ตอนที่แล้วตอนที่ 675 ฟัง! ปกติข้าไม่บอกคนอื่น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 677 ก่อนพายุจะมา

ตอนที่ 676 สหาย, สหายแท้คืออะไร?


ตามคำบอกเล่ากล่าวของหัวกลมเปากู่  เย่ว์หยางมีความคิดว่าเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของเมืองลมดำดี

ก่อนอื่นเลยลูกชายของไป๋ซ่งถูกฆ่าตายและเขาได้บรรลุข้อตกลงกับเจ้าเมืองลมดำ และร่วมมือกับเขา  ขณะเดียวกันในฐานะผู้ไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย แม่ทัพหลงเสียงทูตพิเศษของราชาใจสิงห์ยังคงเข้าร่วมสืบสวนในฐานะฝ่ายที่สาม  และจากนั้นเจี๋ยฮู่แห่งสำนักหลันเจียงพวกเขาปฏิเสธการประนีประนอมของเจ้าเมืองลมดำและขอให้เขาส่งตัวคนกระทำผิดหรือต่อสู้กันให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ถ้าไม่ใช่เพราะการมาถึงของาราชาใจสิงห์เขาคงสู้กับเจ้าเมืองลมดำไปแล้ว

ต่างจากไป๋ซ่งการต่อสู้ระหว่างเจี๋ยฮู่และเจ้าเมืองลมดำเป็นของแท้

ไม่เพียงเท่านั้นความแข็งแกร่งของตระกูลก็ไม่มีใครเทียบได้และน่ากลัวมาก

โชคดีที่ตำแหน่งของการต่อสู้อยู่ห่างไปนอกเมืองห้าสิบกิโลเมตร  มิฉะนั้นทั่วเมืองลมดำคงพังราบเป็นหน้ากลอง

แม้ว่าพวกเขาจะแยกออกไปสู้กันนอกเมืองห้าสิบกิโลเมตร แต่คลื่นระเบิดจากการสู้รบก็ยังรู้สึกได้แต่ไกลจากทุกการปะทะของพวกเขา  ตามข้อมูลวงในของเปากู่เจี๋ยฮู่เอาชนะเจ้าเมืองลมดำ ขุนพลจินฟงและไป๋ฟ่ง ซึ่งฝ่ายเขามีนักรบปราณฟ้ารวมสามคนอยู่ฝ่ายเขา  แต่เจ้าสำนักหลันเจียงนี้แข็งแกร่งจนเหลือเชื่อ

นอกจากนี้ข่าวที่สองทำให้เย่ว์หยางตะลึง

ระหว่างสู้กันของเจ้าเมืองลมดำและเจี๋ยฮู่มีขโมยผู้ลึกลับปรากฏภายในเมืองและลอบเข้าไปในจวนของเจ้าเมืองลมดำ

เนื่องจากเจ้าเมืองลมดำอยู่ข้างนอก จึงไม่มีใครในจวนสังเกตเห็นการบุกรุกเข้ามาของขโมย  สมบัติภายในถูกกวาดเรียบและเจ้าเมืองลมดำทุกข์ทรมานกับการสูญเสียหนัก

เหตุการณ์ใหญ่ที่สามก็คือหน่วยกริฟฟินภายใต้การสั่งการของแม่ทัพหลงเสียงเมื่อพวกเขาค้นหาร่องรอยการฆ่าคุณชายซ่งเทา ดูเหมือนพวกเขาจะพบอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตาม ตอนกลับมารายงานแม่ทัพหลงเสียงพวกเขาพบกับยอดฝีมือปราณฟ้าอย่างไม่คาดหมายและถูกทำลายล้างราบคาบเมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป ทั่วทั้งเมืองสั่นสะเทือน กล่าวกันว่าแม้แต่ราชาใจสิงห์ก็ยังตกใจถึงกับส่งอัศวินเกราะมังกรของเขาออกไปช่วยแม่ทัพหลงเสียงสืบสวน

“ทำไมเจ้าถึงหลับได้ตั้งสามวัน?เจ้าพลาดโอกาสดีๆ ไปแล้ว..  อย่างไรก็ตามก็ดีเหมือนกัน ข้าเชื่อว่าเรื่องตื่นเต้นยิ่งกว่าจะตามมา”

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะขาดเย่ว์หยางไม่ได้

นี่เป็นเพราะ‘การจำศีล’ ตลอดสามวันของเย่ว์หยางไม่เหมือนใคร

หลายเผ่าพันธุ์มีความสามารถในการจำศีลและใช้ความสามารถนี้อย่างสม่ำเสมออย่าว่าแต่นอนตลอดสามวัน ต่อให้นอนสามเดือนหรือกระทั่งสามปี ก็ไม่ใช่เรื่องยาก!

เย่ว์หยางลอบวิเคราะห์เหตุการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าสาวเจ้าเสน่ห์คงเริ่มทำการเคลื่อนไหวแล้ว  เหตุการณ์ที่สองและสามเป็นไปได้ว่าอาจเป็นสิ่งที่นางหรือสหายของนางทำ  นางลอบช่วยเขา?หรือว่าสร้างเรื่องปั่นป่วนเพื่อดึงความสนใจของราชาใจสิงห์ และลากเขาลงน้ำไปด้วย?เขาควรจะหลบจากที่นี้ยังไง?

ถ้าสาวยักษ์ลี่เยี่ยนอยู่ในเมืองลมดำ  เย่ว์หยางก็แค่ตรงไปช่วยนาง

แต่นางไม่อยู่ที่นั่น  แต่เป็นที่อื่น

ยังคงไม่มีข่าวสาวยักษ์ลี่เยี่ยนในช่วงนี้  เขายังจำเป็นต้องรอ...

สำหรับการดึงความสนใจของราชาใจสิงห์เขาสามารถรับมือได้ อย่างแย่ก็แค่กลับไปตั้งหลักและพักที่หอทงเทียน เป็นไปไม่ได้ที่สาวงามทรงเสน่ห์จะใช้ตนเองเป็นหัวหอกทะลวงฟัน

“มาดูกันเถอะว่ามีของอะไรดีๆสำหรับประมูลราคาได้บ้าง!” เย่ว์หยางยังสงบได้ทำให้หัวกลมเปากู่ชื่นชมเขามาก

“น้องชาย! มันคุ้มค่ามากที่ดั้นด้นเดินทางมาจากแดนสวรรค์ตะวันตก  กำลังใจของเขายอดเยี่ยมมาก ข้ากล้าพูดเลยว่าคนที่ยังสนใจการซื้อและการขายในเมืองลมดำตอนนี้คงมีแต่เจ้า” หัวกลมเปากู่บอกว่าเมืองลมดำเข้าสู่สภาวะใกล้สงครามแล้วและมีการเตือนตลาดมืดจะปิดต่อไปอีกสิบวัน และหลังจากสงครามจบ ฆาตกรถูกจับ ข้อพิพาทฝ่ายต่างๆถูกยกเลิก ตลาดมืดคงกลับมาเปิดต่อ

“แล้วการประมูลประจำปีเล่าจะเป็นยังไง?”  เย่ว์หยางถามเรื่องการประมูลที่สำคัญที่สุด

“ถ้าเรื่องราวจบได้ก่อนหน้านั้นก็จะไม่กระทบกระเทือนการประมูลใหญ่ประจำปี  ถ้าเราไม่สามารถจัดประมูลใหญ่ได้อาจจะจัดกันที่ป้อมเสียงหวีดเมืองจันทรา” หัวกลมเปากู่ยังรู้สึกเสียดายเล็กน้อย “ป้อมเสียงหวีดและเมืองจันทราพวกพ่อค้าและประชาชนที่นั่นไม่ชอบคนต่างถิ่นเอามากคนเดินทางอย่างเราที่ท่องเที่ยวเข้าไปคงจะถูกพวกเขาดูถูกว่า ‘กลับประเทศเจ้าไป เจ้าคนแปลกหน้า’ พวกเขาจะพูดอย่างนั้นแน่นอน  ถ้าเราอยู่ในช่วงมีการประมูลใหญ่  เราคงไม่สามารถหาที่นั่งได้  อย่าว่าแต่หาสินค้าดีๆ เลย!”

“เป็นไปได้หรือนั่น?”  เย่ว์หยางตกใจ

“เฮ้อ, ป้อมเสียงหวีดก็คือป้อมอันดับหนึ่งของแคว้นมรกต และเมืองจันทราก็คือเมืองที่มั่งคั่งที่สุดของแคว้นมรกต  ในสายตาของประชาที่นั่น  เราไม่มีอะไรมากไปกว่ายาจก”  ถ้าพวกเขาไปที่นั่นทหารประจำเมืองจะมีเหตุผลเป็นร้อยในการไล่จับคนนอกที่เข้าเมือง และสิทธิ์ที่น่าอายของคนนอกจะมีพบได้ทุกที่  ในหลายที่ในเมืองจันทรากฎหมายระบุว่าคนภายนอกและคนอ่อนแอไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกเมืองหัวกลมเปากู่ไม่ต้องการให้การประมูลประจำปีต้องเปลี่ยนไปจัดที่ป้อมเสียงหวีดหรือเมืองจันทรา

เมืองลมดำอาจไม่ใช่ที่ดีเพื่ออยู่อาศัย  แต่ก็ยังมีเสรีภาพดีกว่า

มีภาษีมากกว่าแต่ก็ยังมีวิธีดำรงชีวิตที่นี่

ในเมืองจันทราที่ร่ำรวยและหรูหราพ่อค้าเร่อย่างหัวกลมเปากู่ไม่สามารถซื้อได้แม้กระทั่งบ้านหลังเล็กที่สุด  เขาไม่สามารถหางานได้

“...”เย่ว์หยางฟังหัวกลมเปากู่แนะนำแล้วถึงกับพูดไม่ออก

แน่นอนว่าการเลือกปฏิบัติมีอยู่ในทั่วทุกภูมิภาค

ครั้งหนึ่งโลกที่เขาเคยอยู่ก่อนนั้นก็มีสภาพอย่างนี้ ใครจะคิดกันว่าแคว้นมรกตแห่งแดนสวรรค์ก็มีสภาพอย่างนั้น

แม้ว่าตลาดมืดจะไม่เปิดแต่ภายใต้การแนะนำของหัวกลมเปากู่ เย่ว์หยางก็ยังหาซื้อวัตถุดิบได้มาก  สำหรับครั้งแรกเย่ว์หยางมีความรู้สึกถึงบุรุษที่พูดพล่ามนี้มีลักษณะที่น่าเกลียดและปากมากใช้ชีวิตบังคับผู้คน ในแดนสวรรค์ ไม่มีพลังและไม่มีเงินทุกก็ดำรงชีวิตลำบาก  คนอย่างหัวกลมเปากู่ทำอะไรได้หลายอย่างเพราะชีวิตจริงเป็นเช่นนี้  ถ้ามีหนทางชีวิตที่ดีกว่า  ใครต้องการใช้ชีวิตแบบนี้กันเล่า?

ภายใต้การนำของหัวกลมเปากู่ เย่ว์หยางไปที่หอการค้าขนาดใหญ่ชื่อชิโดในเมืองลมดำและได้รู้จักรองประธานที่นั่น

เขาใช้เงินไปมากกว่าสามแสน  แต่ซื้อผลมังกรเปลือกแข็งอายุสามพันปีที่เย่ว์หยางต้องการ

หลังจากตกลงกันเสร็จสิ้นแล้ว  เย่ว์หยางติดสินบนให้ให้รองประธานจนพอใจ

มีข้อตกลงในการให้ความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง

“วันนี้ต้องขอบคุณพี่เปาจริงๆมิฉะนั้นการทำสัญญาตกลงนี้คงใช้ไม่ได้” เย่ว์หยางยกยอเปากู่และตบรางวัลให้เขาด้วยทองหมื่นเหรียญทองนี่คือจำนวนเงินที่ทำให้หัวกลมเปากู่ต้องตะลึง แน่นอนเขาได้รับรางวัลต่อเนื่องแต่ไม่เคยนึกฝันเลยว่าเขาจะได้มากมายขนาดนั้น

“น้องเรา นี่เข้าใจผิดหรือเปล่า?”เปากู่ถูมือด้วยความวิตกกังวล เขาสังเกตว่าเย่ว์หยางโอนเงินให้หมื่นเหรียญทองความจริงรางวัลหนึ่งพันเหรียญทองก็นับว่าสูงสุดเท่าที่เขาประเมินในใจแล้วตลอดทั้งกระบวนการ เขาไม่ได้สร้างผลงานมากนัก นอกจากนี้ รองประธานสมาคมการค้ายังโลภไม่รู้จักพอ และเมื่อเห็นอีกฝ่ายใช้จ่ายมือเติบเขาขูดราคาเต็มที่ถึงสามแสน...

เปากู่รู้สึกเสียดายมากเพราะจวินอู๋เย่นี้มาจากแดนสวรรค์ตะวันตก  เขารู้สึกว่าจวินอู๋เย่ผู้สูญเสียโอกาสทำธุรกรรมนี้อาจให้รางวัลเขาเพียงร้อยเหรียญทอง

เขาต้องการปฏิเสธการประเมินสูงสุดของเขา  พันเหรียญทองว่ามากแล้ว ยังมีมากกว่านั้นหรือ?เป็นไปไม่ได้

เขายังเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เพียงสิบเหรียญทอง

แม้ว่าจวินอู๋เย่นี้จะรวย  เขาก็คงไม่ให้เงินเขามากนักไม่ใช่หรือ?  เข้าต้องเข้าใจผิดเป็นแน่! เขามองดูจำนวนเงินด้วยความกระตือรือร้น ถ้านี่เป็นความจริงจะเป็นเรื่องดีแค่ไหน?  อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยได้ยินว่าจะมีรางวัลหมื่นเหรียญทองจริงๆที่สำคัญที่สุดเขาไม่ได้มีส่วนร่วมมากนัก

เปากู่เกลียดตัวเองมาก  เขาทำอย่างนี้ได้ยังไง?  จวินอู๋เย่เชื่อถือเขามาก และปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพ  แต่ตอนนี้เขากำลังดูเขาติดสินบนสามแสน

อีกฝ่ายหนึ่งปฏิบัติต่อเขาฉันท์มิตร  ขณะที่ตัวเขาเอง..

เย่ว์หยางมองหัวกลมเปากู่และยิ้มเล็กน้อย  “นี่คือสิ่งท่านสมควรได้รับ, พี่เปาความจริงผลมังกรเปลือกแข็งคือสิ่งสำคัญกับข้ามาก นอกจากนี้ข้อมูลที่ท่านบอกข้าเมื่อสองสามวันก่อนก็มีค่ามาก  ท่านกลายเป็นสหายจากการเติมเต็มความรู้ที่ขาด และจากนั้นยังแนะนำให้ข้าเข้าวงการธุรกิจและหาซื้อสินค้าตามที่ข้าร้องขอ  เงินนี้เป็นรางวัลที่ท่านควรได้รับ พี่เปา!  นี่ยังไม่ใช่ที่สุดนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น ในอนาคตท่านแนะนำข้าได้ของสำเร็จ  ก็จะได้ค่าแนะนำไม่น้อยไปกว่านี้แน่!”

“เพราะท่านปฏิบัติต่อข้าเหมือนสหาย  และยิ่งกว่านั้น ข้าไม่อาจรับได้”  หัวกลมเปากู่พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล  เขาคืนบัตรมูลค่าเงินให้เย่ว์หยางอย่างยากลำบาก“ไม่, ข้าไม่อาจรับเงินนี้ไว้ได้”

“พี่เปา, ข้ายังต้องการของอีกมากผลมังกรเปลือกแข็งเป็นแค่ส่วนเริ่มต้น ถ้าท่านไม่ช่วยข้า ใครในเมืองลมดำจะช่วยข้าได้?หรือว่าพี่เปากู่คิดว่าข้ายังใจกว้างไม่พอ?” ขณะที่เย่ว์หยางพูดเช่นนี้ หัวกลมเปากู่รีบโบกมือส่ายศีรษะ “ไม่ ไม่ ไม่น้องจวิน นั่นเป็นการเข้าใจผิด เจ้าเข้าใจข้าผิดและข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น.. ข้าไม่เป็นไรข้าจะรับส่วนแบ่งนายหน้าของเจ้าก็ได้ อย่างไรก็ตาม ในอนาคต ข้าจะทุ่มเททำธุรกรรมให้เจ้าทั้งหมดเจ้าทำกับข้าเหมือนสหาย ข้า เปากู่ไม่ยอมเสียคนแน่  ข้าจะรวบรวมของที่เจ้าต้องการให้ได้แน่นอน..”

ในที่สุดคำพูดและเสียงของเขาสั่นเล็กน้อย

สหายในเมืองลมดำใครจะคิดกันว่าพ่อค้าเร่อย่างเขาจะมีเพื่อนได้? ใครจะสนข้อมูลของเขา?  ใครจะสนเรื่องคำแนะนำของเขา?

สหายน้อยจากแดนสวรรค์ตะวันตกผู้นี้ไม่ใช่คนไร้เดียงสา เขาแค่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแดนสวรรค์ใต้และเขาไม่สามารถต่อต้านคนอื่นได้ สิ่งที่เขาเล่าให้ฟังก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโอ้อวดทั้งนั้นไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด เขาแค่ต้องการฉวยประโยชน์ ขอกิน และอวดความรู้

อย่างไรก็ตามเขาไม่คาดเลยว่าอีกฝ่ายจะมีความจริงใจต่อเขามากเหมือนกับเป็นสหาย

ถ้าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับเขา  เขาอาจจะหัวเราะเยาะเย่ว์หยางว่าเป็นคนโง่แล้ว

เขาจะมีสหายในแดนสวรรค์ได้ยังไง?

อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดขึ้นกับเขา  เขาอดรู้สึกว่าอธิบายไม่ถูก ความรู้สึกซาบซึ้ง  สำหรับสหายที่ให้คุณค่าเขาสูงยิ่ง  เขาเป็นบุรุษหนุ่มที่ยังไม่มีกระทั่งพลังปราณดิน  ความรู้สึกแบบนั้นช่างดีจริง   ดีกว่าการเคารพอีกฝ่ายหนึ่งและฝ่ายหนึ่งไม่ยอมแม้แต่จะมองเขาเป็นร้อยเท่า อย่างไรก็ตาม เจ้าคนอ่อนแอนี้ทำเหมือนกับเขาเป็นสหาย  เชื่อถือเขาโดยไม่ลังเลเลย!

การ์ดเงินในมือของเขาหนักอึ้ง

เขาจับเอาไว้แน่น

ตอนนี้เขารู้สึกว่านี่ไม่ใช่แค่เงินเท่านั้น แต่ยังคงเป็นสมบัติชนิดหนึ่งที่ไม่มีอะไรอื่นแทนได้ มิตรภาพ!

ก่อนหน้านั้นเขาไม่ค่อยเชื่อมิตรภาพที่เขามักจะเยาะเย้ยเสมอ  แต่เวลานี้ไม่มีความคิดเช่นนั้นในใจต่อไปอีกแล้วมีแต่ความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก

ตอนค่ำเย่ว์หยางสั่งให้บริกรเสริฟอาหารเย็น

เขาเป็นเหมือนสิงโตคลั่งที่วิ่งชนทุกอย่างที่อยู่บนพื้น เขามาอยู่ข้างหน้าเย่ว์หยางและพูดคำรามอย่างจริงใจแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน  “อู๋เย่, ฟังให้ดี ต่อไปในอนาคตอย่าเชื่อใครอีก ในเมืองลมดำแห่งนี้ ในแคว้นมรกต  ไม่สิ  ในทั่วทั้งแดนสวรรค์เจ้าต้องหลีกเลี่ยงเรื่องแบบนี้ เจ้าไม่สามารถเชื่อใจใครได้ และเจ้าไม่อาจแสดงเงินให้ใครเห็นได้ เข้าใจไหม?  ถ้าเจ้ามีผลึกเทเลพอร์ตหรือมีหนทางที่จะจากไปได้ อย่างนั้นเจ้าจงไปจากที่แห่งนี้ให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้  เมืองลมดำคือสถานที่หากินจะไม่มีทางกลับมาอย่างเดิมอีกในอนาคต ถ้าเจ้าถือว่าข้าเป็นสหาย  เจ้าต้องจำไว้ว่าอย่าเชื่อคนแปลกหน้า!”

“เกิดอะไรขึ้น?”  เย่ว์หยางคาดเดา

“ง่ายมาก”รองประธานหอการค้าเหาะมาจากแต่ไกล เขาปั้นรอยยิ้มเต็มหน้าขณะกล่าว “ก่อนที่เจ้าจะตายข้าจะอธิบายให้เจ้าฟัง”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด