลาด, ช่างประหลาดแท้ๆ”  ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะ  “ถ้าเจ้ามีสมบัติมหาเทพประเภทปกป้องวิญญาณ  เจ้าก็คงไม่รู้สึกอะไรจากการถูกโจมตีด้วยพลังวิญญาณ  แต่เห็นได้ชัดว่าเจ้าไม่ได้เป็นเช่นนั้น  แต่ถ้าเจ้าไม่มีสมบัติมหาเทพปกป้องวิญญาณ  แล้วเป็นไปได้ยังที่เจ้ายังอยู่รอดได้จากการโจมตีวิญญาณของข้าทั้งสองครั้ง?”

ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ

“ลินลี่ย์  ไม่..ท่านลินลี่ย์!”  หน้าของโมลด์เปลี่ยนไปมาก  เขามั่นใจความสามารถในการหลบหนีของเขาจากคนอื่นได้ทุกคนเว้นแต่พารากอน  พวกเขาแข็งแกร่งในทุกด้าน ไม่มีจุดอ่อนใดๆ เลย

“แปลกจริงๆ”  ลินลี่ย์ขมวดคิ้วประหลาดใจ

“ควั่บ” “ควั่บ!”

ระลอกพลังโจมตีวิญญาณยิงออกไปมากกว่าสองครั้ง และเข้าไปในร่างของโมลด์อีกครั้ง  ตาของโมลด์ไร้ประกายชีวิตทันที  และเขาล้มลงกับพื้นอีกครั้งหนึ่ง  ครั้งนี้ลินลี่ย์ใช้สำนึกเทพจับตามองดูโมลด์อย่างใกล้ชิด ตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของโมลด์อย่างระมัดระวัง  สำนึกเทพของลินลี่ย์กวาดผ่านไปทุกส่วนของร่างกายโมลด์   สำนึกเทพนั้นมีพลังเต็มเปี่ยม

โมลด์ลืมตา และได้สติอีกครั้ง

“งั้นก็เป็นแบบนี้นี่เอง”  ในที่สุดลินลี่ย์ก็พบความลับว่าอยู่ที่ใด

“ท่านเจ้าแคว้น...”  บุรุษคิ้วขาวและอีกสองคนเมื่อเห็นสถานการณ์กลับกลายน่ากลัวก็รีบหนีทันที ปล่อยไว้แต่โมลด์

หลังจากฟื้นคืนสติ สิ่งแรกที่โมลด์เห็นก็คือลินลี่ย์เดินเข้ามาหาเขา  หน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก  และเขาดำดินหนีทันที

“ฮ่าฮ่า..เจ้าไม่สามารถหลบหนีได้แน่

ลินลี่ย์หัวเราะลั่นและจากนั้นร่างของเขามาปรากฏข้างตัวโมลด์และคว้าไหล่โมลด์ไว้

มืออีกข้างหนึ่งของลินลี่ย์คว้ากำไลของโมลด์ไว้  “ไม่!” เมื่อรู้สึกว่าลินลี่ย์คว้ากำไล ไว้ได้ เจ้าแคว้นสกายเมาท์ยิ่งแตกตื่นทันที  แต่ลินลี่ย์ใช้มือบิด เสียงดังแครกกำไลก็แตกขณะที่มุกเขียวทั้งเก้าลอยเข้ามาในมือของลินลี่ย์

“เหตุผลที่เจ้าสามารถฟื้นคืนชีพได้แม้จะถูกข้าโจมตีไปหลายครั้ง เกี่ยวข้องกับมุกทั้งเก้าใช่ไหม?”  ลินลี่ย์มองดูเขา

เมื่อเห็นว่าลินลี่ย์ถือมุกเก้าเม็ดในมือ  หน้าของเจ้าแคว้นสกายเมาท์พลันซีดเผือดทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด