ตอนที่แล้วตอนที่ 668 ภูผาน้ำแข็ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 670 ท่านไม่มีวันเข้าใจความคิดจอมเผด็จการ

ตอนที่ 669 ในสายตาของแบร็ดลี่ย์


ดาบยักษ์เงินแพรวพราวสะท้อนประกายเยือกเย็น

ออสตินอ้าปากกว้าง เขาจ้องมองทหารชักดาบที่เต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันอย่างว่างเปล่า  รังสีฆ่าฟันครอบคลุมตัวเขา  และในขณะนั้น เขารู้สึกเหมือนกับว่าตกอยู่ในพายุหิมะผิวของเขารู้สึกชาทันที

กึกๆ กึกๆ กึกๆ

เสียงฟันกระทบดังออกมาจากตัวออสติน  หน้าของเขาเหยเกด้วยความกลัว

แบร็ดลี่ย์ถอนหายใจในใจ  มันเป็นดินแดนของเขาเอง  แต่เขาก็ยังถูกดาบชี้คุกคาม และข้างๆตัวเขาก็ประพฤติตัวอย่างงุ่มง่าม  กลุ่มดาววัวตกต่ำจริงๆ สายตาของเขาจับจ้องมองดูรูปขบวนของอีกฝ่ายหนึ่งขณะที่เขากวาดตามองไปมา

ในกลุ่มทหารเป็นคนสำคัญที่เป็นแกนหลักที่แท้จริงของอีกฝ่ายหนึ่ง

การเข้มงวดอย่างมากและไม่อนุญาตให้ใครเข้ามา รังสีฆ่าฟันของเขาพร้อมเพรียงกันไม่มีข้อบกพร่อง  พวกเขาเป็นยอดฝีมือ!

แบร็ดลี่ย์ใจสั่นสะท้าน เขาไม่เคยได้ยินชื่อกองพลภูผาน้ำแข็งที่อยู่ต่อหน้ามาก่อน เมื่อคิดว่าต้องเป็นหน่วยตั้งขึ้นใหม่ในกลุ่มดาวหมีใหญ่  แต่พวกเขาเป็นยอดฝีมือแน่นอน!  บุรุษที่เป็นผู้นำมีอำนาจและกล้าหาญ มีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้บัญชาการกองพลภูผาน้ำแข็ง และคนที่อยู่ด้านหลังของเขาน่าจะเป็นผู้ช่วยของเขา

เมื่อเห็นทั้งหน่วยนิ่งไม่หวั่นไหวแบร็ดลี่ย์รู้เต็มที่ว่าพวกเขาเป็นปัญหา พวกเขาไม่มีเหตุผลและกำลังข่มศัตรูของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง   ความได้เปรียบของพวกเขาจะเพิ่มมากขึ้นๆทุกทีโดยไม่รู้ตัว ศัตรูเช่นนั้นน่ากลัวเป็นที่สุด ผู้ช่วยอย่างนั้นสามารถจะรับมือได้และสามารถปลดปล่อยความอาจหาญของผู้บัญชาการของพวกเขาได้

‘กองพลที่ไม่มีชื่อเสียงนี้นำไปใช้อย่างฟุ่มเฟือยมาก  ในกลุ่มดาวหมีใหญ่มีอัจฉริยะเหลือล้นหรือไง?’

แบร็ดลี่ย์ไม่รู้สึกโกรธ  และหน้าของเขามีรอยยิ้มเล็กน้อย  เขายกมือเพื่อแสดงความไม่เป็นปรปักษ์  และค่อยเดินมาอยู่ข้างออสติน  เขาจับมือของออสตินที่กำลังสั่น  แบร็ดลี่ย์รู้สึกแย่ และพูดเสียงดัง  “ทุกคน ก้าวถอยหลัง!”

กองทหารต้อนรับตื่นตัวจากภวังค์และถอยออกไปอย่างตั้งใจ กระบวนของเขาอยู่ในสภาพย่ำแย่เหมือนกลุ่มทหารแตกแถว แบร็ดลี่ย์อดมองทหารที่อยู่ข้างหน้าเขาอย่างช่วยไม่ได้  พวกเขาดูเหมือนถูกตรึงไว้กับพื้น กองทัพที่เข้มงวดและแหลมคมเหมือนดาบทำให้หน้าของเขาแดง  ‘มีความเหลื่อมล้ำมากเกินไป’

เขาคิดถึงกองทัพของสมาพันธ์ชาวยุทธโดยไม่รู้ตัวนั่นเป็นหนึ่งของกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในสวรรค์วิถี  กองทัพของสมาพันธ์ชาวยุทธเข้มงวดและเรียบร้อยแต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือทหารของพวกเขามีราศีที่หยิ่งยโสและโอ้อวดตัว  แต่กองพลภูผาน้ำแข็งที่อยู่ต่อหน้าเขาให้ความรู้สึกที่ดึงดูดความสนใจพวกเขา

ฝ่ายหนึ่งเป็นเหมือนขุนนางผู้คุ้นเคยกับวิทยายุทธ  อีกฝ่ายหนึ่งเหมือนกับผู้อพยพที่ต่อสู้เพื่อชีวิต

‘ใครแข็งแกร่งกว่ากัน?’  แบร็ดลี่ย์ไม่รู้แต่เขาต้องยอมรับว่าทหารกลุ่มดาววัวไม่มีผู้ใดแข็งแกร่งพอจะสู้กับอีกฝ่าย

ครืน ครืน

ร่างสีเงินทั้งหมดเริ่มเดินหน้าข้ามาอย่างรวดเร็ว  การแปรขบวนซึ่งคล้ายกับของเหลวสีเงินเพิ่มพื้นที่บรรยากาศป้องกันรอบตัวพวกเขา พวกเขาแปรขบวน

รูปขบวนเสร็จสิ้น

อาหลุนที่อยู่ในเกราะแสดงให้เห็นถึงความพอใจ ไม่สำคัญว่าฝ่ายอื่นจะโจมตีมาจากไหน พวกเขาก็สามารถป้องกันได้ แม้ว่าอาหลุนจะรู้ว่าไม่มีคนกล้าทำ แต่เขาจะไม่ยอมทำผิดพลาดแน่นอน

เมื่อมาจากกลุ่มดาวหมาป่า เขาเกิดมายากจน  แต่คาดไม่ถึงเลยว่าเขาได้เข้าสถาบันนักสู้หมาป่าฟ้า  แต่เขาไม่เคยพอใจตัวเอง  เขารักและใส่ใจชีวิตมาก  ชีวิตที่ไม่เคยคิดว่าจะมีได้ในอดีต

อาหลุนคือหนึ่งในอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์จากสถาบันนักสู้หมาป่าฟ้าด้วยอารมณ์ของแม่ทัพผู้มีศักยภาพ แม้ว่าในชีวิตประจำวันโดยปกติเขาจะเป็นคนอ่อนโยนและเงียบทั้งวัน  แต่เมื่อถึงเวลารบเขาจะกลายเป็นคนเหี้ยมหาญ เข้ากันได้กับเฉินจื่อหลินผู้เงียบเป็นส่วนใหญ่แต่ปัญญาไวทั้งสองคนอยู่ภายใต้การจับตามองและแข่งขันกันอยู่ในกลุ่มดาวหมีใหญ่

ถังโฉ่วมอบหมายงานง่ายๆ ให้กับพวกเขานอกจากนี้ยังเป็นการให้พวกเขาได้ขัดเกลาตนเอง

อาหลุนหันกลับมามองที่ด้านหลัง  พยักหน้ารับรองยืนยันว่าปลอดภัย

ประตูดวงดาวสว่างวาบอีกครั้งทำให้แบร็ดลี่ย์มองดู  เขาสงสัย  ชื่อของเซรีนก็เป็นชื่อมาจากครอบครัวในกลุ่มดาววัว  แต่แบร็ดลี่ย์รู้มากกว่านั้น  เขาเคยเห็นภาพเซรีนมาก่อน  และรู้ว่านางงดงามมาก

ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเซรีนเตรียมจะปรากฏ กลุ่มคนที่เดินนำออกมาสองสามคนเป็นกลุ่มคนที่ดูเย็นชามาก

เมื่อปรากฏตัวออกมาพวกเขากวาดมองไปรอบๆ อย่างช้าๆ

หัวใจของทุกคนสั่นสะท้าน  ทุกคนก้มหน้า ใบหน้าของพวกเขาแสดงความเคารพ

เซียน!

แต่ละคนในกลุ่มนี้เป็นนักสู้ระดับเซียน!

หน่วยเซียนของกลุ่มดาวหมีใหญ่เป็นที่รู้จักกันดี  จำนวนของเซียนที่พวกเขามียังมากกว่าของกลุ่มดาวราชสีห์เสียอีก  และแค่เป็นรองวิหารเซียนของสมาพันธ์ชาวยุทธเพียงแต่หน่วยเซียนของกลุ่มดาวหมีใหญ่ส่วนใหญ่เป็นเซียนอิสระและไม่ได้ทรงพลังมากนัก ดังนั้นพลังสู้รบจึงยังด้อยกว่ากลุ่มดาวราชสีห์  และปัจจุบันนี้รู้จักกันดีว่าแข็งแกร่งเป็นอันดับสาม

แต่เซียนอิสระก็ยังเป็นเซียนอยู่ดี

พลังกดดันที่ปล่อยออกมาจากเซียนครอบคลุมทั่วพื้นที่ทันที ถ้าเราต้องพูดถึงกองพลภูผาน้ำแข็งให้ความรู้สึกที่น่าตกใจ อย่างนั้นพลังจากเซียนที่อยู่ข้างหน้านี้กลับข่มพวกเขาให้อ่อนลง

การรวมตัวของเซียนแปดคนเป็นเรื่องใหญ่และคุกคามให้ทุกคนกลัว

ถังโฉ่วรู้ว่าเซรีนสำคัญต่อกลุ่มดาวหมีใหญ่ขนาดไหน และในความเป็นจริงไม่มีใครเต็มใจให้เซรีนกลับไปที่กลุ่มดาววัว  สำหรับเขา แม้ว่ากลุ่มดาววัวจะยังเป็นสมาชิกสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคา แต่พลังความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่ใช่สิ่งที่สามารถเทียบกับกลุ่มดาวหมีใหญ่ได้อีกต่อไป  และพวกเขาสามารถปฏิเสธพวกกลุ่มดาววัวได้โดยไม่รู้สึกว่าได้ทำอะไรผิดพลาด

แต่เนื่องจากเป็นการตัดสินใจของถังเทียน  ถังโฉ่วจึงตัดสินใจทำให้ดีที่สุด

แบร็ดลี่ย์ไม่ยิ้มอีกต่อไปแล้ว  เขาสูดหายใจเข้า  เขารู้พลังของกลุ่มดาวหมีใหญ่มานานแล้ว  แต่เมื่อเห็นกับตาตนเอง  เขาตะลึงกับพลังที่กลุ่มดาวหมีใหญ่แสดงออกมา

‘พวกเขาเป็นเซียนอิสระไม่ใช่หรือ?  ทำไมรังสีที่เปล่งออกมาจากตัวพวกเขาจึงทรงพลังมากกว่าเหล่าผู้เฒ่าในวังทอรัส?’

แบร็ดลี่ย์สงสัย

ทันใดนั้นแสงสว่างเจิดจ้าเข้ามาบดบังทัศนวิสัยของเขา ทำให้เขาอดเงยหน้าขึ้นมองไม่ได้

ร่างของนางอยู่ในชุดราตรีสีดำมองดูเหมือนกับดอกไม้ดำที่เบ่งบานภาพของนางเป็นภาพเงาย้อนแสงที่สมบูรณ์ คางของนางคมสันรับกับใบหน้าของนาง  ริมฝีปากนางอิ่มเป็นมันตัดกับสีผิวที่ไร้ตำหนิของนางผมสีแดงเพลิงเป็นลอนคลื่นของนางยาวคลุมถึงบ่า เข้ากับแนวคิดที่เฉื่อยชาไม่ใส่ใจใคร ใต้คิ้วเรียวยาว เป็นดวงตาสีฟ้าที่ทรงเสน่ห์  แต่ยากจะเข้าใกล้และค่อนข้างเย็นชาใต้ตาซ้ายมีไฝขี้แมลงวันสามจุดยิ่งเพิ่มความเย็นชาผสานความเย้ายวนใจ

แบร็ดลี่ย์จ้องมองเซรีนอย่างว่างเปล่า  ภาพของนางไม่อาจเทียบกับคนจริงได้  นางงดงามเกินไป

เวลาดูเหมือนจะหยุดเดิน

ทุกคนตะลึง พวกเขาเคยได้ยินความงามของเซรีนกันทุกคน แต่เมื่อเห็นนางด้วยตาตนเอง กลับมีผลกระทบรุนแรง  แม้แต่ออสตินก็ยังลืมกลัวไปชั่วขณะ  ปากของเขาอ้ากว้าง  เขามองเซรีนอย่างงมงาย ขณะที่น้ำลายไหลจากปาก

เซรีนไม่ได้มองพวกเขา  นางเดินตรงเข้ามาอย่างสบายๆพร้อมกับกล่าวด้วยเสียงเย็นชา  “ยานพร้อมหรือยัง?”

‘การใส่ส้นสูงทำให้รู้สึกเจ็บ’  เซรีนอดบ่นในใจไม่ได้

‘ถังเทียนเจ้าเด็กบ้า, เจ้าจงใจให้ข้าทำแบบนี้หรือ?’  ยิ่งนางคิดเรื่องนี้มากเท่าใดก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปได้มากขึ้น นางรู้สึกแย่เมื่อถูกจ้องมองจากแบร็ดลี่ย์และพวกที่เหลือ  ‘ข้ายังไม่เสร็จงานข้าที่ห้องวิจัยเลย  และเจ้าต้องการให้ข้ามาเสียเวลาที่นี่อีก..’

‘เจ้าเด็กบ้าถังเทียน!’

เมื่อคิดถึงเรื่องที่ถังเทียนตั้งเงื่อนไขงบประมาณของนางให้มีความเกี่ยวข้องกับการนอนของนาง  เซรีนก็ยิ่งหงุดหงิด

“อาจารย์เซรีนผู้งดงาม!”  แบร็ดลี่ย์เดินขึ้นมาหาและคำนับจากนั้นพูดอย่างให้เกียรติ  “ข้าคือเจ้าชายแบร็ดลี่ย์  เรายินดีต้อนรับอาจารย์เข้าสู่กลุ่มดาววัว  พาหนะเตรียมพร้อมแล้ว กำลังรอให้ท่านออกคำสั่ง”

ด้านหลังเขา ยานราชวงศ์ทอรัสทองจอดรออย่างเงียบสงบ

เซรีนไม่สนใจเขาและหันไปหาอาหลุน  “เสี่ยวอาหลุน, ยานอยู่ที่ไหน?”

‘เสี่ยวอาหลุน...’

อาหลุนคือบุรุษเหล็ก  แต่ยังถูกเรียกว่า “เสี่ยวอาหลุน” ต่อหน้าทุกคนหน้าของเขาแดงเล็กน้อย  เขาลอบบอกตัวเองว่าก็แค่โชคร้ายได้แต่คิดอย่างจนใจ  ‘เจ๊ใหญ่เราไม่ใช่คนที่ล่วงเกินได้’  นี่กลายเป็นกฎที่รู้กันทั่วในกองทัพ  ทุกคนเห็นเซรีนเหมือนแม่เสือหิว  นางไม่มีเหตุผลและเอาแต่ใจ  และใครก็ตามที่กล้าตอแยนาง  เห็นได้ชัดว่าคงเบื่อหน่ายในชีวิต

อาหลุนรู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกทำไมพวกกลุ่มดาววัวถึงไม่เห็น และยังตอแยนางอีก

“เตรียมไว้พร้อมแล้ว”  อาหลุนพูดโดยไม่ลังเล

ยานเงินง่ายๆ ถูกดึงออกมา นั่นคือพาหนะรบที่ใช้กันบ่อยๆ  ส่วนใหญ่ใช้ขนส่งทหารหรือสัมภาระ  ไม่ใช่ว่าทุกกองทัพจะมีนักสู้กลุ่มดาวกุมภ์เว้นแต่พวกเขาเป็นนักสู้กลุ่มดาวกุมภ์ แจกันอควาเรียสและสมบัติที่เกี่ยวข้องสามารถใช้ศักยภาพของมันได้ดีที่สุด  ถ้าไม่อย่างนั้นพาหนะก็เป็นเพียงเครื่องมือขนส่งอย่างหนึ่ง ไม่เคยถูกนำมาใช้เต็มศักยภาพของมันเลย

กลุ่มดาวหมีใหญ่มักพยายามสรรหานักสู้จากกลุ่มดาวกุมภ์  แต่ไม่ได้อะไรเลย ความทะเยอทะยานในธุรกิจของพวกเขาเป็นที่รู้จักกันดี  และนักสู้ก็ทำได้ดีเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงมองกลุ่มดาวหมีใหญ่อย่างเหยียดหยาม

เมื่อเห็นพาหนะที่อาหลุนเตรียมไว้ให้  ออสตินและพวกที่เหลือทุกคนแสดงความรังเกียจ

‘กลุ่มพวกคนบ้านนอกอย่างแท้จริง!’

อยู่ต่อหน้าพาหนะที่สง่างามของกลุ่มดาววัว  พาหนะทหารดูค่อนข้างยากจน  พวกเขาหลายคนยิ่งแสดงความหยิ่งมากขึ้น  ‘กลุ่มดาวหมีใหญ่เพิ่งจะร่ำรวยขึ้นมาเร็วๆนี้ ต่อหน้าตระกูลเก่าที่มีประวัติศาสตร์ยืนยาว  พวกเขานับว่ายากจนมาก’

ในสายตาพอใจของคนทั้งหลายเหล่านี้  เซรีนเลือกขึ้นพาหนะทหารโดยไม่ลังเลเลย

ปัง!

เสียงกระแทกปิดประตูปลุกให้แบร็ดลี่ย์และคนที่เหลือตื่นขึ้น  สีหน้าทุกคนเต็มไปด้วยความตกใจและรู้สึกเหลือเชื่อ

‘สตรีผู้นี้บ้าหรือเปล่า?’

“หยาบคายเกินไป!  นางเสียมารยาทเกินไป!”

“นางไม่ให้เกียรติเราแม้แต่น้อยเชียวหรือ? นางคิดว่าเมื่ออยู่ต่อหน้ากลุ่มดาววัวของเรา  นางยังสามารถแสดงความหยิ่งลำพองได้อีกหรือ?”

“เราต้อนรับสตรีที่ป่าเถื่อนก้าวร้าวและหยาบคายขนาดนั้น...”

“นางคิดว่าตัวเองเป็นใคร?”

……

คำพูดที่บ่นออกมาอย่างไม่พอใจและโกรธเคืองทำให้แบร็ดลี่ย์หงุดหงิด  เขาคำราม “เงียบเถอะน่า!”

เสียงฮือฮาไม่พอใจหยุดทันที  ทุกคนมองดูแบร็ดลี่ย์  สำหรับพวกเขาแล้ว  เจ้าชายจะต้องโกรธการกระทำของเซรีน

แบร็ดลี่ย์หายใจเข้าลึกๆ  เขาบังคับตนเองให้สงบใจลง  เขารู้มานานแล้วว่าภารกิจจะไม่ง่าย  ความเกลียดระหว่างเซรีนกับตระกูลอีวานไม่ได้ลดน้อยลงเลย ดังนั้นความรู้สึกของนางที่มีต่อกลุ่มดาววัวจึงไม่ค่อยดี  แต่ในสายตาของเขากลุ่มดาววัวยังเป็นผู้ปกครองเก่าแก่ และสำหรับกลุ่มดาวหมีใหญ่ พวกเขายังไม่สำคัญมาก  ถ้าพวกเขาล่วงเกินกลุ่มดาววัวจริงๆกลุ่มดาวหมีใหญ่ก็จะสร้างศัตรูที่แข็งแกร่งทรงพลังโดยไม่มีเหตุผล  และแบร็ดลี่ย์เชื่อว่าเซรีนสามารถเข้าใจตรงจุดนั้น  ดังนั้นนางคงจะประพฤติตนเองไม่เกินเลยมากไป

แต่...

ปัจจุบันเขาสงสัยว่าการตัดสินใจของเขาคงผิดพลาดตรงไหนสักแห่ง  เซรีนประพฤติตัวเองเกินคาดไปอย่างสิ้นเชิง

เซรีนไม่ไว้หน้าพวกเขาเลยและไม่สนใจเหมือนกับพวกเขาเป็นอากาศ

ช่างไร้เหตุผล

แบร็ดลี่ย์บอกตนเองว่าเซรีนจงใจกระทำเช่นนั้น แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง หัวใจเขารู้สึกว่ายังต้องมีอีกเรื่องหนึ่ง

สายตาของเขามืองดูยานพาหนะทหาร

ต่อมาเขาก็เข้าใจ

กลุ่มดาววัวใช้ยานพาหนะราชวงศ์อย่างฟุ่มเฟือย  มันดูสวยงามแต่เปราะบางและอ่อนแอ  ขณะที่กลุ่มดาวหมีใหญ่ใช้ยานพาหนะทหารด้านนอกอาจดูไม่สวยและน่าเกลียด แต่ความจริงแล้วมันแข็งแรงและทรงพลัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด