ตอนที่แล้วตอนที่ 19-38 ดินหนึ่งนิ้วฟ้าหนึ่งฟุต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 19-40 เจตจำนง (ปณิธาน)

ตอนที่ 19-39 บลูไฟร์


“ท่านเลย์ลิน?” แม้ว่าลินลี่ย์จะแปลกใจและดีใจ แต่เขาก็ยังสงสัยเช่นกัน  ในอดีตบลูไฟร์ให้คำแนะนำบางอย่างกับเขาและเขามองบลูไฟร์ว่าทรงพลังมาก นั่นเป็นเพราะเมื่อลินลี่ย์อายุยังน้อยเขาอ่อนแอมาก “ข้าเหนือกว่าบรรดาผู้บัญชาการทั่วไปแล้วในตอนนี้! ผู้บัญชาการธรรมดาไม่สามารถทำอะไรข้าได้ แต่พลังโจมตีจากท่านเลย์ลินนั้น? นี่เขามีระดับพลังเพียงใดกันแน่?”

ลินลี่ย์ไม่รู้ว่าการโจมตีนั่นเป็นพลังโจมตีปกติหรือว่าเป็นพลังโจมตีเต็มกำลังจากบลูไฟร์กันแน่!

“ลินลี่ย์ บีบีไม่ได้พบกันนานเลยนะ” บลูไฟร์ยิ้มขณะเดินเข้ามาหา

“ฮ่าฮ่า”  แฮมเมอร์ที่อยู่ใกล้ๆหัวเราะลั่นอย่างสบายอารมณ์  เสียงหัวเราะของเขากึกก้องเหมือนฟ้าร้อง  และเขาจ้องมองบลูไฟร์ด้วยดวงตาสีทองร้อนแรง ประกายแสงสีทองมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าฉายออกมาจากดวงตาของแฮมเมอร์  “ยอดฝีมืออะไรกันนี่!  ในสมรภูมิมหาพิภพเมื่อทุกคนเห็นข้าแฮมเมอร์ พวกเขาจะหลีกเลี่ยงและหลบซ่อนกันตั้งแต่ไกล  ยากนักที่ข้าจะได้พบเจอยอดฝีมืออย่างเจ้า  สู้กับเจ้าเด็กเผ่ามังกรฟ้าไม่สนุกเลย  ข้ารู้สึกเหมือนกับโดนมัดมือมัดเท้า  มันไม่สาสมใจ!  พลังของเจ้าดูเหมือนจะร้ายกาจไม่เบา  มาเลย มาทดสอบกันหน่อย!”

ลินลี่ย์และบีบีตะลึง

“แฮมเมอร์บ้าไปแล้วหรือ?” ลินลี่ย์กระพริบตาปริบๆ

เขาไม่รู้ว่าแฮมเมอร์เป็นคนที่ตรงไปตรงมาและชอบต่อสู้ยิ่งนัก

ทันทีที่แฮมเมอร์พูดจบ เขาเคลื่อนไหวทันที! ขาที่แข็งเหมือนเหล็กของเขาเปล่งประกายสีทองกระแทกย่ำกับพื้น  “ปัง!”  พื้นแยกยาวเป็นรอยแยกหลายร้อยเมตร  แฮมเมอร์กลายสภาพเป็นแสงสีทองบุกเข้าหาบลูไฟร์!

“คนหยาบคาย”  บลูไฟล์เลิกคิ้วสีแดงเข้มและพูดพลางหัวเราะเบาๆ

ชุดของเขาขาวราวกับหิมะ บลูไฟร์ยืนนิ่งกับที่ ไม่หลบแม้แต่น้อย

“ปัง!”  ขาขวาของแฮมเมอร์เปล่งประกายสีทองเตะใส่บลูไฟร์ราวกับดาวตก  แรงเตะนี้ทำให้พื้นโลกสั่นสะเทือนมิติบิดเบี้ยวและรอยแยกมิตินับสิบปรากฏขึ้น

“พลังเตะที่น่ากลัวนัก”  หน้าของลินลี่ย์เปลี่ยนไป

“พี่ใหญ่!เมื่อครู่นี้ตอนที่เขาสู้กับท่าน เขาไม่ได้ใช้พลังนี้”  บีบีกล่าว

ลินลี่ย์รู้เรื่องนี้เช่นกัน เขาอาศัยแรงบีบอัดจากสนามพลังโน้มถ่วงทำให้แฮมเมอร์ไม่สามารถใช้พลังได้เต็มที่ มิฉะนั้นด้วยพลังที่เป็นพรสวรรค์ของแฮมเมอร์ ลินลี่ย์ยังจะผลัดกันโจมตีกับเขาหลายครั้งได้ยังไง?  “บีบี, ดูให้ดีและมองวิธีที่ท่านเลย์ลินรับพลังโจมตี”  ลินลี่ย์จ้องมองการต่อสู้ไม่กล้าปล่อยให้คลาดตาแม้แต่น้อย

บีบีจ้องมองดูเช่นกัน

“ไม่เลว” บลูไฟร์ยังยืนอยู่กับที่  แต่แปลกมากที่เงาขาสีทองยังคงโจมตีใส่ร่างของบลูไฟร์

ร่างของบลูไฟร์หายไป และปรากฏห่างออกไปอีกสามเมตร

“เทเลพอร์ต?” หน้าของลินลี่ย์เปลี่ยน “ไม่...ความเร็ว!  ความเร็วเทียบได้กับไบเออร์!  สำหรับเขาที่กล้าหลบในสช่วงที่พลังเตะของแฮมเมอร์กำลังจะถูกร่าง  ความเร็วของเขาเหลือเชื่อ...” นี่เป็นครั้งที่สองที่ลินลี่ย์ได้เห็นความเร็วที่น่ากลัวอย่างนั้น

แฮมเมอร์เตะพลาด แต่เขาตวาดลั่น  “ดี!”  ขณะเดียวกันแฮมเมอร์บิดตัวเตะทันที!

เขาหมุนตัวราวกับพายุหมุน และขาที่มีประกายสีทองเริ่มหมุนเตะเช่นกัน โดยแทบไม่มีการหยุด เขาเตะใส่บลูไฟร์ที่ยังยืนยิ้มอย่างใจเย็นโดยไม่มีความกลัวปรากฏอยู่ในสีหน้าอย่างต่อเนื่อง

“ควั่บ!”  “ควั่บ!”

ในสายตาของลินลี่ย์ บีบีและแฮมเมอร์ ร่างของบลูไฟร์คล้ายกับจะเทเลพอร์ตสร้างเป็นเงาภาพตามหลังจากนั้นปรากฏห่างออกไปเป็นร้อยเมตรยืนนิ่งอยู่กับที่

“พี่ใหญ่, บลูไฟร์นี่..ใช้ความเร็วแบบไหนกัน?  เขาใช้เคล็ดความรู้ลึกลับแบบไหน?”  บีบีไม่เข้าใจ

ลินลี่ย์ฝึกฝนในกฎธาตุไฟ ดังนั้นเขาพอจะรู้บ้าง “ไฟแตกต่างจากลม ร่างของไบเออร์จะเปลี่ยนสภาพเป็นคล่องแคล่วกลายเป็นภาพมายา  แม้ว่าความเร็วของเขาจะเร็วมาก แต่เขาก็ยังเป็นเหมือนกับสายลมที่ไร้รูปไร้ลักษณ์  ท่านเลย์ลินจะมีความแตกต่าง ดูสิเขาก็เป็นเหมือนกับไฟ เปลวไฟระเบิดอย่างรุนแรงพร้อมกับพลังงาน!  ไม่มีภาพลวงตาสำหรับความเร็วของบลูไฟร์  เขาระเบิดพลัง! ความเร็วของเขาเป็นการระเบิดพลังจนถึงขีดจำกัดอย่างกะทันหันทำให้แม้แต่เจ้าและข้ารู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังเทเลพอร์ต”

ลินลี่ย์อดถอนหายใจทึ่งมิได้

เพราะคนผู้มีความเร็วจนถึงระดับนั้น...เฉพาะเรื่องนี้ก็ทำให้บลูไฟร์กลายเป็นผู้บัญชาการชั้นสูงได้

“เกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากันแน่?”  แฮมเมอร์ตะโกนลั่นด้วยความโมโห  “เจ้าเอาแต่หลบอย่างเดียว!  นี่ไม่สนุกเลยแม้แต่น้อย  ข้าแฮมเมอร์อุตส่าห์ประทับใจเจ้าแท้ๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ข้าต้องการสู้กับเจ้า ถ้าเจ้ามีความสามารถก็สู้ตอบโต้ข้าแฮมเมอร์โดยตรง!”  แฮมเมอร์ตะโกนอยู่ฝ่ายเดียวอย่างไม่พอใจ  เห็นได้ชัดว่าเขารู้ว่าความเร็วของตัวเองยังด้อยกว่าคนผู้นี้ห่างไกล

ความจริงแฮมเมอร์โกรธมาก พลังโจมตีของเขาทรงพลังมาก และพลังป้องกันของเขาก็ทรงพลังมาก น่าเสียดาย เขาช้าเกินไปและเขาไม่ถนัดในการสู้ระยะห่าง

ดังนั้นเมื่อยอดฝีมือหลายคนเผชิญหน้ากับแฮมเมอร์  พวกเขาจะหนีไปทันที นี่เป็นเรื่องเดียวกับสองคนแรกที่เขาเคยเจอ  ยังคงเป็นอย่างเดียวกันในอีกสองสามร้อยปีถัดมาที่เขาเจออีก   เรื่องนี้ทำให้แฮมเมอร์เกลียดคนที่เอาแต่อาศัยความเร็วหลบหนี”

“เจ้าเป็นคนตลกจริงๆ” บลูไฟร์ยังคงยิ้มเต็มหน้า

“ตลกบ้าบออะไรกัน!  แฮมเมอร์เงยหน้าตะโกน ”เจ้าเตี้ย,ถ้าเจ้ามีความสามารถก็มาสู้กับข้าแฮมเมอร์โดยตรง!”  ขณะที่เขาพูดแฮมเมอร์ปล่อยหมัดขนาดเท่ากับกระสอบทรายใส่อีกฝ่ายอย่างดุดัน  มีเสียงดัง ‘ปัง’   เหมือนกับว่าภูเขาถล่มทลาย  แรงปะทะที่น่ากลัวทำให้เกิดรอยแยกมิติปรากฏระหว่างหมัดของเขา

“เจ้าคนตัวเตี้ย  เจ้ากล้าหรือเปล่า?”  แฮมเมอร์เงยหน้าด้วยความภูมิใจ

ส่วนสูงของบลูไฟร์ถือว่าธรรมดา  แต่เนื่องจากแฮมเมอร์สูงถึงสามเมตรจึงนับว่าไม่ยุติธรรมนักที่เขาเรียกบลูไฟร์ว่าเจ้าเตี้ย

“ฮ่าฮ่า...”

บลูไฟร์อดเริ่มหัวเราะไม่ได้  “ข้าเองอยู่ในสมรภูมิมหาพิภพมานานแล้ว  แต่ข้ายังไม่ได้สู้เลยแม้แต่ครั้งเดียว  ก็ได้ อย่างนั้นวันนี้ ข้าจะยืดแข้งยืดขาสักเล็กน้อย...มาเลย!”  หลังจากบลูไฟร์พูดจบ มีเสียง ‘ปัง’ ดังขึ้น รอบตัวบลูไฟร์เริ่มมีเปลวไฟม้วนตัวเป็นเกลียว ดวงตาภายใต้คิ้วสีแดงเข้มฉายประกายแสงสีส้มร้อนแรง

เขาเป็นเหมือนเทพสงครามที่ร้อนแรง!

“ดี!”  แฮมเมอร์หัวเราะลั่น  และหลังจากพูด เขาบุกเข้าหาบลูไฟร์โลกสั่นสะเทือนจากฝีเท้าในแต่ละก้าวของเขา

ลินลี่ย์และบีบียังคงดูต่อและเพ่งความสนใจกับภาพเหตุการณ์ข้างหน้า “พี่ใหญ่, ใครจะชนะ?  ข้าหมายถึง,ถ้าพวกเขาสู้กันโดยตรง ใครจะชนะ?”  บีบีถามทางใจ  ขณะที่ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ  “ข้าไม่แน่ใจเช่นกัน  ตามรายงานข่าวกรองของปู่ของเจ้า  แฮมเมอร์มีเรี่ยวแรงตามธรรมชาติแข็งแกร่งมาก  และพลังโจมตีของเขาเทียบได้กับเทพพารากอน! ถ้าท่านเลย์ลินเลือกจะสู้กับเขาโดยตรง ก็ยากจะพูดได้”

บลูไฟร์ตลอดทั้งตัวอยู่ในท่ามกลางเปลวไฟมองดูแฮมเมอร์บุกเข้ามาหาอย่างใจเย็น

“อ๊าคคคคค!”

หน้าของเขาดุร้าย แฮมเมอร์คำรามเบาๆ และหมัดขวาของเขาแฝงไปด้วยพลังมากมายและตามด้วยเคล็ดกฎลึกลับธาตุดินกระแทกใส่บลูไฟร์โดยตรง  เสียงครืนดัง มิติเริ่มสั่นสะท้านไปทุกที่ๆหมัดผ่านไป

ในทันใดนั้นหมัดมาถึงต่อหน้าบลูไฟร์

“ดี!” เสียงตะโกนดังขึ้น

บลูไฟร์ยังคงสงบอยู่ตลอดเวลา  เขาเลิกคิ้ว มือขวาของเขาที่ห้อยแนบข้างตัวตลอดพลันยิงแสงออกอย่างรวดเร็ว  ลินลี่ย์และบีบีเพียงแต่รู้สึกแสงสีแดงเพลิงเจิดจ้าบาดตายิงออกไป  แสงนี้ปะทะเข้ากับหมัดของแฮมเมอร์หมัดปะทะหมัดเป็นครั้งแรก!

ไม่ต้องมีเคล็ดลับแต่อย่างใด  เป็นการแข่งปะทะกันโดยตรง!

“แครก!” เมื่อหมัดของพวกเขาตัดกัน มิติพลันแตกเหมือนกับแก้วแตกริ้วมิติที่ขาดนับสิบสายปรากฏให้เห็น

แฮมเมอร์และบลูไฟร์สั่นเล็กน้อยทั้งคู่  แฮมเมอร์ถอยหลังไปสามก้าว  ขณะที่บลูไฟร์ถอยไปก้าวเดียว

“อื๋อ?” ลินลี่ย์และบีบีตะลึงจ้องจนตาแทบถลน

“น่ากลัวจริงๆ บลูไฟร์ไม่ได้ใช้สมบัติมหาเทพหรืออาวุธเทพแม้แต่น้อย” ลินลี่ย์เพ่งดูหมัดข้างหนึ่งบลูไฟร์ที่ขาวนวลราวกับหยกขาว  “แฮมเมอร์เกิดมาจากโลกธาตุดินศักดิ์สิทธิ์เอง เขาเป็นภูเขาทองที่ถูกพิภพศักดิ์สิทธิ์หล่อเลี้ยงมาหลายปีมีความรู้สึกซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมร่างของเขาถึงมีความแข็งแกร่งเหลือเชื่อ  แต่บลูไฟร์...”

ลินลี่ย์ตะลึง

“สุดยอด!  แฮมเมอร์, เจ้าเก่งสมชื่อจริงๆ”  บลูไฟร์หัวเราะอย่างเยือกเย็นและถอนหายใจชื่นชม

แฮมเมอร์ตกตะลึงจ้องบลูไฟร์  จากนั้นมองดูหมัดของตนเอง  เขาไม่กล้าเชื่อ  “เป็นแบบนั้นไปได้ยังไง?  เป็นไปได้ยังไง?  เขาสู้กับข้าโดยตรง  แต่ก็ยังได้เปรียบเล็กน้อยหรือ?”  แฮมเมอร์รู้ดีว่าเมื่อครู่นี้ในทันที่หมัดของเขาปะทะกับหมัดของบุรุษที่อยู่ต่อหน้าเขา  พลังที่แหลมคม เดือดพล่านทะลักใส่เขาโดยตรง

พลังที่แหลมคมเดือดพล่านนั้นเป็นเหมือนกับภูเขาไฟระเบิดมันทะลักเข้ามาโจมตีข้างหน้าอย่างรุนแรง

เมื่ออยู่ต่อหน้าแรงระเบิดแฮมเมอร์รู้สึกว่าหมัดที่ไร้เทียมทานของเขาสั่น..

“เจ้าเป็นใคร?” แฮมเมอร์พูดเสียงทุ้ม

“ข้าน่ะหรือ? เจ้าเรียกข้าว่า..บลูไฟร์ก็ได้!”  บลูไฟร์พูดพลางหัวเราะอย่างเยือกเย็น

แฮมเมอร์หรี่ตาเหมือนตาวัวของเขา จากนั้นพยักหน้าเล็กน้อยและพูดเสียงก้องกังวาน  “ดี, บลูไฟร์ ข้าจะจำเจ้าไว้!  แม้ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อข้าเผชิญกับพารากอนธาตุน้ำบอร์โฮสเมื่อเราต่างประลองหมัดกันและกัน ข้าก็ยังไม่เสียเปรียบ ท่าน...แข็งแกร่งมาก!”  หลังจากพูดเสร็จแฮมเมอร์หันหลังและเดินจากไปทันที

บลูไฟร์หัวเราะเบาๆ ขณะที่เขาเห็นแฮมเมอร์เดินจากไป  เขาอดถอนหายใจชมเชยไม่ได้  “เขาเก่งสมชื่อจริงๆสมแล้วที่ได้รับเลือกให้เป็นทูตมหาเทพทั้งที่ยังเป็นเทียมเทพ”

“ท่านเลย์ลิน” ถึงตอนนี้ลินลี่ย์จึงเดินเข้ามาหา

“ท่านเลย์ลิน, ท่านแข็งแกร่งทรงพลังมากจริงๆ!”  ตาของบีบีเป็นประกาย  และเขารีบวิ่งเข้ามาสมทบ  “ท่านทรงพลังมากขนาดนั้นได้ยังไง?  ขนาดเจ้าโอดินหนึ่งในห้าราชันย์เกบาโดสยังอ่อนแอกว่าท่านมากนักไม่ใช่หรือ?  จริงสิ...พลังของท่านเพิ่มมากขึ้นหลังจากท่านเข้าไปในสุสานเทพเจ้าใช่ไหม?”

ชื่อจริงของบลูไฟร์ก็คือซัคคาเรียส เลย์ลิน  บลูไฟร์เป็นเพียงฉายา  ฉายาของเขาใช้สำหรับบอกคนภายนอกให้ทราบ  แต่แน่นอนคนที่เขารู้จักจึงจะเรียกชื่อของเขา

“สุสานเทพเจ้า?” บลูไฟร์หัวเราะเบาๆ “นั่นมีความเกี่ยวข้องบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ใช่เพราะสถานที่นั้นทั้งหมด”

และจากนั้นบลูไฟร์หันมามองลินลี่ย์และหัวเราะ  “ลินลี่ย์, ไม่ได้พบกันนาน ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะหลอมรวมสี่เคล็ดลึกลับของกฎธาตุดินได้แล้ว  เมื่อตอนที่ข้าพบเจ้าครั้งแรกข้าเองก็ประทับใจแล้วที่เจ้ามีความรู้ความสามารถที่ยอดเยี่ยม...แต่ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าแค่เวลาสองพันปี  เจ้าจะมาถึงระดับนี้ได้และยังยืนอยู่ในระดับสุดยอดของเทพชั้นสูงอีกด้วย”

แน่นอนว่าบรรดาผู้บัญชาการทั้งหมดนับได้ว่าเป็นสุดยอดของเทพชั้นสูง

แต่ความจริงมีเพียงเทพชั้นสูงพารากอนเท่านั้นที่ถือว่าเป็นสุดยอดจริงๆ

“ถ้าไม่ได้คำแนะนำของท่านจากในอดีต  ท่านเลย์ลิน บางทีข้าคงฝึกได้ไม่เร็วขนาดนี้แน่”  ลินลี่ย์พูดถ่อมตัว

“ความจริง, เป็นเวลานานมากแล้วตั้งแต่เราได้พบกัน  มาเถอะ มานั่งดื่มคุยกัน”  เลย์ลินพูดและหัวเราะเบาๆ

ลินลี่ย์ไม่ปฏิเสธแน่นอน ยังเหลืออีกสามร้อยปีก่อนสงครามมหาพิภพจะต้องได้ผลสรุป  เขายังมีเวลาพอ  และเขามีความสุขที่ได้พบเจอบลูไฟร์ ขณะเดียวกันลินลี่ย์ค่อนข้างตะลึงกับพลังของบลูไฟร์ทั้งประหลาดใจเช่นกัน  “เขาสามารถสู้กับแฮมเมอร์ได้โดยตรงด้วยมือเปล่าและยังได้เปรียบเล็กน้อยอีกหรือ? เป็นไปได้ว่า...บลูไฟร์คงถึงระดับพารากอน?”

ลินลี่ย์รู้ว่าพารากอนเป็นกันได้ยากเย็นเพียงใด!

มีพิภพโลกธาตุมากมาย แต่ในช่วงเวลาหลายปีจำนวนของเทพพารากอนหรือพูดให้ถูกจำนวนคนที่ถูกสงสัยว่าเป็นเทพชั้นสูงพารากอนมีไม่ถึงสามสิบ “เป็นไปได้ไหมว่าพิภพยูลานของเราก็มีพารากอนอยู่หนึ่งคนเช่นกัน?”  ลินลี่ย์รู้สึกดีใจ

บลูไฟร์ใช้หมัดสร้างถ้ำแห่งหนึ่ง และจากนั้นดึงโต๊ะเหล้าและอาหารออกมาจากแหวนเก็บสมบัติ เหล้าอาหารถูกแช่เย็นไว้ทั้งหมดแต่แน่นอนว่าบลูไฟร์ละลายน้ำแข็งออกไปอย่างรวดเร็ว  ลินลี่ย์บีบีและบลูไฟร์นั่งลงและกินดื่มพูดคุยตามปกติ

“ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าท่านจะมาเช่นกัน ท่านเลย์ลิน”  บีบีคว้าเนื้อมังกรปีศาจและกินอย่างเอร็ดอร่อย “ข้าคิดว่าท่านจะต้องฆ่าผู้บัญชาการได้มากมายหลายคนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาในสมรภูมิมหาพิภพ  ท่านเลย์ลินฆ่าได้เท่าใดแล้ว?”

บลูไฟร์ถือแก้วเหล้า เขาแค่จิบอึกหนึ่งเท่านั้นและเริ่มหัวเราะส่ายศีรษะ  “ยังฆ่าไม่ได้สักคน”

“อะไรนะ? ไม่ได้ฆ่าสักคน?”  บีบีจ้องมอง  “ท่านเลย์ลิน, ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งความเร็วที่ท่านแสดงออกมาและพลังโจมตีที่น่ากลัวนั้นเทียบกับแฮมเมอร์แล้ว...แค่สองอย่างนี้ก็ทำให้ท่านฆ่าผู้บัญชาการได้หลายคนแล้ว! เมื่อผู้บัญชาการมาพบกับท่าน พวกเขาจะไม่สามารถหนีได้”

ด้วยความเร็วของบลูไฟร์ ใครจะหลบหนีเขาได้พ้น?

“ข้าจะต้องฆ่าคนแค่เพราะข้าเข้ามาในสมรภูมิมหาพิภพด้วยหรือ?”  บลูไฟร์ส่ายศีรษะและหัวเราะ  “ข้ามาที่นี่เพราะเหตุผลสองอย่าง  ประการแรก ข้าไม่เคยเข้าร่วมสงครามมหาพิภพและต้องการมาชมดู  ขณะที่ประการที่สอง...เจ้าไม่จำเป็นต้องถาม”

บีบีรู้ว่าบลูไฟร์ไม่ต้องการพูด จึงไม่ถามอีกต่อไป

ลินลี่ย์ไม่สามารถข่มความสงสัยได้ จึงถามขึ้นบ้าง  “ท่านบลูไฟร์, ตอนนี้ทั้งความเร็วของท่าน..เท่าที่ข้าบอกได้มีแต่เทพพารากอนอย่างไบเออร์จึงจะเทียบกับท่านได้ และพลังโจมตีของท่านก็เทียบได้กับแฮมเมอร์ ข้าอยากถามท่านเลย์ลิน ท่าน..ถึงระดับพารากอนในการหลอมรวมกฎลึกลับได้แล้วใช่ไหม?”

บลูไฟร์ตกใจ

“ถ้าท่านไม่อยากบอก ก็ไม่เป็นไร”  ลินลี่ย์รีบกล่าว ลินลี่ย์รู้เช่นกันว่าเทพพารากอนหลายคนซ่อนพลังของพวกเขาไว้และไม่แสดงต่อสาธารณชน  นี่คือเหตุผลที่หลายคนเพียงแต่ถูกสงสัยว่าจะเป็นเทพพารากอน

“ไม่จำเป็นที่ข้าจะต้องเก็บเป็นความลับจากเจ้า”  บลูไฟร์พยักหน้าเล็กน้อย  “ความจริงข้าเข้าถึงระดับพารากอนตั้งแต่เมื่อพันปีที่แล้ว”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด