ตอนที่แล้วตอนที่ 693 เข้าหาพายุ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 695 รู้แจ้งในคลังสินค้า

ตอนที่ 694 แดนคนบาป


ถังเทียนลืมตาขึ้นอีกครั้งและตระหนักว่าเขากำลังนอนอยู่บนเตียง

เตียงสร้างด้วยหินเป็นเตียงที่เรียบง่ายแต่ว่าสะอาด ถังเทียนรู้สึกงงเล็กน้อยเหมือนกับว่าเขากลับไปอยู่ในช่วงเวลาที่อยู่ในเมืองซิงฟง  การฝึกฝนและต่อสู้มาหลายปีทำให้ความเรียบง่ายของบุรุษหนุ่มแข็งแกร่งขึ้น

เขางงอยู่ชั่วขณะ  ก่อนที่จะคิดถึงเรื่องที่เหลือ เขาลุกขึ้นนั่ง

‘ข้าอยู่ที่ไหน?’

‘เพื่อนที่เหลืออยู่ที่ไหน?’

“ไม่ต้องห่วงสหายของเจ้า”  เสียงของสตรีชราดังขึ้น  ถังเทียนสะดุ้งตกใจสีหน้าเปลี่ยน  เขาไม่รู้สึกถึงผู้คนได้เลย

ถังเทียนสงบใจลงได้ ประสบการณ์ที่มากมายของเขาบอกว่าถ้าอีกฝ่ายมีความเป็นปฏิปักษ์ต่อเขา  พวกเขาคงไม่ส่งเสียงขึ้นแน่

สตรีชราอยู่ในชุดสีน้ำตาลนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่ไกลจากเขานางจับไม้เท้าด้วยมือข้างหนึ่งและใช้มืออีกข้างหนึ่งรินน้ำชา  จากนั้นค่อยๆ ดื่ม ข้างๆนางเป็นหญิงสาวสวมชุดสีเขียวยืนตรงกำลังเล่นกับมวยผมที่รวบของนางดวงตาดำขลับกระจ่างของนางกำลังมองถังเทียนด้วยความสงสัย

“พวกท่านเป็นใคร?  นี่มันที่อะไรกัน?  สหายของข้าอยู่ที่ไหน?”  ถังเทียนถามโดยไม่ผ่อนคลาย

เมื่อจำได้ว่าทุกคนอยู่ในที่ไม่รู้จักเขารู้สึกกังวล แต่เขาต้องข่มความกระวนกระวายใจเอาไว้  เนื่องจากเขารู้ว่ายังช่วยอะไรไม่ได้  เหตุผลจะต้องอยู่เหนืออารมณ์ซึ่งเป็นเรื่องที่พบได้ยากในตัวเขา

“นี่คือตระกูลเซวียแห่งเมืองจื่อจวน   และข้าคือประมุขตระกูล”  หญิงชรามีลักษณะใจดี  นางวางแก้วลงและมีท่าทีชื่นชม “เจ้ายังคงคิดถึงสหายอยู่ตลอดเวลาแม้เมื่อเจ้าหมดสติไปแล้ว  เจ้านับเป็นชายหนุ่มที่ดีที่ให้ความสำคัญกับมิตรสหาย  อย่าห่วงไปเลย,แม้ว่าสหายของเจ้าจะลำบากบ้างเล็กน้อย แต่พวกเขาพ้นอันตรายแล้ว  ในแดนบาปไม่มีใครยอมสูญเสียกำลังพลแน่”

ถังเทียนไม่เข้าใจและถาม  “ทำไม?”

สตรีชราพูดอย่างเฉยเมย  “ในแดนบาป กำลังคนคือสิ่งที่มีค่ามากที่สุด”

แดนบาป?

ในช่วงเวลาสนทนาสั้นๆ นี้ถังเทียนได้ยินชื่อนี้สองครั้งแล้ว แต่เขาไม่เคยได้ยินชื่อแบบนี้มาก่อน เขาไม่สนใจเรื่องนี้เท่าใดนัก และถามทันที “ขอถามได้ไหมว่าสหายของข้าอยู่ที่ใด?”

“ข้าไม่รู้จริงๆ”  หญิงชราส่ายศีรษะ  “เวลานี้เมืองจื่อจวนจับคนมาได้สามร้อยคนซึ่งทั้งหมดถูกกวาดต้อนไปโดยตระกูลอื่น ใครจะรู้ว่ามีสองคนที่หลุดรอดตาข่ายออกมาได้  เจ้าก็คือคนหนึ่งและอีกคนเป็นหญิงสาวต้าหลินน้อยซื้อนางมา  ขณะที่ข้าซื้อเจ้า”

ถังเทียนหน้าซีดขาว ขณะที่เขาพึมพำ  “เพียงสามร้อยคน...”

เมื่อเห็นสีหน้าไม่สบายใจของเขาหญิงชรารู้ว่าเขามีสหายมากกว่า 300 คน และบอก “ถ้าเจ้ามีสหายมาก พวกเขาคงถูกกวาดต้อนไปเมืองอื่น ทุกๆ ปีทะเลน้ำเงินสร้างคลื่นบาป และมีคนแคระน้ำเงินหลายคนวิ่งเข้ามาทุกปี ครอบครัวต่างๆ จะไปรับคนแคระน้ำเงินเหล่านี้”

“ทำไมต้องไปกวาดต้อนพวกเขา?”  ถังเทียนถาม

“เพื่อเป็นแรงงาน”  หญิงชราตอบอย่างเฉยเมย  “แดนบาปขาดแคลนแรงงานมาก  ดังนั้นเจ้าไม่ต้องกังวล  พวกเขาจะปลอดภัยจากอันตรายแน่นอน  ถ้าพวกเขาไม่เชื่อฟังอย่างมากพวกเขาก็โดนให้ทำงานหนักมากขึ้น”

“ข้าจำเป็นต้องไปตามหาพวกเขา!”  ถังเทียนยืนขึ้นโดยไม่ลังเล

หญิงชราไม่ได้ลืมตา  “ความรักแบบนั้นเป็นเรื่องดี  แต่เจ้าไม่ควรจะมีความคิดห้าวๆ อย่างนั้น  เจ้าถูกซื้อมาโดยตระกูลเซวียและตอนนี้เจ้าเป็นบ่าวตระกูลเซวีย  การทำงานเจ้าให้ดีคือภารกิจของเจ้าในตอนนี้”

“บ่าว?”  ถังเทียนตกใจ

“ข้าใช้เงินไปสองแสนเหรียญเพื่อซื้อเจ้า”  หญิงชรากล่าว “ถ้าเจ้ามีสองแสนเหรียญเพื่อซื้อตัวเจ้าเอง  เจ้าก็เดินจากไปได้อย่างอิสระ”

“สองแสนเหรียญ...บ่าว...’

ถังเทียนตะลึง แต่ในช่วงเวลาถัดมาตาของเขากระจ่างอีกครั้ง เขาส่ายศีรษะด้วยความมุ่งมั่น “ข้าเสียใจด้วย  ข้าไม่มีเงิน!  แต่ข้าจะคืนเงินสองแสนให้ท่านแน่นอน  สำหรับตอนนี้ ข้าจำเป็นต้องไปช่วยสหายข้าก่อน!”

ถังเทียนตัดสินใจจากไป

เสียงของสตรีชราดังขึ้นจากด้านหลัง  “เจ้าไม่สามารถไปได้  ในแดนบาปนี้ ทาสคนใดหลบหนีจะถือว่าคุกคามต่อเมือง บ่าวทาสผู้ลอบวางแผนหลบหนีก็มีความผิดเช่นกัน ไม่ว่าเจ้าจะมีพลังมากเพียงไหนและความสามารถมากยังไง  เจ้าก็ไม่สามารถต่อต้านแดนบาปได้ทั้งหมด  เมื่อเรื่องของเจ้าถูกเปิดเผย  เจ้าจะไม่มีเวลาช่วยพวกเขา  พวกเขาจะถูกตัดสินประหารชีวิต”

ถังเทียนหันมาจ้องมองนางด้วยความโกรธ  “ท่าน...”

“ความหุนหันพลันแล่นของเจ้าจะทำอันตรายพวกเขา”  สตรีชรายังคงไม่มีความรู้สึกใดๆ  “ตราบใดที่เจ้าก้าวออกจากตระกูลเซวียเจ้าจะถูกมองว่าเป็นทาสผู้หลบหนี และจะถูกประกาศว่าเป็นผู้ที่แดนบาปต้องการตัว  ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับตระกูลเซวีย  แดนบาปจะตรวจสอบใหม่ ไม่ว่ากลุ่มทาสที่มาด้วยกันจะปลอดภัยหรือไม่ ถึงเวลานั้นสหายของเจ้าจะไม่เพียงแต่ทำงานหนักเท่านั้น”

หน้าของถังเทียนแดงก่ำ  เขากำหมัดแน่นจนกระดูกลั่น  เขาโกรธมาก

สตรีชราเตือนอย่างไม่ใยดี“ข้าชื่นชมคุณธรรมน้ำมิตรของเจ้า ตราบใดที่เจ้าทำงานได้ดี ข้าจะช่วยเจ้าหาข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ของสหายของเจ้า  แดนบาปนี้ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปและตระกูลเซวียของข้าก็รับข้อมูลได้ง่ายมากกว่าเจ้า  ยายเฒ่าผู้นี้สัญญากับเจ้าได้  ถ้าเจ้าทำงานให้ตระกูลเซวียได้สำเร็จ  ข้าจะปล่อยให้เจ้าเป็นอิสระ  ถ้าผลงานของเจ้ามีขนาดมากพอข้าสามารถซื้ออิสระให้สหายของเจ้าได้ แม้ว่าตระกูลเซวียของข้าจะไม่ใช่ตระกูลเก่าที่ใหญ่ในแดนบาป  แต่ทุกคนยังเห็นแก่หน้าข้าบ้าง”

ถังเทียนกำหมัดแน่น  หลังจากนั้นชั่วครู่  เขาเงยหน้าขึ้นและกล่าว  “ท่านต้องการให้ข้าทำอะไร?”

หญิงชรายิ้ม “ยัยเฒ่าผู้นี้จะจัดการเรื่องนั้นให้เจ้า ไปพักก่อนเถอะ”

ทั้งสองคนปล่อยถังเทียนไว้ในที่พักและกลับเข้าไปในลานบ้านภายใน

หญิงสาวชุดเขียวรู้สึกประทับใจ  “นายผู้หญิงมีพลังจริงๆสามารถข่มเขาอยู่ด้วยความพูดไม่กี่ประโยค!  แต่หมิงจูกลัวจริงๆเมื่อท่านผู้หญิงกำจัดเข็มออกจากร่างของเขา หมิงจูกลัวว่าเขาจะทำร้ายผู้คนทันทีที่ฟื้นขึ้น”

“เขายังคงร้องถามหาสหายแม้แต่ตอนที่เขาหมดสติ  เขาไม่มีนิสัยแย่ขนาดนั้น”  หญิงชราพูดคำพูดจากใจนาง  “เจ้าต้องจำใส่ใจไวให้ดี!  คนที่ให้ความสำคัญกับผลกำไรสามารถซื้อได้ด้วยเงิน คนที่ให้ความสำคัญกับสหายจะถูกจำกัดด้วยความรักความผูกพัน  เขาจะไม่ยินดีมากแต่ในฐานะคนที่มีความรับผิดชอบคนหนึ่ง เขาจะไม่ประมาท ถ้าเจ้าต้องการให้คนทำงานให้เจ้า เจ้าไม่สามารถเอาแต่ใช้เงินจ้างเขา เจ้าต้องรู้สิ่งที่เขาต้องการด้วย”

หมิงจูพูดด้วยความเคารพ  “หมิงจูจะจำไว้เจ้าค่ะ”

หญิงชราถามทันที  “เจ้าพบผลประโยชน์ของตระกูลต่างๆ หรือไม่?”

“ขณะนี้ข้ายังไม่ทราบเท่าใดนัก แต่มีข้อมูลเกี่ยวกับเมืองอื่นเล็กน้อยว่าคนกลุ่มนี้มีมากกว่าพันคน”  หมิงจูรายงานทันที

“มากกว่าพันคน”  หน้าของหญิงชรายุ่งยากทันที ขณะที่นางรำพึงเอง“ครั้งนี้ยุ่งแน่ ดูเหมือนแดนบาปคงจะไม่สงบอีกแล้ว”

“ท่านผู้หญิง! ท่านกำลังบอกว่ามีปัญหาจากที่ซึ่งพวกเขามาอย่างนั้นหรือ?”  หน้าของหมิงจูเปลี่ยน

“ในคลื่นบาปทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนนั้น  พวกที่มาที่นี่จะเป็นคนแคระน้ำเงิน  แต่ครั้งนี้พวกเขาเป็นมนุษย์ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมาจากทะเลน้ำเงิน” สตรีชราพูดอย่างไม่สบายใจ “จำนวนของพวกเขามากสำหรับพวกที่มาสำรวจทะเลน้ำเงิน ข้าเกรงว่าพวกเขากำลังพยายามมองหาบางอย่างในทะเลน้ำเงิน  จากสิ่งที่เขาเพิ่งพูดมา  คนแปลกหน้านี้มีถึงพันคนเป็นสหายของเขา  เจ้าคิดว่าไงเกี่ยวกับกลุ่มที่เต็มไปด้วยคนสองสามพัน?”

หมิงจูโพล่งออกมา  “กองทัพ!”

“ถูกแล้วกองทัพ ข้าคิดว่าเขาไม่ใช่ทหารธรรมดาเช่นกัน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีจิตใจที่รับผิดชอบ” หญิงชราหัวเราะ  “ตอนแรกข้าเห็นว่าเขามีร่างกายที่แข็งแรงและคิดว่าเด็กที่เขาจะให้กำเนิดมาจะต้องเป็นผู้มีพรสวรรค์  ตระกูลเซวียข้าไม่มีบุรุษดีๆ  และพวกเจ้าสาวน้อยก็ถึงวัยจะให้กำเนิดเด็ก  ข้าคิดใคร่ครวญเรื่องนี้  ถ้าไม่อย่างนั้นทำไมเจ้าถึงคิดว่าข้าจ่ายเงินสองแสนเพียงเพื่อทาสบุรุษคนเดียว?”

หมิงจูไม่เคยคิดว่านั่นเป็นแผนการของท่านผู้หญิงหน้านางแดงด้วยความอายทันที และไม่พูดอะไรอีกต่อไป

หญิงชราหยุดยิ้มและถอนหายใจ  “เท่าที่ดูแล้ว เขาเป็นบุรุษที่ดื้อรั้นและไม่ชอบถูกบังคับ  แต่เขาเพิ่งมาถึงแดนบาป  เขายังมีแง่มุมที่แหลมคมอยู่หลังจากอยู่ที่นี่ไปชั่วขณะ แง่มุมที่แหลมคมเหล่านั้นจะถูกขัดหายไป  ถึงตอนนั้นแม้แต่ความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ของเขาก็ควรจะเพลาลง  จากนั้นเขาจะถูกกลืนเข้าแดนบาปอย่างเต็มที่  บางทีข้าไม่ต้องไปคิดถึงกองทัพอะไรมาก  ต่อให้มีสองสามกองทัพ  เมื่อหลงเข้ามาในดินแดนรกร้างอย่างนี้  พวกเขาจะทำอะไรได้  ทั้งความหวังและความฝันจะถูกขัดเกลาหายไป”

สีหน้าของหมิงจูดูเหมือนสลดลง

ถังเทียนลืมตา  สีหน้าของเขาดูน่าเกลียด

ไม่เพียงแต่เขาไม่อาจเรียกเพลิงสุญญตาได้เท่านั้น  แต่ประตูกางเขนใต้ที่ไม่เคยมีปัญหาใดๆมาก่อนกลับมีปัญหา ประตูดาวกางเขนสลัวจนแทบจะมืด และไม่ว่าเขาพยายามติดต่อยังไงก็ตามประตูก็มืดสลัวไม่มีเปลี่ยน

นี่หมายความว่าเขาสูญเสียการเชื่อมโยงทั้งปวง

‘แย่จริง!’

เขาต่อยใสเตียงหิน

เขาบังคับตนเองให้สงบ  เขาเลิกคิดเรื่องผลที่พายุได้สร้างเอาไว้  เพราะไม่มีประโยชน์  เสียใจและสำนึกไปก็ไม่มีประโยชน์  ความคิดเดียวที่เขามีในใจก็คือตามหาทุกคน

‘ข้าจะทำยังไงดี?’

‘คำพูดของหญิงชราอาจเป็นการเตือนหรือข้อควรระวัง  แต่ไม่ว่าจะจริงหรือเท็จ  ข้าไม่อาจประมาทได้  เพราะเกี่ยวข้องกับชีวิตของทุกคน’

‘ข้าจะต้องหาว่าข้าอยู่ที่ใดก่อน เมืองจื่อจวน แดนบาป ข้าไม่เคยได้ยินสถานที่แบบนั้นมาก่อน ประสาอะไรกับที่ๆ ข้าอยู่’

เมื่อถังเทียนสังเกตสภาพแวดล้อมรอบตัวเขา  เขาสังเกตบางอย่างได้ทันที

‘ไม่มีพลังงานในอากาศ!’

นี่เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนพบเจอสถานที่ไม่มีพลังงาน  แม้แต่สถานที่ซึ่งมีพลังงานเบาบางที่สุดตัวอย่างเช่นกลุ่มดาวหมาป่า จะมีความรู้สึกต่างกันมากขณะที่พลังงานเบาบางก็ยังเป็นพลังงาน ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่ซึ่งอากาศเต็มไปด้วยพลังงาน

‘นี่ไม่ใช่ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์!’

ถังเทียนตระหนัก

เขามองดูรอบๆ ด้วยความสงสัย  บ้านเป็นแบบง่ายๆเตียงกับโต๊ะหนึ่งตัวและเก้าอี้สองตัว เตียงทำจากหิน ขณะที่โต๊ะและเก้าอี้สร้างจากไม้ที่ไม่รู้จัก และงานดูหยาบมาก

ถังเทียนลูบเตียงหิน จากนั้นขุดเศษไม้จากโต๊ะหลังจากฝนกับนิ้วแล้ว เขารู้สึกถึงมันได้

‘นี่ไม่ใช่ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์แน่นอน!”

ถังเทียนแน่ใจ  ไม่มีพลังงานอยู่ในวัสดุเลย นี่ไม่มีทางเป็นไปได้ทั้งในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์หรือในสวรรค์วิถี  พลังงานที่อยู่ในอากาศทำให้วัตถุทุกอย่างในโลกมีพลังงานแฝงอยู่ด้วยทราย หิน น้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างจะมีพลังงานอยู่ในนั้น  สงสัยก็แต่เพียงว่ามีน้อยแค่ไหน

‘ข้าไม่มีการติดต่อ  ไม่มีเงิน ไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมนี้พลังของข้าถูกปิดกั้น และข้าไม่รู้จักสถานที่นี้ หรือพวกที่เหลือจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นไร...’

ถังเทียนเคยเผชิญกับอันตรายและปัญหามากมายมาก่อน  แต่เขาไม่เคยพบกับเรื่องรุนแรงแบบนี้ สถานการณ์ที่ไม่เคยเจอมาก่อนไม่ได้ทำให้ถังเทียนขลาดกลัว  แต่จะทำให้เขามุ่งมั่นมากขึ้น

เขาหลับตาสูดลมหายใจลึกสองสามครั้งความกังวลในใจค่อยๆ หายไป เขาลืมตาอีกครั้ง และตาของเขากระจ่างมาก

เขาจำเป็นต้องมีความคิดริเริ่มเชื่อมตัวเองและทำความคุ้นเคยกับแดนบาป และต้องพยายามอย่างหนักหาวิธีฟื้นฟูความแข็งแรงของเขา จากเท่าที่เขามีโอกาส

เมื่อตั้งเป้าแก้ไขแล้ว ถังเทียนไม่รีรอต่อไป

เขาไปหาหญิงชรา

“ข้าฟื้นเรี่ยวแรงแล้ว  ท่านต้องการให้ข้าทำอะไร?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด