ตอนที่แล้วบทที่ 53 บททดสอบที่สาม: พระราชวังบนท้องฟ้า!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 55 ข้าปฏิเสธที่จะยอมรับสิ่งนี้!

บทที่ 54 ปีนบันไดเมฆา ก้าวสู่เส้นทางอมตะ!


【การทดสอบเริ่มต้นได้!】

ถ้อยคำบนอากาศมลายหายไปและทุกคนก็ขยับตัวได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเริ่มเคลื่อนไหว

ใครจะรู้ว่าข้างหน้ามีกับดักอะไรรออยู่ หรือการโจมตีจากด้านหลังล่ะ?

ทุกคนต่างระแวงและไม่มีใครกล้าก้าวออกมาเป็นคนแรก

“ขี้ขลาดเสียจริง” เยว่เจียนหลี่ตะคอกอย่างเย็นชา นางเป็นผู้นำก้าวขึ้นไปเป็นคนแรก

ฝูงชนหน้าแดงด้วยความอับอาย

เมื่อพวกเขาเห็นว่ามีคนเริ่มต้นแล้ว พวกเขาจึงปฏิบัติตาม

หลี่หรานเป็นคนสุดท้าย

ทันทีที่เขาก้าวขึ้นบันได เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ความกดดันถาโถมเข้ามา ยิ่งขึ้นไปสูงเท่าไหร่แรงกดดันก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ทำให้เขาไม่สามารถก้าวไปด้วยความเร็วสูงสุดได้

“เป็นเช่นนี้เองสินะ” หลี่หรานมองไปที่พระราชวังลอยฟ้า

‘มันมีมากกว่าพันก้าว แรงกดดันจะน่าสะพรึงกลัวมากแค่ไหนในตอนท้าย?’

“ช่างเถอะ” หลี่หรานเอามือไพล่หลังและเดินทีละก้าว ราวกับว่าเขากำลังเดินทางไกล

ตอนนี้ทุกอย่างไร้ประโยชน์ เขาเข้าใจว่ามีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่จะไปถึงจุดสูงสุดได้

อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆกลับไม่คิดเช่นนั้น

ทีละคนๆ พวกเขาระเบิดพลังปราณออกมาและปีนขึ้นไปภายใต้แรงกดดัน ไม่มีพวกเขาคนใดต้องการถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

บูม!

เสียงระเบิดทะลวงแก้วหูดังขึ้นพร้อมกับเสียงกรีดร้อง!

“ซ่งชิงซง เจ้าเป็นผู้บ่มเพาะในเส้นทางอันชอบธรรม เจ้ากล้าที่จะลอบโจมตี!”

ซ่งชิงซงเยาะเย้ย “เจ้าเคลื่อนไหวช้าเกินไป กลับบ้านไปพักผ่อนเสียดีกว่า!”

จากนั้นเขาก็ส่งอีกฝ่ายลงจากบันได สถานที่นี้ถูกปิดตายไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถบินขึ้นมาได้ คนผู้นั้นทำได้เพียงคำรามและร่วงลงไป

จากนั้นเขาถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีขาวและเคลื่อนย้ายออกจากอาณาจักรลับ เมื่อฝูงชนเห็นสิ่งนี้ก็ตัวสั่นทันที

“ซ่งชิงซง ในฐานะเส้นทางอันชอบธรรม เจ้ากล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร?!”

“เราเรียกเจ้าว่าพี่ซ่งเพราะเราเคารพเจ้า ไม่คิดว่าเจ้าจะทำตัวต่ำทรามเช่นนี้!”

“เจ้าเป็นตัวน่าอับอายของพระราชวังเต๋าสูงสุดอย่างแท้จริง!”

“ไม่กลัวว่าเราจะเปิดโปงการกระทำของเจ้าหรือไง?”

อัจฉริยะทั้งหมดยืนอยู่บนที่สูงขณะที่พวกเขาสาปส่งซ่งชิงซง

ซ่งชิงซงตะคอก “หยุดเสแสร้งได้แล้ว! ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกเจ้าจะไม่ทำแบบเดียวกัน!”

“ถ้าไม่อยากถูกคัดออก เจ้าก็ต้องจัดการผู้อื่นเสียก่อน!”

“นอกจากนี้ เจ้าจะไม่ตายแม้ว่าเจ้าจะตกลงไป เจ้าแค่เพียงถูกส่งออกจากอาณาจักรลับ เลิกเสแสร้งเป็นคนดีได้แล้ว” หลังจากพูดส่วนของเขาแล้ว ซ่งชิงซงก็ปีนขึ้นไปต่อ

ทุกคนมองหน้ากันด้วยความตกใจ

“สิ่งที่เขาพูด... มีเหตุผล”

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง...

บูม บูม บูม!

ทักษะการต่อสู้ทั้งหมดถูกนำมาใช้ เปลวเพลิงเผาไหม้ไปทุกหนแห่ง

“เจ้าคนแซ่หลิว ข้าเคยเห็นเจ้าเป็นพี่ชาย แต่เจ้ากล้าที่จะโจมตีข้า!”

“ใครคิดว่าแน่ก็เข้ามาเลย!”

“บัดซบ ใครขว้างเปลือกกล้วยมาบนพื้นวะ!”

“ข้าจะไปรอเจ้าข้างนอก มันไม่จบแค่นี้แน่!”

เกิดการต่อสู้ขึ้นบนบันไดจนมันส่งเสียงแปลกๆออกมา หลี่หรานส่ายหัวอย่างดูถูกเมื่อเห็นสิ่งนี้

‘นี่คือผู้บ่มเพาะของเส้นทางอันชอบธรรม?’

ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมเหลิงอู่เหยียนถึงเลือกที่จะเป็นปีศาจ...

“ขอทางหน่อย” เสียงของหลี่หรานดังขึ้น เหล่าอัจฉริยะที่กำลังสู้กันก็หยุดนิ่ง

ทุกคนหยุดนิ่งและเปิดทางโดยพร้อมเพรียงกัน หลี่หรานเดินขึ้นไปอย่างช้าๆด้วยมือที่ไพล่หลัง

หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว การต่อสู้ที่ด้านหลังก็ดำเนินต่ออีกครั้ง ขณะที่ผู้คนต่างระดมโจมตีใส่กันด้วยความสามารถของพวกเขา

พวกเขารู้ดีว่ามีผู้ชนะได้เพียงสามคนในการทดสอบนี้

พวกเขารู้ว่าผู้ชนะสองคนแรกคือหลี่หรานและเยว่เจียนหลี่อย่างไม่ต้องสงสัย

สิ่งที่พวกเขาต้องการคือตำแหน่งสุดท้าย ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าแตะต้องหลี่หราน

หลี่หรานเดินขึ้นไปทีละขั้นอย่างเงียบๆ และไม่นานนัก เขาก็ได้พบกับซ่งชิงซงที่เหงื่อแตกพลั่ก

พวกเขามาถึงครึ่งหลังของบันไดแล้ว และแรงกดดันที่กระจายออกมานั้นหนักหน่วงมาก แม้แต่ผู้บ่มเพาะขอบเขตแก่นทองคำก็ยังต้องปีนอย่างยากลำบากในแต่ละขั้น

เมื่อซ่งชิงซงเห็นหลี่หราน เขาก็ตัวสั่นทันที

‘จบสิ้นแล้ว ทำไมปีศาจตนนี้ถึงอยู่ข้างหลังข้า ข้าไม่สามารถเอาชนะเขาได้!’ เขากลืนน้ำลายและย้ายไปด้านข้างเพื่อหลีกทาง เขาผายมือออกและพูดว่า “เชิญ...”

หลี่หรานเดินผ่านเขาไปอย่างไม่ใสใจ

ฮู่วว~

ซ่งชิงซงถอนหายใจด้วยความโล่งอกในขณะที่หัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้น

แม้เขาจะไม่รู้ว่าทำไมหลี่หรานถึงปล่อยเขาไป แต่เส้นทางข้างหน้าของเขานั้นปลอดภัยอย่างแน่นอน!

หลี่หรานเดินขึ้นบันไดต่อไป เขารู้สึกว่าแรงกดดันนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาต้องใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดเพื่อต่อต้านมัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากไปถึงสิบก้าวสุดท้าย มันราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังกดทับเขา กระดูกและกล้ามเนื้อทุกส่วนของเขากรีดร้อง

หลี่หรานก้าวไปข้างหน้า

บูม!

เสียงดังกึกก้องในหูของเขา สั่นสะเทือนจนถึงจุดที่วิญญาณของเขาสั่นคลอน

อีกก้าวหนึ่ง

กล้ามเนื้อปูดโปน เส้นเลือดปูดพอง และข้อต่อของเขากำลังระเบิดเลือนลั่น

ยิ่งเดินต่อไป เขาก็ยิ่งรู้สึกถึงแรงกดดัน และร่างกายของเขาก็ยิ่งค้อมตัวลง เมื่อเขาก้าวเข้าสู่สองขั้นสุดท้าย หลี่หรานก็รู้สึกว่าเขากำลังเห็นดวงดาว จิตวิญญาณของเขาเหมือนจะกำลังทุกข์ทรมานอย่างหนัก และเขาเกือบจะยืนไม่ได้

ควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากร่าง นี่เป็นสัญญาณว่าพลังปราณของเขามาถึงขีดจำกัดแล้ว

เยว่เจียนหลี่อยู่ข้างๆเขา นางถูกกดลงกับพื้นในแบบเดียวกัน ใบหน้าของนางชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ

“ขั้นบันไดเหล่านี้มีกฎเป็นของตัวเอง ยิ่งการบ่มเพาะของบุคคลนั้นแข็งแกร่งมากเท่าใด พวกเขาก็จะต้องเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้นเท่านั้น...”

เยว่เจียนหลี่กัดฟันของนาง “ข้าเกรงว่าข้าจะก้าวข้ามขั้นสุดท้ายนี้ไม่ได้!”

//////////