ตอนที่แล้วตอนที่ 679 เนี่ยชิวจงหลีไป๋และหน่วยสุญญตา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 681 ทวีปทอง

ตอนที่ 680 อาคันตุกะไม่คาดหมาย


ก่อนที่พวกเขาจะออกไป  ถังเทียนพาอาคันตุกะไม่คาดหมายมาคนหนึ่ง

ผมสีน้ำตาลอ่อนหยักศกเป็นธรรมชาติ ใบหน้าของบุรุษหนุ่มนั้นดูอ่อนเยาว์เหมือนกับว่าเขายังเติบโตไม่เต็มวัยยังมีเค้าของทารกใหญ่อยู่  เขามองดูคล้ายบุรุษผู้ว่าง่ายแต่เขาสามารถเล่นกับสมาคมรวมตระกูลด้วยมือข้างเดียวของเขา  และจากตรงนั้น เขาก้าวขึ้นไปนั่งเป็นจ้าวแมงป่อง ด้วยกลยุทธที่เรียกว่าแม่น้ำโลหิตไหลนองอย่างต่อเนื่องเขาตรวจสอบและรักษาสมดุลนำกลุ่มดาวแมงป่องมาไว้ในเงื้อมมือของเขา

การปรับขุนพลวิญญาณที่มีลักษณะเฉพาะทั้งหมดการกลืนการผสานวิทยาการเฉพาะของสมาคมรวมตระกูล เขาค้นพบศักยภาพกลุ่มดาวหนึ่งของสิบสองตำหนักสุริยุปราคากลุ่มดาวแมงป่องที่ล่มสลายค่อยๆ ฟื้นฟูในเงื้อมมือเขาและเริ่มแผ่รัศมีของสิบสองกลุ่มดาวตำหนักระนาบสุริยุปราคากลุ่มดาวแมงป่องเริ่มแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน  เมื่อวันเวลาผ่านไปทำให้อิทธิของกลุ่มดาวแมงป่องในสวรรค์วิถีขยายออกไป  และทั่วกลุ่มดาวแมงป่อง  พวกเขาลืมวันเวลาที่น่ากลัวไปแล้ว  และเริ่มร้องเรียกราชาแมงป่องหนุ่ม

ด้านข้างของเขาคือศิษย์พี่ของเขาที่ไม่ค่อยแยกจากกันชิวจื่อจวิน  เขาสวมชุดสีขาวผมสีดำยาวประบ่า หน้าตาขาวซีดทำให้เขาดูเหมือนจะถูกลมพัดปลิวได้ แต่ไม่มีใครกล้าดูแคลนเขาบุรุษที่ดูเหมือนอ่อนแอผู้นี้เขาคือดาบที่คมที่สุดของซือหม่าเซี่ยว การล้างผลาญกลุ่มดาวแมงป่องครั้งใหญ่มีอยู่ครึ่งหนึ่งที่ถูกประหัตประหารโดยเขา

บุรุษทั้งสองคือผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดของกลุ่มดาวแมงป่อง

การมาเยือนของซือหม่าเซี่ยวสร้างความประหลาดใจให้กับถังเทียน  ทั้งสองไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดในความเป็นจริงค่อนข้างจะเป็นศัตรูกัน สำหรับเด็กหนุ่มที่เชี่ยวชาญในด้านกลโกงและวางแผน ถังเทียนไม่มีความรู้สึกที่ดีจากเขาอยู่แล้ว  นอกจากนี้ เขาไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะมีความรู้สึกที่ดีเขาตัวเขาเอง

“ข้ามาที่นี่เพื่อดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์”

ซือหม่าเซี่ยวเข้าประเด็นทันทีโดยไม่ปกปิดอะไร

“ถ้าข้าคาดไม่ผิด  เจ้าจงใจส่งข้อมูลออกไปก็หมายความว่ามีปัญหายุ่งยากบางอย่างที่เจ้าเผชิญอยู่ที่ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์และเจ้าต้องการความร่วมมือของทั่วทั้งสวรรค์วิถีเพื่อป้องกันตัวเจ้าเองในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  แม้ว่าจะมีความไม่สบายใจต่อกันในระหว่างพวกเราในก่อนหน้านั้น  แต่เราไม่มีผลประโยชน์อะไรที่ขัดแย้งกัน  แม้ว่าเจ้าจะได้สืบทอดกองทัพดาวกางเขนใต้  แต่ความขัดแย้งกับกลุ่มดาวแมงป่องก็ควรสลายหายไปได้แล้ว  เจ้าไม่จำเป็นต้องสงสัยความจริงใจของเราเจ้าระบุเงื่อนไขของเจ้ามาได้เลย”

ถังเทียนคาดไม่ถึงเลยว่าสายตาของซือหม่าเซี่ยวจะแหลมคมยิ่งนัก  เขาเพียงแต่ปล่อยข้อมูลในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ แต่ซือหม่าเซี่ยวกลับคาดเดาถึงเจตนาที่แฝงอยู่ได้

มาถึงแนวหน้าด้วยความกล้าหาญตามลำพังน่าชื่นชมแท้จริง

ไม่นับกลุ่มดาวแกะหรือกลุ่มดาววัวที่กำลังตกต่ำ แม้แต่ตำหนักสุริยุปราคาอื่นที่มั่นคงและเป็นหลักคนกลุ่มดาวแมงป่องหนุ่มกำลังแสดงความแข็งแกร่งและกล้าหาญที่ไม่ธรรมดาบางส่วนคล้ายกับกลุ่มดาวหมีใหญ่ ถังเทียนไม่รู้จะอธิบายคุณภาพยังไง  แต่ก็ทำให้เขาคุ้นเคยกับพวกเขา

‘ไม่มีอะไรแย่เกี่ยวกับการทำงานร่วมกับกลุ่มดาวแมงป่อง  ขณะที่ซือหม่าเซี่ยวพูดเราไม่มีผลประโยชน์อะไรขัดแย้งกัน

‘แต่ข้าควรจะยกเงื่อนไขอะไรขึ้นอ้าง?’

ถังเทียนเค้นสมองคิดอย่างระมัดระวังจนทำให้เขาชักจะปวดหัว

ซือหม่าเซี่ยวไม่รีบร้อน  เขาจิบชาตามปกติ  แต่แอบโล่งอกอยู่ในใจ  ‘ถังเทียนไม่ได้ปฏิเสธเขาทันที  ก็หมายความว่ามีไพ่เล่นอยู่ในมือ  ตราบใดที่มีเงื่อนไขอะไร  ไม่ว่าจะราคาเท่าใด  เขาไม่สนใจ’ คนอื่นอาจจะสงสัยและการคงอยู่ของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  แต่เขาได้เห็นแล้วก้าวแรกในการเปิดดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์สามารถทำกำไรในอนาคตได้ไม่มีที่สุด

โครงสร้างของสวรรค์วิถีมีเสถียรภาพมาเป็นเวลานานแล้ว และแม้แต่สมาพันธ์ชาวยุทธรุ่นก่อนก็ยังไม่กล้ายึดและผนวกกลุ่มดาวอื่น

ไม่มีพื้นที่ในสวรรค์วิถีเหลือมากอีกต่อไป  และสำหรับซือหม่าเซี่ยวผู้ทะเยอทะยาน  มันคือสิ่งที่น่าตกใจที่สุดด้วยการปรากฏของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ทำให้ความสนใจของเขาเพิ่มขึ้นทันที  และหลังจากคาดเดาความตั้งใจของถังเทียนถูก  เขาก้าวหน้าไปด้วยตนเองโดยไม่ลังเล

ถังเทียนผู้ยึดทางน้ำเข้าสู่ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ไว้ในมือยังได้รับประโยชน์มากมายสำหรับอนาคต ตราบใดที่ทางน้ำไม่เปลี่ยนมือ ความได้เปรียบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ใครๆจะชิงไปได้

และจะเป็นยังไงถ้าพวกเขาล้มเหลวในการปกป้องทางน้ำ? ซือหม่าเซี่ยวได้ตรวจสอบวิเคราะห์การต่อสู้ที่ถังเทียนมีส่วนร่วมทั้งหมด และได้ข้อสรุปอย่างหนึ่งคือถังเทียนและคนของเขาไม่เคยทำผิดพลาดในการสู้รบครั้งสำคัญ ถังเทียนและคนของเขาจะมีไหวพริบผิดปกติเมื่อมาถึงยุทธศาสตร์สำคัญด้วยความกล้าหาญเป็นพิเศษ

เขาไม่เชื่อว่าระดับสูงของกลุ่มดาวหมีใหญ่จะทำข้อผิดพลาดโง่ๆอย่างนั้น

ถ้าเขาไม่สามารถเป็นคนแรก  เขาจะเป็นคนที่สองที่รอโอกาส

ในความเป็นจริงแม้ว่าจะไม่สอดคล้องกับความทะเยอทะยานของซือหม่าเซี่ยว แต่นิสัยทะเยอทะยานและความโหดร้ายของราชาแมงป่องเป็นการกระทำที่สร้างความนิยมให้กับผู้คน  เป็นสิ่งที่ครั้งหนึ่งผิดพลาด  เขามักจะเพิ่มผลประโยชน์ให้ตัวเองได้มากที่สุด

‘ในเมื่อข้าไม่สามารถแข่งขันครอบครองความได้เปรียบในอนาคตได้  อย่างนั้นข้าจะลดความเสียเปรียบให้มากเท่าที่ทำได้’

ชิวจื่อจวินไม่พูดแม้แต่น้อย  เขาสังเกตดูถังเทียนตั้งแต่ต้น  สำหรับเขาแล้วศิษย์น้องของเขาคืออัจฉริยะที่ปรากฏในรอบหลายร้อยปี  ด้วยวิธีถล่มฟ้าทลายดินวีรบุรุษหลายคนเคยตกเป็นเครื่องมือให้ศิษย์น้องเขาเล่นมาแล้ว

แต่ในสวรรค์วิถีมีอยู่คนเดียวที่มักสร้างแรงกดดันให้ศิษย์น้องของเขาและนั่นก็คือถังเทียนที่กำลังคิดอยู่ต่อหน้าเขานี้

จากการสนองตอบได้ช้า เขาสามารถบอกได้ว่าถังเทียนไม่อาจเทียบได้กับศิษย์น้องของเขา  ถ้าเป็นศิษย์น้องของเขา  ตราบใดที่อีกฝ่ายพูดจบ  เขาจะมีคำตอบรอไว้แล้ว

ถังเทียนขมวดคิ้วลึกราวกับว่ากำลังเค้นสมอง ชิวจื่อจวินไม่เข้าใจเลยว่าคนที่ไม่เก่งอย่างเขาจะสามารถวางรากฐานได้ด้วยมือเปล่าและกดดันศิษย์น้องของเขาได้

ถังเทียนไม่สนใจสายตาของพวกเขาแม้แต่น้อยขณะที่เขาคำนวณในใจ

ความจริงสถานการณ์การเมืองปัจจุบันเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันหลายทาง  กลับกลายเป็นคลุมเครือไม่ชัดเจน  และสำหรับถังเทียนมันยุ่งเหยิงจริงๆ  เขาพยายามอย่างดีในการสงบใจตัวเองลง  ‘อะไรคือปัญหาสำคัญที่สุดที่ข้าต้องแก้ตอนนี้?’

‘สมาพันธ์ชาวยุทธ!’

ถังเทียนได้ข้อสรุปอย่างง่ายดาย  ‘ใช่แล้วสมาพันธ์ชาวยุทธ!’ ตาของถังเทียนเป็นประกายดุร้ายมีกลุ่มดาวแมงป่องเข้าร่วมในระดับของเขาเพื่อเอาชนะสมาพันธ์ชาวยุทธ  นั่นก็เป็นเหมือนเสือติดปีก

‘ซือหม่าเซี่ยวเองก็เป็นขุนทหารคนหนึ่งสามารถอยู่เหนือคนที่เหลือจากสมาคมรวมตระกูลได้ นั่นเป็นเพราะความสำเร็จทางทหารของเขา’

‘ในแง่ความแข็งแกร่ง  กลุ่มดาวแมงป่องทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างมิต้องสงสัย  แต่ถ้าข่าวรั่วออกไป  และสมาพันธ์ชาวยุทธได้โอกาส  อย่างนั้นแผนทั้งหมดที่วางไว้ก็จะไม่มีประโยชน์’

ซือหม่าเซี่ยวอ่านสีหน้าได้ดี เขาสังเกตความเปลี่ยนแปลงในสีหน้าของถังเทียนได้ทันทีและรู้ว่ามีเหตุผลที่ทำให้ถังเทียนลังเล

‘จะเป็นเหตุผลอะไรได้?’

ความคิดนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาในใจของเขา เขายังคงคิดและสังเกตว่าในช่วงเครียดและสำคัญที่สุด  ถังเทียนกำลังลังเล!

‘ทำไมถังเทียนถึงลังเล? เงื่อนไขไม่น่าพอใจหรือเปล่า?’

‘ไม่ ไม่มีอะไรที่จะทำได้ แต่ถังเทียนลังเลอยู่ก่อนแล้ว นั่นหมายความว่าไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับราคามูลค่า  แต่ถังเทียนไม่ได้ปฏิเสธซึ่งก็หมายความว่า  ข้าเสนอนี้ทำให้เขาตื่นเต้น

‘แต่ถังเทียนลังเลอะไรก่อนที่เขาจะตั้งเงื่อนไข?’

ดวงตาของซือหม่าเซี่ยวหรี่แคบทันที  ‘ถังเทียนและพวกต้องวางแผนบางอย่าง  ถ้าไม่อย่างนั้น  เขาจะต้องไม่ลังเล!  เรื่องที่พวกเขาวางแผนอยู่ในเงาต้องสำคัญอย่างยิ่งยวดจนถึงกับทำให้ถึงเทียนกังวลว่าจะทำให้ปัญหายุ่งยาก

‘ใช่แล้ว ต้องเป็นเช่นนั้นแน่!’

‘แต่มันสำคัญอะไรกันนักหนา?’

ซือหม่าเซี่ยวตระหนักว่าเขาพลาดส่วนสำคัญที่สุดไป  แต่มีสิ่งมากมายเหลือเฟือที่พอจะแก้ไขได้  และไม่ง่ายที่เขาจะคิดออกได้ในทันที  เขาต้องให้ถังเทียนพูดออกมาก่อน  เขาสามารถแสดงทัศนคติของเขาได้  ถ้าไม่อย่างนั้นถังเทียนปฏิเสธเขาเรื่องก็จะต้องกลับไปสู่จุดเริ่มต้น

“ถ้าเจ้ามีเรื่องกังวลข้ายินดีจะเป็นตัวประกัน”

ซือหม่าเซี่ยวเสนอตนเองบนโต๊ะโดยไม่ลังเล

หน้าของชิวจื่อจวินเปลี่ยน  เข้าต้องการห้ามซือหม่าเซี่ยว  แต่ก็เห็นเขายกมือทั้งสอง

ซือหม่าเซี่ยวจ้องมองถังเทียน  “หนุ่มชาวฟ้า อย่าได้สงสัยความศรัทธาที่ดีของข้า ข้าได้ยินมาว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่มีสถานที่ลึกลับมากมาย  และข้าตั้งใจมาอยู่ที่นี่ช่วงเวลาหนึ่ง  ไม่ว่าเจ้าจะดำเนินการยังไงกลุ่มดาวแมงป่องของเราจะเป็นผู้ช่วยของเจ้า กลุ่มดาวแมงป่องของเรามีความจริงใจและสามารถช่วยกลุ่มดาวหมีใหญ่ได้”

ถังเทียนมองดูซือหม่าเซี่ยวอย่างประหลาดใจ เขาไม่เคยคิดว่าซือหม่าเซี่ยวจะตัดสินใจแน่วแน่และไม่ลังเลที่จะเอาตัวเองเป็นประกันเพื่อขจัดความวิตกกังวลใจให้กับเขา

‘คนผู้นี้เป็นนักพนัน!’

แต่ถังเทียนรู้สึกชื่นชมและนับถือเขา

ทันใดนั้นถังเทียนมีความคิดที่บรรเจิด  “เร็วๆนี้ข้าต้องการจะไปดูที่ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ เอาอย่างนี้เป็นไง เจ้าสนใจหรือไม่?”

‘พาเจ้าบ้านี่ไปดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ด้วยคงจะเป็นความคิดที่ดี’

หน้าของชิวจื่อจวินเปลี่ยนอีกครั้ง ถ้าศิษย์น้องของเขาอยู่ในกลุ่มดาวหมีใหญ่ในฐานะตัวประกัน  ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น  อย่างน้อยเขาก็พยายามช่วยเขาได้  แต่ถ้าศิษย์น้องของเขาจะเข้าดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นกลุ่มดาวแมงป่องอาจจะถูกจูงจมูกโดยไม่มีพื้นที่ให้ต่อต้าน

ซือหม่าเซี่ยวยังคงเฉยๆ และหัวเราะ  “โอกาสอย่างนั้นยากจะมาถึง  ข้าสงสัยจริงๆว่าดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์จะเป็นเช่นไร”

ชิวจื่อจวินรู้ว่าเรื่องจะต้องมาถึงจุดสรุป  และเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้  ดังนั้นเขาพูด “ข้าสงสัยว่า เจ้าจะพาคนไปเพิ่มได้ไหม? ผู้น้อยก็อยากรู้อยากเห็นดาราจักรเซียนศักดิ์เช่นกัน”

ซือหม่าเซี่ยวมองดูศิษย์พี่ด้วยท่าทีขอโทษ  “ศิษย์พี่,กลุ่มดาวแมงป่องยังต้องการให้ท่านคอยดูแล ถ้าศิษย์พี่ไม่อยู่ที่นั่น ข้าเกรงว่ากลุ่มดาวแมงป่องจะไม่สามารถยืนหยัดได้มั่นคง”

ชิวจื่อจวินรู้สึกจนใจได้แต่เงียบ  ถ้าทั้งสองคนหายไปในเวลาเดียวกัน  กลุ่มดาวแมงป่องจะตกอยู่ในอันตรายที่แท้จริง  และเขารู้ว่าเพราะตัวเขาเอง น้ำหนักของเขาไม่มีทางเทียบได้กับศิษย์พี่เขาและไม่สามารถแทนเขาได้

แต่เขารู้สึกกังวลแต่ชื่อเสียงของถังเทียนยังนับว่าดีมาก และไม่เคยมีสักครั้งที่เขาเคยได้ยินว่าพวกเขาจงใจฆ่าผู้บริสุทธิ์

‘เทียบกับพวกเขาแล้ว ข้ายังเป็นเพชฌฆาตมือเปื้อนเลือดยิ่งกว่า’

ชิวจื่อจวินฝืนหัวเราะในใจ  แต่เขาไม่เสียใจ นอกจากนี้ตราบใดที่เขายังยึดกลุ่มดาวแมงป่องไว้อย่างเหนียวแน่น  ศิษย์น้องของเขามักจะปลอดภัยอยู่เสมอ ไม่มีใครกล้าคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้ากลุ่มดาวระนาบสุริยุปราคาจะไม่สนใจผลกระทบอะไรและทำสิ่งที่พวกเขาต้องการ

เนื่องจากได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้ว  ถังเทียนจึงไม่ปิดบังพวกเขาต่อไป  “เรากำลังจะรับมือกับสมาพันธ์ชาวยุทธ!”

ซือหม่าเซี่ยวและชิวจื่อจวินสะท้านใจ แต่ทั้งสองค่อยแสดงความรู้สึกออกมาในเวลาสั้นๆ ในความเป็นจริงไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกสำหรับกลุ่มดาวหมีใหญ่ที่ต้องการจัดการกับสมาพันธ์ชาวยุทธ  แต่ซือหม่าเซี่ยวไม่คิดเลยว่าถังเทียนจะเลือกเวลาแบบนั้นเพื่อบอกเขา

ในทางทฤษฎี ไม่ใช่เวลาที่ดีเลยที่จะเป็นศัตรูกับสมาพันธ์ชาวยุทธ  เมื่อเวลาผ่านไป  การสู้รบระหว่างกลุ่มดาวราชสีห์และสมาพันธ์ชายยุทธจะทำให้สมาพันธ์ชาวยุทธอ่อนแอลง  และกลุ่มดาวใหญ่ที่เป็นแนวร่วมกันอื่นๆจะแข็งแกร่งมากขึ้น นั่นคือเวลาที่ดีที่สุดที่จะโจมตี

‘กลุ่มดาวหมีใหญ่ต้องมีเหตุผลของการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านสมาพันธ์ชาวยุทธอย่างแน่นอน’

ซือหม่าเซี่ยวไม่ต้องการคิดอะไรมากมาย  เขาถอนหายใจโล่งอก แม้ว่าครั้งหนึ่งพวกเขาจะเคยใกล้ชิดกับฝ่ายสมาพันธ์ชาวยุทธ  แต่สำหรับเขา พวกเขาไม่นับเป็นพันธมิตร

‘และสมาพันธ์ชาวยุทธคือมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ถ้าพวกเขาต้องการร่วมมีส่วนในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  พวกเขาคงต้องการส่วนแบ่งชิ้นใหญ่เป็นแน่’

‘เมื่อเป็นเช่นนั้น, เราต้องกำจัดพวกเขา!’

ประกายสายตาของซือหม่าเซี่ยวดุร้าย  เขาลุกขึ้นยืน

“เรื่องนี้เจ้าสามารถนับกลุ่มดาวแมงป่องเข้าร่วมได้เลย!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด