ตอนที่แล้วตอนที่ 11 ตัวเย็น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13 เลขาส่วนตัวของฉินเทียน

ตอนที่ 12 มีเพียงคนเดียวที่จะอยูรอด


เลือกศัตรูอย่างมีกลยุทธ์และประเมินศัตรูอย่างมีชั้นเชิง

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคำเหล่านี้สามารถอธิบายฉินเทียนในปัจจุบันได้

การเคลื่อนไหวของฉินเทียนมีจุดมุ่งหมายที่ยิ่งใหญ่

ในห้องสอบสวน หลินเฟิงซึ่งพร้อมที่จะสู้กับฉินเทียนพบว่าฉินเทียนไม่ได้สนใจเขาเลยหลังจากที่เห็นเขาที่นี่

เขาเกือบจะหายใจไม่ออกจากความเจ็บใจ

ความรู้สึกแบบนี้เหมือนกับหมัดที่พุ่งเข้าใส่ฝ้าย ไม่ต้องพูดถึงว่ามันจะรู้สึกหงุดหงิดขนาดไหน

ในความเป็นจริงหลังจากพูดคุยกับผู้อาวุโสถังในวันนี้ เขารู้ว่าคนที่เขาทำให้ขุ่นเคืองคือฉินเทียน

แม้ว่าเขาจะไม่กลัว แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าต้องจริงจัง

ท้ายที่สุดแล้ว อำนาจของฉินเทียนในเมืองฉิวหมิงไม่สามารถประเมินต่ำเกินไปได้

ดังนั้นหลังกลับจากบ้านตระกูลถัง เขาได้คิดถึงการตอบโต้นับไม่ถ้วนในใจ

ไม่ว่าฉินเทียนจะเคลื่อนไหวยังไง เขาก็จะต้องรับมือให้ได้

ในใจของเขา สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือฉินเทียนจะตบหน้าเขาโดยตรง

เช่นส่งคนมาหาเรื่องเขาถึงที่

จากนั้นเขาก็จะโต้กลับเพื่อป้องกันตัวเอง

ด้วยวิธีนี้ เขาสามารถจัดการกับตระกูลฉินได้อย่างสมเหตุสมผล

เขาไม่คิดว่าไอ้สารเลวฉินเทียนนั่นจะเลือกโทรแจ้งตำรวจจริง?

เชื่อไหมล่ะว่า มหาเศรษฐีผู้ทรงอำนาจจะจัดการกับกุ้งตัวเล็ก ๆ ด้วยการแจ้งตำรวจ???

พล็อตเรื่องปกติไม่มีแบบนี้แน่

และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ฉินเทียนมาที่สถานีตำรวจเอง และเหลือบมองเขาแค่ครั้งเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ

แค่แวบเดียว?

เขาไม่ได้พูดอะไรกับฉันสักคำ

เขากล้าดียังไงมาดูถูกฉันด้วยท่าทีแบบนั้น?

หลินเฟิงรู้สึกไม่ดีมากๆ

“ให้ตายเถอะ ไม่ช้าก็เร็ว ฉันจะเหยียบทุกคนในตระกูลฉินให้อยู่ใต้เท้าของฉัน”

การดูถูกของผู้ชายคนนั้นกระตุ้นจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของหลินเฟิง

เขารู้ว่าตั้งแต่วินาทีที่เขาหักขาของฉินซือเจีย เขาได้ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตระกูลฉินแล้ว

เขายังเชื่อว่าฉินเทียนจะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ

ดังนั้นมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะอยู่รอด

.........

นอกสถานีตำรวจ

ฉินเทียนไม่ได้ออกจากสถานีตำรวจในทันที

เพราะเมื่อเขากำลังจะขึ้นรถ  เขาก็เห็นรถคันหนึ่งจอดอยู่ไม่ไกล

คนสองคนลงมาจากรถ

ในบรรดาสองคนนี้ ฉินเทียนรู้จักหนึ่งในนั้น

“สาวน้อย เรานี่ชะตาต้องกันจริงๆ ขนาดมาสถานีตำรวจยังเจอกันอีกหรอ?”

ฉินเทียนหันกับไปทักทายอีกฝ่าย

“ประธานฉิน คุณ...สวัสดีค่ะ”

เมื่อเห็นฉินเทียน ถังเซวียรู้สึกอายและกลัวเล็กน้อยในใจ

หลินเฟิงถูกจับหน้าบ้านตระกูลถัง ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลอะไร ก็สามารถคิดได้ว่าตระกูลถังของเธอมีความสัมพันธ์ที่ไม่ปกติกับหลินเฟิง

ตอนนี้พวกเธอยังมาปรากฏตัวที่สถานีตำรวจอีก

ความสัมพันธ์ยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีก

หากตระกูลฉินอยากแก้แค้นตระกูลถัง เธอก็ทำอะไรไม่ได้

"อะไรกัน? เธอกลัวฉันหรอ?"

เมื่อเห็นท่าทางของถังเซวีย ฉินเทียนก็นึกสนุก

แม้ว่าเขาจะข้ามโลกมา แต่เขาไม่เหมือนฉินเทียนเจ้าของร่าง

ท้ายที่สุด เขาซึมซับแค่ความทรงจำของเจ้าของเดิมเท่านั้น

และเมื่อรวมกับพลังปราณแท้จริงสิบปีก็ทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้น ทำให้รัศมีของเขาไม่ด้อยกว่าฉินเทียนคนเดิมอีกต่อไป

ลูกหลานของตระกูลเล็กๆ อย่างตระกูลถังเมื่อเผชิญกับรัศมีของผู้นำตระกูลใหญ่

พอจะจินตนาการได้ว่าถังเซวียสามารถรู้สึกยังไง

“ฉัน...ฉัน...”

“ผมชื่อถังเต๋อเสวียน ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ประธานฉิน”

ถังเซวียพูดติดอ่างและพูดไม่ออก ถังเต๋อเลยออกหน้าแทนเพื่อรักษามารยาท

“ถังเต๋อเสวียน?” ฉินเทียนยกมุมปากขึ้น “ผมรู้จักคุณ หมอจีนโบราณที่มีชื่อเสียงในเมืองฉิวหมิง ว่ากันว่าทักษะทางการแพทย์ของคุณดีมากใช่ไหมครับ?”

"ประธานฉินชมผมมากเกินไป” ถังเต๋อเสวียนน้อมรับอย่างกังวลใจ

“ชมมากเกินไปตรงไหนครับ? ผมได้ยินชื่อผู้อาวุโสถังบ่อยมากจริงๆ ครับ” ฉินเทียนหัวเราะ “เอ้อ ว่าแต่คุณมาทำอะไรที่นี่หรอครับ?”

ฉินเทียนถามอย่างรู้เท่าทัน ทำให้หัวใจของเฒ่าถังสั่นสะท้าน

ฉันไม่เชื่อหรอก

ด้วยความสามารถของฉินเทียน เขาต้องรู้อยู่แล้วว่าหลินเฟิงมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขา

กล่าวอีกนัยหนึ่งฉินเทียนให้โอกาสฉันในการเลือกข้าง?

เฒ่าถังอยู่มานานและเป็นคนดี ดังนั้นเขาจึงรีบพูดหลังจากคิดเรื่องนี้

“ประธานฉิน ผมต้องขอโทษจริงๆ ผมเพิ่งรู้ข่าวความขัดแย้งระหว่างเสี่ยวหลินกับคุณชายฉินเมื่อคืนนี้เอง”

ผู้อาวุโสตอบไม่ตรงคำถาม

เมื่ออีกฝ่ายรู้ว่าเขามีความสัมพันธ์กับหลินเฟิง เขาก็นิ่งขึ้น

“เสี่ยวหลินเพิ่งมาถึงเมืองฉิวหมิง เขาไม่คุ้นเคยกับที่นี่ ได้โปรดเถอะครับ ประธานฉิน โปรดอภัยให้กับความไม่รู้ของเสี่ยวหลินและปล่อยเขาไปเถอะครับ”

ผู้อาวุโสถังเก่งเรื่องการเจรจา

ที่เขาพูดมีความหมายลึกซึ้ง

ก่อนอื่นเขาบอกว่าเขารู้เรื่องนี้ตอนกลางคืน ซึ่งหมายความว่าเขาไม่รู้เรื่องนี้

นอกจากนี้เขายังกล่าวด้วยว่าหลินเฟิงเพิ่งมาถึงเมืองฉิวหมิง ซึ่งหมายความว่าความสัมพันธ์ของเขากับหลินเฟิงจะถือว่าเป็นแค่คนรู้จักเก่ากันเท่านั้น และมิตรภาพของเขาก็ไม่ลึกซึ้งอย่างที่ฉินเทียนคิด

ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ลึกซึ้ง แต่เขายังคงขอร้องแทน มันทำให้ฉินเทียนรู้สึกว่าชายชราคนนี้แสดงความอ่อนแอต่อเขา

แยกแยะความสัมพันธ์ ผูกมิตรทั้งสองฝ่าย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว?

ชายชราคนนี้เป็นอัจฉริยะ

“อยากให้ผมยกโทษให้เขา? โอ้ผู้อาวุโส! คุณกำลังพูดถึงอะไร?”

ตอนนี้การประลองเริ่มขึ้น ฉินเทียนไม่ได้ตีแสกหน้าอีกต่อไป “ผมฉินเทียน เป็นแค่นักธุรกิจและพลเมืองที่ปฏิบัติตามกฎหมาย ลูกชายของผมถูกรังแก และผมก็แค่ต้องโทรหาตำรวจ”

“ผู้อาวุโสคุณกำลังขอให้ผมเลิกยุ่งเรื่องนี้? ผมเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดาๆ ผมไม่ได้อีอำนาจมากขนาดนั้นหรอกครับ”

“แต่ไม่ต้องกังวล ผู้อาวุโส สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นความผิดของลูกชายผมตั้งแต่แรก และผมฉินเทียน ไม่ใช่คนใจร้ายขนาดนั้น และจะไม่ระบายความโกรธใส่คนที่ไม่เกี่ยวข้อง”

“สำหรับเรื่องที่ลูกชายของผมที่มีปัญหากับหลินเฟิง...ผมเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจัดการอย่างเป็นกลาง ผู้อาวุโสคิดว่ายังไงครับ?”

เมื่อเห็นถังเต๋อเสวียนพูดไม่ออก ฉินเทียนก็พูดต่อ

" ผมยังมีธุระที่ต้องทำ ดังนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ผู้อาวุโส ทำใจให้สบาย...”

หลังจากพูดจบฉินเทียนก็พยักหน้าเบาๆ แล้วหันกลับมาขึ้นรถโรลส์-รอยซ์

การกระทำของเขาเด็ดขาด และไม่เสียเวลาสักนิด

เมื่อพ้นสายตา มุมปากของเขาก็โค้งขึ้นเล็กน้อย

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด